รบกวนสอบถามทุกท่านครับ ว่าท่านมีความเห็นไปในแนวทางใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ

สมมติว่า เวทย์มนต์สามารถใช้ได้จริง

คำถามคือ กระบวนการพัฒนา หรือความก้าวหน้าของสังคม จะมีสภาพเป็นอย่างไรครับ และเทคโนโลยีจะมีการพัฒนาเร็วขึ้นหรือช้าลงกว่าโลกที่ไม่มีเวทย์มนต์ ทั้งนี้ คิดจากฐานที่ว่า ระยะเวลาสำหรับพัฒนาการมีเท่ากัน

คือในความคิดเห็นของผม เวทย์มนต์ถ้าใช้ได้จริง ก็ถือเป็นวิทยาการประเภทหนึ่งเช่นกัน และมันไม่น่าจะขัดแย้งกับการพัฒนาเทคโนโลยีทางกายภาพ พูดง่ายๆคือมันน่าจะไปด้วยกันได้

อย่างไรก็ตาม มีหลายคนเช่นกันที่มองว่าถ้าโลกมีเวทย์มนต์ที่ใช้งานได้จริง มนุษย์จะชะลอจนถึงยุติการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงกายภาพ เพราะสามารถใช้วิทยาการทางด้านเวทย์มนต์ช่วยจัดการแทนได้ ทำให้ความเป็นอยู่โดยภาพรวม ดูล้าหลังกว่าที่ควรจะเป็น

หรือที่จริงแล้ว มันจะประกอบด้วยปัจจัยอื่นๆ เช่นปัจจัยด้านค่านิยมของคน โครงสร้างสังคม ฯลฯ ต่างหากที่มีผลทำให้เทคโนโลยีก้าวหน้าหรือไม่ ไม่ขึ้นกับการพัฒนาทางด้านเวทย์มนต์

พูดง่ายๆคือ ถ้าวิทยาการเวทย์มนต์ที่ใช้ได้มีอยู่จริง การพัฒนาทางเวทย์มนต์ มีความสัมพันธ์แบบ Trade-off กันกับการพัฒนาเทคโนโลยีทางกายภาพ หรือว่าไปในทิศทางเดียวกัน หรือมันเป็นอิสระต่อกันขึ้นกับปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ กันแน่ครับ

หากเห็นว่า ถ้าเวทย์มนต์ที่ใช้ได้มีอยู่จริง มีความสัมพันธ์แบบสอดคล้องไปในทางเดียวกับการพัฒนาทางเทคโนโลยี ในเวลาเท่ากันจะมีความก้าวหน้ามากกว่าโลกที่ไม่มีเวทย์มนต์ แต่หากเห็นว่า เวทย์มนต์กับเทคโนโลยีมีความสัมพันธ์ของพัฒนาการแบบ Trade-off กัน ก็เท่ากับว่า หากมีการพัฒนาด้านเวทย์มนต์มาก การพัฒนาทางด้านวัตถุจะน้อย ความก้าวหน้าในเวลาเท่ากันจะสู้โลกที่ไม่มีเวทย์มนต์ไม่ได้ หรือว่าที่จริงไม่ใช่ทั้งสองอย่าง คือมีปัจจัยอื่นๆที่มีผลทำให้ หากมีเวทย์มนต์ที่ใช้ได้จริง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาจจะพัฒนาไปในแบบใดก็ได้ เช่น ขึ้นอยู่กับว่าการใช้เวทย์มนต์ มีมาช่วงการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ หรือมีมาช่วงยุคแห่งศรัทธา ฯลฯ

และจากคำถามเดียวกันนี้ การพัฒนาเรื่องเวทย์มนต์ ถ้าพัฒนามากขึ้น จะชะลอพัฒนาการทางสังคมด้วยหรือไม่ครับ หรือว่าเป็นปัจจัยที่เป็นอิสระต่อกัน

ทุกท่านคิดเห็นเป็นอย่างไร รบกวนอธิบายและให้เหตุผลด้วยครับ