Where to Invade Next คือสารคดีเรื่องใหม่ของ ไมเคิล มัวร์ ผู้กำกับ Fahrenheit 9/11 ที่ว่าด้วยการบุกโลกกว้าง เพื่อเปิดตาชาวอเมริกันเพื่อนร่วมชาติของเขากับแนวคิดสร้างคุณภาพชีวิตดีๆของหลายประเทศ โดยเจ้าตัวแต่งชุดเป็นทหารพร้อมนำธงชาติสหรัฐฯไปปักในต่างแดน พร้อมขโมยไอเดียต่างๆกลับมาใช้ในบ้านเกิดของเขา ประเทศมหาอำนาจผู้ทะนงตนในความยิ่งใหญ่ ภูมิใจในอเมริกันดรีมฝันเฟื่อง คิดว่าตัวเองอยู่เหนือว่าชาติอื่น
สหรัฐฯ ไม่เคยชนะสงครามใหญ่ๆอีกเลยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยยังคงบุคลิกนักบู๊ผลาญภาษีหลายหมื่นล้านเหรียญฯไปกับการทหาร เงินแผ่นดินเกินกว่าครึ่งถูกนำไปอุดหนุนกระทรวงกลาโหมที่ซื้อและผลิตอาวุธใหม่ๆแทบทุกเดือน ขณะที่ประชาชนยังคงเดือนร้อนกับภาวะ เศรษฐกิจฝืดเคือง เป็นหนี้สิน ตกงาน สุขภาพแย่ ปัญหาอาวุธปืน เหยีดสีผิว ยาเสพติด อาชญากรรม อาหารปนเปื้อนสารพิษ ฯลฯ
ไมเคิล มัวร์ ออกเดินทางเพื่อเรียนรู้ วัฒนธรรม ประเพณี สังคม กฏหมาย ของหลายประเทศในยุโรป (1ประเทศในแอฟริกาเหนือ) ทั้ง มนุษย์เงินเดือนในอิตาลีมีวันหยุดมากกว่า2เดือนต่อปี แถมถ้าใช้ไม่หมดปีนี้ก็ทบไปเรื่อยๆได้ ยังไม่หมดชั่วโมงการทำงานก็น้อยกว่า8ชั่วโมง และตอนพักเที่ยงพวกเขามีเวลากว่า2ชั่วโมงจึงสามารถกลับไปรวมตัวกินข้าวที่บ้านได้ , โรงเรียนชนบทในฝรั่งเศสเสิร์ฟคัดสรรอาหารเที่ยงชั้นดีระดับโรงแรมให้เด็กกิน ฟินแลนด์ทะยานสู่การเป็นเจ้าของการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก เด็กๆที่นั่นเรียนน้อย แทบไม่มีการบ้าน แต่กลับฉลาดทุกคน สโลวีเนีย ทุ่มงบให้นักศึกษาเรียนมหาวิทยาลัยฟรีโดยไม่มีข้อแม้
เยอรมนี มีกฏหมายห้ามนายจ้างติดต่อลูกจ้างหลังเลิกงานหรือในวันหยุด รวมถึงหากลูกจ้างรู้สึกว่าตัวเองเครียดสามารถให้หมอส่งใบสั่งลางานไปสปาได้หลายสัปดาห์ นอกจากนี้พวกเขายังสอนประวัติศาสตร์ยุคนาซีแก่เด็กๆอย่างตรงไปตรงมา , โปรตุเกส กำหนดให้ยาเสพติดไม่ใช่สิ่งผิดกฏหมาย แต่กลับแก้ไขปัญหาคนติดยาได้ , นอร์เวย์ จัดการกับผู้ต้องหาด้วยความเห็นใจ ในฐานะเพื่อมนุษย์ นักโทษนอร์เวย์ถูกขังอยู่บนเกาะที่สวยงามราวรีสอร์ต พวกเขาไปไหนมาไหนโดยอิสระ มีเรื่องมืออำนวยความสะดวกครบครัน สุขสบายเหมือนกับกำลังพักร้อน สถิติการทำผิดซํ้าของนักโทษที่นี่ตํ่าที่สุดสุดในโลก , ตูนิเซีย เป็นชาติมุสลิมที่การทำแท้งถูกกฏหมาย ผู้หญิงที่นั่นมีสิทธิเสรีภาพมากมาย และ ไอซ์แลนด์ ประเทศที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ พวกเขามีประธานาธิบดีหญิงคนแรกของโลก เพศหญิงในไอซ์แลนด์มีโควต้าแทรกอยู่ในเก้าอี้บริหารไม่ว่าจะในภาครัฐหรือเอกชน หมดนี้ถ้าเอามารวมเป็นประเทศเดียวคงกลาเป็นประเทศยูโทเปีย ซึ่งเคล็ดลับไม่มีอะไรมากไปกว่าประชากรที่มีคุณภาพ พวกเขาถูกปลูกฝังเรื่องการมองทุกคนในฐานะมนุษย์ ทุกคนมีคุณท่าเท่าเทียมกัน และทุกคนรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมมกาว่าส่วนตัว
