สวัสดีค่ะ เราไปสัมภาษณ์งานมาในตำแหน่งสตาฟ 2 ภาษา ซึ่งงานนี้เป็นงานพาร์ทไทม์ค่ะ จัดขึ้นแถวสยาม หน้าที่ก็มีจะมีการละเบียนแขกผู้สนใจ อีกหน้าที่นึงคืออยู่ซุ้มถ่ายรูป เราทราบงานนี้จากเฟสบุ๊คค่ะ เขาเขียนว่ารับสมัครสตาฟสองภาษา ย้ำสตาฟ 2 ภาษาไม่ใช่พริตตี้สองภาษา ต้องการคนภาษาอังกฤษดี ทำงานวันละ 2,500 บาท ซึ่งเรทนี้ก็เป็นเรทปกติที่เราจะได้รับเมื่อทำงานพิเศษเป็นสตาฟสองภาษา เรทจะมีระหว่าง 1,500-3,000 บาทต่อวันแล้วแต่งาน
เราเห็นอย่างนั้นจึงสนใจสมัครไปค่ะ สอบถามไปจึงได้ทราบว่าบริษัทที่ทำหน้าที่หาสตาฟคือบริษัทจัดหางาน K อยู่ที่ตึก Empire ชั้น 27 เราติดต่อเขาไปตามเฟสบุ๊คที่ให้มาค่ะ เขาขอให้เราส่งประวัติการทำงานพิเศษไปพร้อมลงวันที่เราเคยไปทำ ส่งทรานสคริป ปกติแล้วเวลาเราสมัครงานพิเศษไม่มีอะไรยุ่งยากขนาดนี้ค่ะ เจ้าของงานแค่ขอรูป+ประวัติการทำงาน แบบไม่ต้องลงวัน เดือน แค่บอดว่าไปทำอะไรมาบ้าง หน้าที่อะไร ที่ไหนก็พอ+คลิปวีดีโอภาษาอังกฤษ แค่นี้ก็พอค่ะ แล้วเขาจะคัดคนจากความสามารถเอง แต่บริษัท K นี้ต้องการแบบนี้เราก็ส่งไปให้ค่ะ พอส่งไปแล้วเขาโทรนัดสัมภาษณ์ เราก็ตกลงตามนั้น เจ้าหน้าที่ขอให้เราแต่งตัวสุภาพเพราะจะดูบุคคลิกภาพ เราอายุ 25 ปี มีประสบการณ์ ทำงานประจำมาแล้ว มีประสบการณ์สัมภาษณ์มาก็เยอะ เราก็เข้าใจและตกลงค่ะ
พอวันสัมภาษณ์เราแต่งตัวแบบไปสัมภาษณ์งานประจำค่ะ คือใส่เดรสทำงาน ใส่สูทคลุมทับ เรียบร้อย รองเท้าหุ้มส้น ลงคอนซีลเลอร์ ทาคิ้ว กรีดตา ทาปาก ปัดบลัทออน คือแต่งสุภาพทุกอย่าง และแต่งหน้าสุภาพแบบสมัครงานทั่วไป พอไปถึงเราก็นั่งกรอกแบบฟอร์มของบริษัทจัดหางาน K (นี่งานพาร์ทไทม์นะคะ) พร้อมกับเขียน Essay ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นขั้นตอนของเขา
พอมาถึงห้องสัมภาษณ์ผู้สัมภาษณ์จะมี 3 คน เป็น Recruitment Consultant ทั้งหมด คนหนึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ทำผมบ๊อบ อีกคนผู้หญิงเช่นกันผิวขาว ผมยาวอายุน่าจะ 30 ปี อีกคนเป็นผู้ชายเด็กสุด และการสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้น
เรา : สวัสดีค่ะ
ญ ผมบ๊อบ : ภาษาอังกฤษ โทอิคได้ 855 คงไม่ต้องเทสภาษาอังกฤษแล้วนะคะ งั้นถามเป็นภาษาไทยละกัน
เรา : ได้ค่ะ
ณ ผมบ๊อบ : น้องเคยมีประสบการณ์ยืนเชียร์ขายแบบพริตตี้ไหมคะ
เรา : ไม่ใช่พริตตี้ค่ะ เคยทำแต่งาน PC ยืนเชียร์ขายเหมือนกัน ตอยแนะนำโปรโมชั่นให้ลูกค้า และอยู่ประจำบู้ท
ญ ผมบ๊อบ : เด็กพี่แต่ละคน (หมายถึงคนที่มาสมัครทำสตาฟงานภาษา) เขาแต่งหน้าจัดเต็มกันมากเลยนะ คนที่อยากได้งาน มีแต่น้องคนแรกแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ธรรมดามาก
เราคิดในใจ นี่หรือคือมารยาท HR มาดุถูกการแต่งการของผู้สัมภาษณ์ทั้งๆที่เจอกันครั้งแรก ทั้งๆที่เราก็แต่งหน้า แต่งตัวมาตามมารยาททุกอย่าง ไม่ได้หน้าสด ทาแต่แป้งมา คีบแตะ มาแต่อย่างใด...
