รีวิววีซ่าอเมริกาที่ว่ายากเย็นแสนเข็ญ โหด และต้องอาศัยดวง ยิ่งผู้หญิงโสด อายุงานก็น้อย เดินทางคนเดียวยิ่งไม่มีทางผ่านได้
วันนี้เราขอรีวิวเพื่อลบล้างความเชื่อนั้น ให้ข้อมูล และเป็นกำลังใจให้กับคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเรานะคะ You're not alone ค่ะ
คุณสมบัติเราคร่าวๆ
- อายุครบ 24 หนึ่งอาทิตย์ก่อนทำวีซ่า
- โสด เดินทางคนเดียว
- เพิ่งทำงานแรกครบ 9 เดือนวันที่ขอวีซ่า
ขอบอกเลยว่าก่อนจะไปขอวีซ่าทำการบ้านและอ่านรีวิวหนักมาก ซึ่งก็ให้ทั้งผลดีผลเสีย เราได้ข้อมูลแน่นมากจากกระทู้ต่างๆ ที่เค้ารีวิวกันในนี้นี่แหละ แต่ก็ทำเราฝ่อไปเหมือนกัน เพราะเหมือนจะมีคนไม่ผ่านกันเยอะ ซึ่งคุณสมบัติเรามันเข้าข่าย (ไม่น่าผ่าน) ทุกข้อ
แต่เราไม่ท้อใจค่ะ ไม่ลองไม่รู้ เก็บข้อมูล เตรียมเอกสารอยู่หลายอาทิตย์ (ซึ่งได้ใช้จริงแค่ใบเดียว) กะว่าเอาให้พร้อมสุดๆ แล้วไปยื่น เรางกค่าวีซ่าอะ แพงอะไรเบอร์นั้น
ขอข้ามขั้นเตรียมเอกสารไปเลยนะ เพราะมีรีวิวดีๆ เยอะมากๆ ในพันทิป เราขอแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าของเราค่ะ
เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ใจดีนะคะ เจอโหดๆ แค่คนเดียวเอง วิธีการพูดทำให้นึกถึงคุณครูสมัยมัธยมเลย ก็ผ่านตรวจเอกสาร สแกนนิ้วไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ห้องสัมภาษณ์คือไม่เหมือนกับที่เราคิดเอาไว้เลย เล็กมากกก และคนก็อัดๆ กันเข้าไปหลายสิบ เรียงรายรอคิวกัน ได้ยินเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์คนก่อนหน้าหลายๆ คนโดนซักอยู่นาน จนเหมือนเราเป็นเพื่อนเค้าเลย เพราะรู้ประวัติเค้าเยอะมาก 55 ทุกตู้สัมภาษณ์จะมีโดมอะไรไม่รู้ห้อยอยู่เหนือหัว นี่ตอนแรกคิดว่าเครื่องจับเท็จเปล่าวะ ปล่อยโซนาร์มาที่เราแล้วดูในจองี้ แบบคิดไปไกลมาก ดูหนังสายลับเยอะ แต่จริงๆ มันน่าจะเป็นลำโพงแล้ว เพราะในห้องเจ้าหน้าที่ก็มีเหมือนกัน แฮะๆ
ถึงคิวเรามีตู้ว่างสองตู้พร้อมกัน ตู้ท่านกงไม่มีผม กับท่านกงอินเดียน่า โจนส์ (หล่อ เซอร์มาก) ท่านกงไม่มีผมกระดิกนิ้วเรียกเราเข้าไป
เราได้สัมอังกฤษล้วน ยิงเป็นปืนกลเลยค่ะ สาเหตุน่าจะมาจากที่เราเขียนใน DS160 ว่าทำงานในบริษัทข้ามชาติ เราก็รัวกลับได้ในระดับปืนลูกโม่เท่านั้น กระซิกๆ ขอรีวิวเป็นภาษาไทยเพื่ออรรถรสนะคะ
เรา : มอนิ่งค่ะ
ลุง : สวัสดีครับ ขอเอกสารด้วย
เรา : (ยื่นเอกสาร มีแค่ใบคอนเฟิร์มกับพาสปอร์ต)
ลุง : คุณบอกว่าบริษัทคุณเป็น wholesaler in travel industry ที่ใหญ่มากใช่มั้ย? (ข้อมูลที่เรากรอกในวีซ่า)
เรา : ใช่ค่ะ ต้องการดูใบรับรองการทำงานมั้ยคะ (ยื่นเข้าช่อง)
ลุง : (เอาไปอ่านผ่านๆ) คุณจะไปอเมริกาเมื่อไร
เรา : เดือนกันยาค่ะ ไปนิวยอก
ลุง : (ดูจอ เหมือนเช็คกับข้อมูลที่เรากรอกไป) คุณเคยไปไหนมาบ้าง?
เรา : ลาว มาเล ฮังการี บลาๆๆ อยากดูพาสปอร์ตเล่มเก่ามั้ยคะ?