Where to Invade Next เป็นสารคดีที่ไม่เครียด แถมยังดูสนุก ด้วยอารมณ์ขันตลกร้ายกับการเสียดสี-ล้อเลียนรัฐบาลสหรัฐฯและคนอเมริกัน รวมถึงหลายๆประเทศทั่วโลกที่รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารประเทศ แน่นอนว่าไทยด้วย เพราะเมื่อผ่านไปครึ่งเรื่องเรากลับรู้สึกว่าหลายถ้อยคำมันโดนใจมากๆ "กำไรของบริษัท ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับความอยู่ดีกินดีของพนักงานครับ" ซีอีโอของดูคาติ บริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ "คนเราต้องมีวันหยุดนะ จะได้คลายเครียดและกลับมาทำงานอย่างมีความสุข" เจ้าของบริษัทลาร์ดินี เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าค่านิยมของประเทศที่เจริญแล้ว ผู้บริหารไม่ได้มองลูกจ้างเป็นฟันเฟืองในองค์กร พวกเขามองลูกจ้างในฐานะมนุษย์ เพื่อน มีผู้บริหารหญิงคนหนึ่งพูดว่า ในเมื่อฉันมีวันหยุดไปเที่ยวต่างประเทศได้ ลูกจ้างของฉันก็ควรได้รับสิทธิ์นั้น ส่วนผู้หริหารชายตอบกลับคำถามเกี่ยวกับผลกำไรว่า เราไม่รู้จะรวยมากๆไปทำไม
หลายคนอาจมองว่าหนังค่อนข้างโลกสวยไปหน่อย ความจริงบางส่วนอาจมีการปรุงแต่งอยู่บ้าง แต่ละประเทศที่มาเป็นเคสตัวอย่างก็ไม่ได้ดีพร้อมไปทุกด้าน ซึ่ง ไมเคิล มัวร์ ก็ได้ออกตัวว่าเขาจะมาเรียนรู้เฉพาะข้อดี ชอบการตัดสลับภาพ-คลิปไปมาเพื่อเปรียบเทียบวิถีชีวิตอเมริกันชนกับประเทศต่างๆ หลอกด่าได้เจ็บแสบมาก ข้อดีอีกอย่างคือการที่ ไมเคิล เลือกสัมภาษณ์ผู้คนได้หลากหลาย รอบด้าน เขาวางตัวเป็นตัวแทนของชาติแบบเล่นๆ ทว่าในประเทศสโลวีเนียเขากลับได้พบกับประธานาธิบดี และได้สนทนาส่วนตัวนานเกือบชั่วโมง
ดูอย่างผิวเผิน Where to Invade Next อาจถูกมองว่าทำมาเพื่อให้ชาวอเมริกันและชาติอื่นๆในโลกอิจฉาประเทศตัวอย่างในหนัง กระนั้นประเด็นที่ลึกกว่าคือสารคดีเรื่องนี้ช่วยให้ผู้ชมได้ทราบถึงสิ่งดีๆของแต่ละชาติ สิ่งดีๆที่ควรค่าแก่การจดจำมากกว่ารู้ว่า อิตาลีสปาเก็ตตี้อร่อย ฝรั่งเศสขายครัวซอง เยอรมันมีเบียร์ชั้นดี หนังมอบข้อมูลความรู้ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งเอามาปรับใช้ได้กับทุกประเทศ และที่สุดแล้ว ไมเคิล พบว่าไอเดียเจ๋งๆเกือบทั้งหมดในหนังเขาเขามีต้นตอมาจากสหรัฐอเมริกานั่นเอง การเดินทางของเขาจึงไม่ใช่การขโมยแนวคิด แต่ไปทวงคืนต่างหาก
คะแนน 8/10
โดย นกไซเบอร์
เครดิต
https://www.facebook.com/cyberbirdmovie
รีวิวหนังสารคดี : Where to Invade Next ปักธงทวงคืนไอเดีย
