กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แม่หมอปริศนาได้ให้คำทำนายสุดสะพรึงเอาไว้ว่า... เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จะต้องมองดูบุตรทุกคนของเธอตายจากไป... ดูเหมือนว่า ซีรีส์ขวัญใจมหาชน Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนจบ ทิ้งท้ายด้วยการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำทำนายนี้เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน? ถึงกระนั้นคำทำนายนี้ก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้...
(Spoil Alert!) ใครยังไม่ได้ดู Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 10 “The Winds of Winter” เชิญข้ามไปก่อนครัช
ย้อนกลับไปใน Game of Thrones ซีซั่น 5 ตอนที่ 1 The Wars to Come เปิดเผยเรื่องราวเมื่อครั้งยังเป็นเด็กสาวของ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เธอได้พาเพื่อนไปหาแม่มดแม็กกี้ และข่มขู่แม่มดให้ดูดวงให้โดยไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด ทว่าสุดท้ายพอแม่มดแม็กกี้ให้เธอกรีดเลือดเพื่อดูอนาคต เซอร์ซีน้อยถึงกับอึ้งและจำฝังใจกับคำทำนายที่แม่นราวกับตาเห็นว่า... "เธอจะไม่ได้แต่งงานกับเจ้าชาย แต่จะได้แต่งงานกับกษัตริย์ กษัตริย์มีลูกหลายคน แต่เธอมีลูก 3 คน พวกเขาจะได้สวมมงกุฎทองคำ ทองคำจะเป็นผ้าห่อศพพวกเขา เธอจะเป็นราชินี แต่เป็นไม่นาน จะมีคนอื่นขึ้นมาแทนที่ คนที่สาวกว่า สวยกว่า และจะพรากทุกสิ่งไปจากเธอ"
นับแต่นั้นคำทำนายสุดสะพรึงก็กลายเป็นเหมือนเส้นชะตาคำสาปที่ขีดลากกำหนดชีวิต เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ตลอดมา แม่มดหมอดูแม็กกี้ ที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยก่อนยุคล่าบัลลังก์ (Game of Thrones) ได้ทำนายทายทักไว้ว่า เซอร์ซี จะมีชีวิตอยู่ท่ามกลาง "อำนาจ และ โศกนาฏกรรม" และแล้วชีวิตของเธอก็เริ่มดำเนินตามคำทำนายตั้งแต่ได้แต่งงานกับพระราชาโรเบิร์ต บาราเทียน ทำให้เธอได้เป็นราชินีแห่งเวสเทอรอส พระราชาโรเบิร์ตมีบุตรหลายคน แต่ทุกคนล้วนเป็นบุตรนอกสมรส
ขณะที่ เซอร์ซี ไม่ได้มีบุตรให้พระราชาเลยสักคน แต่แอบเสพสังวาสเล่นชู้กับน้องชายฝาแฝด เจมี แลนนิสเตอร์ จนให้กำเนิดบุตรนอกสมรส 3 คน ได้แก่ จอฟฟรีย์, เมอร์เซลลา, ทอมเมน แต่เธอแอบเก็บเป็นความลับ แล้วกลบเกลื่อนว่าลูกๆทั้งสามคนเป็นบุตรโดยชอบธรรมของพระราชาโรเบิร์ต ซึ่งตรงกับคำทำนายแม่มดแม็กกี้ ที่บอกว่า "พระราชา จะมีลูกหลายคน ส่วน เซอร์ซี จะมีลูก 3 คน" ...
จากนั้นคำทำนายก็บอกถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับลูกๆทั้ง 3 คน ... "พวกเขาจะได้สวมมงกุฎทองคำ ทองคำจะเป็นผ้าห่อศพพวกเขา" ... และแล้วคำทำนายนี้ก็เป็นจริงอีกเช่นกัน ลูกๆทั้ง 3 คน ได้แก่ จอฟฟรีย์, เมอร์เซลลา และ ทอมเมน จนถึงตอนนี้ ทุกคนได้สวมมงกุฏทองคำ (ยกเว้น เมอร์เซลลา ไม่ได้สวมมงกุฏ) และจบชีวิตในชุดสีทองหมดทุกคนเรียบร้อยตามคำทำนาย
ช่วงแรก เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ยังไม่ได้เชื่อตามคำทำนาย แม้ว่าในตอนสูญเสียลูกชายคนโตอย่าง จอฟฟรีย์ ไปก่อนคนแรก (ในซีซั่น 4) เธอก็ยังไม่เอะใจ จนกระทั่งต้องเสียน้ำตาให้กับ เมอร์เซลลา (ในซีซั่น 5) ทำให้เธอนึกขึ้นได้และเริ่มกลัวเกรงต่อโชคชะตาที่เหมือนจะถูกกำหนดไว้ นับแต่นั้นเธอก็ดูจะพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้สูญเสีย พระราชาทอมเมน ลูกชายคนสุดท้าย ไปตามคำทำนาย แต่แล้ว...