เรา : เขาเป็นพริตตี้หรอคะ
ญ ผมบ๊อบ : เขาไม่ใช่พริตตี้ค่ะ แต่เขาทำงานพิเศษรอไปสมัครแอร์ พี่แค่แปลกใจไง เพราะน้องเป็นคนแรกที่มาแบบนี้ (พร้อมมองหน้าเราแบบผิดหวังสุดๆ ที่เราแต่งหน้าไม่จัดเต็ม แบบขนตาไม่เด้ง ไม่มีกากเพชรแบบที่คนสมัครพริตตี้เขาจะทำกัน )
คือตอนที่เราส่งประวัติการทำงานไป เราก็ส่งรูปของเราแบบส่วนตัว 3 รูปไแให้เขาก่อนแล้วค่ะ พอมาสัมภาษณ์มาถูกดูถูก เปรียบเทียบกับคนอื่นเนี่ยนะ?
เรา : ไม่ได้รับสมัครงานใช้ภาษาหรอกหรอคะ ปกติเวลาหนูไปทำงานเนี่ยก็แต่งหน้า แต่งตัวแบบนี้ งานที่ใช้ภาษาเป็นงานที่ใช้ความสามารถ เวลาทำงานก็แต่งตัวให้ดูดี ใส่สูท รองเท้าหุ้มส้น หนูไม่เคยทำพริตตี้มาก่อนและไม่เคยเป็นพริตตี้ค่ะ งานยืนเรียกลูกค้าก็มีค่ะเป็นงานที่ทำที่ Food Ingredients ตอนนั้นทำงานกับชาวสิงคโปร์ ต้องทำยอดเก็บนามบัตรวันละ 50 ใบ แต่การจะได้นามบัตรมานั้นไม่ใช่ว่าเขาเดินไปขอแล้วเขาจะให้ มันต้องมีวิธี จึงใช้วิธีแจกโปรชัวร์แลกนามบัตรค่ะ สุดท้ายก็ทำได้เกิน 50 ใบทุกวัน
ต่อมา ญ ผมบ๊อบก็ถามเราต่อในงานพาร์ทอื่นที่เคยทำ
มีบางช่วงที่ห้องเงียบกริบเพราะเขาทั้งสามรู้ว่าเราไม่พอใจที่เขามาดูถูกแบบเปรียบเทียบตั้งแต่คำถามแรก
และการสัมภาษณ์ก็จบลงในเวลาสั้นมาก
คือใจเราอยากจะลุกออกไปตั้งแต่คำถามนั้นแล้วเพราะมันส่อถึงความไร้มารยาทและไม่เป็นมืออาชีพของ consultant ตั้งแต่เราไปสัมภาษณ์มาเป็นสิบที่ เราไม่เคยถูก HR ดูถูกในเรื่องการแต่งตัวมาก่อนเลย และไม่เคยโดนดูถูกไม่ว่าจะเรื่องไหนทั้งนั้น เพราะ HR นั้นควรให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ เป็นมารยาทของ HR และเราก็เคยทำ Recruitment Consultant มาก่อน ไม่เคยเลยที่เราจะดูถูกผู้สัมภาษณ์ทั้งทางวาจา และทางสีหน้า เราคิดว่า HR หรือ Recruitment Consultant ของบริษัท K นี้ไม่มีจรรยาบรรณและความเป็นมืออาชีพเลย ถ้าจะสัมภาษณ์ลักษณะนี้ เลิกทำอาชีพนี้เถอะค่ะ ผู้สมัครคนอื่นเขาจะได้ไม่ต้องมาโดนคุณดูถูกเวลาไปสัมภาษณ์งาน คนเขาเอาอยากได้งานจึงมาสมัคร ไม่ใช่อยากมานั่งแล้วโดนเปรียบเทียบแบบนี้
