THE BOY x ICELAND | EP 0 : เรื่องราวของผมกับไอซ์แลนด์ http://ppantip.com/topic/35263996
THE BOY x ICELAND | EP 1 : เตรียมตัวออกเดินทาง http://ppantip.com/topic/35264937
THE BOY x ICELAND | EP 2 : Hej Danmark, Jeg er her! http://ppantip.com/topic/35268433
THE BOY x ICELAND | EP 3 : Ég koma til þín ! ไอซ์แลนด์ เรามาหาแล้วนะ http://ppantip.com/topic/35273271
THE BOY x ICELAND | EP 4 : DAY 1 - This is how Iceland welcome me. http://ppantip.com/topic/35280548
THE BOY x ICELAND | EP 5 : DAY 2 - สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นไอซ์แลนด์ http://ppantip.com/topic/35286578
THE BOY x ICELAND | EP 6 : DAY 3 - First day of summer http://ppantip.com/topic/35298681
THE BOY x ICELAND | EP 7 : DAY 4 - ชีวิตอาสาสมัครที่แท้จริง http://ppantip.com/topic/35302427
THE BOY x ICELAND | EP 8 : DAY 5 - ไปดวงจันทร์ http://ppantip.com/topic/35312491
THE BOY x ICELAND | EP 9 : DAY 6 - Free Day กิน ๆ เดิน ๆ http://ppantip.com/topic/35323608
THE BOY x ICELAND | EP 10 : DAY 7 - บ้าจี้ไปเที่ยวมหาลัยไอซ์แลนด์ (Háskóli Ísland) http://ppantip.com/topic/35353722


วันที่ 26 เมษายน

วันนี้แพลนของเราในตอนเช้า เราจะนำรูปแต่ละคนมาคัดเลือกกัน โดยให้เลือกมา 15-20 รูปที่ตัวเองชอบที่สุด แต่งสีปรับนู่นนี่นั่นให้เรียบร้อย และให้เพื่อน ๆ ช่วยกันเลือกออกมาเพียง 3 รูปที่จะได้จัดนิทรรศการ และแต่ละคนจะมี 1 รูป ที่ได้เข้าร่วมโหวตให้นำมาเป็นรูป Poster

โอ้ยยย.. รูปมีเป็นพัน
แล้วจะให้เลือกมาเหลือ 20 รูป เป็นอะไรที่ลำบากมาก เพราะหลายรูปมันก็สวยเหลือเกิน แบบว่ารักพี่เสียดายน้องอ่ะครับ
ที่สำคัญผมไม่ได้เอาคอมมาด้วย เพราะฉะนั้น ผมทำทุกอย่างใน iPhone หมดเลยครับ บางรูปก็ถ่ายด้วย iPhone นั่นแหละ

และนี่ก็คือทั้ง 20 รูปของผมที่ผมเลือกครับ
คราวนี้แหละครับได้เห็นรูปสวย ๆ จากผมกันบ้างซะที 5555 ผมไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพอะไรหรอกครับ เป็นมือสมัครเล่น สวยบ้าง ไม่สวยบ้าง ตามนั้นครับ



ส่วนภาพของคนอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันครับ แต่ไม่สามารถเอามาแบ่งปันให้ดูกันได้ ก็แน่นอนว่าไฟล์อยู่ที่พวกเค้ากันหมดเลย แต่ละคนก็มีสไตล์การแต่งรูปแตกต่างกันไปครับ ผมเน้นสีแบบกล้องฟิล์ม (ฮิปสเตอร์อะไรงี้) หรือไม่ก็ HDR จัด ๆ ไปเลย

ผมชอบวัฒนธรรมตะวันตกอย่างนึงคือ เค้าแสดงความเห็นกันอย่างตรงไปตรงมา และแฟร์มาก ๆ เอเดรียนจะคอยถามตลอดว่า พวกยูโอเคกันมั้ย เอารูปนี้ ได้ใช่มั้ย แล้วยูล่ะคิดยังไง แต่ผมก็ยังไม่ชินเท่าไหร่ อาจจะผมเป็นพวกชิว ๆ ยังไงก็ได้ด้วยแหละมั้งครับ เลยโอเคกับทุกอย่าง และ 20 รูปที่ผมคัดไปนั้น เป็นรูปที่ผมคัดมาแล้วว่าชอบทุกรูป เพราะฉะนั้น อยากให้เพื่อน ๆ ตัดสินกันเอาเองเลยดีกว่า จะรูปไหนก็ได้ผมโอเคหมดครับ