ในตอนจบ Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 10 “The Winds of Winter” ดูเหมือนว่า เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จะไม่เกรงกลัว ไม่คิดต่อต้านขัดขืนคำสาปแห่งโชคชะตาที่กำหนดชีวิตเธออีกต่อไป หลังจากที่เป็นผู้ถูกกระทำโดยศาสนจักร ทำให้ชีวิตเธอตกต่ำถึงขีดสุดมานาน และเธอก็พร้อมจะทวงแค้นเอาคืนอย่างสาสาม ขณะเดียวกันเธอก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อพระราชาทอมเมน ลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ของเธอมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาในความคิดของเธอดูเหมือนว่า พระราชาทอมเมน จะไม่สนใจเธอ แต่เลือกทำตามหลักการของศาสนจักร และดูเป็นห่วงภรรยา ราชินีมาเจอรี ไทเรล มากกว่าตัวเธอซึ่งเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด ดังนั้น...
เมื่อวันตัดสินคดีมาถึง เซพตันทั้ง 7 แห่งศานาศรัทธาธรรม มาร่วมพิพากษาคดีและตัดสินโทษของ ลอรัส ไทเรล และ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ แต่ทว่า เซอร์ซี ไม่มาร่วมพิธี เธอเลือกแตกหักกับศาสนจักร วางแผนยึดอำนาจคืนโดยสั่งวางเพลิงโลกันตร์ (Wildfire) ฆ่าล้างทุกคนที่อยู่ในวิหารเบเลอร์ รวมทั้ง ราชินีมาเจอรี แม้เธอจะสั่งกักตัวพระราชาทอมเมนให้อยู่บนหอคอยอยู่ห่างๆ ไม่ให้เข้ามาในพิธีตัดสินคดี แต่สุดท้ายเมื่อพระราชาทอมเมน ได้เห็นเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นและรับรู้ว่า ราชินีมาเจอรีสุดที่รัก จบชีวิตอยู่ในวิหารแห่งนั้นด้วย พระราชาทอมเมน จึงตรอมใจและตัดสินใจกระโดดลงมาจากหอคอยตายตาม
เท่ากับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ สูญเสีย พระราชาทอมเมน ลูกชายคนสุดท้ายไปอีกคน ครบถ้วน 3 คน ตามคำทำนายของแม่หมอ แต่คราวนี้ เซอร์ซี ไม่ทุกข์ร้อนเศร้าโศกเสียใจอันใด เธอกลับยืนมองศพลูกชิวๆด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่แยแสใยดีอันใดทั้งสิ้น แล้วก็สั่งให้ ไคเบิร์น เจ้ากรมข่าวกรองคนสนิท นำศพพระราชาทอมเมน ไปเผาแล้วโปรยเถ้าไปรวมๆกับพวกที่ตายในวิหาร จากนั้นเธอก็สวมมงกุฏนั่งบัลลังก์เหล็กแทน เธอทำเหมือนราวกับว่าการตายของอดีตพระราชาทอมเมน ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้ายของเธอ เป็นเพียงหมากตัวนึงที่ต้องสูญเสียไป เพื่อแลกกับอำนาจครองบัลลังก์และทำลายศัตรูของเธอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คำสาปแห่งคำทำนายของเธอยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ต่อจากนี้ไป เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จะเผชิญชะตากรรมด้วยตัวเธอเอง ดั่งในคำทำนายว่า ... "เธอจะได้เป็นราชินี (ผู้ครองบัลลังก์เหล็ก) แต่ได้เป็นไม่นาน จะมีคนอื่นขึ้นมาแทนที่ คนที่สาวกว่า สวยกว่า และจะพรากทุกสิ่งไปจากเธอ" จากคำทำนายนี้เมื่อเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เท่ากับชี้เป้าชัดเจนแล้วว่า หญิงสาวที่จะมาแทนที่เธอ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน ที่กำลังนำกองทัพเรือมุ่งหน้าสู่อาณาจักรเวสเทอรอส พร้อมกับกำลังพลหลายพันคน (อาจถึงหมื่น) และมังกรตัวใหญ่เบิ้มอีก 3 ตัว
แต่คำทำนายที่ยังเหลืออยู่ที่เป็นไฮไลท์เด็ดสุด ก็คือ "คำทำนายจุดจบของ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์" ที่ว่า ... "เมื่อน้ำตานองเต็มหน้าของเธอ Valonqar จะบีบขออันซีดขาวเอาชีวิตจากเธอ" ... จากคำทำนายนี้แสดงว่าจะมีคนมาปลิดชีพเธอ แต่มีคำว่า “Valonqar” ซึ่งเป็นภาษาวาลีเรียนโบราณ แปลว่า "น้องชาย หรือ little brother" เท่ากับสามารถสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็น ... ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ ที่กำลังเดินทัพมาพร้อมกับ ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน !
สำหรับ ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ ดูจะสอดคล้องกับคนในคำทำนายมากสุด เพราะมีแค้นฝังใจกับ เซอร์ซี พี่สาวที่เกลียดตนเข้ากระดูกดำ แต่ถึงกระนั้น หากนับดูแล้ว เจมี แลนนิสเตอร์ ก็คลานออกมาจากท้องแม่ตามหลัง เซอร์ซี นั่นหมายความว่า เจมี ก็อาจเป็นน้องชายที่จะปลิดชีพ เซอร์ซี ก็เป็นได้ และเมื่อพิจารณาจากฉายา "ผู้ปลงพระชนม์พระราชา" ที่ได้รับมาเมื่อครั้งที่ เจมี จัดการสังหารกษัติร์ย์คลั่งแอริส ทาร์แกเรียน ในช่วงเหตุการณ์ปฏิวัติโรเบิร์ต บาราเทียน เนื่องจากตอนนั้น อดีตพระราชาแอริส สั่งวางเพลิงทั่วคิงส์แลนดิ้ง ก็เป็นไปได้ว่า ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยเดิม !!
สถานการณ์ในตอนนี้แทบไม่ต่างกัน เซอร์ซี ก็สั่งวางระเบิดวิหารเบเลอร์ แถมการกระทำของเธอยังเป็นเหตุให้ พระราชาทอมเมน ซึ่งเป็นลูกชายของเธอกับเจมี ตัดสินใจกระโดดหอตาย ไม่แน่ว่าเหตุการณ์นี้ จะทำให้ เจมี ที่กลับมายังคิงส์แลนดิ้ง ตระหนักได้ว่า เซอร์ซี ไม่ใช่คนเดิมที่ตนเคยรักอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็น "เซอร์ซี ราชินีคลั่ง" (Mad Queen) และสุดท้าย เจมี อาจจะจำใจต้องเป็นคนปลิดชีพ เซอร์ซี พี่สาวและภรรยาที่รักที่สุดในชีวิตของตน ปิดตำนานตระกูลราชสีห์แลนนิสเตอร์ ก็ เป็น ได้
ว่ากันตามจริง แต่ไหนแต่ไรมา เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เธอใช้ชีวิตโดยยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลมาโดยตลอด ทำอะไรตามใจตนเองเป็นหลัก อยากได้อะไร ต้องได้ ไม่สนใจว่าคนอื่นๆหรือคนรอบข้างจะเดือดร้อนหรือไม่? และไม่สนใจถึงความถูกต้อง ศีลธรรม คุณธรรมใดๆทั้งสิ้น ถ้าสิ่งใดขวางหน้า เธอพร้อมจะเดินหน้าฆ่ามัน ด้วยความที่เป็นคนแบบนี้ ชะตากรรมของเธอจึงเดินตามคำทำนายที่กลายเป็นคำสาปไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม หากมีสติพิจารณาให้ดี คำทำนายเป็นเพียงสิ่งที่บอกหรือเตือนให้ระวังเตรียมตัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นไปตามคำทำนายเสมอไป ถ้ารู้ก่อน ก็เตรียมรับมือปรับปรุงแก้ไข เริ่มจากเปลี่ยน "นิสัย" หรือ "กมลสันดาน" เสียก่อนเป็นอย่างแรก เดี๋ยวโชคชะตาก็เปลี่ยนตามแน่นอน เชื่อว่าถ้า เซอร์ซี รับฟังคำทำนายแล้วสำเหนียกระลึกไว้ในใจ ระวังพฤติกรรมตนเอง ไม่มั่วกับน้องชายฝาแฝด เจมี แลนนิสเตอร์ เธอก็คงไม่มาถึงจุดนี้แน่นอน ฟันธง!... แค่คิด ชีวิตก็เปลี่ยน อิอิ
"ชีวิตนี้ จะดี จะชั่ว เราเลือกเอง" ... สำหรับ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เธอเลือกเส้นทางสีดำมาตั้งแต่แรกแล้ว และเธอก็ถลำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเส้นทางของเธอดูเหมือนว่ายิ่งมาไกลมากเท่าใด เธอก็ยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายไม่ต้องเป็นหมอดูก็รู้ว่า นางสิงห์เซอร์ซี จะเป็นคนที่โดดเดี่ยวที่สุดและจะตายจากไปอย่างโดดเดี่ยวที่สุด ไม่รู้ว่าจะมีคนทำพิธีศพให้หรือไม่ด้วยซ้ำ???