Where to Invade Next คือสารคดีเรื่องใหม่ของ ไมเคิล มัวร์ ผู้กำกับ Fahrenheit 9/11 ที่ว่าด้วยการบุกโลกกว้าง เพื่อเปิดตาชาวอเมริกันเพื่อนร่วมชาติของเขากับแนวคิดสร้างคุณภาพชีวิตดีๆของหลายประเทศ โดยเจ้าตัวแต่งชุดเป็นทหารพร้อมนำธงชาติสหรัฐฯไปปักในต่างแดน พร้อมขโมยไอเดียต่างๆกลับมาใช้ในบ้านเกิดของเขา ประเทศมหาอำนาจผู้ทะนงตนในความยิ่งใหญ่ ภูมิใจในอเมริกันดรีมฝันเฟื่อง คิดว่าตัวเองอยู่เหนือว่าชาติอื่น
สหรัฐฯ ไม่เคยชนะสงครามใหญ่ๆอีกเลยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยยังคงบุคลิกนักบู๊ผลาญภาษีหลายหมื่นล้านเหรียญฯไปกับการทหาร เงินแผ่นดินเกินกว่าครึ่งถูกนำไปอุดหนุนกระทรวงกลาโหมที่ซื้อและผลิตอาวุธใหม่ๆแทบทุกเดือน ขณะที่ประชาชนยังคงเดือนร้อนกับภาวะ เศรษฐกิจฝืดเคือง เป็นหนี้สิน ตกงาน สุขภาพแย่ ปัญหาอาวุธปืน เหยีดสีผิว ยาเสพติด อาชญากรรม อาหารปนเปื้อนสารพิษ ฯลฯ
ไมเคิล มัวร์ ออกเดินทางเพื่อเรียนรู้ วัฒนธรรม ประเพณี สังคม กฏหมาย ของหลายประเทศในยุโรป (1ประเทศในแอฟริกาเหนือ) ทั้ง มนุษย์เงินเดือนในอิตาลีมีวันหยุดมากกว่า2เดือนต่อปี แถมถ้าใช้ไม่หมดปีนี้ก็ทบไปเรื่อยๆได้ ยังไม่หมดชั่วโมงการทำงานก็น้อยกว่า8ชั่วโมง และตอนพักเที่ยงพวกเขามีเวลากว่า2ชั่วโมงจึงสามารถกลับไปรวมตัวกินข้าวที่บ้านได้ , โรงเรียนชนบทในฝรั่งเศสเสิร์ฟคัดสรรอาหารเที่ยงชั้นดีระดับโรงแรมให้เด็กกิน ฟินแลนด์ทะยานสู่การเป็นเจ้าของการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก เด็กๆที่นั่นเรียนน้อย แทบไม่มีการบ้าน แต่กลับฉลาดทุกคน สโลวีเนีย ทุ่มงบให้นักศึกษาเรียนมหาวิทยาลัยฟรีโดยไม่มีข้อแม้
เยอรมนี มีกฏหมายห้ามนายจ้างติดต่อลูกจ้างหลังเลิกงานหรือในวันหยุด รวมถึงหากลูกจ้างรู้สึกว่าตัวเองเครียดสามารถให้หมอส่งใบสั่งลางานไปสปาได้หลายสัปดาห์ นอกจากนี้พวกเขายังสอนประวัติศาสตร์ยุคนาซีแก่เด็กๆอย่างตรงไปตรงมา , โปรตุเกส กำหนดให้ยาเสพติดไม่ใช่สิ่งผิดกฏหมาย แต่กลับแก้ไขปัญหาคนติดยาได้ , นอร์เวย์ จัดการกับผู้ต้องหาด้วยความเห็นใจ ในฐานะเพื่อมนุษย์ นักโทษนอร์เวย์ถูกขังอยู่บนเกาะที่สวยงามราวรีสอร์ต พวกเขาไปไหนมาไหนโดยอิสระ มีเรื่องมืออำนวยความสะดวกครบครัน สุขสบายเหมือนกับกำลังพักร้อน สถิติการทำผิดซํ้าของนักโทษที่นี่ตํ่าที่สุดสุดในโลก , ตูนิเซีย เป็นชาติมุสลิมที่การทำแท้งถูกกฏหมาย ผู้หญิงที่นั่นมีสิทธิเสรีภาพมากมาย และ ไอซ์แลนด์ ประเทศที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ พวกเขามีประธานาธิบดีหญิงคนแรกของโลก เพศหญิงในไอซ์แลนด์มีโควต้าแทรกอยู่ในเก้าอี้บริหารไม่ว่าจะในภาครัฐหรือเอกชน หมดนี้ถ้าเอามารวมเป็นประเทศเดียวคงกลาเป็นประเทศยูโทเปีย ซึ่งเคล็ดลับไม่มีอะไรมากไปกว่าประชากรที่มีคุณภาพ พวกเขาถูกปลูกฝังเรื่องการมองทุกคนในฐานะมนุษย์ ทุกคนมีคุณท่าเท่าเทียมกัน และทุกคนรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมมกาว่าส่วนตัว
