ขอปรึกษาเกี่ยวกับคดีเรียกทรัพย์คืน / ยินดีที่จะแบ่งเงินที่ได้คืนจากคดี จำนวน 15% หรือประมาณเกือบ 6 ล้านบาท

คดีนี้เริ่มฟ้องเมื่อปี 2540 โดยโจทก์เป็นบริษัทจำกัด และจำเลยคือธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในตอนแรกโจทก์ประสงค์ ที่จะฝากเงินกับธนาคารฯ เพื่อรับดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว แต่ธนาคารฯ ได้ชักชวนให้โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารฯ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น โดยธนาคารฯ มิได้พิจารณาว่าโจทก์ไม่มีคุณสมบัติในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (คือโจทก์ไม่ได้เป็นผู้ส่งสินค้าออก ซึ่งในขณะนั้นทางธนาคารฯ ก็ไม่ได้แจ้งว่าเราไม่มีคุณสมบัติ) นอกจากนี้ ธนาคารฯ บอกเพียงแต่ว่าจะมีผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยไม่ได้บอกถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ให้โจทก์ทราบ
ซึ่งโจทก์ได้ฝากเงินอยู่กับธนาคารฯ อยู่ก่อนแล้วจำนวนเกือบ 16 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2538 หลังจากนั้นธนาคารก็ให้โจทก์ทำสัญญาหักกลบลบหนี้กับธนาคารฯ และ ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารฯ กล่าวโดยสรุปคือ ระหว่างโจทก์กับธนาคารฯ มีสัญญาอยู่ 3 สัญญา
สัญญาที่หนึ่ง คือสัญญาฝากเงินจำนวนเกือบ 16 ล้านบาท
สัญญาที่สอง คือสัญญาหักกลบลบหนี้
สัญญาที่สาม คือสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ
โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารอยูหลายครั้ง โดยไม่มีการส่งมอบเงินดอลลาร์ หากว่าค่าของเงินดอลลาร์ลดต่ำลง ธนาคารก็จะนำกำไรเข้าบัญชีโจทก์ หากว่าค่าของเงินดอลลาร์สูงขึ้น ธนาคารก็จะหักผลขาดทุนออกจากบัญชีโจทก์  จากที่ได้ทำการซื้อขายทั้งหมดโจทก์ได้กำไรจากธนาคาร  ราว 2.4 ล้านบาท และขาดทุนจากการซื้อขายเงินตราต่างประเทศไป ประมาณ 7.4 ล้านบาท ซึ่งในเดือน เมษายน 2540 โจทก์ได้ขอยกเลิกสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารเนื่องจากเห็นว่ามีการขาดทุนเป็นจำนวนมาก จึงต้องการขอยกเลิกสัญญาฯ แต่ธนาคารฯ ไม่ยินยอม โดยแจ้งว่า ช่วงนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยมีการควบคุมการซื้อขายอย่างเข้มงวด ดังนั้นโจทก์ก็เลยไม่ยอมเซ็นสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศต่อ  หลังจากนั้นไม่นาน มีการลดค่าเงินบาท  ธนาคารฯ ได้ทำการหักบัญชีเงินฝากของโจทก์ จำนวนเกือบ 16 ล้านบาท ไปทันที โดยพลการ
ดังนั้น เดือนกันยายน 2540 โจทก์ได้ฟ้องต่อศาลในคดีละเมิด
ในปี 2548 ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาว่า สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เป็นโมฆะ เพราะเข้าข่ายการพนันขันต่อ  โจทก์และจำเลยได้ฎีกา ทั้งนี้เพราะ ศาลมิได้กล่าวถึงเงินฝากที่โจทก์ฝากไว้กับธนาคารฯ ว่าจะต้องคืนเงินฝากให้โจทก์หรือไม่ โดยโจทก์เห็นว่า เมื่อสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศเป็นโมฆะ โจทก์ก็ไม่มีหนี้สินกับจำเลย สัญญาเงินฝากก็เป็นคนละสัญญากัน เมื่อสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศเป็นโมฆะ สัญญาเงินฝากก็ต้องคืนสู่สภาพเดิม
ในปี 2552 ศาลฎีกา ได้พิพากษาให้สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศเป็นโมฆะ เพราะขัดต่อกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย (โจทก์เลยไม่รู้ว่า จะไปเรียกร้องเงินฝากกับจำเลยได้อย่างไร)
ในปี 2554 โจทก์ทำการฟ้องเรียกทรัพย์คืนต่อศาลแพ่ง กล่าวคือ เงินฝากจะไม่มีการหมดอายุความ ดังนั้น โจทก์จึงฟ้องเรียกทรัพย์คืน  ศาลชั้นต้นพิจารณาคำฟ้องและสำนวนคดี หมายเลขแดงที่ 7790/2544 มีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลย แล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์แก่โจทก์ โจทก์ฎีกา
ต่อมาในเดือน มิถุนายน 2559 ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ 10436/2558 ศาลฎีกาได้พิพากษาว่า การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ เป็นรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัย โดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำ กับคดีตามคำพิพากษา ศาลฎีกาที่ 5661/2552 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ชอบแล้ว
จึงอยากเรียนถามผู้รู้หน่อยครับ
1.    วัตถุประสงค์ของโจทก์ในตอนแรกคือการฝากเงินเท่านั้น แต่ธนาคารได้ชักชวนไปซื้อขายเงินตราต่างประเทศในลักษณะเป็นการพนันขันต่อ โจทก์มีความผิดด้วยหรือครับ ในความคิดของผม ถ้าผมเอาเงินไปเล่นการพนันในบ่อนการพนัน แล้วแพ้ ผมก็ไม่ควรทำการฟ้องร้องเรียกเงินคืน เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นการเล่นการพนัน แต่ในกรณีนี้ โจทก์ฝากเงินกับสถาบันการเงิน ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารไม่เคยบอกถึงความเสี่ยงว่าเงินฝากนี้อาจจะสูญหายไปได้ ถ้ารู้ก็ไม่ไปซื้อขายเงินตราต่างประเทศด้วยตั้งแต่ต้น
2.     ทำไม พอสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศเป็นโมฆะ  คู่สัญญาจึงไม่กลับไปสู่สถานะเดิม เงินฝากก็ยังอยู่ เพราะไม่ได้มีหนี้
3.    ในตอนนำสืบ โจทก์ได้นำเอกสารการศึกษาของผู้มีอำนาจในการลงนามของโจทก์ว่าจบแค่ชั้น ม.ต้น ซึ่งไม่ได้มีความรู้ เหมือนโดนหลอกให้ทำสัญญา
4.    อยากทราบว่ามีวิธีใดที่จะเรียกทรัพย์ (เงินฝาก) คืนได้บ้างครับ ต้องไปร้องเรียนที่ไหน อย่างไร
มูลหนี้ฟ้องอยู่ประมาณ 36 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย ใครช่วยได้บ้างครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่