แต่ก่อนจะตายคงไม่วายโดนรุมยำจากเจ้ากรรมนายเวรหลากหลายตระกูลที่เธอและคนในตระกูลแลนนิสเตอร์ได้สร้างความ
เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น ตระกูลไทเรล, ตระกูลมาร์เทล, ตระกูลสตาร์ค (น้องอาร์ยา จัดให้ อิอิ) ขณะเดียวกัน ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน ก็เตรียมมาทวงคืนบัลลังก์เหล็กเช่นกัน
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถ้าอยากอยู่เหนือกรรม ก็อย่าทำตัวเหมือนสัตว์โลก นับถอยหลังรอวันพิพากษาชะตากรรมราชินีราชสีห์คลั่ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ สุดท้ายจะเป็นเช่นไร? รอติดตามกันต่อในซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่น 7 ราวเดือนเมษายน ปี 2017 ออกอากาศทางช่อง HBO HD (ทรูวิชั่นส์ 223) นะครัช
Cersei Lets It Go
[CR] ราชินีสิงห์ผยอง “เซอร์ซี แลนนิสเตอร์” กับคำสาปแห่งคำทำนาย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แม่หมอปริศนาได้ให้คำทำนายสุดสะพรึงเอาไว้ว่า... เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จะต้องมองดูบุตรทุกคนของเธอตายจากไป... ดูเหมือนว่า ซีรีส์ขวัญใจมหาชน Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนจบ ทิ้งท้ายด้วยการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำทำนายนี้เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน? ถึงกระนั้นคำทำนายนี้ก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้...
(Spoil Alert!) ใครยังไม่ได้ดู Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 10 “The Winds of Winter” เชิญข้ามไปก่อนครัช
ย้อนกลับไปใน Game of Thrones ซีซั่น 5 ตอนที่ 1 The Wars to Come เปิดเผยเรื่องราวเมื่อครั้งยังเป็นเด็กสาวของ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เธอได้พาเพื่อนไปหาแม่มดแม็กกี้ และข่มขู่แม่มดให้ดูดวงให้โดยไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด ทว่าสุดท้ายพอแม่มดแม็กกี้ให้เธอกรีดเลือดเพื่อดูอนาคต เซอร์ซีน้อยถึงกับอึ้งและจำฝังใจกับคำทำนายที่แม่นราวกับตาเห็นว่า... "เธอจะไม่ได้แต่งงานกับเจ้าชาย แต่จะได้แต่งงานกับกษัตริย์ กษัตริย์มีลูกหลายคน แต่เธอมีลูก 3 คน พวกเขาจะได้สวมมงกุฎทองคำ ทองคำจะเป็นผ้าห่อศพพวกเขา เธอจะเป็นราชินี แต่เป็นไม่นาน จะมีคนอื่นขึ้นมาแทนที่ คนที่สาวกว่า สวยกว่า และจะพรากทุกสิ่งไปจากเธอ"
