ทริปนี้ไปเมื่อวันที่ 28-31 สค 57 มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 8 คน
เป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน และเป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้น ภู
(ปล.รูปใหญ่บ้างเล็กบ้าง ขอโทษนะคะ เอาไฟล์เก่ามา T^T)
เย็นวันที่ 28 รวมพลขนส่งหมอชิต เตรียมขึ้นรถทัวร์
กรุงเทพ-พิษณุโลก เที่ยว 4 ทุ่ม
ตั๋วพร้อม !!! ขึ้นรถ เลยยยยยยย
จากหมอชิต 4 ทุ่มครึ่ง - ถึงพิษณุโลก ท่าใหม่ 03.20
ถึงแล้ววว!!!!! ฝนตกหนักมากกกก มาล้างหน้าแปรง ฟันที่สถานี เนี่ยแหละ !!
แล้วพวกเราก็นั่งรอต่อรถ ไปยัง อำเภอ ชาติตระการ จังหวัดอุตรดิตถ์
จาก พิษณุโลก ไป อำเภอ ชาติตระการ จังหวัดอุตรดิตถ์ประมาณ 2 ชม ( 05.10-7.30 )
>>>ภายในรถค่อนข้างแคบ ดีนะเราออกเช้าคนเลยยังไม่เยอะ สามารถนอนพาด ขา กันได้
ยาวปายยยยยย
ถึงแล้ว อำเภอชาติตระการ !!! ต้องหาตลาดก่อนเพื่อไปขึ้นรถไปยังตัวภู
คำถาม? แล้วจะไปยังไง นี่เลย >>>>>
สามล้อจร้าาา ก็ยกของขึ้น รถแล้วก็ไป กัน
ถึงตลาด ก็แยกย้ายชื้อของสด ผัก ที่จะนำไปประทังชีวิตบนภู
กินข้าวให้อิ่ม พร้อมเก็บพลังงานให้ได้มากที่สุด
และแล้วประมาน 9 โมงกว่าๆนั่งกินข้าวแถวตลาดเพื่อรอรถรอบ 10 โมง
ไปยังน้ำตกภูสอยดาว ทันใดนั้นก็มีคุณลุงอาสาพาไปส่ง หัวละ 100
ก็โอเค ตกลงไป เป็นรถตู้จ้า (ใจดีมากกกก เพราะเมื่อถึง รู้สึกว่าไกลจากตลาดมากกกก)
บอกตามตรงตอนแรกก็กลัว อยู่ดีดีมาอาสาพาไป นึกในใจพาไปขายรึเปล่า
ลุงบอกลุงแกเป็นข้าราชการมาก่อน เคยไปภูสอยดาวกับผู้ใหญ่บ้านแต่ไม่ได้ขึ้นนะ ไปราชการเฉยๆ
แล้วลุงก็ขับงงๆ จำทางไม่ได้ แต่ก็พาเราไปถึง พอถึงลุงบอกไกลเนอะ ก็ไกลสิ ทางก็คดเคี้ยว
จากชาติตระการ-ถึงน้ำตกภูสอยดาว ก็ประมาน 2 ชั่วโมง (10.30 12.15)
ลุงบอกงั้นลุงขอมารับ ขากลับขอ 200 แหนะ!!! ลุงบอกไม่คุ้มเหนื่อย พวกเราก็โอเค ลุงใจดีจริง
แจ๋วเลย แต่แอบแพง(มั้ง รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ) ถ้าเช่ารถจาก กทม มาคง พอพอกัน!!
ถึงและ น้ำตกภูสอยดาว
เตรียมสัมภาระที่จะจ้างลูกหาบ มาช่างกิโลอะไรถือไว้ก็ถือ ...
แต่ ไม่ถือ!!!! เอาตัวเองให้รอดก่อน 555 ครั้งแรก จ้างทั้งขึ้นทั้งลง !
