หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR][SR] เเบกเป้ขึ้นภูสอยดาว
กระทู้รีวิว
เดินป่า
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
ภูสอยดาว
เที่ยวภูเขา
มิตรภาพมากมายระหว่างทาง
"When you’re traveling,
you are what you are right there and then.
People don’t have your past to hold against you.
No yesterdays on the road." – William Least Heat Moon
เป็นบันทึกการเดินครั้งที่ 2 (ภาพ iphon 5s กับ cannon60d)
มันเริ่มด้วยการ จากสถานีรถทัว หมอชิต 290 บาทถึงสถานีขนส่ง พิษณุโลก เเละต่อด้วย รถประจำทางไปยังชาติตระการ ด้วยเเสงอันน้อยของทองฟ้า...เวลาบอก 5.00 น. ด้วยราคา 92 บาท ภายในรถเบียดเเน่นไปด้วยผู้คนต่างวัยกัน มุ่งหน้าสู่จุดหมาย รถเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วผ่านสองข้างทางที่มีเเต่ป่า ต้นไม้ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ สู่ความสดชื่นมากระทบยังสายตาที่เหนื่อยล้าจากเมืองกรุง รถยังคงเคลื่อนตัวไป ในไม่ช้า ก็ถึงยังสถานที่จอดรถของชาติตระการ เสียงผู้คนขยับลุกเคลื่อนย้ายสัมภาระ เเละร่างกายจากอาการงัวเงีย
จุดขายตั๋วรถจาก บขส พิษณุโลก - ชาติการ
ตั๋วรถราคา 92 บาท
จุดลงรถเมือถึง ชาติตระการ
ด้านหน้าจุดรงรถเพื่อต่อรถไปยังตลาด
7.30 น. รถตุ๊กๆ เป็นทางเลือก ซึ่งนั้นคือจะต้องเหมาไปยังตลาดชาติตระการพอดีกัน กับ มีผญ.สองคนซึ่งก่อนหน้านี้ก็มาพร้อมกันโดยรถโดยสารจากพิษณุโลก ก็ตกลงจะไปพร้อมกัน ได้ราคาตุ๊กๆ คนละ 15 บาท สามล้อนั้นก็พา คน 6 คนไปยังตลาด
โชคชะตาฟ้าลิขิต คงทำให้เราได้เจอกับคนมากมาย มีกลุ่มวัยรุ่น ชายหญิงอีก 6 คนยังคงยืนอยู่ที่ตลาด เดินตรงมายังกลุ่มเราที่เพิ่งมาถึง
"เอ่อขอโทษครับ น้องจะขึ้นภูสอยดาวหรือป่าว เเน่นอนความหวังมาเเล้วเราก็บอกว่าไป ช่ายเลย 555 เข้าทาง เพราะกลุ่มเขาก็จะไปเหมือนกัน ตกลงเหมารถสองเเถวขึ้นภูได้ เที่ยวละ 1,000 บาท หารกัน ก็ตกคนละ 71 บาท เพราะทีมนี้มี 14 คน เป็นอันว่าตกลง (084574-6431) เบอร์คนขับรถ มีเวลาอยุ่ก็ต่างเเยกย้ายซื้อเสบียงอาหาร สำหรับขึ้นไป เพราะด้านบนไม่มีอะไรขายต้องเตรียมไปเอง