นับแต่นั้นคำทำนายสุดสะพรึงก็กลายเป็นเหมือนเส้นชะตาคำสาปที่ขีดลากกำหนดชีวิต เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ตลอดมา แม่มดหมอดูแม็กกี้ ที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยก่อนยุคล่าบัลลังก์ (Game of Thrones) ได้ทำนายทายทักไว้ว่า เซอร์ซี จะมีชีวิตอยู่ท่ามกลาง "อำนาจ และ โศกนาฏกรรม" และแล้วชีวิตของเธอก็เริ่มดำเนินตามคำทำนายตั้งแต่ได้แต่งงานกับพระราชาโรเบิร์ต บาราเทียน ทำให้เธอได้เป็นราชินีแห่งเวสเทอรอส พระราชาโรเบิร์ตมีบุตรหลายคน แต่ทุกคนล้วนเป็นบุตรนอกสมรส
ขณะที่ เซอร์ซี ไม่ได้มีบุตรให้พระราชาเลยสักคน แต่แอบเสพสังวาสเล่นชู้กับน้องชายฝาแฝด เจมี แลนนิสเตอร์ จนให้กำเนิดบุตรนอกสมรส 3 คน ได้แก่ จอฟฟรีย์, เมอร์เซลลา, ทอมเมน แต่เธอแอบเก็บเป็นความลับ แล้วกลบเกลื่อนว่าลูกๆทั้งสามคนเป็นบุตรโดยชอบธรรมของพระราชาโรเบิร์ต ซึ่งตรงกับคำทำนายแม่มดแม็กกี้ ที่บอกว่า "พระราชา จะมีลูกหลายคน ส่วน เซอร์ซี จะมีลูก 3 คน" ...
จากนั้นคำทำนายก็บอกถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับลูกๆทั้ง 3 คน ... "พวกเขาจะได้สวมมงกุฎทองคำ ทองคำจะเป็นผ้าห่อศพพวกเขา" ... และแล้วคำทำนายนี้ก็เป็นจริงอีกเช่นกัน ลูกๆทั้ง 3 คน ได้แก่ จอฟฟรีย์, เมอร์เซลลา และ ทอมเมน จนถึงตอนนี้ ทุกคนได้สวมมงกุฏทองคำ (ยกเว้น เมอร์เซลลา ไม่ได้สวมมงกุฏ) และจบชีวิตในชุดสีทองหมดทุกคนเรียบร้อยตามคำทำนาย
ช่วงแรก เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ยังไม่ได้เชื่อตามคำทำนาย แม้ว่าในตอนสูญเสียลูกชายคนโตอย่าง จอฟฟรีย์ ไปก่อนคนแรก (ในซีซั่น 4) เธอก็ยังไม่เอะใจ จนกระทั่งต้องเสียน้ำตาให้กับ เมอร์เซลลา (ในซีซั่น 5) ทำให้เธอนึกขึ้นได้และเริ่มกลัวเกรงต่อโชคชะตาที่เหมือนจะถูกกำหนดไว้ นับแต่นั้นเธอก็ดูจะพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้สูญเสีย พระราชาทอมเมน ลูกชายคนสุดท้าย ไปตามคำทำนาย แต่แล้ว...
ในตอนจบ Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 10 “The Winds of Winter” ดูเหมือนว่า เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จะไม่เกรงกลัว ไม่คิดต่อต้านขัดขืนคำสาปแห่งโชคชะตาที่กำหนดชีวิตเธออีกต่อไป หลังจากที่เป็นผู้ถูกกระทำโดยศาสนจักร ทำให้ชีวิตเธอตกต่ำถึงขีดสุดมานาน และเธอก็พร้อมจะทวงแค้นเอาคืนอย่างสาสาม ขณะเดียวกันเธอก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อพระราชาทอมเมน ลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ของเธอมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาในความคิดของเธอดูเหมือนว่า พระราชาทอมเมน จะไม่สนใจเธอ แต่เลือกทำตามหลักการของศาสนจักร และดูเป็นห่วงภรรยา ราชินีมาเจอรี ไทเรล มากกว่าตัวเธอซึ่งเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด ดังนั้น...