ส่วนพี่พี่ที่มีแรงเขาก็แบกกันเอง สุดยอดดดดด อ่อ ค่าเข้าอุทยานคนละ 40
(อ่อเก็บป้ายเลขไว้ด้วย วันที่กลับลงมาต้องเอามาคือเจ้าหน้าที่)
เตรียมตัวขึ้นภูกันเลย 😄😃😀
จากตีนภู- สู่ลานสน
เส้นทางทั้งหมด 6.5 กม จะมีจุดแวะพักและบอกระยะทางที่เหลือ
เราต้องผ่านเนินแต่ละเนิน ดังนี้ เนินส่งญาติ - เนินปราบเซียน - เนินป่าก่อ - เนินเสือโคร่ง -
และเนินสุดท้าย คือ เนินมรณะ รูปและเส้นทางการเดิน ดูกันเลย >>>>>>
ไม่ได้ว่าอีก 1.5 กม จะถึงลานสนนะ พึ่งเดินมาได้ แค่ 1.5 น่ะ ยังไม่ถึง เนินแรกเลย 55
เนินส่งญาติ เห้ออออ ถอนหายใจยาวววววววว ยาวมาก
ปล. มีฝนตกเป็นระยะๆเลยต้องใส่เสื้อกันฝน แถมกันแมลงด้วย !!!
ฝนตกทำให้ทางมีโคลนและลื่น ต้องระวังอย่างมาก !!!!!
(ปล รูปนี้เอามาจาก google )
เห็นบันไดไหม เขียวๆชันๆ เป็นอะไรที่โคตรท้อ เลย
ระมาณ 2,400 เมตร เป็นบันไดเหล็กชัน ขึ้นอย่างเดียว ขึ้นได้ประมาน 5 ก้าว เบรก ท้อเวอร์ !!😭😭😭
หลังจากขึ้นบันไดมาก็เข้าสู่ป่าไผ่
และเราก็แวะ กินมาม่ากันระหว่างทาง
เนินมรณะเนินสุดท้าย ที่โหดมาก ลื่น ชัน แฉะ ช๊ายขวาเหว สุดยอดด
แต่พอขึ้นมาถึงสิ่งที่มองเห็นทำให้หายเหนื่อย
ต้องอยู่ตรงนั้น แล้วคุณจะรู้เอง
สูดหายใจลึกๆ 😁😁😁
จากตีนสู่ยอดตั้งแต่ 12.30-18.30 โดยประมาน
เดินเก่งก็เร็วหน่อย เดินช้าก็ช้ากันไป
อยู่ที่ความแข็งแรงของแต่ละคน
ครั้งหนึ่งที่ได้มาเป็น 1 ในผู้พิชิตภูสอยดาว !!!!!
และพวกเราก็มาถึง
ลานเต๊นและจุดให้บริการ
อาหารการกิน และที่หลับที่นอน
น้ำ-จากน้ำฝนไปตักใส่ขวดเองหรือมีที่กรอกก็เอามากันได้
อาบน้ำ-มีถังให้เช่าไปตักน้ำลำธารอาบเอง
ส้วม-เอาถังตักน้ำเดินไปห้องน้ำเอง
อาหาร-จากฝีตอนเข้าค่ายลูกเสื้อของแต่ละคน
ที่นอน-มีเต๊นให้เช่าแต่เราเอามาเอง หาพื้นที่แล้วจัดเลย
ไฟ-ไม่มีนะจ๊ะ เอาไฟฉายกันมาเองล่ะ
ยา-เตรียมให้พร้อม พวกแพ้ๆทั้งหลาย
จุดตักน้ำ เป็น น้ำสารพัดประโยชน์ ทำอาหาร ล้างหน้าแปรงฟัน ล้างทุกอย่าง รวมถึงร่างกาย
ปล.มีห้องน้ำนะจ๊ะ แต่น้ำต้อง อ้อมไปด้านหลังตักน้ำจากลำธาร มาชำระล้างกันเอง
ทำกับข้าว งานนี้พี่พี่โชว์ฝีมือ
(ขอบคุณพี่พี่ที่ทำกับข้าวให้ทานนะคะ)
อาบน้ำ แปรงฟันเปลี่ยนชุด กินยาคลายกล้ามเนื้อ แล้วนอนซะ
เช้าวันถัดมา ไปดูดอกไม้กัน
หงอนนาค นางเอกแห่งภูสอยดาว
นางจะบานเต็มลานสนในช่วง สค-ตค ซึ่งเป็นฤดูฝน
ดอกหงอนนาค เรียกอีกชื่อว่า หญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง
ภูสอยดาว เป็นจุดที่มีดอกหงอนนาคทุ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
🌹🍃🌷🌸🌿🍂🍁💐
เดินไปชมก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
โชคดีแค่ไหนที่ได้มา ยืนดมเข้าไปนานๆ
ไม่ได้มากันง่ายๆ ^00^
อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับก้อนเมฆ สบายยยยยย
ขณะที่ไปคือฤดูฝน เมฆมาก หมอกหนา ฝนตกเป็นระยะๆ
บริเวณด้านบนจะมี น้ำตกสายทิพย์
และลานสน 2 แผ่นดิน ไทย-ลาว
เลยลานสนไปหน่อย มีต้นไม้ปล่อยสัญญาณโทรศัพ 555
คือเป็นหย่อมหนึ่งที่มีสัญญาณโทรศัพท์ 📱📱📡📡
เดินชมป่ากันทั้งวัน
เพลิดเพลิน มากกกกก ไม่ร้อน เย็นๆสบายๆ
เช้าวันกลับ
ลงเขา แดดออกจ้าาา อยู่มาสองวันไม่มีแดด🌞🌞🌞
มีเมฆสวยๆให้ชมกันก่อนกลับ ช่างโชคดี ^0^
ขากลับเหมือนง่ายนะ
แต่ถ้าลงน้ำหนักที่ปลายเท้าเยอะๆ เท้าจะพองนะ เตือนๆ !!!!
