ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราได้เริ่มงานกับบริษัทหนึ่งมาสักพักเเล้วโดยคนที่โทรมาเรียกเราสัมภาษณ์คือผู้จัดการเเละเค้าต้องการเลขา
ซึ่งเราจบ IT มา เเต่เราก็ตกลงจะไปสัมภาษณ์เพราะคิดว่าถ้ามีโอกาสก็ควรจะลองสายงานใหม่ๆ บ้าง
เเล้วเราก็ได้เข้าทำงานที่นี่ได้เงินเดือน 13,000 บาทค่ะ วันที่ไปเซ็นสัญญา ในใบสัญญาระบุชัดเจนว่า เงินเดือนเท่านี้เราก็ตกลงเซ็นไป
พอเซ็นเสร็จ ฝ่าย HR บอกว่าจะหักเงินเดือน เดือนละ 5 วัน เพื่อเป็นประกันจนกว่าจะบรรจุ ตรงนี้เราเงิบค่ะ เพราะไม่เคยเจอบริษัทไหนเป็นเเบบนี้
เเล้วเค้าก็ไม่คืนเงินก้อนนั้นนะคะ เเล้วก็ต้องเสียค่าชุดทำงานชุดละ 250 บาท เรื่องชุดนี่เราต้องใส่เเบบออฟฟิศ
เเต่ชุดออฟฟิศหมด เค้าเลยให้เราซื้อชุดผลิตซึ่งบางคนในออฟฟิศก็ใส่ มา 2 ตัว ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ได้ชุดออฟฟิศเราก็ต้องซื้อมาอีก 2 ตัว
เเล้วประเด็นคือเเผนกที่เราทำงานเค้าไม่ให้ใส่ชุดผลิต ที่เค้าให้ซื้อเพราะให้ใส่ไปก่อน งี้เราก็เสียเงินซ้ำซ้อนเลย
เงินเดือนออกเดือนละสองครั้งหักไปห้าวันเป็นเงินประกัน ห้าวันก็หลักพันเเล้วมันจะเหลืออะไร ไหนจะต้องหักพวกประกันสังคมอีก
หน้าที่ของเราไม่ใช่การเข้าประชุมเเต่เป็นการเตรียมสถานที่เเละจัดทำรายงานการประชุม ซึ่งเราคิดว่ามันก็เป็นงานที่สนุกดี
ตอนที่เราไปสัมภาษณ์เราเห็นพนักงานที่เข้ามาก่อนเราคนหนึ่ง อายุไล่เลี่ยกัน เเต่พอวันที่เราเข้ามาทำงานจริงเค้าก็ไม่อยู่เเล้ว
เราเลยถามพี่ผู้จัดการ เค้าบอกว่าเด็กคนนั้นย้ายเเผนก เราก็ไม่ได้คิดอะไร เเละมีอีกคนที่ลาออกไปคือคนที่เรามาเเทน
พี่เค้าก็บอกว่าคนนี้ไปรักษาตัวเพราะป่วย เเต่เราได้มารู้ความจริงจากคนอื่นว่าทั้งสองคนที่ออกไปนั้นเพราะทนผู้จัดการไม่ไหว
เพราะผู้จัดการคนนี้เป็นคนจู้จี้ ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัว
อย่างเวลาที่พวกพี่คนอื่นเค้าออกไปกินข้าวกันซึ่งก็ปกติที่จะมีทั้งผู้หญิงเเละผู้ชาย พอกลับมาถึงก็จะโดนเรียกให้ไปพบเเล้วถามว่าทำไมต้องไปกินข้าวด้วยกัน ทำไมไม่เเยกกันไปอะไรประมาณนี้ อารมณ์เหมือนห้องปกครองในโรงเรียนเด๊ะเลย
ในห้องทำงานเรานั่งอยู่กับผู้จัดการคนนี้เเค่สองคน เค้าจะชอบเดินมาพูดเเบบว่า 'พี่ให้เงินเดือนตั้งเท่านี้เเล้วต้องตั้งใจทำงานนะ'
เค้าพูดเเบบนี้เเทบทุกวัน เวลาพักเที่ยงจะพักสายตาสักหน่อย เค้าก็ชอบเรียกให้ไปคุยถามเรื่องนู่นนี่ไม่หยุด
เราได้หยุดเเค่วันอาทิตย์ก็ยังโทรมาตั้งเเต่เช้าซึ่งถ้าเป็นเรื่องงานมันไม่เท่าไหร่เเต่มันเป็นเรื่องส่วนตัวนี่สิ
ตอนนี้เราเครียดมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเเบบนี้มันปกติมั้ย
เราก็ไม่อยากลาออกเพราะงานเดี๋ยวนี้ก็หายากด้วย