และนี่คือ 3 รูปของผมที่ทุกคนโหวตให้ได้จัดในนิทรรศการครับ ^^





สังเกตได้ว่า เป็นรูปที่มีคนเป็นองค์ประกอบหมดเลย
ส่วนตัวผมชอบรูปที่มีเอเดรียนมากที่สุดครับ โคตรเท่เลย ภาพวาดบนอาคาร + ท้องฟ้า + HDR มันได้ใจมาก ๆ

ส่วนรูปนี้ คือรูปที่ได้คัดเลือกให้เข้าชิงรูปโปสเตอร์ครับ


ได้รับเหตุผลว่า โบสถ์ Hallgrímskirkja เป็นแลนด์มาร์กของไอซ์แลนด์, เห็นโบสถ์นี้ก็คือรู้เลยว่าเป็นไอซ์แลนด์แน่ ๆ และที่สำคัญคือรูปนี้เป็นรูปในโบสถ์ เข้ากับหัวข้อ Inside Iceland พอดีครับ ^^

เถียงกันอีกแล้ว สำหรับรูปโปสเตอร์ คนไทยนิสัยชิว ๆ อย่างเราก็นั่งฟังเค้าเถียงกัน เพราะเราจะเอาแบบไหนก็ได้
คนนึงก็บอก อันนี้มันสื่อไม่แรงพอ ของคนนี้แรงกว่า แบบว่าสื่อว่าเป็น Inside Iceland
เรียกได้ว่าแทบจะตบกันจริง ๆ ครับ
ล้อเล่น ไม่หรอก เค้า discuss กัน เป็นเรื่องปกติ
สุดท้ายก็เป็นที่ตกลงกันว่า รูปของซาช่าได้ทำเป็นโปสเตอร์ครับ โดยมีหน้าตาแบบนี้



ผมเองก็โหวตเหมือนกัน เพราะมีดูลึกลับ แบบเชิญชวนเข้ามาให้ดู "ข้างในไอซ์แลนด์"

เอเดรียนบอกว่า เดี๋ยววันพรุ่งนี้เช้าลิซกับเอเดรียนจะเอา

โฟ๊ะโอ้ส์

ไปปริ้นท์

ทุกคนก็แบบ หื้มมม อะไรนะ

โฟ๊ะโอ้ส์

ลิซ คนที่สนิทกับเอเดรียนที่สุด ก็บอกว่า อ๋อ.. โฟโต้..
โอเคความบริติชนี้ 5555555555

วันนี้ตอนบ่ายหัวหน้าค่ายของเรา ลิซและเอเดรียน ก็จะพาทุกคนไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ The National Gallery of Iceland หรือ Listasafn Íslands นั่นเอง
วันนี้ไปลูกทีมมี ผม จีซู และแก๊งค์ สาวสาวสาว ส่วนสองสาวเยอรมัน อุลริเค่และเอมิลี่ ไปทัวร์ Golden Circle ครับ

ระหว่างการเดินทาง จีซูก็เจอเหรียญตกอยู่ 1 โครน่า
และนางก็บอกว่า นางเชื่อว่านางจะโชคดีไปทั้งวัน หรืออาจจะเจออีกเหรียญนึง น่าจะเป็นความเชื่อของคนเกาหลีมั้ยนะ อันนี้ผมไม่ทราบ
ระหว่างที่เดินนั้นก็เป็นช่วงเวลาบ่ายสอง เด็ก ๆ ก็เริ่มเลิกเรียนกันแล้ว ขี่จักรยานกลับบ้านกับเพื่อนฝูง พร้อมร้องเพลงกันสนุกสนาม ดูมีความสุขกันมากเลย สมแล้วที่เป็นประเทศที่ปลอดภัยอันดับ 1 ของโลก

พอมาถึงพิพิธภัณฑ์ ก็เจอกับเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ ลักษณะรูปร่างและการแต่งตัวเหมือนอเดลมาก เป็นคนที่จะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานศิลปะ

แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องอีกแล้ว สำเนียงไอซ์แลนดิกจ๋ามาก...