ลงเขา - อาบน้ำที่น้ำตก - ขึ้นรถตู้ - ไปรถทัวร์ - กทม
บาย จ้าา ภูสอยดาว
๐ ค่ารถตู้ อุทยาน-บขส. อุตรดิตถ์ :: 200 บาท
สายหมอกและทิวสน ที่ "ภูสอยดาว"_by_Praewzamak ψ(`∇´)ψ
ทริปนี้ไปเมื่อวันที่ 28-31 สค 57 มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 8 คน
เป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน และเป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้น ภู
(ปล.รูปใหญ่บ้างเล็กบ้าง ขอโทษนะคะ เอาไฟล์เก่ามา T^T)
เย็นวันที่ 28 รวมพลขนส่งหมอชิต เตรียมขึ้นรถทัวร์
กรุงเทพ-พิษณุโลก เที่ยว 4 ทุ่ม
ตั๋วพร้อม !!! ขึ้นรถ เลยยยยยยย
จากหมอชิต 4 ทุ่มครึ่ง - ถึงพิษณุโลก ท่าใหม่ 03.20
ถึงแล้ววว!!!!! ฝนตกหนักมากกกก มาล้างหน้าแปรง ฟันที่สถานี เนี่ยแหละ !!
แล้วพวกเราก็นั่งรอต่อรถ ไปยัง อำเภอ ชาติตระการ จังหวัดอุตรดิตถ์
จาก พิษณุโลก ไป อำเภอ ชาติตระการ จังหวัดอุตรดิตถ์ประมาณ 2 ชม ( 05.10-7.30 )
>>>ภายในรถค่อนข้างแคบ ดีนะเราออกเช้าคนเลยยังไม่เยอะ สามารถนอนพาด ขา กันได้
ยาวปายยยยยย
ถึงแล้ว อำเภอชาติตระการ !!! ต้องหาตลาดก่อนเพื่อไปขึ้นรถไปยังตัวภู
คำถาม? แล้วจะไปยังไง นี่เลย >>>>>
สามล้อจร้าาา ก็ยกของขึ้น รถแล้วก็ไป กัน
ถึงตลาด ก็แยกย้ายชื้อของสด ผัก ที่จะนำไปประทังชีวิตบนภู
กินข้าวให้อิ่ม พร้อมเก็บพลังงานให้ได้มากที่สุด
และแล้วประมาน 9 โมงกว่าๆนั่งกินข้าวแถวตลาดเพื่อรอรถรอบ 10 โมง
ไปยังน้ำตกภูสอยดาว ทันใดนั้นก็มีคุณลุงอาสาพาไปส่ง หัวละ 100
ก็โอเค ตกลงไป เป็นรถตู้จ้า (ใจดีมากกกก เพราะเมื่อถึง รู้สึกว่าไกลจากตลาดมากกกก)
บอกตามตรงตอนแรกก็กลัว อยู่ดีดีมาอาสาพาไป นึกในใจพาไปขายรึเปล่า
ลุงบอกลุงแกเป็นข้าราชการมาก่อน เคยไปภูสอยดาวกับผู้ใหญ่บ้านแต่ไม่ได้ขึ้นนะ ไปราชการเฉยๆ
แล้วลุงก็ขับงงๆ จำทางไม่ได้ แต่ก็พาเราไปถึง พอถึงลุงบอกไกลเนอะ ก็ไกลสิ ทางก็คดเคี้ยว
จากชาติตระการ-ถึงน้ำตกภูสอยดาว ก็ประมาน 2 ชั่วโมง (10.30 12.15)
ลุงบอกงั้นลุงขอมารับ ขากลับขอ 200 แหนะ!!! ลุงบอกไม่คุ้มเหนื่อย พวกเราก็โอเค ลุงใจดีจริง
แจ๋วเลย แต่แอบแพง(มั้ง รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ) ถ้าเช่ารถจาก กทม มาคง พอพอกัน!!