การจะทดสอบความอดทนนั้น ว่าเราจะทนต่อความกดดันได้ไหม สามารถทดสอบได้โดยการถามคำถามที่ผู้สมัครได้ใช้ความคิด วิเคราะห์ และทักษะในการแก้ปัญหา การสัมภาษณ์ออกแนวดูถูกนี้ ถือว่าไม่มีมารยาทและไม่ให้เกียรติค่ะ เจอ HR แบบนี้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ก็ไม่น่าร่วมงานด้วยแล้วค่ะ ขนาดเจอครั้งแรกยังขนาดนี้ ถ้ารับงานไปแล้วจะขนาดไหน
อีกอย่างถ้าอยากได้แนวพริตตี้ควรเขียนในประกาศแต่แรกนะคะ ว่าขอพริตตี้สองภาษา เราจะได้ไม่ไปสมัครให้เสียเวลา แถมมีขั้นตอนมากมาย ไม่ใช่พอไปถึง แต่งหน้าไม่ได้ตามมาตรฐานพริตตี้ก็บอกว่าแต่งได้แย่ ทั้งสีหน้าและแววตาเชิงดูถูกมาก ภาษาเราพูดได้ค่ะ พูดได้ดีด้วย รับงานมาเยอะไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เลย
เพื่อนๆคิดยังไงกับ consultant และการสัมภาษณ์แบบนี้คะ
เจอ HR พูดเชิงดูถูกเวลาสมัครงานแบบนี้ เพื่อนๆคิดว่าอย่างไร
เราเห็นอย่างนั้นจึงสนใจสมัครไปค่ะ สอบถามไปจึงได้ทราบว่าบริษัทที่ทำหน้าที่หาสตาฟคือบริษัทจัดหางาน K อยู่ที่ตึก Empire ชั้น 27 เราติดต่อเขาไปตามเฟสบุ๊คที่ให้มาค่ะ เขาขอให้เราส่งประวัติการทำงานพิเศษไปพร้อมลงวันที่เราเคยไปทำ ส่งทรานสคริป ปกติแล้วเวลาเราสมัครงานพิเศษไม่มีอะไรยุ่งยากขนาดนี้ค่ะ เจ้าของงานแค่ขอรูป+ประวัติการทำงาน แบบไม่ต้องลงวัน เดือน แค่บอดว่าไปทำอะไรมาบ้าง หน้าที่อะไร ที่ไหนก็พอ+คลิปวีดีโอภาษาอังกฤษ แค่นี้ก็พอค่ะ แล้วเขาจะคัดคนจากความสามารถเอง แต่บริษัท K นี้ต้องการแบบนี้เราก็ส่งไปให้ค่ะ พอส่งไปแล้วเขาโทรนัดสัมภาษณ์ เราก็ตกลงตามนั้น เจ้าหน้าที่ขอให้เราแต่งตัวสุภาพเพราะจะดูบุคคลิกภาพ เราอายุ 25 ปี มีประสบการณ์ ทำงานประจำมาแล้ว มีประสบการณ์สัมภาษณ์มาก็เยอะ เราก็เข้าใจและตกลงค่ะ
