กงเกวียนกำเกวียน ๓๐ มิ.ย.๕๙

กระทู้สนทนา
เสี้ยวสามก๊ก

                   กงเกวียนกำเกวียน
                                                         " เล่าเซี่ยงชุน "

                    การศึกสงครามในวรรณคดีเรื่องสามก๊ก ที่รบราฆ่าฟันกันมาเกือบร้อยปีนั้น ไม่มีใครประเมินได้ว่ามีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมดเท่าใด เฉพาะทหารเลวก็นับจำนวนได้หลายแสนหลายโกฏ  นายทหารที่ไม่ปรากฎชื่อก็นับพันนับหมื่น ส่วนทหารเอกที่มีชื่อเสียงก็เป็นร้อย ในกลุ่มนี้มีอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งได้เสียชีวิตไป ด้วยน้ำมือของบุคคลเพียงคนเดียว เขาผู้นั้นมีชื่อว่า กวนอู

                   คนแรกคือ เทียอ้วนจี้ เป็นนายโจรรอง  ของพวกโจรโพกผ้าเหลือง ถูกเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ยกอาสาสมัครมาปราบที่เขาไทเหียงสัน  พอเทียอ้วนจี้เห็นหน้ากวนอู ซึ่งแดงดังผลพุทราสุก ปากแดงดังชาดแต้ม คิ้วดังตัวไหม จักษุยาวดังนกการเวก  หนวดยาวประมาณศอกเศษ ก็ตกตลึงยังไม่ทันได้ปะทะกันสักเพลง  กวนอู ก็เอาง้าวยาวสิบเอ็ดศอก หนักแปดสิบสองชั่ง ฟันเสียตัวขาดออกเป็นสองท่อน ตายไปโดยไม่ทันรู้ตัว

                   จากนั้นก็คือ ฮัวหยง ทหารเอกของลิโป้  ซึ่งเลื่อนขึ้นมาจากทหารเลวในกองทัพของตั๋งโต๊ะมหาอุปราชผู้ชั่วร้าย เพราะสามารถ
ฆ่าทหารเอก ของสัมพันธมิตร ในกองทัพของอ้วนเสี้ยวและโจโฉได้ถึงสี่คน ในเวลาใกล้เคียงกัน แต่เขาก็ต้องประสบชตากรรมอันเดียวกันในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยฝีมือของ กวนอู ทหารเลวผู้เป็นน้องร่วมสาบานของเล่าปี่และเตียวหุย ส่งผลให้กวนอูได้เป็นทหารเอกตั้งแต่บัดนั้น เช่นกัน

                    ต่อมาก็มีพรรคพวก  ของโจรโพกผ้าเหลืองอีกคนหนึ่ง ชื่อ กวนไฮ คุมพลไปตีเมืองปักไฮ เจ้าเมืองจึงส่งคนไปขอให้เล่าปี่ยกพลมาช่วย กวนไฮเข้าต่อสู้กับกวนอูได้สามสิบเพลง ก็ถูกง้าวฟันตัวขาดไปอีกคนหนึ่ง

                    ในการต่อสู้กับกองทัพของโจโฉ เมื่อประมาณ พ.ศ.๗๔๓ ที่เมืองแห้ฝือ เล่าปี่พี่ชาย กับเตียวหุยน้องชายแตกหนีกันไปคนละทาง กวนอูต้องพยายามรักษาครอบครัวของเล่าปี่ คือนางกำฮูหยินและนางบิฮูหยินกับอาเต๊าบุตรชายคนโตไว้ เมื่อโจโฉเกลี้ยกล่อมให้ไปอยู่ ด้วยจึงยอมไปอยู่กับโจโฉโดยมีข้อแม้ว่าเมื่อตนรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่ไหน ก็จะไปหาโดยจะไม่ยอมให้ผู้ใดขัดขวางทั้งสิ้น โจโฉก็ตกลงด้วยแต่ไม่ว่าโจโฉจะเลี้ยงดูอย่างดีเพียงไร กวนอูก็ไม่ยอมรับ
  
