เสน่หาอำมหิต มฤตยูยอดรัก ตอนที่ 11

กระทู้สนทนา
โดย...ล. วิลิศมาหรา

ตอนที่ 11


          แสงแรกของวันสีส้มอมเหลืองสาดส่องทาบทาขอบฟ้าเหนือหมู่บ้านฟ้าใหม่ อรุณรุ่งได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้
          แว่วเสียงนกร้องจุ้บจิ้บดังมาจากนอกหน้าต่างห้องนอน ปลุกให้บรรพตตื่นขึ้นจากอาการหลับใหลในค่ำคืนอันหฤหรรษ์ ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาได้เก็บเกี่ยวความหอมหวานซ่านซ่าจากเรือนกายยวนใจของสาวน้อยคนนอนเคียงข้างอย่างอิ่มเอม หนุ่มใหญ่เปิดเปลือกตาขึ้น แล้วค่อย ๆ พลิกตะแคงชันตัวลุกนั่ง ระวังไม่ให้รบกวนร่างงามที่ยังนอนคู้นิทราอยู่ข้างกาย

           หนุ่มใหญ่เผยอยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อพิศมองดวงหน้าหวานซึ้ง ปากแก้มคิ้วคางของสาวคนรักช่างสวยสมเหมาะเจาะ รับกับเรือนผมยาวสลวยดำขลับล้อมรอบวงหน้ารูปไข่ อดเอื้อมมือไปใช้นิ้วไล้เบา ๆ บนพวงแก้มอิ่มเต็มของสาวน้อยไม่ได้

           แต่ทันทีนั้นนายแพทย์อาวุโสก็ต้องเอะใจ เมื่อสัมผัสผิวกายของเด็กสาวแล้วรู้สึกถึงความร้อนผ่าว เขาเปลี่ยนเป็นใช้หลังมือวางบนหน้าผากของเธอแทน และแล้วเขาก็รับรู้ได้ในทันใดว่าพิมพลอยมีอาการตัวร้อน เธอกำลังมีไข้!

           เกิดอะไรขึ้นกับแฟนสาวคราวลูกกันแน่ เมื่อคืนนี้พิมพลอยยังสนองตอบความรักความเสน่หาของเขาอย่างเปรมปรีดิ์ เธอรับรุกทุกท่วงท่าที่เขาปรนเปรอโดยไม่มีทีท่าว่าจะป่วยไข้ แต่เช้าวันนี้เมื่อเขาเพ่งพิศดูใบหน้าเด็กสาวชัด ๆ อีกครั้ง จึงพบว่าพิมพลอยมีสีหน้าแดงระเรื่อจากพิษไข้ ท่านอนของเธอคล้ายอ่อนเพลียสูญสิ้นเรี่ยวแรงจนไม่ขยับเขยื้อน แม้เขาลองจับแขนเธอยกขึ้นเล็กน้อยแล้วปล่อย แขนข้างนั้นของเธอก็ทิ้งตกลงอย่างไร้แรงต้าน เด็กสาวหลับตาพริ้มนอนนิ่งราวไม่รู้สึกตัว เธอนิ่งเสียจนเขารู้สึกตกใจ

“พลอย พลอยครับ”

           บรรพตรีบเรียกเธอให้รู้สึกตัวตื่นพร้อมเขย่าแขนเบา ๆ พิมพลอยคราง ฮือ ในลำคอก่อนเผยอเปลือกตาขึ้นมองคนเรียก แต่เธอเพียงมองหน้าเขาครู่เดียวแล้วกลับปิดเปลือกตาลงอีก หมอหนุ่มใหญ่ประเมินอาการดูแล้วเห็นว่าเธอป่วยแน่ ๆ จึงรีบลุกขึ้นจากเตียง คว้าเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนลวก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปเลือกหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าออกมาสองผืน ผ้าผืนหนึ่งชุบน้ำจนเปียกหมาดจากอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ แล้วจึงนำมาวางบนหน้าผากให้เด็กสาว เสร็จแล้วผลุนผลันลงไปชั้นล่าง หากะละมังพลาสติกใบเล็กกับเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ ไม่ลืมหยิบยาแก้ไข้จากตู้ยาติดมือขึ้นมาด้วย นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่พิมพลอยเกิดป่วยกะทันหันแบบนี้

