สวัสดีค่าาา
เรื่องมีอยู่ว่า ตัวเจ้าของกระทู้เองเป็นลูกคนแรกและมีน้อง 1 คนค่ะ เรากับน้องอายุห่างกัน 8 ปีเลยจ้ะ
ซึ่งการเลี้ยงดูเรารู้สึกว่ามันต่างกันอาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนตอนเรายังเด็กประมาณป.1 แม่ก็คลอดน้อง ซึ่งบ้านของเรา ณ ตอนนั้นไม่มีอะไรเลย
มีแค่พัดลม 1 ตัวกับสมาชิกในบ้านทั้งหมด 4 คน ส่วนทีวีก็ 14 นิ้ว หลังจากนั้นเรื่อยมาก็เริ่มมีของใช้มากขึ้นซึ่งเงินที่ได้มาซื้อของก็เป็นเงินที่กู้เขามา
ทั้งนั้นเลย ความที่เราเป็นเด็กเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพออยากได้อะไรแม่ก็ไม่ค่อยซื้อให้เลย บอกแค่ว่าค่อยพาไปซื้อนะจนผ่านไปผ่านไป ก็ไม่ได้ได้ซื้อ
และเราเพิ่งมารู้ทีหลังว่า คนที่เราเรียกว่าย่าจะใจดำกับแม่ได้ขนาดนี้ (ย่าเราเป็นคนมีเงินนะแต่ขี้งก)
แม่เราเพิ่งมาเล่าให้เราฟังว่า เมื่อตอนที่เราเด็กๆแม่ไม่มีเงินซื้อนมให้เรากิน จึงขอช่วยย่าเราให้ไปบอกกับยายข้างบ้านว่ายืมเพื่อนำมาซื้อนม
ให้เรา (แกมีฐานะดีในตอนนั้นและที่สำคัญเป็นเพื่อนกับย่าของเรา) ซึ่งยายเขาเป็นคนดีแกก็บอกกับแม่เราประจำว่าขาดเหลืออะไรบอกได้นะช่วยได้แกก็จะช่วย แต่ย่าเรานี่สิไม่ช่วยแล้วยังไปบอกกับยายที่ให้เงินแม่เรายืมว่า
***ยายเมื่อก่อนแกอยู่ข้างบ้านแต่ช่วงที่เราเกิดได้ไม่นานแกย้ายไปอยู่คนละซอยกับบ้านเรา ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกับแม่ของเรา จขกท.ขอเรียกว่ายายข้างบ้านละกันน๊าาา***
ย่า: เดี๋ยวฉันค่อยเอาเบี้ยที่มันยืมไปให้มันเอง (หมายถึงให้แม่เรานะ)
ยายข้างบ้าน : มันยืมเท่าไร
ย่า : เห็นว่า 1500 บาท ซื้อนมให้ลูกมันก่อนมีแล้วค่อยคืน
หลังจากนั้นย่าก็เอาเงิน 1500 บาทมาให้แม่แต่ก่อนแกให้แกบอกกับแม่เราว่า เวลาคืนต้องคืน 2000 บาทนะเพราะยายข้างบ้านคิดดอกเบี้ยด้วย
แม่เราก็งงอยู่ในใจว่าทำไมคิดดอกแพงจัง แต่ก็ด้วยความที่ทำเพื่อลูกก็ตอบตกลง (ดอกเบี้ยที่เพิ่มมา 500 บาทยายเขาไม่ได้คิดนะย่าเราคิดเองและแกก็หักเอง) โดยที่เวลาแม่เราฝากกลับไปคืนก็ก็คืนเพียงแค่ที่ยืมมา คือ 1500 บาท ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไร แกก็ทำแบบนี้ตลอดเป็นระยะเวลาปีกว่าๆในการกินดอกเบี้ยจากแม่