                 จนกระทั่งโจโฉยกทัพไปรบกับอ้วนเสี้ยวครั้งแรก กวนอูไม่รู้ว่าเล่าปี่ไปอาศัยอยู่กับอ้วนเสี้ยว จึงช่วยโจโฉรบ  ขณะนั้น งันเหลียง ทหารเอกของอ้วนเสี้ยวได้ฆ่าทหารเอกของโจโฉไปแล้วสองคน กวนอูก็บอกว่า                                                                 
  
                  "..….ข้าพเจ้าก็มีฝีมืออยู่บ้าง  ซึ่งว่าจะขออาสาไปตัดศรีษะงันเหลียง มาให้แก่ท่าน เห็นจะไม่ยากนัก อุปมาเหมือนเอาตะเกียบหยิบของกินในโต๊ะ...."

                       ว่าแล้วก็ควงง้าวคู่มือ ควบม้าฝ่าทหารเลวเข้าไปหางันเหลียง โดยไม่ทันให้ตั้งตัว แล้วก็เอาง้าวฟันคองันเหลียง ซึ่งกำลังตกตลึงอยู่ เอาศรีษะมาให้โจโฉได้อย่างรวดเร็ว

                   อ้วนเสี้ยวก็ส่ง บุนทิว ทหารเอกคู่หูของงันเหลียง  ซึ่งเป็นผู้มีกำลังมาก สูงหกศอกหน้าดำเหมือนหมี ออกรบแก้แค้นแทนเพื่อน แต่ถูกอุบายของโจโฉต้องถอยหนี และถูกทหารเอกของโจโฉสองคนไล่ตามหลังมา  บุนทิวหันหน้ามาสู้ เอาเกาทัณฑ์ยิงถูกคนหนึ่งล้มลง  อีกคนหนึ่งกันไว้ได้ต้องพากันกลับมาหาโจโฉ  กวนอูจึงรับอาสาควบม้าเข้าไปรบได้สามเพลง บุนทิวต้านทานกำลังมิได้ก็ชักม้าควบหนี ไปจนมุมอยู่ริมแม่น้ำฮองโห กวนอูตามไปทันก็ฟันด้วยง้าว บุนทิวก็ตกม้าตายไปอีกคนหนึ่ง พออ้วนเสี้ยวรู้ข่าวก็จะฆ่าเล่าปี่เสีย แต่เล่าปี่ก็ใช้โวหารเอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด

                    ในไม่ช้ากวนอูก็รู้ข่าวว่าเล่าปี่ไปอยู่กับอ้วนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว กวนอูจึงพาพี่สะใภ้ทั้งสองออกจากเมืองฮูโต๋ โดยไม่สนใจว่าใครจะทัดทาน หรือต่อต้านอย่างไร พอมาถึงด่านตังหลงก๋วนเป็นด่านแรก ขงสิ้ว เป็นนายด่านอยู่ ก็คุมทหารออกมาขัดขวางไว้  แต่รบกับกวนอูได้เพลงเดียวก็ถูกกวนอูฟันตาย
                    เมื่อถึงเมืองลกเอี๋ยงกวนอูจะผ่านไป ฮันฮก เจ้าเมืองก็อุบายให้ เบงทัน ทหารเอกเข้ารบล่อ ให้กวนอูไล่จนใกล้ประตูเมือง แต่เบงทันก็หนีไม่พ้นถูกกวนอูฟัน  ตัวขาดเป็นสองท่อน ฮันฮกซุ่มอยู่ข้างประตูเมืองก็ยิงด้วยเกาทัณฑ์ถูกไหล่ซ้าย กวนอูก็ชักลูกเกาทัณฑ์ทิ้งเสีย แล้วควบม้าเข้าไปฟันฮันฮก ตัวแยกเป็นสองซีก ตายตามไปอีกคน