9.00 น.ได้ฤกษ์งามยามดี รถก็เริ่มออกเดินทางมุ่งตรงยังปลายทาง ภูสอยดาวเส้นทางนั้นคดเคี้ยว ลัดเลาะไปตามถนนคอนกรีต ซึ่งอยุ่บนภูเขาใหญ่ตระการตา นับหลายลูกที่ทอดข้ามผ่าน รถวิ่งด้วยความชำนาญของคนพื้นที่ ไอเย็นของธรรมชาติที่ถูกพัดมาด้วยเเรงลม ให้ได้กินดินอ่อนๆที่เเสดงว่าฝนเพิ่งตกได้ไม่นานด้วยปลายของยอดหญ้าที่เขียวที่มีหยดน้ำเกาะเขียวชะอุ่มตลอดข้างทาง
ไม่ช้ารถก็มายังสถานีปลายทางจุดหมาย อุทยาน ภูสอยดาว มีเจ้าหน้าคอยตอนรับเเละเเนะนำอย่างดี หลังจากรถจอดเคลียตังค์เสร็จ ก็จ่ายค่าบำรุง (ค่าเข้าอช.) คนละ 40 บาท เเละเข้าไปจองเต็นท์ ราคา 250 บาท (เเต่ผมเอามาเอง) หรือหากใครไม่อยากเเบกของก็ใช้ค่าบริการลูกหาบได้ Kg ละ 35 บาท (ซึ่งผมก็เเบกขึ้นเอง)
หลังจากเคลียตังค์เสร็จอีกรอบ สมาชิกนักเดินทางที่มาด้วยกัน ก็เเยกย้ายต่างเดินขึ้นไปยังจุดหมายเดียวกัน มีเพียงเสียงคำสัญญาไว้ว่า
" เดี่ยวเจอกันด้านบน" 10.30 น. เวลาบอกว่าควรจะเดินได้เเล้วมีรถกระบะของเจ้าหน้าที่พาเราจากจุดบริการไปสงยังทางขึ้น 11.00 น.
เวลาเเห่งการผจญภัยก็เริ่มต้น....6.5 Km คือเครื่องวัดใจ จากจุดเริ่มต้น น้ำตกภูสอยดาว เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินเสือโคร่ง เเละเนินมรณะ มุ่งหน้าเข้าสู่ ลานสน จุดหมายของเรา
สถานที่บางเเห่งต่อให้คุณมีเงินบางทีก็มิอาจไปดูให้เห็นด้วยตาได้ ตลอดการเดินทางมีทั้งปีนป่าย ผ่านความชันมากมาย
ตามทางจะมีป้ายเป็นกำลังใจให้ อีกเเค่ 6 กิโลเอง เอ้าฮึบๆๆ
โปรยปราย........................
ความยากของการเดินว่าสนุกเเล้ว ยังมีความมันส์อีกอย่าง เมื่อในไม่ช้าฝนก็โปรยปรายลงมาเสมือนเป็นรางวัล เพิ่มความยากกว่าเป็นทวีคูณ เสื้อผ้าเปียกปอนกันหมด ดีที่ยังมีชุดกันฝน เเต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความยากลดน้อยลง ความหนาว หมอกขาว ทำให้ทัศนวิสัยเพียงเเค่เอิ้อมมือมองกันไม่เห็น ความล่าช้าตามมาติดๆ
การเดินในระหว่างทางนอกจากจะยาก ยังเจอรอยยิ้มเเละอะไรอีกมากมาย ของผุ้ร่วมเดินทาง ทั้งไม่รู้จักกันเเต่สิ่งดี่ยวที่ทำให้ทุกคนนั้นยังคงเดินไปด้วยกันคือรอยยิ้มที่มีกันตลอดไม่ว่าเค้าคนนั้นจะเป็นใคร...
เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆไม่อาจย้อนกลับ ความเหนื่อยล้าของร่างกายเเสดงออกมามากยิ่งขึ้นปลายยอด ที่เป็นจุดหมายคือกำลังใจที่จะให้คงเดินต่อ เวลาเเสดงว่า 17.00 น. เรายังคงอยุ่ที่เนินเสือโคร่ง เวลาผ่านไปเเล้ว เกือบ 6 ชั่วโมงกับการเดินเท้า
มองขึ้นไป ยังคงเห็นยอดเขาที่อยู่สูงริบๆ มองให้ดีมีกลุ่มนักเดินทาง ลูกหาบ เช่นเดียวกับเราเดินต่อขึ้นไเป็นขบวนเห็นเป็นสายยาว กำลังใจก็ค่อยๆเพิ่มทวี ลุกออกเดินด้วยเเรงฮึดอีกครั้ง
ในไม่ช้าเนินมรณะก็มาถึง เนินสุดท้าย ระยะทางอีก 2 กิโลเมตร ก่อนถึงจุดหมาย เเต่มันคือการเดินขึ้นเขาที่เเบบเกินกว่า 60 องศาเเน่ๆ เมื่อขาที่ก้าวออกไปยังทางดินสลับหิน ออกอาการสั่นทุกย่างก้าว หันหลังมองย้อนลงมาคือสันเขา ที่มองเป็นสันชัดเจน
ความรู้สึกที่ลมปะทะหน้ามันดีมากๆเลย มองไกลออกไปคือเขาใหญ่ตระการสุดตาเขียวชะอุ่ม กับเเสงที่กำลังจะหมด เเลสายหมอกที่ปลิวลอยร่อนตามสายลม ทุกย่างก้าวเป็นไปด้วยความตั้งใจเเลมีสติหากพาดลื่นตกลงมาคงกลิ้งเป็นขนุนเเน่ ในไม่ช้าฮึดใจเดี่ยวก็ขึ้นมาถึงเนินเขานั้น
สายหมอกเเละลมยังคงพัดเเรง ขาที่สั่นไหวมาตั้งเเต่ครึ่งทางเเละเเล้ว 18.20 น. จุดหมายก็มาถึง ป้ายที่เราจะมาถ่ายรูป 55555
เเต่ยังไม่ถึงจุดหมายขังคงต้องเดินต่อไปอีกไม่ไกล ก็ถึงยังบริเวณลานสน มีนักเดินทางผู้มาถึงก่อน ต่างจับจองพื้นที่ของตน เมื่อถึงที่หมาย ก็เเบ่งหน้าที่กัน ให้เพื่อนไปเช่าเตาไฟมาเพื่อจุดไฟ เเต่ว่าเตาหมด ของทุกอย่างก็หมด เพราะนักท่องเที่ยวขึ้นมาเยอะมากในครั้งนี้ เเต่ดีที่ยังคงมีเตาที่เเตกพังยังพอก่อไฟเพื่อให้ความอบอุ่นกับร่างกายได้บ้าง
ในไม่ช้าความมืดเข้าปกคลุม มีเพียงเเสงไฟจากกองไฟเเต่ละเต็นท์ที่ก่อขึ้นของเราก็เช่นกัน ห้องน้ำอยู่ทางด้านใน หากจะอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัว ต้องเอากระป๋องไปตักยังลำธาร ด้านข้าง มาใช้ น้ำใสเเละเย็นมากกกก .....
อาหารเย็นเราคือ ข้าวที่ซื้อมาจาก7-11 ปลากระป๋องพอดีเต็นท์ข้างๆเขาให้ยืมหม้อ (เพราะเราไม่มีอะไรมาเลย)เอาข้าวตัดปากถุงลงอุ่น เเละต้มมาม่าคัฟ ซดน้ำเเทนน้ำเเกง ก็เเค่เพียงพอที่จะอิ่มหลับสบาย ตลอดคืนฝนยังคงตกเเรง ด้วยความหวังจะเห็นดาวก็คงต้องตัดใจ นอนขดอยู่ในถุงนอนภายในเต็นท์ที่เป็นกำบังลม ความหนาวเหน็บจากลมฝนทำให้รับรู้ถึงธรรมชาติที่เราไม่สามารถเอาชนะได้ ราตรีสวัสดิ์
เช้าวันใหม่ความเหน็ดเหนื่อยถูกตอบเเทนอย่าสาสม
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา เเต่ประสบการณ์จะอยู่กับเราตลอดไป
ชื่อสินค้า:
ภูสอยดาว อันดับ 4 ของภูไทย
คะแนน:
0.5
1.0
1.5
2.0
2.5
3.0
3.5
4.0
4.5
5.0
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
สวรรค์กลางหมอก ภูสอยดาวหน้าฝน
คำแนะนำเนื้อหากระทู้นี้จะเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง โดยเน้นการถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือเป็นหลักเนื้อหาไม่ได้ลงรายละเอียดมากในเรื่องอุปกรณ์เดินป่า การเตรียมตัว หรือค่าใช้จ่ายแต่จะเน
ปลาทูแมว
🍁 🍃 🍂 🌋 เมื่อหน้าฝนทำให้คนเหงา "ภูสอยดาว" คือคำตอบ 🌋🍁 🍃 🍂 #เขาไม้สน #เราเลือกภูเขา #อ้อมกอดขุนเขา ภาค1
*สวัสดีครับนักท่องเที่ยวเเละนักเดินทางทุกคน เป็นรีวิวเเรกของผมเลยที่เขียนลงPantip ถ้าไม่ชอบหรือผิดพลาดประการใดเค้าขอโทษด้วยนะครับ เชื่อเถอะว่าหลายคนมีความชอบในการท่องเที่ยวต่างกัน บางคนชอบทะเล....บาง