แล้วหลังจากนั้นไม่นานแม่ก็ต้องไปทำงาน พ่อเราก็ไปก่อสร้าง ทำให้ไม่มีใครดูแลเลยพาเราไปฝากไว้กับย่าเพราะตอนนั้นมีแค่ย่าคนเดียวที่ว่างทั้งวัน
แต่สิ่งที่แม่เจอหลังจากที่นำเราไปฝากย่าเลี้ยงช่วงกลางวันตอนที่แม่และพ่อทำงานคือย่าบอกว่า ถ้าฝากเลี้ยง เลี้ยงให้ได้ แต่คิดค่าเลี้ยงด้วยเดือนละ 2000 บาท (อะไรๆก็เป็นเงินเป็นทองหมดเลย พูดแล้วเศร้า สงสารแม่จังเลย)
หลังจากนั้นพอเราเริ่มอยู่มหาลัยค่าใช้จ่ายเราเริ่มมากขึ้นแม่เริ่มหมุนเงินไม่ทันแม่ก็บอกให้เราไปขอยืมเงินย่ามาเสียค่าเทอมก่อน ย่าบอกไม่มี ไม่มี และไม่มีคำเดียว จะไม่มีได้ไงทั้งๆที่หลานอีกคน (ลูกของอา) แกให้ทุกอย่าง แม่เลยบอกเราว่าหลังจากนี้ไม่ต้องไปรบกวนย่าอีกปล่อยให้แกรักแต่ลูกของอาไปเถอะ เราก็อยู่แต่ส่วนของเราก็ได้
....... หลังจากนั้นเรื่องที่เคยสะสมมาตั้งแต่เราเด็กๆทั้งเรื่องดอกเบี้ยเรื่องฝากเลี้ยงดูและเรื่องอื่นๆอีกมากที่ย่าได้ทำกับแม่เราแม่ก็เริ่มค่อยๆเล่าให้ฟังทำให้เรารู้สึกไม่รักย่าไปโดยไม่รู้ตัวเลย ณ ตอนนี้ เราควรทำอย่างไรต่อดี เราเคยคิดนะว่าเวลาเรามีงานทำเราจะไม่ไปสนใจแกเลย เพราะแกเคยทำกับแม่เราขนาดนี้ จะเป็นบาปไหม
พอรู้แล้วเสียใจ
เรื่องมีอยู่ว่า ตัวเจ้าของกระทู้เองเป็นลูกคนแรกและมีน้อง 1 คนค่ะ เรากับน้องอายุห่างกัน 8 ปีเลยจ้ะ
ซึ่งการเลี้ยงดูเรารู้สึกว่ามันต่างกันอาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนตอนเรายังเด็กประมาณป.1 แม่ก็คลอดน้อง ซึ่งบ้านของเรา ณ ตอนนั้นไม่มีอะไรเลย
มีแค่พัดลม 1 ตัวกับสมาชิกในบ้านทั้งหมด 4 คน ส่วนทีวีก็ 14 นิ้ว หลังจากนั้นเรื่อยมาก็เริ่มมีของใช้มากขึ้นซึ่งเงินที่ได้มาซื้อของก็เป็นเงินที่กู้เขามา
ทั้งนั้นเลย ความที่เราเป็นเด็กเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพออยากได้อะไรแม่ก็ไม่ค่อยซื้อให้เลย บอกแค่ว่าค่อยพาไปซื้อนะจนผ่านไปผ่านไป ก็ไม่ได้ได้ซื้อ
และเราเพิ่งมารู้ทีหลังว่า คนที่เราเรียกว่าย่าจะใจดำกับแม่ได้ขนาดนี้ (ย่าเราเป็นคนมีเงินนะแต่ขี้งก)
แม่เราเพิ่งมาเล่าให้เราฟังว่า เมื่อตอนที่เราเด็กๆแม่ไม่มีเงินซื้อนมให้เรากิน จึงขอช่วยย่าเราให้ไปบอกกับยายข้างบ้านว่ายืมเพื่อนำมาซื้อนม