ถึงและ น้ำตกภูสอยดาว
เตรียมสัมภาระที่จะจ้างลูกหาบ มาช่างกิโลอะไรถือไว้ก็ถือ ...
แต่ ไม่ถือ!!!! เอาตัวเองให้รอดก่อน 555 ครั้งแรก จ้างทั้งขึ้นทั้งลง !
ส่วนพี่พี่ที่มีแรงเขาก็แบกกันเอง สุดยอดดดดด อ่อ ค่าเข้าอุทยานคนละ 40
(อ่อเก็บป้ายเลขไว้ด้วย วันที่กลับลงมาต้องเอามาคือเจ้าหน้าที่)
เตรียมตัวขึ้นภูกันเลย 😄😃😀
จากตีนภู- สู่ลานสน
เส้นทางทั้งหมด 6.5 กม จะมีจุดแวะพักและบอกระยะทางที่เหลือ
เราต้องผ่านเนินแต่ละเนิน ดังนี้ เนินส่งญาติ - เนินปราบเซียน - เนินป่าก่อ - เนินเสือโคร่ง -
และเนินสุดท้าย คือ เนินมรณะ รูปและเส้นทางการเดิน ดูกันเลย >>>>>>
ไม่ได้ว่าอีก 1.5 กม จะถึงลานสนนะ พึ่งเดินมาได้ แค่ 1.5 น่ะ ยังไม่ถึง เนินแรกเลย 55
เนินส่งญาติ เห้ออออ ถอนหายใจยาวววววววว ยาวมาก
ปล. มีฝนตกเป็นระยะๆเลยต้องใส่เสื้อกันฝน แถมกันแมลงด้วย !!!
ฝนตกทำให้ทางมีโคลนและลื่น ต้องระวังอย่างมาก !!!!!
(ปล รูปนี้เอามาจาก google )
เห็นบันไดไหม เขียวๆชันๆ เป็นอะไรที่โคตรท้อ เลย
ระมาณ 2,400 เมตร เป็นบันไดเหล็กชัน ขึ้นอย่างเดียว ขึ้นได้ประมาน 5 ก้าว เบรก ท้อเวอร์ !!😭😭😭
หลังจากขึ้นบันไดมาก็เข้าสู่ป่าไผ่
และเราก็แวะ กินมาม่ากันระหว่างทาง
เนินมรณะเนินสุดท้าย ที่โหดมาก ลื่น ชัน แฉะ ช๊ายขวาเหว สุดยอดด
แต่พอขึ้นมาถึงสิ่งที่มองเห็นทำให้หายเหนื่อย
ต้องอยู่ตรงนั้น แล้วคุณจะรู้เอง
สูดหายใจลึกๆ 😁😁😁
จากตีนสู่ยอดตั้งแต่ 12.30-18.30 โดยประมาน
เดินเก่งก็เร็วหน่อย เดินช้าก็ช้ากันไป
อยู่ที่ความแข็งแรงของแต่ละคน
ครั้งหนึ่งที่ได้มาเป็น 1 ในผู้พิชิตภูสอยดาว !!!!!
