งงกรณีครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ จากเคสแพ้เป็นพระ(พยอม) ชนะเป็นกรมที่ดิน (จากรายการข่าวดังข้ามเวลา)

เมื่อคืนได้ดูรายการข่าวดังข้ามเวลา ทางช่อง 9 เป็นเคสคดีโฉนดที่ดินที่วัดสวนแก้วของพระพยอม แพ้คดีซื้อที่ดินโดยปรปักษ์ จนใบโฉนดไม่มีราคา กลายเป็นถุงกล้วยแขกไปค่ะ รายการตัวเต็มมีดังนี้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เรามีข้อสงสัยเรื่องการครอบครองโดยปรปักษ์ ซึ่งดูมันตีขัดแย้งกันในรายการ ความสงสัยเรามีดังนี้

1. เราเคยเข้าใจว่าที่ดินที่ไม่มีการเข้าไปทำประโยชน์เกิน 10 ปี มันไม่ได้ตกเป็นของหลวงโดยอัตโนมัติหรือคะ? เพราะเคยได้เห็นสปอตโฆษณาเมื่อหลายปีก่อน เป็นเรื่องชายคนนึงมาสำรวจตึกแถวที่ตัวเองซื้อไว้ แต่ไม่เอาไปทำอะไร พอผ่านไป 5 ปี เขากลับมาอีก ตึกมีพวกวัชพืชขึ้นเต็มไปหมด ใช้ทำประโยชน์อะไรไม่ได้ แล้วมีคำพูดประมาณว่า ตึกได้กลายเป็นของหลวงไปแล้ว เพราะเจ้าของที่ไม่มีการเข้ามาทำประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นจะซื้ออสังหาริมทรัพย์อะไรมาก็ควรนำมาใช้ประโยชน์เสีย อย่าซื้อทิ้งมาเก็งกำไร...ในรายการ ที่ดินเจ้าปัญหานั้น ปัจจุบันทายาทเจ้าของที่ก็ปล่อยทิ้งไว้ 10 ปี ไม่เอาทำประโยชน์อะไร กลายเป็นที่ทิ้งขยะ แบบนี้ไม่เข้าข่ายให้ตกเป็นของแผ่นดินหรือคะ? (เคยได้ยินว่ามีช่องโหว่อีกวิธีคือ ส่งคนไปแผ้วถาง แต่ไม่ก่อสิ่งปลูกสร้างอะไรทั้งสิ้น ก็ถือว่ายังไปดูแล ไม่ใช่ปล่อยทิ้งขว้างไว้

2. ป้าวันทนา คนที่เอาที่ดินไปขายหลวงพ่อ บอกว่าครอบครองโดยปรปักษ์เกิน 10 ปี ย่อมตกเป็นของป้าอยู่แล้ว คือป้าได้ครองถูกกฎหมาย แต่ในรายการ ทนายประมาณบอกว่า กฎหมายไม่มีอายุความที่เจ้าของที่ดินตัวจริงจะตามทวงคืนที่ดิน คือเขาจะมาตามเอาคืนหลังจากนั้นกี่ปีก็ได้ ซึ่งทายาทเขามาตามเอาคืนหลังจากป้าขายที่ดินไปได้ 2 ปี เราว่ามันแสดงแล้วว่า ทายาทเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย...ซึ่งมันจะขัดแย้งกับที่ป้าวันทนาไปยอมความว่า เช่าที่เขามา ซึ่งเรางงว่า ถ้าป้าเช่า ต่อให้ป้าเช่าระยะยาว แบบพวกเช่า 10 ปีขึ้นไป ยังไงก็ต้องมีการติดต่อกับเจ้าของที่ดิน เพื่อจ่ายค่าเช่าถูกต้องไหมคะ? แต่ทายาทมาตามเอาสองปีให้หลัง แสดงว่าทายาทไม่รู้เรื่อง แล้วมันจะมีการจ่ายเงินค่าเช่าไปได้ยังไง? เราคิดว่าป้าวันทนาแกยอมความตกลงกันกับทายาท เพราะป้าไม่อยากแพ้คดี กลัวถูกจับเข้าคุก เลยยอมความแต่โดยดีว่าเช่า ไม่ได้ครอบครองโดยปรปักษ์