ลุง : (เอาพาสเก่าไปดู) นี่วีซ่าฮังการีนี่ คุณไปทำอะไร
เรา : เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ แล้วก็ได้ไปเที่ยวประเทศรอบๆ ด้วย
ลุง : k&^(#$(@_)#( (พูดไรไม่รู้ฟังไม่ออก เดาว่าไปเมื่อไร)
เรา : ปี 2009-2010
ลุง : ที่ไหน คุณไปแลกเปลี่ยนที่ไหน (สงสัยงงเพราะเราบอกไปหลายประเทศ)
เรา : ฮังการีค่ะ
ลุง : โอเค คุณจะได้รับพาสปอรต์ภายในบลาๆๆ
เรา : (หึ่ยย เสร็จแล้วหรอ?) ขอบคุณค่ะ You made my day!
ลุง : (สะดุดไปนิดนึงกับคำพูดของเรา แต่ยังวางหน้าเรียบเฉย 555)
อยากบอกว่าเค้าพูดเร็วมากกกก มากกก บางทีเหมือนพูดกับเรา บางทีเหมือนพึมพำกับตัวเอง เราพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดียังฟังไม่ค่อยทันเลยค่ะ เสียงผ่านตู้ก็อื้อๆ Excuse me ไปสองรอบ I don't understand ไปหนึ่งรอบ
คำถามที่เราคิดว่าจะโดนถามอย่าง ทำไมไปเมกา ทำไมไปคนเดียว ไม่รู้จักใครจริงๆ หรอ ไม่มีเลย ถ้าเก็งข้อสอบคือพลาด ไม่คิดว่าเค้าจะถามอะไรง่ายๆ แบบนี้ แล้วก็ให้ง่ายๆ แบบนี้ เดินออกมาแบบเบลอๆ เอ๋? แค่นี้เองผ่านแล้ว ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย เตรียมมาไฟท์แบบสุดติ่งมาก
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปขอวีซ่า และก็มีคอนดิชั่นเหมือนๆ กับเราโน๊ะ เตรียมตัว ทำการบ้านดีๆ ไหว้พระสวดมนต์ ที่สำคัญที่สุดกรอก DS 160 ให้ละเอียด กรอกเองเลย ค่าวีซ่ามันเเพง ให้เวลากับมันหน่อย เราเขียนช่องที่เกี่ยวกับงานไปสองพารากราฟได้ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ยืนยันสถานะในกรณีของเรา คิดซะว่าเกินดีกว่าขาด
โชคดีทุกคนจ้า
[CR] ลบล้างความเชื่อวีซ่าอเมริกา สาวโสด อายุน้อย เดินทางคนเดียว
วันนี้เราขอรีวิวเพื่อลบล้างความเชื่อนั้น ให้ข้อมูล และเป็นกำลังใจให้กับคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเรานะคะ You're not alone ค่ะ
คุณสมบัติเราคร่าวๆ
- อายุครบ 24 หนึ่งอาทิตย์ก่อนทำวีซ่า
- โสด เดินทางคนเดียว
- เพิ่งทำงานแรกครบ 9 เดือนวันที่ขอวีซ่า
ขอบอกเลยว่าก่อนจะไปขอวีซ่าทำการบ้านและอ่านรีวิวหนักมาก ซึ่งก็ให้ทั้งผลดีผลเสีย เราได้ข้อมูลแน่นมากจากกระทู้ต่างๆ ที่เค้ารีวิวกันในนี้นี่แหละ แต่ก็ทำเราฝ่อไปเหมือนกัน เพราะเหมือนจะมีคนไม่ผ่านกันเยอะ ซึ่งคุณสมบัติเรามันเข้าข่าย (ไม่น่าผ่าน) ทุกข้อ
แต่เราไม่ท้อใจค่ะ ไม่ลองไม่รู้ เก็บข้อมูล เตรียมเอกสารอยู่หลายอาทิตย์ (ซึ่งได้ใช้จริงแค่ใบเดียว) กะว่าเอาให้พร้อมสุดๆ แล้วไปยื่น เรางกค่าวีซ่าอะ แพงอะไรเบอร์นั้น
ขอข้ามขั้นเตรียมเอกสารไปเลยนะ เพราะมีรีวิวดีๆ เยอะมากๆ ในพันทิป เราขอแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าของเราค่ะ
เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ใจดีนะคะ เจอโหดๆ แค่คนเดียวเอง วิธีการพูดทำให้นึกถึงคุณครูสมัยมัธยมเลย ก็ผ่านตรวจเอกสาร สแกนนิ้วไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ห้องสัมภาษณ์คือไม่เหมือนกับที่เราคิดเอาไว้เลย เล็กมากกก และคนก็อัดๆ กันเข้าไปหลายสิบ เรียงรายรอคิวกัน ได้ยินเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์คนก่อนหน้าหลายๆ คนโดนซักอยู่นาน จนเหมือนเราเป็นเพื่อนเค้าเลย เพราะรู้ประวัติเค้าเยอะมาก 55 ทุกตู้สัมภาษณ์จะมีโดมอะไรไม่รู้ห้อยอยู่เหนือหัว นี่ตอนแรกคิดว่าเครื่องจับเท็จเปล่าวะ ปล่อยโซนาร์มาที่เราแล้วดูในจองี้ แบบคิดไปไกลมาก ดูหนังสายลับเยอะ แต่จริงๆ มันน่าจะเป็นลำโพงแล้ว เพราะในห้องเจ้าหน้าที่ก็มีเหมือนกัน แฮะๆ
ถึงคิวเรามีตู้ว่างสองตู้พร้อมกัน ตู้ท่านกงไม่มีผม กับท่านกงอินเดียน่า โจนส์ (หล่อ เซอร์มาก) ท่านกงไม่มีผมกระดิกนิ้วเรียกเราเข้าไป
เราได้สัมอังกฤษล้วน ยิงเป็นปืนกลเลยค่ะ สาเหตุน่าจะมาจากที่เราเขียนใน DS160 ว่าทำงานในบริษัทข้ามชาติ เราก็รัวกลับได้ในระดับปืนลูกโม่เท่านั้น กระซิกๆ ขอรีวิวเป็นภาษาไทยเพื่ออรรถรสนะคะ
เรา : มอนิ่งค่ะ
ลุง : สวัสดีครับ ขอเอกสารด้วย
เรา : (ยื่นเอกสาร มีแค่ใบคอนเฟิร์มกับพาสปอร์ต)
ลุง : คุณบอกว่าบริษัทคุณเป็น wholesaler in travel industry ที่ใหญ่มากใช่มั้ย? (ข้อมูลที่เรากรอกในวีซ่า)
เรา : ใช่ค่ะ ต้องการดูใบรับรองการทำงานมั้ยคะ (ยื่นเข้าช่อง)
ลุง : (เอาไปอ่านผ่านๆ) คุณจะไปอเมริกาเมื่อไร
เรา : เดือนกันยาค่ะ ไปนิวยอก
ลุง : (ดูจอ เหมือนเช็คกับข้อมูลที่เรากรอกไป) คุณเคยไปไหนมาบ้าง?
เรา : ลาว มาเล ฮังการี บลาๆๆ อยากดูพาสปอร์ตเล่มเก่ามั้ยคะ?
ลุง : (เอาพาสเก่าไปดู) นี่วีซ่าฮังการีนี่ คุณไปทำอะไร
เรา : เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ แล้วก็ได้ไปเที่ยวประเทศรอบๆ ด้วย
ลุง : k&^(#$(@_)#( (พูดไรไม่รู้ฟังไม่ออก เดาว่าไปเมื่อไร)
เรา : ปี 2009-2010
ลุง : ที่ไหน คุณไปแลกเปลี่ยนที่ไหน (สงสัยงงเพราะเราบอกไปหลายประเทศ)
เรา : ฮังการีค่ะ
ลุง : โอเค คุณจะได้รับพาสปอรต์ภายในบลาๆๆ
เรา : (หึ่ยย เสร็จแล้วหรอ?) ขอบคุณค่ะ You made my day!
ลุง : (สะดุดไปนิดนึงกับคำพูดของเรา แต่ยังวางหน้าเรียบเฉย 555)
อยากบอกว่าเค้าพูดเร็วมากกกก มากกก บางทีเหมือนพูดกับเรา บางทีเหมือนพึมพำกับตัวเอง เราพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดียังฟังไม่ค่อยทันเลยค่ะ เสียงผ่านตู้ก็อื้อๆ Excuse me ไปสองรอบ I don't understand ไปหนึ่งรอบ
คำถามที่เราคิดว่าจะโดนถามอย่าง ทำไมไปเมกา ทำไมไปคนเดียว ไม่รู้จักใครจริงๆ หรอ ไม่มีเลย ถ้าเก็งข้อสอบคือพลาด ไม่คิดว่าเค้าจะถามอะไรง่ายๆ แบบนี้ แล้วก็ให้ง่ายๆ แบบนี้ เดินออกมาแบบเบลอๆ เอ๋? แค่นี้เองผ่านแล้ว ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย เตรียมมาไฟท์แบบสุดติ่งมาก
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปขอวีซ่า และก็มีคอนดิชั่นเหมือนๆ กับเราโน๊ะ เตรียมตัว ทำการบ้านดีๆ ไหว้พระสวดมนต์ ที่สำคัญที่สุดกรอก DS 160 ให้ละเอียด กรอกเองเลย ค่าวีซ่ามันเเพง ให้เวลากับมันหน่อย เราเขียนช่องที่เกี่ยวกับงานไปสองพารากราฟได้ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ยืนยันสถานะในกรณีของเรา คิดซะว่าเกินดีกว่าขาด
โชคดีทุกคนจ้า