ธนาคารทำอย่างนี้ได้ด้วยหรอ?

ผมได้เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ของธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ฯ
รถผมราคาประมาณเกือบ2ล้านและเราได้ทำการกู้เงินเพียง 4แสนบาท
เพราะคิดว่าจะพอที่ทำให้สภาพครอบครัวคล่องตัวแต่กลับไม่พออย่างที่คิด
แต่ผมก็ได้ส่งค่างวดแต่ส่งบ้างไม่ได้ส่งบ้างจนทับยอดและทางธนาคารได้บอกยกเลิกสัญญา
(ผมขอเท้าความก่อนว่า รถคันนี้อยู่ที่เพื่อนซึ่งนับเค้าเหมือน"น้อง"เพราะผมไม่ได้ทำงานอยู่บนฝั่งเป็นเดือนกว่าจะได้กลับติดต่อก็ยากมาก
ต้องเป็นผมเท่านั้นที่ติดต่อกลับไป
)
แต่การบอกยกเลิกสัญญามีระยะเวลาให้ผู้เช่าซื้อ 30วัน ในการจ่าย ค่างวดที่ค้างอยู่ทั้งหมดหรือจ่ายให้ยอดคงเหลือไม่เกือน3เดือน
แต่ผมค้างค่างวดอยู่ 57,600 บาท แต่ก็ยังอยู่ในระยะเวลา30วันนั้น ในวันที่30ที่จะครบกำหนดนั้น พนง.มาที่บ้าน 7-8คน รถกระบะ2คัน
(ตกลงพนง.ธนาคารหรือหมวกกันน็อค) เพื่อจะมายึดรถวันนั้นที่บ้านแต่เพื่อนที่ผมฝากรถนั้นไม่อยู่แต่พีชายเค้าอยู่กับพ่อของเค้า
แล้วพนง.มาพูดจาดูหมิ่นกับพ่อของเพื่อนว่าผมรู้ว่าลูกลุงขับรถอะไร
แล้วก็หันไปพูดถึงรถของพี่ชายเพื่อนพูดว่ารถคันนี้ผ่อนอยู่ที่ไหนผมรู้ประวัติทุกคนในบ้านนี้
และพนง.ได้นำเรื่องส่วนตัวของลูกค้าซึ่งคือผมเองมาเล่ากับพ่อของเพื่อนฟังซึ่งเค้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องรถ
(พนง.มีสิทเอาเรื่องส่วนตัวของลูกค้ามาเปิดเผยให้คนอื่นรับรู้ได้ด้วยหรอ) จนพี่ชายบอกว่าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวทำไมไม่พูดเรื่องรถคันนี้
แล้ว พนง.ก็ได้พูดกับพี่ชายเพื่อนว่าให้นำเงินมาจ่าย 30,000บาท แล้วจะไม่ยึดรถ
แล้วพี่ชายเพื่อนก็ได้บอก พนง. ว่าจะนำเงินไปจ่ายทันทีแล้วก็บอกให้ พนง.รอ
พนง.ก็รับปากว่าจะรอ แล้วพี่ชายเพื่อนก็ขับรถออกไปเพื่อจะนำเงินมาจ่ายตามที่ พนง.แจ้งจำนวนไว้
แล้ว พนง.ก็ยังโทรมาถามอีกว่านำเงินมาได้ใช่มั้ย แล้วพี่ชายเพื่อนก็ได้บอกว่าได้
แล้วหลังจากที่วางสายโทรศัพท์ได้สักครู่ พ่อของเพื่อนก็โทรไปหาพี่ชายเพื่อนว่า พนง.ได้ลากรถขึ้นไปแล้ว
พี่ชายเพื่อนโทรกลับไปที่ พนง.คนนั้นแต่กลับไม่รับโทรศัพท์ต่อมาก็ปิดเครื่องตั่งแต่ลากรถไปช่วงเวลา10โมงเช้าโดยประมาณ
พี่ชายของเพื่อนก็พยายามติดต่อตลอด
แล้วประมาณช่วงบ่ายโมงกว่า พี่ชายเพื่อนได้ตามไปที่ธนาคารเพื่อไปเจอตัว พนง.คนนี้เพื่อชำระตามที่ พนง.คนนี้ได้กล่าวไว้
แต่ไม่เจอทางธนาคารไม่ช่วยประสานงานอะไรเลย หลังจากนั้นพี่ชายเพื่อนได้ไปแจ้งความที่โรงพักแห่งหนึ่งและเจ้าพนง.ได้บอกว่า-
เมื่อช่วงเช้าก็มี พนง.ของธนาคารกลุ่มนี้มาแจ้งเหมือนกันแต่
เจ้าพนง.ไม่รับแจ้งความ เพราะยังไม่ครบกำหนดที่จะต้องยึดรถลูกค้า เลยไม่รับแจ้ง แต่รับแจ้งของพี่ชายเพื่อน
หลังจากเสร็จที่โรงพักก็ได้นำเงินไปชำระที่ธนาคารที่ได้ตกลงกับ พนง.คนนั้นไว้
หลังจากที่ชำระเงินแล้วก็พยายามติดต่อกับ พนง.คนนั้นตลอดแต่ก็ยังไม่ติดอีก
หลังจากนั้นประมาณเกือบ1ทุ่ม พนง.คนน้ันก็ได้โทรกลับมาหาพี่ชายเพื่อน และได้มีการคุยกัน
แล้วพี่ชายก็ได้ต่อว่า พนง.คนนั้นไปว่าคุณยื้อให้ข้ามวันใช่มั้ยแบบนี้ทำไมไม่ทำตามคำพูดที่ตกลงกันไว้ให้เราไปจ่ายและไม่เอารถไป
เรื่องนี้เกิดเมื่อวันที่ 21/6/59 จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ได้รถกลับทั้งๆที่เราไปจ่ายแล้ว 30,000บาท ตามที่ พนง.ได้แจ้งไว้
แต่กลับมาบอกทีหลังว่าให้จ่ายที่เหลือให้หมด ที่จริงอยากจะจ่ายให้หมดแต่การกระทำของ พนง.คนนี้เหลือทนจริงๆ
คนไม่อยู่บ้านไปตะโกนด่าหน้าบ้านก็เคยมี(เพื่อนบ้านผมเห็น) ส่งข้อความไปขู่น้องทั้งที่น้องคนที่ผมฝากรถนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ก็มีมาแล้ว  
ยังมารอบนี้ทำตัวยังกับมาเฟียอีก
ปล.ที่ผมเล่ามานี้ ผมอยากรู้ว่านี้คือนโยบายการตามลูกค้าแบบฉบับหมวกกันน็อคของธนาคารแห่งหนึ่งในสุราษฎร์ฯหรอครับ แล้วไม่ถึงกำหนดมีสิทยึดรถไปได้ด้วยหรอทั้งที่เราจ่ายเงินไปแล้วเหลือไม่ถึงเกณฑ์ยึด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่