สมาชิกหมายเลข 1381461
ลุยเส้นทาง ดอยสอยดาว ดอยสอยมาลัย 2024 Offroad จ.ตาก ที่ห้ามพลาด
https://www.youtube.com/watch?v=yBgwNkP7_Eg ช่วงเดือน มีนาคมที่ผ่านมาผมได้ไปตามล่าความฝัน หนึ่งในสถานที่เที่ยวใน Bucketlist ว่าสักวันหนึ่งผมจะขึ้นไปชมความสวยงามของ ดอยสอยดาว อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัยใ
สมาชิกหมายเลข 8115155
ทริป ภูลมโล 2568 ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน
ทริป ภูลมโล 2568 ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน ทริปเดินทาง กทม - มุกดาหาร - เพชรบูรณ์ 25 -27 ก.พ.68 3 วัน 2 คืน การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว ทริป 1000 กิโล ค่าน้ำมัน 3000 บา
สมาชิกหมายเลข 2691754
ตราประทับอุทยานแห่งชาติของผม☺️ เที่ยวทุกที่ ที่ใจอยากจะไป🥾🌳🏕️
ใครไม่ไป ผมไปครับ🥴 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดแรงเดิน อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด : กลางวันร้อนมากครับ กลางคืนเย็นสบาย จนท.น่ารัก ลิงแสมซนจริง ถ้าคุณมีของกินระวังโดนแย่งนะค๊าฟ🤣 อุทยานแห่งชาติด
รถบัสคันเล็ก
วิทยาศาสตร์
ชายคนหนึ่งหนัก120 นิวตัน เเบกกล่องหนัก 40 นิวตัน เดินขึ้นเนินสูง 100เมตร เเละเดินบนพื้นระดับต่อไปอีก25เมตร จงหาว่างานที่เกิดขึ้นเท่ากับเท่าใด อันนี้ต้องใช้สูตรไหนหรอครับหาไม่เจอเลยหรือใช้ W=Fs หรือสูต
สมาชิกหมายเลข 8635125
Review ตะลุยป่า ล่าแสงดาว สไตล์LowCost แบบฉบับคนไม่มีรถ ณ ภูสอยดาว
ทริปนี้ผมและเพื่อน ๆ ร่วมชะตากรรมอีก 3 คน มีแพลนออกเดินทางผจญภัยหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าสน ดอกไม้และน้ำตกอันสวยงามซึ่งมีนามว่า “ภูสอยดาว” อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีที่ตั้งอยู่บริเวณเขตรอยต่
สมาชิกหมายเลข 4828215
ภูสอยดาว ไม่มีรถก็ไปถึง
ภูสอยดาว ไม่มีรถก็ไปถึงได้ ทริปนี้เราเดินทางกัน 3 วัน 2 คืน จุดหมายปลายทางคือ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ................................................................................ แผนการเดินทาง 2
BlackApple NaJa
ทริปสาวเหลือน้อย ปีนเขาที่ภูสอยดาว
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ ปีเก่าที่ผ่านมา เหน็ดเหนื่อยกันมากไหมคะ ถ้าใครเหนื่อยมาก ก็แวะเข้ามาอ่านกันได้นะคะ รับรองได้ค่ะว่า รีวิวท่องเที่ยว
Neverstops
สายหมอกและทิวสน ที่ "ภูสอยดาว"_by_Praewzamak ψ(`∇´)ψ
ทริปนี้ไปเมื่อวันที่ 28-31 สค 57 มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 8 คน เป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน และเป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้น ภู (ปล.รูปใหญ่บ้างเล็กบ้าง ขอโทษนะคะ เอาไฟล์เก่ามา T^T) เย็นวันที่ 28 รวมพลขนส่งหมอชิ
Praewza Mak
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เดินป่า
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
ภูสอยดาว
เที่ยวภูเขา
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 6
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR][SR] เเบกเป้ขึ้นภูสอยดาว
"When you’re traveling,
you are what you are right there and then.