พอวันสัมภาษณ์เราแต่งตัวแบบไปสัมภาษณ์งานประจำค่ะ คือใส่เดรสทำงาน ใส่สูทคลุมทับ เรียบร้อย รองเท้าหุ้มส้น ลงคอนซีลเลอร์ ทาคิ้ว กรีดตา ทาปาก ปัดบลัทออน คือแต่งสุภาพทุกอย่าง และแต่งหน้าสุภาพแบบสมัครงานทั่วไป พอไปถึงเราก็นั่งกรอกแบบฟอร์มของบริษัทจัดหางาน K (นี่งานพาร์ทไทม์นะคะ) พร้อมกับเขียน Essay ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นขั้นตอนของเขา
พอมาถึงห้องสัมภาษณ์ผู้สัมภาษณ์จะมี 3 คน เป็น Recruitment Consultant ทั้งหมด คนหนึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ทำผมบ๊อบ อีกคนผู้หญิงเช่นกันผิวขาว ผมยาวอายุน่าจะ 30 ปี อีกคนเป็นผู้ชายเด็กสุด และการสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้น
เรา : สวัสดีค่ะ
ญ ผมบ๊อบ : ภาษาอังกฤษ โทอิคได้ 855 คงไม่ต้องเทสภาษาอังกฤษแล้วนะคะ งั้นถามเป็นภาษาไทยละกัน
เรา : ได้ค่ะ
ณ ผมบ๊อบ : น้องเคยมีประสบการณ์ยืนเชียร์ขายแบบพริตตี้ไหมคะ
เรา : ไม่ใช่พริตตี้ค่ะ เคยทำแต่งาน PC ยืนเชียร์ขายเหมือนกัน ตอยแนะนำโปรโมชั่นให้ลูกค้า และอยู่ประจำบู้ท
ญ ผมบ๊อบ : เด็กพี่แต่ละคน (หมายถึงคนที่มาสมัครทำสตาฟงานภาษา) เขาแต่งหน้าจัดเต็มกันมากเลยนะ คนที่อยากได้งาน มีแต่น้องคนแรกแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ธรรมดามาก
เราคิดในใจ นี่หรือคือมารยาท HR มาดุถูกการแต่งการของผู้สัมภาษณ์ทั้งๆที่เจอกันครั้งแรก ทั้งๆที่เราก็แต่งหน้า แต่งตัวมาตามมารยาททุกอย่าง ไม่ได้หน้าสด ทาแต่แป้งมา คีบแตะ มาแต่อย่างใด...
เรา : เขาเป็นพริตตี้หรอคะ
ญ ผมบ๊อบ : เขาไม่ใช่พริตตี้ค่ะ แต่เขาทำงานพิเศษรอไปสมัครแอร์ พี่แค่แปลกใจไง เพราะน้องเป็นคนแรกที่มาแบบนี้ (พร้อมมองหน้าเราแบบผิดหวังสุดๆ ที่เราแต่งหน้าไม่จัดเต็ม แบบขนตาไม่เด้ง ไม่มีกากเพชรแบบที่คนสมัครพริตตี้เขาจะทำกัน )
คือตอนที่เราส่งประวัติการทำงานไป เราก็ส่งรูปของเราแบบส่วนตัว 3 รูปไแให้เขาก่อนแล้วค่ะ พอมาสัมภาษณ์มาถูกดูถูก เปรียบเทียบกับคนอื่นเนี่ยนะ?
เรา : ไม่ได้รับสมัครงานใช้ภาษาหรอกหรอคะ ปกติเวลาหนูไปทำงานเนี่ยก็แต่งหน้า แต่งตัวแบบนี้ งานที่ใช้ภาษาเป็นงานที่ใช้ความสามารถ เวลาทำงานก็แต่งตัวให้ดูดี ใส่สูท รองเท้าหุ้มส้น หนูไม่เคยทำพริตตี้มาก่อนและไม่เคยเป็นพริตตี้ค่ะ งานยืนเรียกลูกค้าก็มีค่ะเป็นงานที่ทำที่ Food Ingredients ตอนนั้นทำงานกับชาวสิงคโปร์ ต้องทำยอดเก็บนามบัตรวันละ 50 ใบ แต่การจะได้นามบัตรมานั้นไม่ใช่ว่าเขาเดินไปขอแล้วเขาจะให้ มันต้องมีวิธี จึงใช้วิธีแจกโปรชัวร์แลกนามบัตรค่ะ สุดท้ายก็ทำได้เกิน 50 ใบทุกวัน
ต่อมา ญ ผมบ๊อบก็ถามเราต่อในงานพาร์ทอื่นที่เคยทำ
มีบางช่วงที่ห้องเงียบกริบเพราะเขาทั้งสามรู้ว่าเราไม่พอใจที่เขามาดูถูกแบบเปรียบเทียบตั้งแต่คำถามแรก
และการสัมภาษณ์ก็จบลงในเวลาสั้นมาก
คือใจเราอยากจะลุกออกไปตั้งแต่คำถามนั้นแล้วเพราะมันส่อถึงความไร้มารยาทและไม่เป็นมืออาชีพของ consultant ตั้งแต่เราไปสัมภาษณ์มาเป็นสิบที่ เราไม่เคยถูก HR ดูถูกในเรื่องการแต่งตัวมาก่อนเลย และไม่เคยโดนดูถูกไม่ว่าจะเรื่องไหนทั้งนั้น เพราะ HR นั้นควรให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ เป็นมารยาทของ HR และเราก็เคยทำ Recruitment Consultant มาก่อน ไม่เคยเลยที่เราจะดูถูกผู้สัมภาษณ์ทั้งทางวาจา และทางสีหน้า เราคิดว่า HR หรือ Recruitment Consultant ของบริษัท K นี้ไม่มีจรรยาบรรณและความเป็นมืออาชีพเลย ถ้าจะสัมภาษณ์ลักษณะนี้ เลิกทำอาชีพนี้เถอะค่ะ ผู้สมัครคนอื่นเขาจะได้ไม่ต้องมาโดนคุณดูถูกเวลาไปสัมภาษณ์งาน คนเขาเอาอยากได้งานจึงมาสมัคร ไม่ใช่อยากมานั่งแล้วโดนเปรียบเทียบแบบนี้
การจะทดสอบความอดทนนั้น ว่าเราจะทนต่อความกดดันได้ไหม สามารถทดสอบได้โดยการถามคำถามที่ผู้สมัครได้ใช้ความคิด วิเคราะห์ และทักษะในการแก้ปัญหา การสัมภาษณ์ออกแนวดูถูกนี้ ถือว่าไม่มีมารยาทและไม่ให้เกียรติค่ะ เจอ HR แบบนี้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ก็ไม่น่าร่วมงานด้วยแล้วค่ะ ขนาดเจอครั้งแรกยังขนาดนี้ ถ้ารับงานไปแล้วจะขนาดไหน
อีกอย่างถ้าอยากได้แนวพริตตี้ควรเขียนในประกาศแต่แรกนะคะ ว่าขอพริตตี้สองภาษา เราจะได้ไม่ไปสมัครให้เสียเวลา แถมมีขั้นตอนมากมาย ไม่ใช่พอไปถึง แต่งหน้าไม่ได้ตามมาตรฐานพริตตี้ก็บอกว่าแต่งได้แย่ ทั้งสีหน้าและแววตาเชิงดูถูกมาก ภาษาเราพูดได้ค่ะ พูดได้ดีด้วย รับงานมาเยอะไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เลย
เพื่อนๆคิดยังไงกับ consultant และการสัมภาษณ์แบบนี้คะ