✿ เคยสงสัยมาตั้งแต่หนุ่มๆ แล้วว่า พอมีพระหนุ่มๆ เริ่มดังขึ้นมาทีไร มักโดนสอยร่วงผลอยลงไปทุกรูป ว่ามันเพราะอะไรกันนะ..

เพราะบอกตามตรงมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่หลายรูปสร้างชื่อเสียงมาอย่างยากลำบาก แต่มาตายเพราะเหตุตื้นๆ และที่เล่นงานได้อย่างง่ายดายก็คือ ข้อหา เสพเมถุน ซึ่งข้อหานี้แหละ สร้างความมัวหมองและความสิ้นศรัทธาได้อย่างเต็มที่

เหมือนที่ "ทักษิณ" โดนยัดข้อหา "ล้มเจ้า" แค่นี่ก็มีคนเกลียด "ทักษิณ" ไปครึ่งค่อนประเทศแล้ว แม้จะพิสูจน์ได้ภายหลังว่ามันไม่จริง ขนาด "ผังล้มเจ้า" ทหารยังออกมาบอกในศาลแค่ว่า "คิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น" คือแค่คิด แต่ไม่มีหลักฐาน

ทว่าเมื่อเอาผังมาเปิดเผย คนที่มีรายชื่อ ก็เสียหายไปแล้ว คนเกลียดกันไปแล้ว



เรามาลองดูกรณี "พระยันตระ" กัน ในตอนที่ผมหนุ่มๆ หนังสือแทบจะทุกฉบับมักจะลงรูปท่านขึ้นหน้าปก เป็นพระที่ดังมาก คนต่อแถวเพื่อใส่บาตรยาวเป็นกิโล

อยู่ดีๆ เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงบ้าน "ลุงกำนัน" มีข่าวท่านไปยุ่งกับสีกาซะแล้ว และหลังจากนั้นก็มีข้อหาต่างๆ ตามมา แบบเดียวกับที่ทักษิณโดน


✿ ✿ ✿ ✿ ✿





คำสารภาพก่อนตายของ "นางจันทิมา มายะรังสี" ที่ใส่ร้าย "พระยันตระ"
-------------
กรณีเดียวกับที่ "พุทธโธภาวนา" โดนมาแล้วเช่นกัน ที่หาว่ามีอะไรกับเด็กชาวเขา 6 คน ใส่ร้ายว่าโดนข่มขืน แต่เวลายกฟ้องออกข่าวกรอบเล็กนิดเดียว ติดคุกไปตั้งกี่ปี ต้องสึกจากพระ ชื่อเสียงพินาศป่นปี้

เมื่อปี พ.ศ. 2536 มีข่าวครึกโครม "พระยันตระ อมโร" พระหนุ่มรูปงามแห่งเกริงกระเวียมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกาสาว "นางจันทิมา มายะรังสี"

สื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์แย่งกันนำเสนอข่าวหลากรูปแบบ
เพื่อกระตุ้นยอดขายโดยไม่สนใจข้อมูลเท็จจริงแต่อย่างใด พฤติกรรมสามานย์สารพัดถูกนำมาใช้ ใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้ดูชั่ว ถึงขนาดส่งคนไปเผากุฏิไม้ที่ท่านอาศัยปฏิบัติธรรมบนยอดเขา เพื่อสร้างข่าวเอามาขาย แม้พระพุทธรูปทองเหลืองยังต้องหลอมละลายเพราะความร้อน

รุ่งเช้าก็มีข่าวพาดหัวตัวไม้ใหญ่ยักษ์ "ฟ้าพิโรธ ลงโทษยันตระ" สื่อแบกะดินที่แทบไม่ใครรู้จักและอยู่ในภาวะใกล้ล้มละลาย กลับรุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมาทันที เพราะจับทางคนได้ว่า นิยมเสพข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี

แต่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง "ไทยรัฐ" สมกับเป็นสื่ออันดับหนึ่งของเมืองไทยคือ ยึดหลักขายความจริงมากกว่ามุ่งยอดขายข่าวเท็จที่หวือหวา
ได้ส่งนักข่าวเกรดเอเงินเดือนสูงไปบวชเป็นพระเพื่อสืบค้นความจริง

ก่อนที่พระนักข่าวรูปนั้นจะลาสิกขา ได้กล่าวสารภาพความจริงต่อหน้าพระสงฆ์และญาติธรรมว่า

"ผมเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถูกส่งมาบวชเพื่อมาเจาะหาความจริง ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ได้ร่วมปฏิบัติธรรมกับหมู่คณะ ผมประจักษ์ชัดทั้งด้วยตัวเองและข้อมูล ขอสารภาพเปิดใจ ณ ที่ตรงนี้ต่อหน้าทุกท่านว่า.....

"ผมเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของพระอาจารย์ยันตระ อมโร ครับ"

หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปไม่นานนัก "นางจันทิมา มายะรังสี" ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง แต่อนิจจจาสื่อไทยที่จรรยาบรรณตายไปแล้วไม่มีสื่อใดลงข่าวคำสารภาพของ "นางจันทิมา มายะรังสี" ก่อนเสียชีวิตเลย นอกจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และลงเพียงกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ เท่านั้น

"ก่อนตายดิฉันขอสารภาพความจริงเพื่อไถ่บาปว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์ยันตระไม่มีมูลความจริง แต่เพราะความโกรธแค้นที่ถูกลูกศิษย์ขัดขวางไม่ให้เข้าใกล้พระอาจารย์

กอปรกับดิฉันอยู่ในภาวะร้อนเงินด้วย เมื่อมีคนว่าจ้างรับปากจะช่วยเหลือและสัญญาจะส่งเสียลูกสาวเล่าเรียน ดิฉันจึงต้องทำงานนี้ให้กับเขา"

วัดพระธรรมกายก็เช่นเดียวกัน ทั้งในอดีตที่ผ่านมาและในอนาคต
จะถูกสร้างข่าวร้ายจากสื่อที่ขายข่าว และพวกที่ต้องการทำลายศาสนาจนกว่าจะไม่มีวัดพระธรรมกายอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอีกต่อไป...

Cr: มิลา บายันต์

✿ ✿ ✿ ✿ ✿




เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ หัวเราะ

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง : http://ppantip.com/topic/35302074


ป.ล. ที่ไม่แท็กห้องศาสนา ก็เพราะกลัวว่าจะโดนลบแท็กการเมืองไป เนื่องจากผมเล่นอยู่ห้องนี้ห้องเดียว


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่