People don’t have your past to hold against you.
No yesterdays on the road." – William Least Heat Moon
เป็นบันทึกการเดินครั้งที่ 2 (ภาพ iphon 5s กับ cannon60d)
มันเริ่มด้วยการ จากสถานีรถทัว หมอชิต 290 บาทถึงสถานีขนส่ง พิษณุโลก เเละต่อด้วย รถประจำทางไปยังชาติตระการ ด้วยเเสงอันน้อยของทองฟ้า...เวลาบอก 5.00 น. ด้วยราคา 92 บาท ภายในรถเบียดเเน่นไปด้วยผู้คนต่างวัยกัน มุ่งหน้าสู่จุดหมาย รถเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วผ่านสองข้างทางที่มีเเต่ป่า ต้นไม้ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ สู่ความสดชื่นมากระทบยังสายตาที่เหนื่อยล้าจากเมืองกรุง รถยังคงเคลื่อนตัวไป ในไม่ช้า ก็ถึงยังสถานที่จอดรถของชาติตระการ เสียงผู้คนขยับลุกเคลื่อนย้ายสัมภาระ เเละร่างกายจากอาการงัวเงีย
จุดขายตั๋วรถจาก บขส พิษณุโลก - ชาติการ
ตั๋วรถราคา 92 บาท
จุดลงรถเมือถึง ชาติตระการ
ด้านหน้าจุดรงรถเพื่อต่อรถไปยังตลาด
7.30 น. รถตุ๊กๆ เป็นทางเลือก ซึ่งนั้นคือจะต้องเหมาไปยังตลาดชาติตระการพอดีกัน กับ มีผญ.สองคนซึ่งก่อนหน้านี้ก็มาพร้อมกันโดยรถโดยสารจากพิษณุโลก ก็ตกลงจะไปพร้อมกัน ได้ราคาตุ๊กๆ คนละ 15 บาท สามล้อนั้นก็พา คน 6 คนไปยังตลาด
โชคชะตาฟ้าลิขิต คงทำให้เราได้เจอกับคนมากมาย มีกลุ่มวัยรุ่น ชายหญิงอีก 6 คนยังคงยืนอยู่ที่ตลาด เดินตรงมายังกลุ่มเราที่เพิ่งมาถึง
"เอ่อขอโทษครับ น้องจะขึ้นภูสอยดาวหรือป่าว เเน่นอนความหวังมาเเล้วเราก็บอกว่าไป ช่ายเลย 555 เข้าทาง เพราะกลุ่มเขาก็จะไปเหมือนกัน ตกลงเหมารถสองเเถวขึ้นภูได้ เที่ยวละ 1,000 บาท หารกัน ก็ตกคนละ 71 บาท เพราะทีมนี้มี 14 คน เป็นอันว่าตกลง (084574-6431) เบอร์คนขับรถ มีเวลาอยุ่ก็ต่างเเยกย้ายซื้อเสบียงอาหาร สำหรับขึ้นไป เพราะด้านบนไม่มีอะไรขายต้องเตรียมไปเอง
