ทุกคนครับมือใหม่หัดรีวิวมาลองเขียนดูนะครับ วันนี้อยากมาลองเขียนรีวิว กับเค้าบ้าง ได้แต่คอยติดตามอ่านของเพื่อนๆหลายคนในนี้  มือใหม่แต่อยากมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับไส้กรองอากาศรถยนต์ครับ พอดีรถที่บ้านถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองอากาศ และและลองใช้ไปได้สักระยะ จนเอามาล้างทำความสะอาดนี่เหละครับ แล้วค่อนข้างประทับใจเลยอยากเอามาลองรีวิวไส้กรองอากาศรถยนต์ให้เพื่อนๆดู เผื่อใครเคยเจอปัญหาจากการใช้ตัวกรองอากาศเดิมที่เคยใช้แล้วอยากจะลองเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้ออื่นบ้าง แต่ยังไม่รู้จะเปลี่ยนเป็นแบบไหนดี  อาจจะเป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ต้องขออภัย ดูตามรูปเลยแล้วกันนะครับ



ลงให้ดูภาพเปรียบเทียบกันให้ดูนะครับ ไส้กรองอากาศรถยนต์สีเขียวคือของใหม่ สีเทาคือกรองกระดาษ(กรองเดิม) จริงๆก็เห็นชัดอยู่แล้วเนอะ บอกทำไม ผมลองเปลี่ยนมาใช้  ไส้กรองอากาศ Fabrix  (ไส้กรอง ฟอร์จูนเนอร์ วีโก้ ) สีเขียวเป็นกรองอากาศตัวใหม่ที่พี่ชายแนะนำมาเพราะว่าเค้าใช้ยี่ห้อนี้อยู่ เห็นบอกว่าดี ก็เลยลองมาใช้บ้าง


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ซูมกันชัดๆ ไปเลย กรองอากาศเดิม กะของใหม่ ไส้กรองอากาศ Fabrix  ของเดิมค่อนข้างเขรอะมากทีเดียว เปรียบเทียบโครงสร้าง จะเห็นว่าสีเขียวเป็นผ้าใยสังเคราะห์หนาเป็นพิเศษ ช่วยให้อากาศไหลผ่านได้ดี ช่วยเพิ่มแรงอัดซึ่ง ทำให้เครืองยนต์เผาไหม้สมบูรณ์  แถมยังแข็งแรงทนทาน เพราะเสริมตาข่ายอลูมิเนียม 2 ชั้น (ที่รู้เพราะว่าอ่านจากคู่มือ 555 ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ) ส่วนสีเทาก้อตามที่เห็นเหละครับ


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ภาพนี้เปรียบเทียบด้านใน กรองกระดาษเดิม กับ ไส้กรองอากาศ ของใหม่ที่จะเอามาเปลี่ยน


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
มาถึงขั้นตอนการเปลี่ยนกันแล้วนะครับ  ไม่ยากเท่าไรถ้าใครเคยเปลี่ยน หรือพอจะมีความรู้เรื่องรถยนต์อยู่บ้าง ใช้เวลาเปลี่ยนไส้กรองอากาศไม่นาน ประมาณ 3 นาทีก็เรียบร้อยแล้วครั้บ (สำหรับคนที่เปลี่ยนเองก็อ่านคู่มือประกอบครับมีบอกละเอียด)


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
นี่เลยครับ  ตามภาพ ประหยัดพลังงานรักษ์โลก / ไส้กรอง ฟอร์จูนเนอร์ วีโก้ ถ้าไม่ได้ใช้รถยี่ห้อเดียวกับผม รถยี่ห้ออื่นๆ ก้อมีนะครับ ผมใช้ฟอร์จูนเนอร์อยู่นะครับ ถ้าใครกำลังจะเปลี่ยนกรองอากาศ ลองสอบถามเข้าไปก็ได้นะครับ เค้ามีเวบไซด์ลองถามกูเกิ้ลดู ก็ได้ครับ
มันดีตรงที่ว่า ตัวไส้กรองอากาศนี้เอาออกมาล้างทำความสะอาดได้  ซึ่งเมื่อไส้กรองอากาศสะอาดก็จะช่วยให้รถเราไม่กินน้ำมันเยอะ อีกอย่างคือหากใครชอบอะไรที่ไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายก็ถือว่ามาถูกทางเพราะว่าการดูแลรักษาค่อนข้างง่าย  และมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน วิ่งมากกว่า 50,000-100,000 กม. ทีเดียว ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อกรองอากาศใหม่บ่อยๆ อันนี้ชอบเลยตรงประหยัดตังค์นี่เหละ  