           เมื่อมาถึงเตียงที่ร่างน้อยนอนงอตัวอยู่ บรรพตใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้เธอดูรอบหนึ่งก่อน ปรากฏว่าพิมพลอยมีไข้สูงน่าดู เขาไม่รอช้า จัดแจงนำน้ำใส่กะละมังเพื่อเช็ดตัว จัดท่าให้นอนหงายเหยียดยาวแล้วเปิดเปลือยร่างเธอออก นายแพทย์หนุ่มใหญ่เอาผ้าขนหนูผืนเดิมมาชุบน้ำใหม่ ค่อยบรรจงเช็ดหน้าเช็ดตาให้ ก่อนวางลงบนหน้าผากอีกครั้ง ส่วนผ้าเปียกอีกผืนนั้นสำหรับเช็ดตามซอกข้อพับร่างกายให้เธอ

           หมอบรรพตเช็ดตัวลดไข้ให้สาวน้อยครู่ใหญ่ เมื่อกะเวลาว่าน่าจะเพียงพอจึงใช้หลังมือแตะวัดระดับความร้อนอีกครั้ง ผิวกายสาวน้อยลดอุณหภูมิความร้อนลงแล้ว หนุ่มใหญ่รู้สึกโล่งใจ เขาวัดอุณหภูมิซ้ำให้แน่ใจ ครั้นเห็นว่าไข้ลดลงจริงจนน่าพอใจจึงเอามือวางทาบลงบนแก้มเนียน เกลี่ยปลายนิ้วที่ผิวแก้มเบา ๆ กระตุ้นเตือนให้รู้สติ

          พิมพลอยเริ่มมีอาการดีขึ้น เธอลืมตากลมโตจ้องมองชายคนรัก เด็กสาวจับมือข้างนั้นของเขาเอาไว้แล้วพึมพำเสียงแผ่ว

“พลอยหิวจังค่ะ”

           หนุ่มใหญ่อมยิ้มอย่างเอ็นดู นึกขึ้นได้ว่าพิมพลอยเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นที่ร่างกายยังไม่หยุดเจริญเติบโต คงเพราะเธออยู่แต่ในบ้านจึงเป็นไปได้ที่สมานจะให้ลูกสาวทานอาหารซ้ำ ๆ ไม่ครบห้าหมู่ ซึ่งทำให้เด็กสาวแอบมีอาการขาดสารอาหาร และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พิมพลอยเจ็บป่วยบ่อย ๆ
ไม่ได้การ หมออาวุโสคิดไปถึงการเตรียมร่างกายเด็กสาวให้พร้อมสำหรับการเป็นแม่คน ไม่แน่ เขากับเธออาจมีลูกชายหญิงด้วยกันอีกสักสองสามคน ว่าแต่ตอนนี้เห็นทีต้องเร่งบำรุงร่างกายให้เธอขนานใหญ่เสียก่อน

“เดี๋ยวพี่จะลงไปชงธัญพืชอร่อย ๆ มาให้พลอยรองท้องก่อนกินยาลดไข้ วันนี้ไม่ต้องกลับไปที่บ้านพลอยนะครับ อยู่กับพี่ที่นี่แหละ พี่จะได้ดูแลพลอยได้เต็มที่ เออ เช้านี้ พลอยทานอาหารอ่อน ๆ อย่างข้าวต้มดีไหม หรือพลอยจะทานอาหารเช้าแบบฝรั่ง”

           เด็กสาวมองหน้าเขาน้ำตารื้นเพราะอนาถใจ นี่เธอจะบอกเขายังไงดีว่าอาหารเหล่านั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของแวมไพร์อย่างเธอ พิมพลอยส่ายศีรษะไปมาช้า ๆ

“พลอยเบื่อข้าวต้มกับอาหารจำเจพวกนั้นค่ะ อยากกินของแปลก ๆ มั่ง”

“อยากกินของแปลก ๆ” บรรพตทวนคำอย่างฉงน“พลอยอยากทานอะไรล่ะครับ”