                   ครั้นมาถึงด่านกิสุยก๋วน เปี๋ยนฮี นายด่านก็วางอาวุธ แล้วเชิญให้กวนอูเข้าไปกินเลี้ยงในวัดตีนก๊กซือ บังเอิญหลวงจีนเภาเจ๋งเจ้าวัด เป็นชาวบ้านเดียวกันกับกวนอูเคยรู้จักกันมาก่อน และรู้ว่าเปี๋ยนฮีซุ่มทหารไว้จะทำร้าย จึงแอบบอกให้รู้ตัว พอเปี๋ยนฮีเชิญให้นั่งโต๊ะ   กวนอูก็ถามว่าซึ่งชวนมากินโต๊ะนี้ดีหรือร้าย  เปี๋ยนฮีก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น  ร้องเรียกทหารที่ซุ่มอยู่ให้เข้าล้อมจับ กวนอูก็ชักกระบี่ฟันตายไปหลายคน แล้วฉวยง้าววิ่งไล่เปี๋ยนฮีเข้าไปในเก๋ง แล้วก็ฟันเสียตัวขาดสองท่อนตามเคย
    
               กวนอูเดินทางมาถึงเมืองเอี๋ยงหยง อองเซ็ก เจ้าเมืองซึ่งเป็นญาติกับฮันฮก รู้ข่าวแล้วก็ออกมาต้อนรับ พากวนอูกับพี่สะใภ้ทั้ง
สองเข้าไปพักในเมือง  และจัดโต๊ะอาหารส่งไปเลี้ยง ถึงที่พัก  แต่พอค่ำลงอองเซ็กก็สั่งให้ งอปั้น ทหารเอกคุมทหารพันคนหอบฟืนและฟางคนละมัด                                                             
ไปวางล้อมที่พักของกวนอู แล้วระดมจุดเพลิงคลอกเสียให้สิ้น งอปั้นรับคำสั่งแล้วก็ไปทำตามนั้น  แต่ก่อนจะจุดไฟเกิดอยากจะเห็นหน้ากวนอู  จึงย่องไปแอบดูข้างประตู  เมื่อเห็นกวนอูนั่งอ่านหนัง
สืออยู่บนเก้าอี้ ก็ออกอุทานว่ารูปงามเหมือนเทพยดา

                    กวนอูได้ยินเสียงก็ร้องถามว่าผู้ใดเข้ามา  งอปั้นก็เข้าไปคุกเข่าคำนับ แล้วบอกว่าชื่องอปั้นเป็นนายทหารของอองเซ็ก กวนอูก็ถามว่าเป็นบุตรงอหัวหรือ งอปั้นก็รับคำ งอหัวนั้นเป็นนายบ้านนอกแดนเมืองฮูโต๋ ได้เคยให้ที่พักอาศัย  และเลี้ยงดูกวนอู  กับพี่สะใภ้ทั้งสอง เมื่อออกมาจากเมืองฮูโต๋  ครั้นรู้ว่ากวนอูจะต้องเดินทางผ่านมาทางเมืองเอี๋ยงหยง ก็ฝากหนังสือมาให้บุตรชายด้วย

                    กวนอูก็เอาหนังสือนั้นให้งอปั้น ในหนังสือนั้นมีความว่า กวนอูมีฝีมือกล้าหาญ ทั้งมีน้ำใจสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน ถ้ามาถึงแห่งใดตำบลใด และงอปั้นพบพานเข้า ก็อย่าให้คิดทำร้าย จงทำนุบำรุงกวนอูให้ไปโดยสะดวกภายหน้าจะได้เป็นที่พึ่งสืบไป งอปั้นจึงสารภาพเรื่องที่อองเซ็กใช้ให้มาจุดไฟคลอกโดยตลอด  แล้วให้ทหารไปเปิดประตูเมือง  เร่งให้กวนอูกับพวกพ้องเดินทางต่อไปโดยเร็ว เมื่อพ้นเมืองไปแล้ว งอปั้นจึงกลับมาจุดเพลิงเผาที่พักเพื่อกลบความ

                    อองเซ็กได้แลเห็นแสงเพลิงและเสียงประทัด ก็คุมทหารมายังที่พักของกวนอู ทหารที่ล้อมอยู่ก็บอกว่ากวนอูหนีไปได้ จึงรีบพาทหารติดตามกวนอูไป จนทันที่นอกเมือง และร้องท้าทายกวนอูว่ามีฝีมือเหตุใดจึงหนีไปเล่า แล้วก็รำทวนเข้ารบกับกวนอู เลยถูกคมง้าวของกวนอูฟันขาดสองท่อนไปตามระเบียบ

