THE BOY x ICELAND | EP 7 : DAY 4 - ชีวิตอาสาสมัครที่แท้จริง

THE BOY x ICELAND | EP 0 : เรื่องราวของผมกับไอซ์แลนด์ http://ppantip.com/topic/35263996
THE BOY x ICELAND | EP 1 : เตรียมตัวออกเดินทาง http://ppantip.com/topic/35264937
THE BOY x ICELAND | EP 2 : Hej Danmark, Jeg er her! http://ppantip.com/topic/35268433
THE BOY x ICELAND | EP 3 : Ég koma til þín ! ไอซ์แลนด์ เรามาหาแล้วนะ http://ppantip.com/topic/35273271
THE BOY x ICELAND | EP 4 : DAY 1 - This is how Iceland welcome me. http://ppantip.com/topic/35280548
THE BOY x ICELAND | EP 5 : DAY 2 - สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นไอซ์แลนด์ http://ppantip.com/topic/35286578
THE BOY x ICELAND | EP 6 : DAY 3 - First day of summer http://ppantip.com/topic/35298681


วันนี้ต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะวันนี้ต้องไป volunteering หรือ ทำงานอาสาสมัครนั่นเอง โดยเราทำกันที่สุสาน... ฟังไม่ผิดครับ สุสาน

นำทีมโดย เอเดรียน และลูกทีม ผม เอวา เอมิลี่ อุลริเค่ จีซู และ ซาช่า
ส่วนคัทย่ากับเคลอานที่ไม่มา ไม่รู้ทำไม...

อ้อ ไม่ค่อยได้พูดถึงเอเดรียนเลยเนอะ
เอเดรียนเป็นคนที่ผมประทับใจมาก ๆ เพราะเค้าเป็นคนร่าเริงและ positive สุด ๆ ตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
เค้าจะฮัมเพลงตลอดเวลา และมีคำพูดติดปากคือคำว่า "sweet!" และ  "cute!" และมักจะชวนอาสาสมัครคนอื่น ๆ เล่นนู่นเล่นนี่อยู่เสมอ
ผมออกไปรอทุกคนหน้าบ้านกับเอเดรียนก่อน เอเดรียนก็กระโดดเหยาะ ๆ แล้วฮัมเพลง มันเป็นเพลงอะไรสักอย่างที่มีเสียงแมวร้อง นางก็ร้อง ม๊าวๆๆๆไป 55555

ผมก็พูดว่า

"Why so happy !? hahahaha"
"อุ๊ยส์ โทษที แต่ก็นี่แหละ ผมมีความสุข ได้ออกไปทำงานอาสาสมัคร และเรียกขวัญและกำลังใจให้กับอาสาสมัครคนอื่น ๆ "

//ขอโทษทำไมอะเอเดรียน ผู้ดีอังกฤษมากเว่อ แต่ผมชอบความคิดของเอเดรียนมากครับ อยากจะร่าเริงให้ได้เท่าเค้าบ้าง


เราไม่ต้องเดินไปให้เหนื่อยยากลำบาก เพราะว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำงานที่สุสานจะเอารถตู้มารับเราถึงที่ ทาดา !
ก็มารับตั้งแต่ 8 โมงครึ่งเลยครับ ผมก็ยังเป็นคนเอเชียเด๋อ ๆ เหมือนเดิม คือคาดเข็มขัดไม่ได้ เพราะว่าดีงแรงไป
จนเอวา (เจ้าเก่าที่เทเกลือให้ในครั้งที่แล้ว) ต้องคาดเข็มขัดให้ผม
... เอวาคงคิดว่าทำไมอีเด๋อนี่มันโง่ได้ขนาดนี้ 555555