“ขอเป็นอาหารอีสานอย่างซกเล็กกับลาบเลือดได้ไหมคะ” เด็กสาวตอบเบา ๆ แล้วจ้องหน้าเขาตาแป๋ว

“หา...ซกเล็ก ลาบเลือด”นายแพทย์ศัลยกรรมแทบผงะกับคำตอบของสาวคนรัก

“ค่ะ ตอนพลอยตามพ่อไปแถวอีสานกับทางเหนือ พ่อเคยพาพลอยไปกินอาหารพวกนี้ พอได้กินพลอยรู้สึกมีเรี่ยวแรง สดชื่น เพราะมันมีเครื่องเทศที่เป็นสมุนไพร ถึงกลิ่นจะแรงแต่มันกระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า อีกอย่างรสชาติมันจี้ดจ้าด พลอยชอบอาหารแบบนั้นค่ะ ถ้าเป็นทางเหนืออาหารแบบนี้เขาเรียกว่าหลู้เลือด ซึ่งก็อร่อยมาก”

“เอ้อ แต่มันเป็นเนื้อดิบ ๆ กับเลือดสด ๆ เลยนะครับ”

          บรรพตท้วงแล้วทำหน้ากระอักกระอ่วน ความจริงเขาเองก็เคยกินลาบหมู อาหารของทางเหนือทั้งดิบ ๆ เพราะคุณแม่ของเขาเป็นคนจังหวัดลำพูน แต่บรรพตไม่กล้ากินหลู้ ซึ่งก็คือการเอาเนื้อหมูสับละเอียดแล้วปรุงรส ราดตามด้วยเลือดหมูสด ๆ เวลากินใช้ช้อนตักซดราวซดน้ำแกง ซกเล็กก็เป็นประเภทเดียวกันเพียงแต่หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นใหญ่หน่อย ไม่สับจนละเอียด

“พลอยกินได้ค่ะ อยากกินมากด้วย”

          แวมไพร์ไลแคนสาวเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างหิวกระหาย สองวันแล้วที่เธอไม่ได้ลิ้มรสเลือดเนื้อสด ๆ ของทั้งมนุษย์และสัตว์ ครั้งสุดท้ายคือเมื่อคืนวานซืนกับแมวตัวอ้วนของบ้านหัวมุมถนนฟากโน้น ซึ่งเธอแอบย่องเข้าไปขโมยจับมันมากิน แวมไพร์สาวพลิ้วร่างจากบนหลังคาบ้านนั้นลงตะครุบหมับ บิดคอมันอีกครั้งก่อนหิ้วมากินในบ้านอย่างมูมมามจนหมดทั้งตัวไม่เหลือแม้แต่ขน จากนั้นก็ไร้เหยื่อที่เป็นสัตว์ให้จับกินอีกและขณะนี้เธอกำลังหิวอย่างหนัก ซึ่งตอนแรกที่ขาดเลือดพิมพลอยจะอ่อนแรงและจับไข้ ทว่าต่อไปความหิวกระหายจะกระตุ้นให้เธอจู่โจมเหยื่ออย่างรวดเร็วและรุนแรง

          เวลาหิวหนักแบบนี้พิมพลอยนึกเป็นห่วงความปลอดภัยของหมอบรรพต ผู้เป็นที่พึ่งคนเดียวของเธอที่เหลียงฉีพร่ำบอก เพราะหากเธอหิวมากกว่านี้อีกหน่อยเดียวอาจถึงกับทนไม่ไหว และเผลอตัวทำร้ายเขาเข้า ดังนั้นเด็กสาวจึงต้องยอมบอกเขาตรง ๆ ว่าเธอต้องการกินเลือดสด ๆ

“โทรสั่งให้พลอยเถอะค่ะ เร็ว ๆ ด้วย พลอยหิวมาก สั่งมาชุดใหญ่เลยนะคะ บอกเขาให้เพิ่มเลือดใส่ลงไปเป็นพิเศษด้วย พลอยขอร้องล่ะ หิวจะแย่แล้วค่ะพี่”