                    ครั้นเดินทางมาถึงเมืองตองกุ๋น เล่าเอี๋ยนเจ้าเมืองก็ไม่ได้ขัดขวางแต่เตือนว่า คงจะ ไปไม่พ้น เพราะแฮหัวตุ้นทหารเอกของโจโฉ กับ จินกี๋ ทหารรองยกกำลังมาตั้งอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำฮองโห กวนอูก็ไม่ย่อท้อพารถของพี่สะใภ้กับพวกพ้อง ผ่านไปจนถึงฝั่งแม่น้ำ ก็เจอกับจินกี๋ที่แฮหัวตุ้นให้ คุมทหารคอยดักอยู่ กวนอูเข้าต่อสู้ได้แค่เพลงเดียวก็ฟันจินกี๋คอขาดไปอย่างง่ายดาย แล้วก็สั่งให้ทหารที่ยอมแพ้จัดหาเรือข้ามฟาก มุ่งไปแดนเมืองกิจิ๋ว

                    ทหารคนสุดท้ายของโจโฉ ที่ติดตามกวนอูมาทัน ในขณะที่กวนอูได้พบกับเตียวหุย ในระหว่างทางไปเมืองเก๋าเซีย  และกำลังจะผิดใจกัน  ด้วยความระแวงของเตียวหุย  ผู้นั้นก็คือ ซัวหยง ซึ่งเป็นญาติกับจินกี๋ ต้องการจะมาแก้แค้นแทนหลาน  จึงถูกกวนอูฆ่าเสียในพริบตาเดียว ทำให้เตียวหุยเชื่อใจในความซื่อสัตย์ของกวนอู   และพากันเข้าไปในเมืองเก๋าเซีย  และได้พบกับเล่าปี่ในที่สุด      

                    กวนอูได้ควงง้าวหนักแปดสิบสองชั่งของเขาร่วมมือกับเล่าปี่ ต่อสู้กับก๊กอื่น ๆ เพื่อ
ชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน  ต่อมาอีกเป็นเวลานาน ด้วยความซื่อสัตย์  จนเป็นที่ยกย่องไปทั่ว แผ่นดิน  

                    ถึง พ.ศ.๗๖๒ เล่าปี่ได้ครอบครองเมืองเสฉวนแล้ว ก็ให้กวนอูไปรักษาเมืองเกงจิ๋ว
ซึ่งอยู่คนละฝั่งทะเลกับเมืองกังตั๋ง แต่ไม่ยอมเป็นไมตรีกับซุนกวนเจ้าเมือง ซึ่งเคยมีเหตุบาดหมางกับเล่าปี่ ซุนกวนจึงร่วมมือกับโจโฉรุมรบกวนอู ในขณะที่กวนอูกับกวนเป๋งบุตรเลี้ยงยกทัพไปตีเมืองซงหยง และฆ่า แฮหัวจุ้น กับ เต๊กหงวน  นายทหารเอกตายไปสองคนก็ยึดเมืองซงหยงได้ และรุกต่อไปถึงเมืองอ้วนเซีย แต่ตีหักเอาเมืองไม่ได้จึงล้อมไว้ โจโฉส่งกองทัพมาช่วย กวนอูก็ใช้อุบายชักน้ำในแม่น้ำขณะฝนตกหนักให้ท่วมค่ายข้าศึก จนแตกกระจัดกระจาย จับตัวแม่ทัพใหญ่ได้  แต่ บังเต๊ก แม่ทัพรองไม่ยอมอ่อนน้อม จึงสั่งให้ประหารชีวิตเสีย