จากนั้นพอไปถึงสุสาน คือมันไม่มีความน่ากลัวเลยครับ มันก็เหมือนกันสวนทั่ว ๆ ไป ที่มีป้ายหลุมศพที่เป็นหิน
เจ้าหน้าที่สุสานก็ให้ทุกคนเลือกว่า จะกินอะไรเป็นอาหารเที่ยงสำหรับวันนี้ มี ไก่ ปลา เนื้อวัว
ทุกคนเลือกปลา ยกเว้น เอมิลี่ เลือกไก่ ส่วน เอวา เป็นมังสวิรัติ

จากนั้นเค้าก็ยังไม่ให้เราทำงานหรอกครับ เค้าให้เรานั่งพัก กินกาแฟ กินขนมปังกันก่อน
..ซึ่งกินขนมปังกันไปเยอะมาก เพราะทุกคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าขนมปังที่บ้านนั้นไม่สด แต่ขนมปังที่นี่สดมากกกกก 55555

จากนั้น ก็ได้เวลาทำงาน ฮึบ !
เราต้องเปลี่ยนชุดเป็นชุดหมีก่อนเพื่อจะได้ไม่เปื้อน และมีถุงมือให้พร้อมเสร็จสรรพ ถึงแม้มันจะมีสภาพที่ดูเหมือนไม่ได้ซักมาแล้วแรมปีก็ตาม
โดยงานที่เราทำก็คือ.. กวาดใบไม้
ตั้งแต่ 9 โมง ถึงเที่ยงเลยครับ

คุณพระ อุณหภูมิ 8-9 องศา ไม่ได้ช่วยอะไร ร้อนมาก กวาด ๆ เขี่ย ๆ มันอยู่นั่น เหนื่อยครับ เหนื่อยสุด ๆ ต่างคนก็ต่างก้มหน้าก้มตากวาดตามพื้นที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมาย
การทำงานกลางแจ้งแบบนี้ทำให้ได้เห็นสภาพอากาศที่แท้จริงของไอซ์แลนด์จริง ๆ สักพักแดดออก สักพักมืด แล้วก็ฝนตกปรอย ๆ แล้วก็แดดออกอีก
ถึงจะเหนื่อยมาก แต่ก็ภูมิใจนะครับ และก็ทำไปทำมามันก็เพลินดี เกิดมาก็ไม่เคยทำอะไรเป็นประโยชน์แบบนี้สักครั้ง 555555 ส่งให้พ่อกับแม่ดูในไลน์ โดนแซว่าเฟค สร้างภาพไปอีก ฮาๆ




พอถึงเวลาเที่ยงก็ได้กินข้าวกันครับ ดีใจมาก เพราะหิว
อาหารอร่อยมากครับ เป็นชุดข้าวกล่อง มีปลาทอด สลัด โดนัท ชอบมาก ๆ
แต่...  เอมิลี่ ผู้สั่งอาหารแปลกจากพวก ได้ช้ากว่าคนอื่นเลย
นางบ่นว่า

"วันหลังไอจะสั่งให้เหมือนพวกยูแล้ว"

555555555555

เอเดรียนก็เหมือนเดิม มีความเป็นผู้ดีอังกฤษ ก็แบ่งปลาให้เอมิลี่กินด้วยครับ ใจดีมาก ๆ
พอกินเสร็จก็เม้ามอยหอยสังข์กันไปเรื่อย ๆ ด้วยความขี้เกียจไปทำงานต่อ