และพวกเราก็มาถึง
ลานเต๊นและจุดให้บริการ
อาหารการกิน และที่หลับที่นอน
น้ำ-จากน้ำฝนไปตักใส่ขวดเองหรือมีที่กรอกก็เอามากันได้
อาบน้ำ-มีถังให้เช่าไปตักน้ำลำธารอาบเอง
ส้วม-เอาถังตักน้ำเดินไปห้องน้ำเอง
อาหาร-จากฝีตอนเข้าค่ายลูกเสื้อของแต่ละคน
ที่นอน-มีเต๊นให้เช่าแต่เราเอามาเอง หาพื้นที่แล้วจัดเลย
ไฟ-ไม่มีนะจ๊ะ เอาไฟฉายกันมาเองล่ะ
ยา-เตรียมให้พร้อม พวกแพ้ๆทั้งหลาย
จุดตักน้ำ เป็น น้ำสารพัดประโยชน์ ทำอาหาร ล้างหน้าแปรงฟัน ล้างทุกอย่าง รวมถึงร่างกาย
ปล.มีห้องน้ำนะจ๊ะ แต่น้ำต้อง อ้อมไปด้านหลังตักน้ำจากลำธาร มาชำระล้างกันเอง
ทำกับข้าว งานนี้พี่พี่โชว์ฝีมือ
(ขอบคุณพี่พี่ที่ทำกับข้าวให้ทานนะคะ)
อาบน้ำ แปรงฟันเปลี่ยนชุด กินยาคลายกล้ามเนื้อ แล้วนอนซะ
เช้าวันถัดมา ไปดูดอกไม้กัน
หงอนนาค นางเอกแห่งภูสอยดาว
นางจะบานเต็มลานสนในช่วง สค-ตค ซึ่งเป็นฤดูฝน
ดอกหงอนนาค เรียกอีกชื่อว่า หญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง
ภูสอยดาว เป็นจุดที่มีดอกหงอนนาคทุ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
🌹🍃🌷🌸🌿🍂🍁💐
เดินไปชมก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
โชคดีแค่ไหนที่ได้มา ยืนดมเข้าไปนานๆ
ไม่ได้มากันง่ายๆ ^00^
อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับก้อนเมฆ สบายยยยยย
ขณะที่ไปคือฤดูฝน เมฆมาก หมอกหนา ฝนตกเป็นระยะๆ
บริเวณด้านบนจะมี น้ำตกสายทิพย์
และลานสน 2 แผ่นดิน ไทย-ลาว
เลยลานสนไปหน่อย มีต้นไม้ปล่อยสัญญาณโทรศัพ 555
คือเป็นหย่อมหนึ่งที่มีสัญญาณโทรศัพท์ 📱📱📡📡
เดินชมป่ากันทั้งวัน
เพลิดเพลิน มากกกกก ไม่ร้อน เย็นๆสบายๆ
เช้าวันกลับ
ลงเขา แดดออกจ้าาา อยู่มาสองวันไม่มีแดด🌞🌞🌞
มีเมฆสวยๆให้ชมกันก่อนกลับ ช่างโชคดี ^0^
ขากลับเหมือนง่ายนะ
แต่ถ้าลงน้ำหนักที่ปลายเท้าเยอะๆ เท้าจะพองนะ เตือนๆ !!!!
ลงเขา - อาบน้ำที่น้ำตก - ขึ้นรถตู้ - ไปรถทัวร์ - กทม
บาย จ้าา ภูสอยดาว
ค่าเสียหายต่อคน
๐ ตั๋วรถทัวร์ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก :: 305 บาท
๐ ตั๋วรถทัวร์ พิษณุโลก-ชาติตระการ :: 95 บาท
๐ ต่อรถ 2แถวไปตลาดชาติตระการ :: 15 บาท
๐ ค่ารถตู้ ตลาดชาติตระการ-อุทยาน :: 100 บาท
๐ อาหารภาคพื้นราบ 2มื้อ (ก่อน-หลังขึ้นภู) :: 40*2 = 80 บาท
๐ อาหารสด /เครื่องปรุง /อุปกรณ์ทำครัว :: 170 บาท/คน
๐ ค่าลูกหาบ :: 250 บาท/คน
๐ ค่าธรรมเนียมอุทยาน :: 40 บาท
๐ ค่ารถตู้ อุทยาน-บขส. อุตรดิตถ์ :: 200 บาท
๐ ตั๋วรถทัวร์ อุตรดิตถ์-กรุงเทพฯ :: 385 บาท
รวมค่าประสบการณ์ตลอดทริป 3คืน 3วัน บนภูสอยดาว ~ 1,600 บาท ขาดตัว
บวกถึงตัวจะขาดร่างพัง ห้าๆๆ
ขอบคุณพี่พี่ผู้ร่วมทาง
ขอบคุณคำแนะนำ
ขอบคุณที่ช่วยเหลือ
ขอบคุณที่ไปด้วยกัน
ขอบคุณมากมากค่ะ ^0^