3.สรุปคือถ้าหลวงพ่อจะฟ้อง หลวงพ่อควรฟ้องป้าวันทนา แทนที่จะฟ้องกรมที่ดิน ถูกต้องไหมคะ? เพราะรองอธิบดีกรมที่ดิน ในรายการท่านพูดว่า กรมไม่ได้มีอำนาจไปสืบหรอกว่า เจ้าของที่ดินตัวจริงจะเป็นใคร ก็เหมือนแสดงว่าที่จริงแล้วป้าครอบครองโดยปรปักษ์อย่างถูกกฎหมายแต่แรกแล้ว แต่ป้าดันไปยอมความกับทางทายาทเจ้าของที่ดินเองซะงั้น ว่าไปเช่า ดังนั้นกรมที่ดินไม่ได้มีส่วนผิดในเรื่องนี้

เราดูรายการนี้จบ รู้สึกไม่อยากขอยุ่งเรื่องการไปซื้อที่ดินอะไรเลยแฮะ กลัวเสียค่าโง่ เป็นคนไม่ค่อยเท่าทันคนด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
1. เราเคยเข้าใจว่าที่ดินที่ไม่มีการเข้าไปทำประโยชน์เกิน 10 ปี มันไม่ได้ตกเป็นของหลวงโดยอัตโนมัติหรือคะ?
=> ไม่ใช่ครับ ต้องมีคนเข้าไปครอบครองปรปักษ์ แล้วฟ้องขอให้ศาลสั่งให้ยกที่ดินให้เมื่อครอบครองครบ 10 ปี

2. ปัญหาคดีนี้คือป้าแกนั่นล่ะ ไปยอมความว่าไม่ได้ครอบครองปกปักษ์ ทำให้แกเองโดนเพิกถอนสิทธิครอบครองปกปักษ์
ส่วนพระพยอม แกเป็นคนซื้อต่อจากป้า มันก็เลยเข้าหลัก ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน คือคนโอนโดนถอนสิทธิไปแล้ว คนรับโอนก็โดนถอนตามไปด้วย
ที่จริงถ้าครอบครองปกปักษ์ถูกต้องจริง ป้าแกสู้คดีต้องชนะนะ แล้วเรื่องกลัวติดคุกเนี่ย แกยอมความแกยิ่งติดคุก เพราะยอมความทีหลัง แปลว่าตอนแรกที่แกฟ้องศาลขอครอบครองปรปักษ์ก็กลายเป็นฟ้องเท็จ ให้การเท็จไป คุกหนักกว่าอีก

3. หลวงพ่อต้องฟ้องป้าครับ เพื่อเรียกเงินคืน แถมป้าแกเสี่ยงจะติดคุกเพียบ ทั้งฉ้อโกง, ทั้งให้การเท็จ, ฟ้องเท็จ, แจ้งความเท็จ


ที่ผิดจริงๆคือป้าแกนั่นล่ะ คือตอนครอบครองปรปักษ์แกต้องเป็นคนฟ้องต่อศาลให้ศาลสั่งให้แกครอบครองที่ดิน แต่พอแกได้ที่ดินแล้วแกขายได้
เมื่อเจ้าของที่ดินตัวจริงมาฟ้องร้อง แกดันไปยอมความ มันพลิกตรงยอมความเนี่ยล่ะ เพราะถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงไม่มีใครบ้าไปยอมความ
เพราะเท่ากันหาคุกใส่ตัว เพราะเท่ากับว่าที่แกฟ้องครอบครองปกปักษ์ไปทีแรกมันเท็จทั้งยวง

แต่เคสนี้ดีที่ ไม่มีใครเอาเรื่องป้า ไม่งั้นป้าแกติดคุกหัวโตแน่


ปล. คดีนี้ไม่ใช่ไม่มีอายุความนะ มีอายุความ แต่พอดีว่าเป็นคดีแพ่ง ถ้าไม่ยกเรื่องอายุความมาสู้ศาลพิจารณาเองไม่ได้
และแถมป้าแกดันยอมความซะอีก
จริงๆถ้าป้าแกสู้ดคียังไงก็ชนะ เจ้าของที่ดินโอกาสเอาที่ดินคืนมีน้อยมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่