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
มีทริปเรื่องการทำความสะอาดไส้กรองอากาศ มาแนะนำกันนะครับ เผื่อเพื่อนๆในนี้จะลองเอาไปใช้ดู
•    ควรล้างกรองอากาศทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือบ่อยตามความจำเป็นก็ได้ครับ
•    อย่างไส้กรองอากาศของ Fabrix  จะมีน้ำยาล้างมาให้ ก็แค่ฉีดให้ทั่วกรองอากาศทั้งสองด้าน พักไว้สัก 20 นาที
•    หลังจากนั้นล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ แต่ว่าเปิดน้ำเบาๆนะครับไม่ต้องฉีดแรง เพราะว่าเดี๋ยวแรงดันน้ำจะไปทำให้เนื้อผ้าของเสียหายได้ ให้ล้างจาก ด้านใน เพื่อให้ฝุ่นและคราบสกปรกออกมาทางด้านนอกครับ
•    ล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอามาสะบัดให้น้ำออกมาเหมือนทำให้สะเด็ดน้ำ แล้วก็ทิ้งไว้ให้แห้งเองนะครับ ไม่ต้องใช้เครื่องเป่า เพราะว่าเดี๋ยวตัวกรองจะเสียหายได้
•    พอแห้งเรียบร้อยแล้วก็ใช้น้ำมันเคลือบกรองอากาศ Fabrix ที่มีนั้นเหละครับฉีดบางๆให้ทั่วแต่ว่าเฉพาะด้านนอกเท่านั้นนะครับ ทำตวามสะอาดโดยใช้ผ้าเช็ดส่วนเกินที่น้ำมันไปติดออก แล้วก็วางทิ้งไว้สัก 20 นาที จากนั้นก็นำไปติดตั้งได้ครับ


(ตามภาพคืออุปกรณ์ทำความสะอาด ที่มีให้เป็นน้ำยาล้าง และ น้ำมันเคลือบกรองอากาศ)

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สำหรับผมนะ ถ้าถามว่า ไส้กรองอากาศ Fabrix ดีไหม แล้วแข่งกับ กรองกระดาษ(กรองเดิม) และ กรองผ้ายี่ห้ออื่น เป็นยังไง ผมค่อนข้างชอบตัวใหม่ที่ซื้อมาเปลี่ยนมากกว่านะ เมื่อลองเทียบกันหลายหลายอย่าง ทั้งราคา  วัสดุที่เอามาทำ ความแข็งแรง และอายุการใช้งาน ถือว่าคุ้ม และทีสำคัญ ไม่แพงด้วย เมื่อลองเทียบกับยี่ห้ออื่นที่เคยใช้มา อันนี้ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าครั้งแรกที่ได้ของมา กล่องดูดีครับ สงสัยไม่กระแทกมามาก คือที่จะบอกก็คือของดูมีราคาครับ ไม่ได้ไก่กา ซึ่งค่อนข้างมั้นใจว่าสินค้ามีคุณภาพสูง พอเกาะกล่องเข้าไปดูตัวสินค้างานเนียบมาก ผ้าหนาอายุการใช้งานน่าจะนานมากทีเดียว และราคาไม่แพง เมื่อเทียบก้บยี่ห้ออื่น ผมว่านะล้างได้ด้วยแบบนี้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย เพราะเวลากรองกระดาษ(กรองเดิม) ผมจะทำความสะอาดที่ต้องเรียกว่า ยากมากหากเอาลมเป่าที ต้องวิ่งหนีกันเลยฝุ่นเต็มไปหมด จะแค่เคาะก็ไม่สะอาด ทำความสะอาดยังไงก็ดูไม่สะอาดซะที นอกจากซื้อใหม่กันเลย เขียนมาเป็นทางเลือกครับ


.
.
.
.
.
.
.
ขอบคุณนะครับที่มาติดตามอ่านกัน ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือป่าว แต่ก็แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์การใช้จริงเท่านั้นเอง ถ้าล้างครั้งใหม่มีโอกาส จะมาลองรีวิวอีกนะครับ