“ ๕ คนเฒ่าจับโจร ”



“อยู่บ้านท่ากาน แม่อุ้ยเฒ่า ๕ คน มาจำศีลฟังธรรมทุกวันพระกับพ่อน้อยมา แม่จันท์ ๗ เฒ่าอายุ ๖๐ ปี เราก็อายุ ๔๐ ปี บวชได้ ๑๑ พรรษา เทศน์สอนคนเฒ่าหมู่นั้น

คนเฒ่าเข้าใจว่า “รักษาศีล ฟังธรรม ไม่ต้องทำการทำงานอะไร ตลอดจนการปฏิบัติธรรมก็เหมือนกันให้อยู่วัดอย่างเดียว การทำมาหาเลี้ยงชีพก็งดเว้นหมดไม่ต้องทำ”

เราก็ชี้แจงว่า “มิใช่อย่างนั้น ทานก็ให้ได้ตลอด หากเรามีของที่จะให้ทาน การรักษาศีลก็รักษาได้ตลอดเป็นนิจ รักษาได้ทุกวัน อยู่บ้านก็รักษาได้ ไปอยู่ที่ไหนก็รักษาได้ ภาวนาก็เหมือนกันรักษาใจได้ตลอดไป เพราะว่า กายเราเอาไปด้วย วาจาคำว่าจาเราเอาไปด้วย ใจก็อยู่กับเรา
การฟังธรรมก็ฟังกิริยาจิตกิริยาใจของเรา ว่าจิตนี้เป็นอย่างใดอยู่ วาจานี้อย่างใดอยู่ ใจนี้อย่างใดอยู่ แก้ไขอย่างไร ตั้งใจอย่างไร
การเป็นอยู่องค์พระพุทธเจ้าห้ามมิให้เป็นบาปให้มีศีล ๕ อยู่ประจำ เป็นนิจ รักษากายวาจาเอาไว้ตลอดไป ใจเป็นผู้รักษา การเคลื่อนไหวไปมาพระพุทธเจ้าห้ามมิให้เป็นบาป ให้เป็นผู้มีสติอยู่เสมอตลอดไป”

คนเฒ่า ๕ เฒ่าอุ้ยป้อเป็นหัวหน้า มาเล่าให้ฟังก่อนที่จะเข้าพรรษา หาบหมากแว่นหมากต่อง หมากเคี้ยวนี้แหละจัดเป็นแว่น เป็นฝาน แล้วเอาตอกมาร้อยให้เป็นพวงเป็นต่อง เอาไปตากแดดให้แห้ง แล้วพากันหาบไปขายตลาดสันป่าตอง

วันหนึ่งก็หาบของไปขายตามปกติ โจรไอ้ง่าวมันมาลัดทางปล้นเอาสตางค์ คนเฒ่าก็ว่า “เอาเถอะอ้ายเอ๋ย ถุงเงินอยู่ก้นบุงนั่นหละ ไปขายของก็ขายไม่ค่อยดี อย่าเอาหมดเน้อ หลานเอ๋ย เอาไว้ให้อุ้ยใช้บ้างเน้อ”

อุ้ยป้อผู้หัวหน้าก็ขยิบตาใส่กัน โจรบักโง่ก็ยังไม่ทันได้ระวังตัว เพราะมัวเมาแต่เสาะควานหาของหาเงินอยู่
ก็สัญญาว่า “เอาเต๊อะ” ต่างคนต่างก็เอาไม้คานหาบบุงโต่งของตีหวดเข้าขาพับมันก่อน มันก็ล้มหมูบลง ทีนี้ก็ตีหวดมัน ตีจนมันสลบไป เอาไม้คานตีมันตีงตัวช่วงใด๋ก็ตีมันตรงนั้น ว่าแต่มันกระดุกกระดิกตัว ก็หวดใส่เต็มแรงของใครของมัน

“เราจะทำอย่างไรกัน”

“เอ้า ๒ อุ้ยไปแจ้งพ่อแข่วน ไปแจ้งหาตำรวจ ”

“๓ อุ้ย เฝ้ามันไว้ อย่าให้มันหนีไปได้ ”

ไอ้โจรปล้นนี้บ้านเกิดเมืองนอนมันอยู่ทางออบหลวง มาได้เมียอยู่บ้านโฮ่งลำพูน อาชีพเป็นโจรปล้น ตัวมันหนังเหนียว ตำรวจเคยดักยิงมันแต่ก็ยิงไม่ออก เขาเอาดาบฟันก็ไม่เข้า ทางการก็พยายามหาวิธีจับ ควานหาตัวมันมานานแล้ว

มาเสียท่าให้กับคนเฒ่า ๕ เฒ่า อุ้ยเฒ่าหมู่นั้นไปจำศีลอยู่กับผู้ข้าฯ แล้วเล่าให้ฟัง ทางการ นายอำเภอให้รางวัลจับโจร คนละ ๒๕ บาท อุ้ยป้อว่า
“พากันตีเต็มแรงคนเฒ่า ตีขนาดนั้นมันก็ยังไม่เป็นไร หนังไม่แตก กระดูกไม่หัก มีแต่ฟกช้ำเลือด ”

สองอุ้ยมาพร้อมนายกำนัน ตำรวจ เอาเกวียนมาลากเข้าอำเภอ มาถึงแล้วก็เอามันขึ้นเกวียน เชือกมัดติดกับพื้นเกวียน มัดข้อแข้ง มัดข้อมือ เอาข้าวของบุงโต่ง ไม้คานขึ้นวางทับตัวมัน เข้าไปว่าการอำเภอ ให้การให้ความ นายอำเภอให้รางวัลจับโจร ๒๕ บาท เสร็จแล้วก็เอาโจรเข้าคุก สุดท้ายตัดสินคดีความประหารชีวิต ตำรวจเอาค้อนตีหัวทอยมันแล้วก็โยนลงหลุมฝังมันเสีย

ผู้ดีอกดีใจสร่างใจ แม่นนายกำนันพ่อแข่วน ประกาศว่าต่อไปตำบลเราไม่มีโจรร้ายอีกแล้ว บักง่าวนี้มันตายแล้ว ไอ้โจรคนนี้มันเป็นคู่ปรับนายกำนันมา ๕ ปีแล้ว วันแรกที่พ่อแข่วนขึ้นเป็นกำนัน มันก็เข้าปล้นบ้านของนายกำนัน ได้เงินไป ๓๐ บาท กับข้าวของอย่างอื่นอีกมากมายพอสมควร มันเลยเป็นอริของกำนันมาตลอด นายกำนันให้เงินคนเฒ่านี้อีก คนละ ๕ บาท สู่ขวัญฮ้องขวัญให้คนเฒ่าอีก ประกาศเชิดชูความสามัคคี ความไหวพริบปัญญาของคนเฒ่านี้ให้ทั่วตำบล ทางอำเภอก็ประกาศเกียรติคุณให้อีก”

ธรรมะประวัติองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ตอนที่ ๕๖
(วัดป่าบ้านห้วยทราย) บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๙
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่านครับ

เครดิต :FB อุดรธานีราชธานีแห่งพระธรรม @UdonthaiBuddhism
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่