ถ้าเพื่อนๆ เจอเเบบนี้จะทำยังไงกันคะ
เจอเเบบนี้...เป็นเรื่องปกติของบริษัททั่วไปหรือเปล่าคะ
ซึ่งเราจบ IT มา เเต่เราก็ตกลงจะไปสัมภาษณ์เพราะคิดว่าถ้ามีโอกาสก็ควรจะลองสายงานใหม่ๆ บ้าง
เเล้วเราก็ได้เข้าทำงานที่นี่ได้เงินเดือน 13,000 บาทค่ะ วันที่ไปเซ็นสัญญา ในใบสัญญาระบุชัดเจนว่า เงินเดือนเท่านี้เราก็ตกลงเซ็นไป
พอเซ็นเสร็จ ฝ่าย HR บอกว่าจะหักเงินเดือน เดือนละ 5 วัน เพื่อเป็นประกันจนกว่าจะบรรจุ ตรงนี้เราเงิบค่ะ เพราะไม่เคยเจอบริษัทไหนเป็นเเบบนี้
เเล้วเค้าก็ไม่คืนเงินก้อนนั้นนะคะ เเล้วก็ต้องเสียค่าชุดทำงานชุดละ 250 บาท เรื่องชุดนี่เราต้องใส่เเบบออฟฟิศ
เเต่ชุดออฟฟิศหมด เค้าเลยให้เราซื้อชุดผลิตซึ่งบางคนในออฟฟิศก็ใส่ มา 2 ตัว ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ได้ชุดออฟฟิศเราก็ต้องซื้อมาอีก 2 ตัว
เเล้วประเด็นคือเเผนกที่เราทำงานเค้าไม่ให้ใส่ชุดผลิต ที่เค้าให้ซื้อเพราะให้ใส่ไปก่อน งี้เราก็เสียเงินซ้ำซ้อนเลย
เงินเดือนออกเดือนละสองครั้งหักไปห้าวันเป็นเงินประกัน ห้าวันก็หลักพันเเล้วมันจะเหลืออะไร ไหนจะต้องหักพวกประกันสังคมอีก
หน้าที่ของเราไม่ใช่การเข้าประชุมเเต่เป็นการเตรียมสถานที่เเละจัดทำรายงานการประชุม ซึ่งเราคิดว่ามันก็เป็นงานที่สนุกดี
ตอนที่เราไปสัมภาษณ์เราเห็นพนักงานที่เข้ามาก่อนเราคนหนึ่ง อายุไล่เลี่ยกัน เเต่พอวันที่เราเข้ามาทำงานจริงเค้าก็ไม่อยู่เเล้ว
เราเลยถามพี่ผู้จัดการ เค้าบอกว่าเด็กคนนั้นย้ายเเผนก เราก็ไม่ได้คิดอะไร เเละมีอีกคนที่ลาออกไปคือคนที่เรามาเเทน
พี่เค้าก็บอกว่าคนนี้ไปรักษาตัวเพราะป่วย เเต่เราได้มารู้ความจริงจากคนอื่นว่าทั้งสองคนที่ออกไปนั้นเพราะทนผู้จัดการไม่ไหว
เพราะผู้จัดการคนนี้เป็นคนจู้จี้ ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัว
อย่างเวลาที่พวกพี่คนอื่นเค้าออกไปกินข้าวกันซึ่งก็ปกติที่จะมีทั้งผู้หญิงเเละผู้ชาย พอกลับมาถึงก็จะโดนเรียกให้ไปพบเเล้วถามว่าทำไมต้องไปกินข้าวด้วยกัน ทำไมไม่เเยกกันไปอะไรประมาณนี้ อารมณ์เหมือนห้องปกครองในโรงเรียนเด๊ะเลย
ในห้องทำงานเรานั่งอยู่กับผู้จัดการคนนี้เเค่สองคน เค้าจะชอบเดินมาพูดเเบบว่า 'พี่ให้เงินเดือนตั้งเท่านี้เเล้วต้องตั้งใจทำงานนะ'
เค้าพูดเเบบนี้เเทบทุกวัน เวลาพักเที่ยงจะพักสายตาสักหน่อย เค้าก็ชอบเรียกให้ไปคุยถามเรื่องนู่นนี่ไม่หยุด
เราได้หยุดเเค่วันอาทิตย์ก็ยังโทรมาตั้งเเต่เช้าซึ่งถ้าเป็นเรื่องงานมันไม่เท่าไหร่เเต่มันเป็นเรื่องส่วนตัวนี่สิ
ตอนนี้เราเครียดมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเเบบนี้มันปกติมั้ย
เราก็ไม่อยากลาออกเพราะงานเดี๋ยวนี้ก็หายากด้วย
ถ้าเพื่อนๆ เจอเเบบนี้จะทำยังไงกันคะ