           แววตาอ้อนวอนและน้ำเสียงเร่งเร้าเหมือนหิวมากของสาวน้อยดูน่าสงสาร แม้ยังสงสัยถึงอาการอยากทานอาหารดิบ ๆ ของแฟนสาว แต่เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของเธอบรรพตก็ไม่อยากขัดใจ เขาเดินไปกดมือถือโทรสั่งอาหารเมนูดิบคาวให้เธอตามต้องการ

“โทรสั่งแล้วครับ โชคดีที่ร้านของโครงการเข้าเวรกันทำอาหารตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง อีกสักครู่เขาก็จะเอามาส่ง แต่ตอนนี้พลอยกินธัญพืชชงกับยาลดไข้ก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่จะลงไปชงให้”

สาวน้อยเผยอรอยยิ้มออกมาอย่างพอใจ พยักหน้ารับ หมอหนุ่มใหญ่ลุกขึ้นจะเดินลงไปชั้นล่างแต่เธอเรียกเอาไว้อีก

“พี่พรตคะ”

          บรรพตหันมามอง พิมพลอยค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง พลางมองไปทางประตูเลื่อนซึ่งทำจากกระจกใสบานใหญ่ สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงนอกห้องนอนได้ ขณะนี้แม้จะมีผ้าม่านสีอ่อนสวยปิดอยู่ แต่แสงแดดยามเช้ากำลังสาดส่องสะท้อนความสว่างเข้ามา

“พลอยอยากอยู่รอพ่อที่นี่กับพี่ค่ะ แต่ช่วยเอาผ้าหรือกระดาษสีดำมาปิดบานกระจกอีกชั้นหนึ่งให้หน่อยได้ไหมคะ แค่ผ้าม่านยังไม่พอ แสงมันยังลอดเข้ามาทำให้พลอยแสบตัวได้ค่ะ”

“โอ จริงสิพลอยโดนแสงจ้าไม่ได้นี่นา อืม งั้นพี่ลองไปค้นหาผ้ามาปิดกระจกก่อนนะครับ”

“ต้องเร็วหน่อยนะคะ ตอนนี้แสงเริ่มส่องเข้ามา พลอยรู้สึกแสบร้อนเนื้อตัวไปหมดแล้วค่ะ”

          พิมพลอยบอกเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอใช้มือลูบไล้ผิวเนื้อเปล่าเปลือยของตัวเองไปมา บรรพตสังเกตเห็นผิวกายสาวคนรักเริ่มแดงเป็นปื้น เขาบอกให้เธอนอนลงก่อนตัดสินใจเอาผ้าห่มผืนหนาตลบคลุมโปงให้แฟนสาวทันใด

          อาการแพ้แสงของแฟนสาวทำให้หมอศัลยกรรมชักตกใจจนเริ่มลนลาน เขากลัวผิวกายของสาวคนรักจะลอกแดงออกมาเป็นแผ่นเพราะแสงสว่างในตอนกลางวัน จำได้ว่าที่บ้านไม่เคยมีผ้าผืนใหญ่สีเข้มมืด อีกทั้งกระดาษสีดำก็ไม่มีแน่ ๆ เพราะบรรพตชอบให้บ้านโปร่งสบายจึงตกแต่งบ้านด้วยกระจกใสมากกว่า แต่ขณะนี้เขากลับต้องการทำบ้านตัวเองให้มืดทึบ...ทั้งนี้เพื่อสาวน้อยคนรัก

          ละทิ้งเรื่องชงอาหารเสริมเอาไว้ก่อน ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือหาที่อยู่ปลอดภัยจากแสงสว่างในตอนกลางวันให้แฟนสาว หมอหนุ่มใหญ่ตาลีตาลานลงมาชั้นล่าง รีบเปิดประตูวิ่งผลุนผลันออกไปจากบ้านทั้งสวมเสื้อคลุม และที่ซึ่งเขากำลังมุ่งตรงไปก็คือบ้านของอาจารย์สอนศิลปะ ที่นั่นน่าจะมีกระดาษสีดำหรือสีเข้ม ๆ ให้เขานำมาใช้แก้ขัดไปพลางก่อน จากนั้นค่อยออกไปหาซื้อวัสดุทึบแสงมากรุห้องให้เรียบร้อยอีกที


(มีต่อค่ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่