...ใช่ครับทำงานต่อ

เป็นบ่ายโมงถึงสามโมงล่ะคราวนี้ อยากร้องห้ายยยยย เหนื่อยเหลือเกินนนน

ทีนี้ผมเปลี่ยนหน้าที่ ไปทำงานแมน ๆ กับเอเดรียน โดยการตักไปไม้ที่ถูกกองเอาไว้ใส่ในกระบะ ซึ่งต้องใช้พละกำลังมากกว่าเดิมในการยก
แต่ผมรู้สึกกังวลนิดนึง เพราะอย่างที่บอกไปว่า เอเดรียนเป็นคน talkative มาก ส่วนผม เงียบ ๆ ครับ ก็เลยกลัวจะทำให้เอเดรียนกร่อยมั้ย กลัวว่าเราจะอึดอัด
แต่ก็ไม่เลย เอเดรียนก็ชวนผมคุยตามคาด
เอเดรียนบอกว่า สุสานคนไอซ์แลนด์นี่แปลกดี เพราะว่าเวลาคนไอซ์แลนดิกตาย เค้าจะปลูกต้นไม้ไว้บนหลุมศพ
แล้วทีนี้มันก็โตไงครับ แต่มันโตได้ไม่สุด เนื่องด้วยสภาพอากาศและลม ทำให้มันเป็นต้นไม้ขนาดกลาง ไม่สูงมาก ไม่เล็กมาก (มีภาพประกอบในกระทู้หน้า ๆ นะครับ สุสานนี้ไม่ได้ถ่ายมา) ซึ่งดูแปลกตาดี เพราะมันเหมือนเป็นป่าขนาดย่อม ในขณะที่หลุมศพของคนบริติก็จะเป็นแบบเพลน ๆ มีป้ายหินสีขาว หรือไม้กางเขนสีขาว ดูสะอาดตากว่ากันไปเยอะเลย
ผมก็บอกว่า ที่ไทยน่ะ เราไม่ฝัง เราเผา เค้าก็บอก เออก็ดี จริง ๆ ฝรั่งก็เผาเหมือนกันนะ เพราะฝังมันเสียค่าใช้จ่ายเยอะ + เปลืองเนื้อที่

จากนั้นด้วยความสงสัย ผมก็เลยถามเอเดรียนว่า...

"เอเดรียน ไอสงสัยมาสักพักละ"
"yeah? "
"ทำไมคัทย่ากับเคลอานที่ไม่มากับพวกเราหรอ"
"อ่อมมมม.... ก็ได้ยินมาว่า... เค้าสองคนไม่อยากมา เพราะว่าเค้าคิดว่างานนี้มันหนักเกินไปสำหรับพวกเขามั้ง.. แต่ก็นั่นก็เป็นสิ่งที่ไอได้ยินมานะ ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเป็นยังไงเหมือนกัน"

...ก็รู้สึกเคืองนิด ๆ ที่ได้ยินแบบนั้น ไม่แฟร์เลย แต่ก็ ช่างเถอะครับ

เวลาผ่านไปไวเหมือนกัน แป๊บ ๆ ก็สามโมงละ เปลี่ยนชุด แล้วก็กลับบ้านครับ

วันนี้ดีใจมาก เพราะเวรทำอาหารเย็นเป็นของผมเอง... อะฮิ เค้าล้อเล่น ได้ทำอาหารไทยแล้วววววว
ผมตัดสินใจทำ ข้าวผัด, ผัดไทย และ แกงมัสมั่นที่เป็นอาหารสำเร็จรูปนั่นเอง
ต้องขอบอกเลยว่าเป็นครั้งแรกที่หุงข้าวโดยไม่ใช้หม้อหุงข้าว มีการโทรไปถามแม่เพื่อทราบข้อมูลโดยละเอียด



เคลอานที่ มีความตื่นเต้นมากที่ได้เห็นผมทำอาหารไทย เข้ามาช่วยผมหั่นแครอท ถ่ายรูป ถามนู่นถามนี่ว่าใส่อะไรยังไง ฮา ๆ
และนี่ก็คือรูปถ่ายจากเคลอานที่ครับ ฮี่ ๆ หุงข้าวไม่ไหม้ด้วย ภูมิใจมากกกกกก





จากนั้นเพื่อความหรูหราไฮโซ ผมก็เลยใช้สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจในวัยเด็กมาใช้ นั่นคือการ ทำให้ข้าวเป็นภูเขา

โดยการ..ตักข้าวใส่ถ้วยเล็ก ๆ กด ๆ
และคว่ำลงจาน

โพล๊ะ !