                    ระหว่างนั้นเองซุนกวนก็ให้ ลิบอง นายทหารเอกลอบเข้ายึดเมืองเกงจิ๋วไว้ได้ กวนอู รู้ข่าวก็ถอยจากเมืองอ้วนเซียกลับ แต่เข้าแย่งเมืองเกงจิ๋วคืนไม่ได้ ด้วยไพร่พลซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเกงจิ๋ว ไม่เต็มใจรบและหนีทัพกลับไปบ้านกันหมด  กวนอูกับทหารที่เหลือประมาณสามร้อยเศษ ต้องถอยไปตั้งหลักที่เมืองเป๊กเสีย และถูกข้าศึกล้อมอยู่จนขาดแคลนเสบียงอาหาร และไม่มีผู้ใดยกมาช่วย แม้ซุนกวนจะส่งคนมาเกลี้ยกล่อม กวนอูก็ไม่ยอมอ่อนน้อมกลับพาทหารตีฝ่าออกจากเมือง เพื่อหนีไปเมืองเสฉวน  จึงถูกทหารเอกของซุนกวนสองคนดักจับไว้ได้ แต่ก็ไม่ยอมรับไมตรีของซุนกวนเช่นเคย กวนอูจึงถูกประหารชีวิตพร้อมกับกวนเป๋งในคราวนี้  และถูกตัดศรีษะใส่ถัง  ส่งไปให้โจโฉศัตรูเก่า ที่เมืองฮูโต๋

                    แต่ก็ยังไม่สิ้นเชื้อพยาบาท กวนอูจึงได้กลายเป็นอสุรกาย ไปอยู่ที่วัดบนเขาจวน  หยกสัน ร้องทวงศรีษะจนได้พบกับหลวงจีนเภาเจ๋งที่เคยช่วยชีวิตมาก่อน จึงขอร้องให้ช่วยสวดมนต์ภาวนา แผ่ส่วนกุศลผลบุญให้บ้าง หลวงจีนก็ให้โอวาทว่า

                    "...กงเกวียนกำเกวียน ตัวฆ่าเขา เขาฆ่าตัว เมื่อท่านฆ่า งันเหลียง บุนทิว แลนายด่านห้าตำบลเสีย ใครมาทวงศรีษะแก่ท่านบ้าง  ครั้งนี้ท่านเสียทีแก่ข้าศึก  ถึงแก่ความตายแล้ว ท่านมาร้องทวงศรีษะแก่ใครเล่า....."                

                    ส่วนลิบองซึ่งยึดเมืองเกงจิ๋ว คืนให้ซุนกวนได้นั้น  ก็ได้รับความชอบยิ่งกว่าผู้อื่น และซุนกวนก็สรรเสริญว่า                                                                   

                    ".....เราคิดว่าจะได้เมืองเกงจิ๋วโดยยาก  อาศัยลิบองก็ได้ง่าย  ไม่ทันจะพลิกมืออีก เพราะความคิดของลิบอง ความชอบอันนี้ใหญ่หลวงนัก....."

                    ลิบองก็ลุกขึ้นคำนับ รับคำชมเชยนั้น ซุนกวนก็ยังย้ำอีกว่า

                    ".....แต่ก่อนเรามีจิวยี่สติปัญญากล้าหาญชำนาญในกลศึก โจโฉยกทัพบกทัพเรือ
มามาก ทหารถึงแปดสิบสามหมื่น มารบกันตำบลเซ็กเพ็ก อาศัยความคิดจิวยี่มีชัยชนะโจโฉโดยง่าย จิวยี่แพ้ความคิดขงเบ้งก็ตายเสียแล้วยังอยู่แต่โลซก    ครั้งหนึ่งจิวยี่ยังมิตายโจโฉมีหนังสือมา
มาเกลี้ยกล่อมเรา ที่ปรึกษาทั้งปวงยอมจะให้เราไปขึ้นแก่โจโฉแลโลซกผู้เดียวมิยอม จึงให้หาจิวยี่เข้ามาปรึกษาจะทำสงครามกับโจโฉอันนี้เป็นความชอบของโลซก   ครั้งหนึ่งเล่าปี่ให้มาขอยืมเมืองเกงจิ๋วว่าจะอาศัยอยู่ เราปรึกษาโลซก   โลซกยอมให้จึงวุ่นวาย  อันนี้เป็นความผิดของโลซก  บัดนี้เราอาศัยความคิดของลิบองจึงได้เมืองเกงจิ๋วโดยสะดวกความคิดลิบองชนะความคิดจิวยี่โลซก....."

                        แล้วซุนกวนก็จับจอกสุราริน  ยื่นสองมือโดยคำนับให้ลิบอง  แต่คราวนี้พอลิบองจับจอกสุราจะกินเข้าไป ก็กลับทิ้งจอกลงแล้วชี้หน้าซุนกวนตวาดด้วยเสียงอันดังว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่