เมื่อวันตัดสินคดีมาถึง เซพตันทั้ง 7 แห่งศานาศรัทธาธรรม มาร่วมพิพากษาคดีและตัดสินโทษของ ลอรัส ไทเรล และ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ แต่ทว่า เซอร์ซี ไม่มาร่วมพิธี เธอเลือกแตกหักกับศาสนจักร วางแผนยึดอำนาจคืนโดยสั่งวางเพลิงโลกันตร์ (Wildfire) ฆ่าล้างทุกคนที่อยู่ในวิหารเบเลอร์ รวมทั้ง ราชินีมาเจอรี แม้เธอจะสั่งกักตัวพระราชาทอมเมนให้อยู่บนหอคอยอยู่ห่างๆ ไม่ให้เข้ามาในพิธีตัดสินคดี แต่สุดท้ายเมื่อพระราชาทอมเมน ได้เห็นเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นและรับรู้ว่า ราชินีมาเจอรีสุดที่รัก จบชีวิตอยู่ในวิหารแห่งนั้นด้วย พระราชาทอมเมน จึงตรอมใจและตัดสินใจกระโดดลงมาจากหอคอยตายตาม
เท่ากับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ สูญเสีย พระราชาทอมเมน ลูกชายคนสุดท้ายไปอีกคน ครบถ้วน 3 คน ตามคำทำนายของแม่หมอ แต่คราวนี้ เซอร์ซี ไม่ทุกข์ร้อนเศร้าโศกเสียใจอันใด เธอกลับยืนมองศพลูกชิวๆด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่แยแสใยดีอันใดทั้งสิ้น แล้วก็สั่งให้ ไคเบิร์น เจ้ากรมข่าวกรองคนสนิท นำศพพระราชาทอมเมน ไปเผาแล้วโปรยเถ้าไปรวมๆกับพวกที่ตายในวิหาร จากนั้นเธอก็สวมมงกุฏนั่งบัลลังก์เหล็กแทน เธอทำเหมือนราวกับว่าการตายของอดีตพระราชาทอมเมน ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้ายของเธอ เป็นเพียงหมากตัวนึงที่ต้องสูญเสียไป เพื่อแลกกับอำนาจครองบัลลังก์และทำลายศัตรูของเธอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คำสาปแห่งคำทำนายของเธอยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ต่อจากนี้ไป เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จะเผชิญชะตากรรมด้วยตัวเธอเอง ดั่งในคำทำนายว่า ... "เธอจะได้เป็นราชินี (ผู้ครองบัลลังก์เหล็ก) แต่ได้เป็นไม่นาน จะมีคนอื่นขึ้นมาแทนที่ คนที่สาวกว่า สวยกว่า และจะพรากทุกสิ่งไปจากเธอ" จากคำทำนายนี้เมื่อเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เท่ากับชี้เป้าชัดเจนแล้วว่า หญิงสาวที่จะมาแทนที่เธอ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน ที่กำลังนำกองทัพเรือมุ่งหน้าสู่อาณาจักรเวสเทอรอส พร้อมกับกำลังพลหลายพันคน (อาจถึงหมื่น) และมังกรตัวใหญ่เบิ้มอีก 3 ตัว
แต่คำทำนายที่ยังเหลืออยู่ที่เป็นไฮไลท์เด็ดสุด ก็คือ "คำทำนายจุดจบของ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์" ที่ว่า ... "เมื่อน้ำตานองเต็มหน้าของเธอ Valonqar จะบีบขออันซีดขาวเอาชีวิตจากเธอ" ... จากคำทำนายนี้แสดงว่าจะมีคนมาปลิดชีพเธอ แต่มีคำว่า “Valonqar” ซึ่งเป็นภาษาวาลีเรียนโบราณ แปลว่า "น้องชาย หรือ little brother" เท่ากับสามารถสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็น ... ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ ที่กำลังเดินทัพมาพร้อมกับ ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน !
สำหรับ ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ ดูจะสอดคล้องกับคนในคำทำนายมากสุด เพราะมีแค้นฝังใจกับ เซอร์ซี พี่สาวที่เกลียดตนเข้ากระดูกดำ แต่ถึงกระนั้น หากนับดูแล้ว เจมี แลนนิสเตอร์ ก็คลานออกมาจากท้องแม่ตามหลัง เซอร์ซี นั่นหมายความว่า เจมี ก็อาจเป็นน้องชายที่จะปลิดชีพ เซอร์ซี ก็เป็นได้ และเมื่อพิจารณาจากฉายา "ผู้ปลงพระชนม์พระราชา" ที่ได้รับมาเมื่อครั้งที่ เจมี จัดการสังหารกษัติร์ย์คลั่งแอริส ทาร์แกเรียน ในช่วงเหตุการณ์ปฏิวัติโรเบิร์ต บาราเทียน เนื่องจากตอนนั้น อดีตพระราชาแอริส สั่งวางเพลิงทั่วคิงส์แลนดิ้ง ก็เป็นไปได้ว่า ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยเดิม !!