ให้เรา (แกมีฐานะดีในตอนนั้นและที่สำคัญเป็นเพื่อนกับย่าของเรา) ซึ่งยายเขาเป็นคนดีแกก็บอกกับแม่เราประจำว่าขาดเหลืออะไรบอกได้นะช่วยได้แกก็จะช่วย แต่ย่าเรานี่สิไม่ช่วยแล้วยังไปบอกกับยายที่ให้เงินแม่เรายืมว่า
***ยายเมื่อก่อนแกอยู่ข้างบ้านแต่ช่วงที่เราเกิดได้ไม่นานแกย้ายไปอยู่คนละซอยกับบ้านเรา ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกับแม่ของเรา จขกท.ขอเรียกว่ายายข้างบ้านละกันน๊าาา***
ย่า: เดี๋ยวฉันค่อยเอาเบี้ยที่มันยืมไปให้มันเอง (หมายถึงให้แม่เรานะ)
ยายข้างบ้าน : มันยืมเท่าไร
ย่า : เห็นว่า 1500 บาท ซื้อนมให้ลูกมันก่อนมีแล้วค่อยคืน
หลังจากนั้นย่าก็เอาเงิน 1500 บาทมาให้แม่แต่ก่อนแกให้แกบอกกับแม่เราว่า เวลาคืนต้องคืน 2000 บาทนะเพราะยายข้างบ้านคิดดอกเบี้ยด้วย
แม่เราก็งงอยู่ในใจว่าทำไมคิดดอกแพงจัง แต่ก็ด้วยความที่ทำเพื่อลูกก็ตอบตกลง (ดอกเบี้ยที่เพิ่มมา 500 บาทยายเขาไม่ได้คิดนะย่าเราคิดเองและแกก็หักเอง) โดยที่เวลาแม่เราฝากกลับไปคืนก็ก็คืนเพียงแค่ที่ยืมมา คือ 1500 บาท ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไร แกก็ทำแบบนี้ตลอดเป็นระยะเวลาปีกว่าๆในการกินดอกเบี้ยจากแม่
แล้วหลังจากนั้นไม่นานแม่ก็ต้องไปทำงาน พ่อเราก็ไปก่อสร้าง ทำให้ไม่มีใครดูแลเลยพาเราไปฝากไว้กับย่าเพราะตอนนั้นมีแค่ย่าคนเดียวที่ว่างทั้งวัน
แต่สิ่งที่แม่เจอหลังจากที่นำเราไปฝากย่าเลี้ยงช่วงกลางวันตอนที่แม่และพ่อทำงานคือย่าบอกว่า ถ้าฝากเลี้ยง เลี้ยงให้ได้ แต่คิดค่าเลี้ยงด้วยเดือนละ 2000 บาท (อะไรๆก็เป็นเงินเป็นทองหมดเลย พูดแล้วเศร้า สงสารแม่จังเลย)
หลังจากนั้นพอเราเริ่มอยู่มหาลัยค่าใช้จ่ายเราเริ่มมากขึ้นแม่เริ่มหมุนเงินไม่ทันแม่ก็บอกให้เราไปขอยืมเงินย่ามาเสียค่าเทอมก่อน ย่าบอกไม่มี ไม่มี และไม่มีคำเดียว จะไม่มีได้ไงทั้งๆที่หลานอีกคน (ลูกของอา) แกให้ทุกอย่าง แม่เลยบอกเราว่าหลังจากนี้ไม่ต้องไปรบกวนย่าอีกปล่อยให้แกรักแต่ลูกของอาไปเถอะ เราก็อยู่แต่ส่วนของเราก็ได้
....... หลังจากนั้นเรื่องที่เคยสะสมมาตั้งแต่เราเด็กๆทั้งเรื่องดอกเบี้ยเรื่องฝากเลี้ยงดูและเรื่องอื่นๆอีกมากที่ย่าได้ทำกับแม่เราแม่ก็เริ่มค่อยๆเล่าให้ฟังทำให้เรารู้สึกไม่รักย่าไปโดยไม่รู้ตัวเลย ณ ตอนนี้ เราควรทำอย่างไรต่อดี เราเคยคิดนะว่าเวลาเรามีงานทำเราจะไม่ไปสนใจแกเลย เพราะแกเคยทำกับแม่เราขนาดนี้ จะเป็นบาปไหม