ก็พอจับใจความได้คร่าว ๆ ว่า เป็นศิลปะแบบ Abstract ซะส่วนใหญ่ ผลงานก็เป็นของศิลปินจากเบลเยี่ยมบ้าง เนเธอร์แลนด์บ้าง เยอรมนีบ้าง
และถ้าผมจำไม่ผิด และฟังไม่ผิดนะครับ
ผลงานศิลปะหลาย ๆ ชิ้น มีความสำคัญ ต่อการหลุดพ้นของไอซ์แลนด์จากเดนมาร์ก เพราะมันสื่อว่าไอซ์แลนด์มีวัฒนธรรม มีเอกลักษณ์ ศิลปะเป็นของตัวเอง ผิดถูกอย่างไรแย้งได้นะครับ ^^ บางรูปทางเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์หานานมาก หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่ดันไปเจอเค้าที่บาร์แห่งหนึ่งในเมืองซะงั้น ก็ซื้อมา ด้วยเงินจำนวนนึง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เค้าไม่เปิดเผยครับ น่าจะเป็นเลขหลายหลักทีเดียว
ส่วนผลงาน ๆ ดัง ๆ ก็มีของ ปีกัสโซ่ครับ เป็นรูปปั้น.. ใช่มั้ยอะ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี มีสองหน้า

ที่พูดมาทั้งหมดไม่มีรูปครับ ขอโทษ เอาไปมโนกันเองเนอะ 5555 คือตอนนั้นง่วงมาก เพราะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง + ไม่เข้าถึงกับงานศิลปะระดับนี้ มัน abstract จริง ๆ ครับ อ่ะ แต่อย่างน้อยก็มีวิวจากพิพิธภัณฑ์มาให้ดูปลอบใจนะ แหะ ๆ



สักพักแก๊งค์สาวสาวสาวก็ขอตัวไปก่อน เพราะว่าได้เวลาจะไปแช่น้ำร้อนแล้ว ก็บ๊ายย
จากนั้นก็ลงไปชั้นล่าง มีบอร์ดแปะผลงาน ที่เด็ก ๆ เค้ามานั่งวาดรูป ละก็จะไปแปะไว้เนาะ
ผมชอบอันนี้มากครับ

"สร้างศิลปะ ไม่ใช่สงคราม"



เอ๊ะ แต่จริง ๆ อาจจะไม่ใช่สำหรับเด็กก็ได้นะ ถึงเก้าอี้กับโต๊ะมันจะเตี้ยตะแมะแคะ แต่เค้าก็ไม่ได้เขียนติดไว้ว่า FOR KIDS ONLY ซะหน่อย..

ขอวาดบ้างสิรออะไร ;)

และนี่ก็คือผลงานของผมครับ "Iceland through my eyes" อันตรงกลางเลยครับ ที่มีรูปตากับธงไอซ์แลนด์ ใครได้มีโอกาสแวะผ่านไปเยี่ยมชม ก็ถ่ายรูปมันมาให้ผมดูบ้างนะครับ ว่าเค้ายังอยู่สบายดี

ถามว่าเรามีคอนเซปต์อะไรกับรูปนี้
ตอบเลยว่าไม่.

เพราะเรา abstract. โอเคนะครับ.
(วัลลาบีติสท์)



สถานีต่อไป ถิ่นของเราเอง Loft Hostel
วันนี้มีงาน.. เอ ใช้คำว่าอะไรดีนะ
อารมณ์ประมาณว่า มีแขกมากมายหลายคนที่มาพัก และทิ้งเสื้อผ้าไว้บ้าง รองเท้าบ้าง หมวกบ้าง
ทางโฮสเทลเค้าเลยแจกฟรีครับ ! ไปเลือกหยิบกันได้เลย
พอไปถึงนี่โอ้โห คนอย่างเยอะ
แต่ผมชอบคนที่นี่อย่างนึงคือ เค้าแต่งตัวกันเก๋มากอะครับ ทั้งผุ้ชาย และผู้หญิง
มันดูเนี๊ยบ ดูไฮ แต่ก็แนวในเวลาเดียวกัน แบบว่ารองเท้าบู๊ทหนัง ใส่เสื้อกระดุมติดคอ มันดูดีมาก ๆ ส่วนนึงเพราะเค้าหุ่นดีกันด้วยแหละ
อยากจะใส่แบบนั้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ครับ ตัวใหญ่เกิ้นนนนนน
รวมถึงเสื้อผ้าที่วางกอง ๆ ในกระบะ ผมนี่ไม่คิดจะแตะเลยครับ เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ตัวเองใส่ได้ ก็เลยนั่งช่วยเพื่อน ๆ เลือกละกัน
ไป ๆ มา ๆ จีซูก็ได้แจ็คเก็ตมาตัวนึง... และที่พีคคือ

เจอเหรียญ 1 โครน่าอีกเหรียญในเสื้อตัวนั้น !!

เห้ยยย วันนี้เป็นวันโชคดีของยูจริง ๆ ด้วยจีซู โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ 55555555 แต่สุดท้ายจีซูก็ไม่ได้เอาเสื้อตัวนั้น แต่ได้หมวกมาแทน ส่วนเอเดรียนและเอวาได้เสื้อแจ็คเกทมาคนละตัว

#YOLO #SWAG

วันนี้มีคนจากอีกค่ายนึง แต่พักอยู่ที่เดียวกับเรา มาจากอิตาลีชื่อเลาร่า และฝรั่งเศสชื่อ วินเซนต์ ครับ คนอิตาลีนี่เฟรนด์ลี่และเฮฮาสมคำร่ำลือมากจริง ๆ จับมือผมแรงมาก ส่วนคนฝรั่งเศสก็ดูแปลก ๆ ดีครับ เอลิร์ต และ เฟรนด์ลี่
เย็นนี้เวรทำอาหารโดยจีซูและเอวา, จีซุทำต๊อกบกกีให้กิน อร่อยมากกกกกกกก ส่วนเอวาทำซุปหัวหอมครับ อร่อยไม่แพ้กัน แต่พอดีผมไม่ค่อยอิ่ม ก็เลยไปแกะไก่ในตู้เย็นมาทอด เอวาก็บอกว่า ทอดเผื่อเอมิลี่ด้วยนะ ผมก็ โอเค๊



เรียกได้ว่าเย็นนี้เป็นเย็นที่สนุกที่สุดตลอดระยะเวลาที่ผมเข้าร่วมโครงการเลยก็ว่าได้ครับ เล่นเกมกันหลายเกมทีเดียว จากคนไม่เคยเล่นไพ่แบบผม
ก็ต้องมาพบกับ...

"Card Against Humanities"

กติกามีอยู่ง่าย ๆ ว่า ถ้าถึงตาใครก็ตาม ให้คนนั้นหยิบไพ่ขึ้นมา ในไพ่ก็จะมีประโยค ยกตัวอย่างเช่น

"หิวข้าวกลางดึก แต่เปิดตู้เย็นมาก็พบกับ____ และ _____"

ซึ่งคนอื่น ๆ ก็ต้องหยิบไพ่ในมือที่มีคำศัพท์ต่าง ๆ มาใส่ในช่องว่าง คำศัพท์ของใครมาใส่ในประโยคแล้วฮาสุด ก็ชนะไปครับ
ทีนี้ประเด็นคือ ศัพท์ค่อนข้างยาก เพราะมีแต่คำแปลก ๆ (และลามก) และค่อนข้างเป็นไปในแนวของ British (อีกแล้ว) ทุกคนถือโทรศัพท์ดูดิคชันนารีหมดเลย ยกเว้น native speaker อย่างเอเดรียน
ทีนี้ผมมาเจอศัพท์คำนึง คือคำว่า

"Fleshlight"

...เอ๊ะ แปลว่าอะไรอะ
เอเดรียนกับเอวาเอาแต่หัวเราะละไม่บอกผม แต่บอกให้ผมไปเปิดกูเกิ้ลดูเอง
ใช่ครับ มันคือ..จิ๋มกระป๋อง
ผมถึงกับอุทานออกมาว่า โอ้มายยยยก๊อดดดดดดดดดดดดดด!!!! คือไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นจิ๋มกระป๋อง แล้วรูปที่เจอคือเป็นจิ๋มกระป๋องแบบหน้าปีศาจ มีฟันแหลม ๆ ตลกไปอีก พีคมาก 5555555 แล้ววินเซนต์ก็มาชวนเล่นไพ่ต่อ แบบว่าคว่ำไพ่ไว้แล้วก็มาจับคู่ ทดสอบความจำงี้ สนุกมาก ๆ ครับ คืนนี้สนุกมากกกกก



จากนั้นพอเอมิลี่และอุลริเค่กลับมาถึงบ้านเราก็มาดูหนังกัน เป็นหนังซอมบี้แบบคอมเมดี้ของบริติช ที่มีชื่อว่า Shaun Of The Dead  ตลกมากก สนุกครับ เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ฮาดี หนังดูเก่านิดนึง ลองหาดูกันได้ครับ

แต่คืนนี้มันไม่แฮปปี้ไปตลอดหรอก...

ดูหนังไปสักพักถึงปลาย ๆ เรื่อง เวลาตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่มกว่า แก๊งค์สาวสาวสาว ก็กลับมาถึงบ้านจากการแช่น้ำร้อน
เป็นเรื่องปกติที่แก๊งค์นี้เค้าจะกลับบ้านดึกดื่นกันครับ ปกติไม่มีปัญหาอะไร
จนกระทั่งวันนี้...

เคลอานที่ยื่นหน้าเข้ามา
แล้วถามว่า

"กับข้าวอยู่ไหน?"

.....................................................