สถานการณ์ในตอนนี้แทบไม่ต่างกัน เซอร์ซี ก็สั่งวางระเบิดวิหารเบเลอร์ แถมการกระทำของเธอยังเป็นเหตุให้ พระราชาทอมเมน ซึ่งเป็นลูกชายของเธอกับเจมี ตัดสินใจกระโดดหอตาย ไม่แน่ว่าเหตุการณ์นี้ จะทำให้ เจมี ที่กลับมายังคิงส์แลนดิ้ง ตระหนักได้ว่า เซอร์ซี ไม่ใช่คนเดิมที่ตนเคยรักอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็น "เซอร์ซี ราชินีคลั่ง" (Mad Queen) และสุดท้าย เจมี อาจจะจำใจต้องเป็นคนปลิดชีพ เซอร์ซี พี่สาวและภรรยาที่รักที่สุดในชีวิตของตน ปิดตำนานตระกูลราชสีห์แลนนิสเตอร์ ก็ เป็น ได้
ว่ากันตามจริง แต่ไหนแต่ไรมา เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เธอใช้ชีวิตโดยยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลมาโดยตลอด ทำอะไรตามใจตนเองเป็นหลัก อยากได้อะไร ต้องได้ ไม่สนใจว่าคนอื่นๆหรือคนรอบข้างจะเดือดร้อนหรือไม่? และไม่สนใจถึงความถูกต้อง ศีลธรรม คุณธรรมใดๆทั้งสิ้น ถ้าสิ่งใดขวางหน้า เธอพร้อมจะเดินหน้าฆ่ามัน ด้วยความที่เป็นคนแบบนี้ ชะตากรรมของเธอจึงเดินตามคำทำนายที่กลายเป็นคำสาปไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม หากมีสติพิจารณาให้ดี คำทำนายเป็นเพียงสิ่งที่บอกหรือเตือนให้ระวังเตรียมตัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นไปตามคำทำนายเสมอไป ถ้ารู้ก่อน ก็เตรียมรับมือปรับปรุงแก้ไข เริ่มจากเปลี่ยน "นิสัย" หรือ "กมลสันดาน" เสียก่อนเป็นอย่างแรก เดี๋ยวโชคชะตาก็เปลี่ยนตามแน่นอน เชื่อว่าถ้า เซอร์ซี รับฟังคำทำนายแล้วสำเหนียกระลึกไว้ในใจ ระวังพฤติกรรมตนเอง ไม่มั่วกับน้องชายฝาแฝด เจมี แลนนิสเตอร์ เธอก็คงไม่มาถึงจุดนี้แน่นอน ฟันธง!... แค่คิด ชีวิตก็เปลี่ยน อิอิ
"ชีวิตนี้ จะดี จะชั่ว เราเลือกเอง" ... สำหรับ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เธอเลือกเส้นทางสีดำมาตั้งแต่แรกแล้ว และเธอก็ถลำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเส้นทางของเธอดูเหมือนว่ายิ่งมาไกลมากเท่าใด เธอก็ยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายไม่ต้องเป็นหมอดูก็รู้ว่า นางสิงห์เซอร์ซี จะเป็นคนที่โดดเดี่ยวที่สุดและจะตายจากไปอย่างโดดเดี่ยวที่สุด ไม่รู้ว่าจะมีคนทำพิธีศพให้หรือไม่ด้วยซ้ำ???
แต่ก่อนจะตายคงไม่วายโดนรุมยำจากเจ้ากรรมนายเวรหลากหลายตระกูลที่เธอและคนในตระกูลแลนนิสเตอร์ได้สร้างความเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น ตระกูลไทเรล, ตระกูลมาร์เทล, ตระกูลสตาร์ค (น้องอาร์ยา จัดให้ อิอิ) ขณะเดียวกัน ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน ก็เตรียมมาทวงคืนบัลลังก์เหล็กเช่นกัน
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถ้าอยากอยู่เหนือกรรม ก็อย่าทำตัวเหมือนสัตว์โลก นับถอยหลังรอวันพิพากษาชะตากรรมราชินีราชสีห์คลั่ง เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ สุดท้ายจะเป็นเช่นไร? รอติดตามกันต่อในซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่น 7 ราวเดือนเมษายน ปี 2017 ออกอากาศทางช่อง HBO HD (ทรูวิชั่นส์ 223) นะครัช
Cersei Lets It Go