สวยงามม เคลอานที่ปรบมือด้วยความตกตะลึง 555555555
จากนั้นจีซูก็เข้ามาบ้าน (เพิ่งกลับมาจากการเดินเล่นในสวน) เห็นผัดไทยแล้วก็วี๊ดว๊ายใหญ่



ก็ได้รับคำชมกันไปตามระเบียบครับ แต่จีซูติมานิดนึงว่าจืดไป ผมก็ว่างั้นแหละ เพราะผมก็ใส่ซีอิ๊วเพิ่ม 55555 เพราะคนเยอะครับ ตั้ง 10 คน ไม่กล้าปรุงเยอะ กลัวพัง
แต่ที่แน่ ๆ ผมทำไม่พอครับ.. คนอื่นพอ แต่ผมไม่พอ 5555 ทำเองแต่ไม่อิ่ม เป็นซะงั้นไป

อ้อคืนนี้ผมมีนัดครับ กับคนไทยในไอซ์แลนด์ หัวเราะ

ขอแนะนำให้รู้จักกับ "พี่ติว"

ความรู้เกี่ยวกับไอซ์แลนด์ของผม เกือบ 70% นั้น มาจากพี่เค้าทั้งนั้นครับ ต้องขอขอบคุณที่ประสาทวิชาความรู้มาให้ ณ ที่นี้ด้วย
ก็คุยกันมานาน ปีสองปี ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันจริง ๆ แถมมาเจอกันที่ไอซ์แลนด์ด้วย ฮา ๆ
ใครอยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับไอซ์แลนด์ ความรู้ สาระต่าง ๆ สามารถไปตามพี่เค้าได้ที่เฟสบุค https://www.facebook.com/bboypasta?fref=ts ได้เลยครับ

"พี่ติว เราจะเจอกันที่ไหนดี"
"โบสถ์ละกัน"

อีกแล้วหรอ !! 55555 ไปแทบทุกวันแล้วโบสถ์เนี่ยย แต่ก็ไม่เบื่อแต่อย่างใดนะครับ มีความยินดี

ก็ออกบ้านตอนสองทุ่มกว่า เพราะนัดกันไว้สามทุ่ม

พอสามทุ่มผมก็ไปรอที่โบสถ์...
พี่ติวก็ไม่มาสักที...
ผมก็เดิน ๆ นั่ง ๆ เป็นความรู้สึกที่ดีมากที่ได้เดินเข้าไปใกล้ ๆ โบสถ์แล้วลูบ ๆ ผนังดู ส่องนั่นดูนี่ กลับมานั่งเสียบหูฟังฟังเพลง มองผู้คนเดินไปเดินมา ดื่มด่ำกับบรรยากาศ มันดีมากจริง ๆ แต่ต้องลุกบ่อย ๆ นะ เพราะนั่งเฉย ๆ นาน ๆ จะหนาวมาก ลมพัดแรงอยู่เหมือนกัน 555



สามทุ่มกว่าพี่ติวก็มา ผมยื่นถุงแคบหมูที่สั่งให้ยายทำให้กับพี่ติว แทนคำขอบคุณที่พี่เค้าจะพาผมเที่ยวในวันนี้
อย่างแรกที่ไปเลยคือ หาอะไรกินครับ 5555 หิวข้าววว กินไม่อิ่ม

เลยไปกิน Subway ผมหน้ามืดสั่งไซส์ใหญ่สุด รู้ตัวอีกทีก็เสียไปกว่า 600 บาท... ไม่เป็นไรเรื่องกินพ่อไม่ว่าหรอก อิอิ
จากนั้นก็เดินกลับบ้าน ยังไม่ได้มีอะไร special มากครับวันนี้ แต่มีอีกวันนึงที่พี่ติวพาเที่ยวแบบจัดเต็ม เพราะฉะนั้น.. รอติดตามอ่านกันนะครับ ;)

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

ปล. คืนนี้บอล ไอซ์แลนด์-ออสเตรีย ห้าทุ่มนะครับ อย่าลืมเชียร์กันด้วยนะ ยิ้ม !
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่