9.00 น.ได้ฤกษ์งามยามดี รถก็เริ่มออกเดินทางมุ่งตรงยังปลายทาง ภูสอยดาวเส้นทางนั้นคดเคี้ยว ลัดเลาะไปตามถนนคอนกรีต ซึ่งอยุ่บนภูเขาใหญ่ตระการตา นับหลายลูกที่ทอดข้ามผ่าน รถวิ่งด้วยความชำนาญของคนพื้นที่ ไอเย็นของธรรมชาติที่ถูกพัดมาด้วยเเรงลม ให้ได้กินดินอ่อนๆที่เเสดงว่าฝนเพิ่งตกได้ไม่นานด้วยปลายของยอดหญ้าที่เขียวที่มีหยดน้ำเกาะเขียวชะอุ่มตลอดข้างทาง
ไม่ช้ารถก็มายังสถานีปลายทางจุดหมาย อุทยาน ภูสอยดาว มีเจ้าหน้าคอยตอนรับเเละเเนะนำอย่างดี หลังจากรถจอดเคลียตังค์เสร็จ ก็จ่ายค่าบำรุง (ค่าเข้าอช.) คนละ 40 บาท เเละเข้าไปจองเต็นท์ ราคา 250 บาท (เเต่ผมเอามาเอง) หรือหากใครไม่อยากเเบกของก็ใช้ค่าบริการลูกหาบได้ Kg ละ 35 บาท (ซึ่งผมก็เเบกขึ้นเอง)
หลังจากเคลียตังค์เสร็จอีกรอบ สมาชิกนักเดินทางที่มาด้วยกัน ก็เเยกย้ายต่างเดินขึ้นไปยังจุดหมายเดียวกัน มีเพียงเสียงคำสัญญาไว้ว่า
" เดี่ยวเจอกันด้านบน" 10.30 น. เวลาบอกว่าควรจะเดินได้เเล้วมีรถกระบะของเจ้าหน้าที่พาเราจากจุดบริการไปสงยังทางขึ้น 11.00 น.
เวลาเเห่งการผจญภัยก็เริ่มต้น....6.5 Km คือเครื่องวัดใจ จากจุดเริ่มต้น น้ำตกภูสอยดาว เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินเสือโคร่ง เเละเนินมรณะ มุ่งหน้าเข้าสู่ ลานสน จุดหมายของเรา
สถานที่บางเเห่งต่อให้คุณมีเงินบางทีก็มิอาจไปดูให้เห็นด้วยตาได้ ตลอดการเดินทางมีทั้งปีนป่าย ผ่านความชันมากมาย
ตามทางจะมีป้ายเป็นกำลังใจให้ อีกเเค่ 6 กิโลเอง เอ้าฮึบๆๆ
โปรยปราย........................
ความยากของการเดินว่าสนุกเเล้ว ยังมีความมันส์อีกอย่าง เมื่อในไม่ช้าฝนก็โปรยปรายลงมาเสมือนเป็นรางวัล เพิ่มความยากกว่าเป็นทวีคูณ เสื้อผ้าเปียกปอนกันหมด ดีที่ยังมีชุดกันฝน เเต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความยากลดน้อยลง ความหนาว หมอกขาว ทำให้ทัศนวิสัยเพียงเเค่เอิ้อมมือมองกันไม่เห็น ความล่าช้าตามมาติดๆ
การเดินในระหว่างทางนอกจากจะยาก ยังเจอรอยยิ้มเเละอะไรอีกมากมาย ของผุ้ร่วมเดินทาง ทั้งไม่รู้จักกันเเต่สิ่งดี่ยวที่ทำให้ทุกคนนั้นยังคงเดินไปด้วยกันคือรอยยิ้มที่มีกันตลอดไม่ว่าเค้าคนนั้นจะเป็นใคร...
เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆไม่อาจย้อนกลับ ความเหนื่อยล้าของร่างกายเเสดงออกมามากยิ่งขึ้นปลายยอด ที่เป็นจุดหมายคือกำลังใจที่จะให้คงเดินต่อ เวลาเเสดงว่า 17.00 น. เรายังคงอยุ่ที่เนินเสือโคร่ง เวลาผ่านไปเเล้ว เกือบ 6 ชั่วโมงกับการเดินเท้า
มองขึ้นไป ยังคงเห็นยอดเขาที่อยู่สูงริบๆ มองให้ดีมีกลุ่มนักเดินทาง ลูกหาบ เช่นเดียวกับเราเดินต่อขึ้นไเป็นขบวนเห็นเป็นสายยาว กำลังใจก็ค่อยๆเพิ่มทวี ลุกออกเดินด้วยเเรงฮึดอีกครั้ง
ในไม่ช้าเนินมรณะก็มาถึง เนินสุดท้าย ระยะทางอีก 2 กิโลเมตร ก่อนถึงจุดหมาย เเต่มันคือการเดินขึ้นเขาที่เเบบเกินกว่า 60 องศาเเน่ๆ เมื่อขาที่ก้าวออกไปยังทางดินสลับหิน ออกอาการสั่นทุกย่างก้าว หันหลังมองย้อนลงมาคือสันเขา ที่มองเป็นสันชัดเจน
ความรู้สึกที่ลมปะทะหน้ามันดีมากๆเลย มองไกลออกไปคือเขาใหญ่ตระการสุดตาเขียวชะอุ่ม กับเเสงที่กำลังจะหมด เเลสายหมอกที่ปลิวลอยร่อนตามสายลม ทุกย่างก้าวเป็นไปด้วยความตั้งใจเเลมีสติหากพาดลื่นตกลงมาคงกลิ้งเป็นขนุนเเน่ ในไม่ช้าฮึดใจเดี่ยวก็ขึ้นมาถึงเนินเขานั้น
สายหมอกเเละลมยังคงพัดเเรง ขาที่สั่นไหวมาตั้งเเต่ครึ่งทางเเละเเล้ว 18.20 น. จุดหมายก็มาถึง ป้ายที่เราจะมาถ่ายรูป 55555
เเต่ยังไม่ถึงจุดหมายขังคงต้องเดินต่อไปอีกไม่ไกล ก็ถึงยังบริเวณลานสน มีนักเดินทางผู้มาถึงก่อน ต่างจับจองพื้นที่ของตน เมื่อถึงที่หมาย ก็เเบ่งหน้าที่กัน ให้เพื่อนไปเช่าเตาไฟมาเพื่อจุดไฟ เเต่ว่าเตาหมด ของทุกอย่างก็หมด เพราะนักท่องเที่ยวขึ้นมาเยอะมากในครั้งนี้ เเต่ดีที่ยังคงมีเตาที่เเตกพังยังพอก่อไฟเพื่อให้ความอบอุ่นกับร่างกายได้บ้าง
ในไม่ช้าความมืดเข้าปกคลุม มีเพียงเเสงไฟจากกองไฟเเต่ละเต็นท์ที่ก่อขึ้นของเราก็เช่นกัน ห้องน้ำอยู่ทางด้านใน หากจะอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัว ต้องเอากระป๋องไปตักยังลำธาร ด้านข้าง มาใช้ น้ำใสเเละเย็นมากกกก .....
อาหารเย็นเราคือ ข้าวที่ซื้อมาจาก7-11 ปลากระป๋องพอดีเต็นท์ข้างๆเขาให้ยืมหม้อ (เพราะเราไม่มีอะไรมาเลย)เอาข้าวตัดปากถุงลงอุ่น เเละต้มมาม่าคัฟ ซดน้ำเเทนน้ำเเกง ก็เเค่เพียงพอที่จะอิ่มหลับสบาย ตลอดคืนฝนยังคงตกเเรง ด้วยความหวังจะเห็นดาวก็คงต้องตัดใจ นอนขดอยู่ในถุงนอนภายในเต็นท์ที่เป็นกำบังลม ความหนาวเหน็บจากลมฝนทำให้รับรู้ถึงธรรมชาติที่เราไม่สามารถเอาชนะได้ ราตรีสวัสดิ์
เช้าวันใหม่ความเหน็ดเหนื่อยถูกตอบเเทนอย่าสาสม
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา เเต่ประสบการณ์จะอยู่กับเราตลอดไป
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น