นี้คือเรื่องประมาณ 3-4 ปีที่แล้วนะคะ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า พี่สาวเราเป็นคนชอบโกหกค่ะ แอบขโมยเงินพ่อกับแม่ตลอตตั้งแต่ยังเด็ก ตอนช่วงที่คุณพ่อป่วยหนักเป็นมะเร็ง ที่บ้านต้องใช้เงินเยอะมาก คุณพ่อก็ต้องลาออกจากการเป็นทหารเพื่อมารักษาตัวที่กรุงเทพ ตอนนั้น จขกท อยู่แค่ ม.3 เองค่ะ ก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวหลายเดือนมากๆ จะไปหาท่านท่านก็ไม่ให้มาบอกกลัวเสียการเรียน พี่สาวเราตอนนั้นก็เรียนที่นั้นค่ะ มีช่วงนึงคุณแม่เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นพ่อป่วยหนักต้องอยู่เฝ้าตลอต แล้วเหมือนแม่ต้องใช้เงินด้วยความไว้ใจจึงเอาบัตรเอทีเอ็มให้พี่สาวไปกดเงินมาให้ 2 หมื่น ปรากฎว่าไปเช็คดูอีกที่เงินหายไป 3 หมื่น แม่ก็ยังไม่เอะใจอะไร ช่วงนั้นคุณพ่อเริ่มอาการหนักขึ้นจนร่างกายท่านทนไม่ไหวแล้วท่านก็จากเราไปค่ะ ตอนนั้นเรายังไม่ทราบนะคะ เพราะเรียนอยู่ต่างจังหวัด แม่เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นร้องไห้นั่งกอดพ่อทั้งคืน จากนั้นแม่ก็รวบรวมสติโทรบอกญาติที่กรุงเทพ แล้วพี่สาวเรา แต่โทรไปยังไงก็ไม่รับสายสักที จนใกล้เช้าถึงรู้ว่าพ่อจากไปแล้ว ตอนนั้นเรากำลังอยู่ในช่วงสอบมิทเทอมพอดีค่ะ ยังไม่มีใครโทรบอกว่าพ่อเสีย แต่แม่โทรมาบอกว่าจะกลับบ้านพร้อมพ่อแล้วเราก็ดีใจค่ะ ตั้งใจสอบไป ตอนเย็นก็มีคุณลุงคุณป้ามารอรับไปที่สนามบินเลย เราก็ไปรอแม่ จนลงจากเครื่องแม่เดินมาพร้อมพี่สาว ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็ยิ้มให้เราเราถามว่าแล้วพ่อละ แม่ตอบว่า พ่อไปสวรรค์แล้วนะ เราได้ยินนี้ช็อคมาก ทุกอย่างเหมือนเงียบไปหมดเราเหมือนไม่ได้ยินใครพูดเลย จะร้องไห้แต่มันก็ไม่ยอมออกมา เรารู้สึกเศร้ามากที่สุดในชีวิต จากนั้นศพคุณพ่อก็มาถึงที่บ้าน ทำพิธีกรรมทางศาสนา จนอะไรเรียบร้อยเสร็จ เราไม่ขอเล่าต่อนะคะ หลังจากงานศพพ่อ ก็จะมีเงินบำเหน็จบำนาญอะไรสักอย่างโอนเข้าแต่ละบัญชีของคนในครอบครัว ตอนนั้นเรายังไม่มีเอทีเอ็มค่ะ แม่ก็พาไปเปิดบัญชี แล้วขอเงินในบัญชี ทั้งพี่สาวและเรา เอาไปจ่ายหนี้ค่าบ้านที่เหลือค้างไว้จนหมดค่ะ เงินก็เหลือพอประมาณ ช่วงนั้นพี่สาวเราลงมาบ้านบ่อยมาก พาแม่ไปทำเรื่องที่ธนาคารอยู่บ่อยๆเราก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั้งวันนึงแม่ต้องใช้เงิน เลยไปที่ธนาคารเพื่อที่จะถอนเงิน ปรากฎว่าไม่มีเงินเหลือในธนาคารเลยค่ะ เงินเหลือในบัญชีแค่ 48 บาท แม่เราเข่าทรุดเลยค่ะตอนนั้น พนักงานก็เอายอดการถอดเงินแต่ละครั้งให้ดู เหมือนพี่สาวให้แม่ไปทำอะไรสักอย่างกับบัตร ที่สามารถถอดเงินได้เอง ตอนนั้นแม่เรารู้แล้วค่ะว่าเป็นพี่สาวเราแน่ๆ พนักงานบอกว่า การจะทำแบบนี้ได้ต้องวางแผนมาดีมากๆเขาใช้ลูกแท้ๆรึป่าวค่ะ แม่เราได้ยินก็ไม่รู้จะพูดไง จากนั้นแม่ก็โทรไปหาพี่สาวเราค่ะ ว่าเอาเงินไปทำอะไร เขาก็เหมือนหาเรื่องมาชวนแม่ทะเลาะ อ้างว่าพ่อกับแม่รักน้องมากกว่าร้อยเหตุผลต่างๆนาๆ แล้วไม่เคยติดต่อมาอีกเลย เป็นเวลา3ปี เขาไม่มีพูดคำว่าแม่ด้วยนะคะ เขาเรียกแทนว่า"คุณ" ตอนนั้นเราเกลียดพี่ตัวเองมาก เกลียดแบบเข้ากระดูกดำ ทุกวันนี้ก็ยังเกลียดค่ะ
พี่สาวเลวขโมยเงินแม่ไปแต่กลับบอกให้แม่ปลงทนไม่ไหวจริงๆ