Where to Invade Next เป็นสารคดีที่ไม่เครียด แถมยังดูสนุก ด้วยอารมณ์ขันตลกร้ายกับการเสียดสี-ล้อเลียนรัฐบาลสหรัฐฯและคนอเมริกัน รวมถึงหลายๆประเทศทั่วโลกที่รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารประเทศ แน่นอนว่าไทยด้วย เพราะเมื่อผ่านไปครึ่งเรื่องเรากลับรู้สึกว่าหลายถ้อยคำมันโดนใจมากๆ "กำไรของบริษัท ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับความอยู่ดีกินดีของพนักงานครับ" ซีอีโอของดูคาติ บริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ "คนเราต้องมีวันหยุดนะ จะได้คลายเครียดและกลับมาทำงานอย่างมีความสุข" เจ้าของบริษัทลาร์ดินี เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าค่านิยมของประเทศที่เจริญแล้ว ผู้บริหารไม่ได้มองลูกจ้างเป็นฟันเฟืองในองค์กร พวกเขามองลูกจ้างในฐานะมนุษย์ เพื่อน มีผู้บริหารหญิงคนหนึ่งพูดว่า ในเมื่อฉันมีวันหยุดไปเที่ยวต่างประเทศได้ ลูกจ้างของฉันก็ควรได้รับสิทธิ์นั้น ส่วนผู้หริหารชายตอบกลับคำถามเกี่ยวกับผลกำไรว่า เราไม่รู้จะรวยมากๆไปทำไม
หลายคนอาจมองว่าหนังค่อนข้างโลกสวยไปหน่อย ความจริงบางส่วนอาจมีการปรุงแต่งอยู่บ้าง แต่ละประเทศที่มาเป็นเคสตัวอย่างก็ไม่ได้ดีพร้อมไปทุกด้าน ซึ่ง ไมเคิล มัวร์ ก็ได้ออกตัวว่าเขาจะมาเรียนรู้เฉพาะข้อดี ชอบการตัดสลับภาพ-คลิปไปมาเพื่อเปรียบเทียบวิถีชีวิตอเมริกันชนกับประเทศต่างๆ หลอกด่าได้เจ็บแสบมาก ข้อดีอีกอย่างคือการที่ ไมเคิล เลือกสัมภาษณ์ผู้คนได้หลากหลาย รอบด้าน เขาวางตัวเป็นตัวแทนของชาติแบบเล่นๆ ทว่าในประเทศสโลวีเนียเขากลับได้พบกับประธานาธิบดี และได้สนทนาส่วนตัวนานเกือบชั่วโมง
ดูอย่างผิวเผิน Where to Invade Next อาจถูกมองว่าทำมาเพื่อให้ชาวอเมริกันและชาติอื่นๆในโลกอิจฉาประเทศตัวอย่างในหนัง กระนั้นประเด็นที่ลึกกว่าคือสารคดีเรื่องนี้ช่วยให้ผู้ชมได้ทราบถึงสิ่งดีๆของแต่ละชาติ สิ่งดีๆที่ควรค่าแก่การจดจำมากกว่ารู้ว่า อิตาลีสปาเก็ตตี้อร่อย ฝรั่งเศสขายครัวซอง เยอรมันมีเบียร์ชั้นดี หนังมอบข้อมูลความรู้ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งเอามาปรับใช้ได้กับทุกประเทศ และที่สุดแล้ว ไมเคิล พบว่าไอเดียเจ๋งๆเกือบทั้งหมดในหนังเขาเขามีต้นตอมาจากสหรัฐอเมริกานั่นเอง การเดินทางของเขาจึงไม่ใช่การขโมยแนวคิด แต่ไปทวงคืนต่างหาก
คะแนน 8/10
โดย นกไซเบอร์
เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie