"ภูแกได้ยินเสียงอะไรรึเปล่า" ท่ามกลางวงไพ่ที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูง หูของผู้กองต้อมก็ได้ยินเสียงแว่วๆเหมือนหยดน้ำ ทุกคนในวงเริ่มตั้งใจฟังอย่างเงียบกริบ ชั่วเวลาอึกใจเหมือนว่ามันผ่านไปหลายชั่วโมง เสียง แปะๆๆๆ ของหยดน้ำยิ่งชัขึ้นเรื่องๆ ทำให้ผู้กองต้อมเกิดอาการขนลุกอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"อ่อ สงสัยผมเผลอเปิดหยดไว้น่ะพี่" ภูนึกขึ้นได้ว่าเขาเปิดแบบหยดไว้ เนื่องจากติดเป็นนิสัยที่เปฺดน้ำหยดๆรองน้ำไว้เต็มตุ้ม ว่าแล้ว ภูก็เดินลุกขึ้นไปปิด อารมณ์ของผู้กองต้อมในตอนนี้ประมาณว่าถ้ามีอะไรอยู่ใกล้ๆมือก็คงจะขว้างใส่ภุโดยทันที
จากนั้นภูก็กลับมานั่งเล่นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้กองต้อมเหมือนจะแอบเนียนลืมไม่เล่าต่อ จนทำให้หมอเจี๊ยบแผนตัวเอง เตือนสติด้วยการสกิดเบาๆด้วยฝ่ามือจนหัวทิ่ม
"อย่ามาเนียนแถวนี้ เล่าต่อเลยตานายแล้ว" หมอเจี๊ยบตวาด เพราะแผนของเะอเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร เธอจึงตั้งใจส่งไม้ต่อให้แฟนเพราะรู้ดีว่าผู้กองต้อมจะงัดไม้เด็ดสุดสยองมาเล่าแน่ๆ
............................................
PART2 : เรื่องของต้อม
ต้อม นายร้อยตำรวจไฮโซ ที่เป็นที่หมายตาของดาราและเซเลปทั่วฟ้าเมืองไทย ลูกชายนักธุรกิจใหญ่ของประเภท พึ่งกลับมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากที่ไปอยู่ที่นั่นถึง3ปี โดยผู้เป็นพ่อใช้เส้นสายย้ายลูกตัวเองจากสามจังหวัดมาอยู่นครบาลเลย โดยมาอยู่สถานีตำรวจย่านชานเมืองก่อน
ต้อมจบจากโรงเรียนนายร้อยด้วยเกียรติประวัติดีเยี่ยม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวนสอบสวนเป็นอันดับหนึ่งของรุ่น เขาเลือกที่จะไปชายแดนใต้ทันทีเพื่อหนีจากความเป็นไฮโซของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอด ผู้เป็นพ่อก็ใช้เส้นสายย้ายเค้ากลับมาจนได้
และเพื่อเป็นรับขวัญลูกชายและฉลองดาวอีกดวงบนบ่า ทำให้ผู้เป็นพ่อซื้อบ้านหลังใหญ่ของโครงการหรูใกล้สถานีตำรวจเพื่อรับขวัญผู้หมวดต้อมลูกชาย
อันที่จริงบ้านหลังนี้ถือเป็นดอกเบี้ยของเจ้าของโครงการที่ยืมเงินพ่อของต้อมมาหมุนเพื่อทำธุรกิจโดยไม่คิดดอกดังนั้นเมื่อต้อมกลับมาเจ้าของโครงการจึงยกบ้านหลังนี้ให้แทนดอกเบี้ย และต้อมก็จำใจยอมรับอย่างเสียไม่ได้ เพราะอย่างน้อยบ้านหลังนี้ก็ยังเล็กกว่า "คฤหาสน์" ที่เขาเรียกว่าบ้านมากนัก
"บ้านใหม่ถูกใจมั้ยลูก" ผู้เป็นพ่อโทรเข้ามาถามเรื่องความเรียบร้อยในการย้ายข้ามาบ้านใหม่วันแรกของต้อม
"ครับพ่อ ไม่ต้องห่วงตอนนี้ก็กำลังขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาแล้ว" ต้อมบอกพลางมองดูคนงานที่ขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาวางในบ้านตามแบบที่นักตกแต่งภายในออกแบบไว้
เมื่อวางหูจากพ่อ ต้อมก็สนทนาปราศัยกับคนงานอย่างไม่ถือตัว และได้รับคำชมจากคนงานว่า ต้อมเป็นคนรักสะอาดขนาดบ้านใหม่ที่บริษัทออกแบบภายในจะต้องเอาของเข้ายังทำความสะอาดรอ ทำให้พวกเขาไม่เหนื่อยเท่าไหร่ผิดกับที่อื่นๆ
แต่นั่นก้ไม่ทำให้ต้อมเอะใจอะไร เพราะว่าบ้านคงปิดไว้ทำให้พวกฝุ่นไม่มากเท่าที่ควร
จนกระทั้งตอนเย็น เปอร์นิเจอร์ต่างๆจึงถูกนำมาวางไว้จนหมดตามแบบ และต้อมผู้ไม่ถือตัวจะอาสาเป็นเจ้ามือพาคนงานของบริษัทออกแบบไปเลี้ยงข้าวอย่างเป็นกันเอง
......................................
ที่ร้านอาหารต้อมสั่งอาหารอิสานมาเต็มโต๊ะเพื่อเลี้ยงคนงานเกือบสิบคน ทั้งโต๊ะนั้นทั้งกินทั้งดื่มอย่างเฮฮา จนคนงานมีอายุคนหนึ่งที่ถามต้อมด้วยความเมาได้ที่ วึ่งคำถามนั้นทำให้ต้อมรู้สึกคนลุก
"คุณตำรวจ ก่อนเข้าไปอยู่ก็หาพระเข้าบ้านซะนะ...โผมรู้สึกแปลกๆตั้งแต่ตอนเช้าละ" คนงานคนนั้นพูด แม้ภายนอกต้อมดูจะไม่คิดอะไร แต่ภายในเขารู้สึกกลัวมาก เพราะแม้จะเป็นตำรวจที่เก่งกาจแต่มีเพียงสองสิ่งที่เขากลัวจนขึ้นสมองนั่นคือ ผี กับตุ๊กแก
"ครับๆ" ถึงปากจะบอกแบบนั้นและพยายามไม่คิด แต่เรื่องซุบซิบของคนงานก็ทำให้ต้อมใจคอไม่ดี
และแล้วงานเลี้ยงก็ย่อมมีวัดเลือกรา เมื่อกลุ่มคนงานขอตัวกลับพร้อมกับขอบคุณที่ต้อมพามาเลี้ยงข้าว และเมื่อรู้ตัวอีกที เขากำลังขับรถกลับบ้านคนเดียว
แม้ว่าการที่แข็งใจเพื่อกลับไปนอนบ้านใหม่คนเดียวมันจะดูไม่เสี่ยงตายเหมือนกับตอนที่เขาจบนายร้อยใหม่ๆแล้วไปประจำการที่สามจังหวัดชายแดน ซึ่งเขาต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงต่อความเป็นความตายมาหลายครั้ง แต่สิ่งที่ต้อมกลัวไม่ใช่ความตาย แต่เป็นสิ่งที่ตายไปแล้วต่างหาก
.........................
ต้อมขับรถกลับมาบ้านอย่างอ่อนเพลีย เขาเปิดประตูบ้านด้วยรีโมทแล้วเลี้ยวรถเข้าไปในบ้านทันที โดยไม่ได้สังเกตอะไรเพราะมัวแต่คิดเรื่องที่คนงานพูดแต่จู่ๆเมื่อเขาก้าวเข้าบ้านเขาก็นึกอะไรขึ้นมาบางอย่าง
(นี่เราเปิดไฟทิ้งไว้งั้นเหรอ)
ไฟในบ้าน ทั้งที่อยู่ที่ประตูใหญ่และรั้ว โรงรถ และไฟบางดวงในบ้านนั้นเปิดอยู่ ซึ่งต้อมจำไม่ได้ว่าเขาได้เปิดไฟทิ้วไว้รึเปล่าก่อนออกไป หรือบางที่อาจจะคนงานหวังดีซักคนหนึ่งเปิดทิ้งไว้ให้ เพราะผู้ที่ย้ายมาอยู่ใหม่อย่างต้อม ก็ยังจำตำแหน่งต่างๆในบ้านพร้อมกับสวิทซ์ไฟไม่ได้
(คงอาจจะเป็นคนงานซักคนแหละ) ต้อมพยายามคิดในแง่ดี เพราะบางที่มันก็อาจจะเป็นความคิดมากจนจิตปรุงแต่งและหลอนไปเอง
ต้อมจึงตัดสินใจเปิดไฟให้มันสว่างทั้งบ้าน และหากว่าโทรทัศน์ของเค้าได้ติดเคเบิ้ลไว้ล่ะก้ เขาก็คงเปิดโทรทัสน์ไว้เป็นเพื่อนด้วยแน่ๆ
(จริงๆเราน่าจะขอคนรับใช้จากที่บ้านให้มาอยู่เป็นเพื่อนซักคนนะ)
แต่ทันทีที่เข้าหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาหนังแท้ตัวใหญ่ เขาก็สะดุ้งแล้วลุกขึ้นทันที
มันอุ่นเหมือนมีใครบางคนเพิ่งนั่งไป
ต้อมเริ่มใจคอไม่ดี แต่ก็ยังพยายามหาเหตุผลมาอธิบาย มันอาจจะเป็นเพราะไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ ทำให้อากาศในบ้านร้อนจนโซฟาอุ่นก็ได้
แต่ถึงแบบนั้นต้อมก็ขึ้นไปห้องนอนเพื่ออาบน้ำและนอนทันทีก่อนที่จิตใจจะเตลิดไป
บรรยากาสเหมือนจะไม่มีอะไรชวนขนลุกอีก ต้อมเข้าไปห้องนอนใหญ่และอาบน้ำทันที ความเย็นของสายน้ำทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลายลง
(มาอยู่คนเดียวแท้ๆทำไมต้องมาอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ด้วยนะ)
ชั้นบนของบ้านนอกจากห้องนอนใหญ่ของต้อมแล้วยังมีห้องนอนขนาดเล็กลงมาอีกสามห้อง วึ่งต่างก็มีห้องน้ำส่วนตัวทั้งหมด
และเมื่อจิตใจผ่อนคลายลง ก็ไม่วายที่จะคิดฟุ้งซ่านอีกจนได้
(นอกจากเราแล้วห้องอื่นจะมีคนนอนมั้ยนะ)
ที่ต้อมคิดแบบนี้ไม่ใช่คิดถึงเรื่องผีแต่อย่างใด แต่เพราะเขานึกถงครอบครัวของเขา จนทำให้คิดว่าหากทุกคนอยู่พร้อมหน้าที่บ้านหลังนี้ก็คงจะดีไม่น้อย
แต่ทว่า...
เมื่อต้อมปิดน้ำจากฝักบัวหลังจากอาบเสร็จ เขายังได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝังบัวที่ห้องน้ำของอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน
ต้อมรีบวิ่งกระโดขึ้นเตียงโดยทันทีโดยที่ยังไม่ได้เช็ดตัวพระกับซุกตัวคลุมโปงใต้ผ้าห่ม
แต่เมื่อลองเงี้ยหูฟังดีๆมันก็ไม่มีเสียงน้ำอะไรอีกแล้ว
แต่ถึงกระนั้นเข้าก้ไม่กล้าออกมาจากใต้ผ้าห่มพร้อมกับหลับไปทั้งอย่างนั้นด้วยความเพลีย โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า
ด้านนอกผ้าห่มตอนที่เขาหลับอยู่
ผมยาวเปียกสีดำเหมือนสาหร่ายของใครบางคนที่กำลังชะโงกตัวมามองเข้าอยู่จากปลายเตียง โดยที่ปลายของเส้นผมนั้นระไปกับผ้าห่ม
สายตาแดงก่ำของมันจ้องเขม็งจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า ปากที่ฉีกถึงรูหูแสยะยิ้มราวกับชบชันในชะตากรรมของบุคลใต้ผ้าห่มยิ่งนัก
......................................
ชมกันได้ครับ
file 1 เหงา ตั้งแต่ตอนแรก
http://ppantip.com/topic/34830541
file 2 พิธีกรรมสยองขวัญ ตั้งแต่ตอนแรก
http://ppantip.com/topic/34973254
file 3-1
http://ppantip.com/topic/35224663
file 3-2
http://ppantip.com/topic/35231042
file 3-3
http://ppantip.com/topic/35242777
file 3-4
http://ppantip.com/topic/35250252
ขอโทษที่หายไปนานครับ พอดีกำลังคิดพล็อตอยู่เนื่องจากจริงกะแยกตอนนี้ไปเล่าเดี๋ยว แต่คิดไปคิดมา เลยเอามารวมในตอนนี้ดีกว่า ทำให้ต้องเปลี่ยนพล็อตกะทันหันครับ
ป.ล. ผมเคยแต่งนิยายแนวแฟนตาซีไว้เรื่องหนึ่งแต่ยังไม่จบเพื่อแต่งได้ไม่กี่หน้า คือกะเอามาแต่งต่อแล้วส่งสำนักพิมพ์ คือถ้าใคร พอจะช่วยอ่านและวิจารณ์เพื่อนำไปสู่สู่สำนักพิมพ์ได้ ขอความกรุณาหลังไมค์มาด้วยครับ ขอบคุณครับ
ตอนต่อไป
http://ppantip.com/topic/35302698
GHost Detective File 3-5 เรื่องหลอนจากบังกะโล
"อ่อ สงสัยผมเผลอเปิดหยดไว้น่ะพี่" ภูนึกขึ้นได้ว่าเขาเปิดแบบหยดไว้ เนื่องจากติดเป็นนิสัยที่เปฺดน้ำหยดๆรองน้ำไว้เต็มตุ้ม ว่าแล้ว ภูก็เดินลุกขึ้นไปปิด อารมณ์ของผู้กองต้อมในตอนนี้ประมาณว่าถ้ามีอะไรอยู่ใกล้ๆมือก็คงจะขว้างใส่ภุโดยทันที
จากนั้นภูก็กลับมานั่งเล่นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้กองต้อมเหมือนจะแอบเนียนลืมไม่เล่าต่อ จนทำให้หมอเจี๊ยบแผนตัวเอง เตือนสติด้วยการสกิดเบาๆด้วยฝ่ามือจนหัวทิ่ม
"อย่ามาเนียนแถวนี้ เล่าต่อเลยตานายแล้ว" หมอเจี๊ยบตวาด เพราะแผนของเะอเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร เธอจึงตั้งใจส่งไม้ต่อให้แฟนเพราะรู้ดีว่าผู้กองต้อมจะงัดไม้เด็ดสุดสยองมาเล่าแน่ๆ
............................................
PART2 : เรื่องของต้อม
ต้อม นายร้อยตำรวจไฮโซ ที่เป็นที่หมายตาของดาราและเซเลปทั่วฟ้าเมืองไทย ลูกชายนักธุรกิจใหญ่ของประเภท พึ่งกลับมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากที่ไปอยู่ที่นั่นถึง3ปี โดยผู้เป็นพ่อใช้เส้นสายย้ายลูกตัวเองจากสามจังหวัดมาอยู่นครบาลเลย โดยมาอยู่สถานีตำรวจย่านชานเมืองก่อน
ต้อมจบจากโรงเรียนนายร้อยด้วยเกียรติประวัติดีเยี่ยม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวนสอบสวนเป็นอันดับหนึ่งของรุ่น เขาเลือกที่จะไปชายแดนใต้ทันทีเพื่อหนีจากความเป็นไฮโซของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอด ผู้เป็นพ่อก็ใช้เส้นสายย้ายเค้ากลับมาจนได้
และเพื่อเป็นรับขวัญลูกชายและฉลองดาวอีกดวงบนบ่า ทำให้ผู้เป็นพ่อซื้อบ้านหลังใหญ่ของโครงการหรูใกล้สถานีตำรวจเพื่อรับขวัญผู้หมวดต้อมลูกชาย
อันที่จริงบ้านหลังนี้ถือเป็นดอกเบี้ยของเจ้าของโครงการที่ยืมเงินพ่อของต้อมมาหมุนเพื่อทำธุรกิจโดยไม่คิดดอกดังนั้นเมื่อต้อมกลับมาเจ้าของโครงการจึงยกบ้านหลังนี้ให้แทนดอกเบี้ย และต้อมก็จำใจยอมรับอย่างเสียไม่ได้ เพราะอย่างน้อยบ้านหลังนี้ก็ยังเล็กกว่า "คฤหาสน์" ที่เขาเรียกว่าบ้านมากนัก
"บ้านใหม่ถูกใจมั้ยลูก" ผู้เป็นพ่อโทรเข้ามาถามเรื่องความเรียบร้อยในการย้ายข้ามาบ้านใหม่วันแรกของต้อม
"ครับพ่อ ไม่ต้องห่วงตอนนี้ก็กำลังขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาแล้ว" ต้อมบอกพลางมองดูคนงานที่ขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาวางในบ้านตามแบบที่นักตกแต่งภายในออกแบบไว้
เมื่อวางหูจากพ่อ ต้อมก็สนทนาปราศัยกับคนงานอย่างไม่ถือตัว และได้รับคำชมจากคนงานว่า ต้อมเป็นคนรักสะอาดขนาดบ้านใหม่ที่บริษัทออกแบบภายในจะต้องเอาของเข้ายังทำความสะอาดรอ ทำให้พวกเขาไม่เหนื่อยเท่าไหร่ผิดกับที่อื่นๆ
แต่นั่นก้ไม่ทำให้ต้อมเอะใจอะไร เพราะว่าบ้านคงปิดไว้ทำให้พวกฝุ่นไม่มากเท่าที่ควร
จนกระทั้งตอนเย็น เปอร์นิเจอร์ต่างๆจึงถูกนำมาวางไว้จนหมดตามแบบ และต้อมผู้ไม่ถือตัวจะอาสาเป็นเจ้ามือพาคนงานของบริษัทออกแบบไปเลี้ยงข้าวอย่างเป็นกันเอง
......................................
ที่ร้านอาหารต้อมสั่งอาหารอิสานมาเต็มโต๊ะเพื่อเลี้ยงคนงานเกือบสิบคน ทั้งโต๊ะนั้นทั้งกินทั้งดื่มอย่างเฮฮา จนคนงานมีอายุคนหนึ่งที่ถามต้อมด้วยความเมาได้ที่ วึ่งคำถามนั้นทำให้ต้อมรู้สึกคนลุก
"คุณตำรวจ ก่อนเข้าไปอยู่ก็หาพระเข้าบ้านซะนะ...โผมรู้สึกแปลกๆตั้งแต่ตอนเช้าละ" คนงานคนนั้นพูด แม้ภายนอกต้อมดูจะไม่คิดอะไร แต่ภายในเขารู้สึกกลัวมาก เพราะแม้จะเป็นตำรวจที่เก่งกาจแต่มีเพียงสองสิ่งที่เขากลัวจนขึ้นสมองนั่นคือ ผี กับตุ๊กแก
"ครับๆ" ถึงปากจะบอกแบบนั้นและพยายามไม่คิด แต่เรื่องซุบซิบของคนงานก็ทำให้ต้อมใจคอไม่ดี
และแล้วงานเลี้ยงก็ย่อมมีวัดเลือกรา เมื่อกลุ่มคนงานขอตัวกลับพร้อมกับขอบคุณที่ต้อมพามาเลี้ยงข้าว และเมื่อรู้ตัวอีกที เขากำลังขับรถกลับบ้านคนเดียว
แม้ว่าการที่แข็งใจเพื่อกลับไปนอนบ้านใหม่คนเดียวมันจะดูไม่เสี่ยงตายเหมือนกับตอนที่เขาจบนายร้อยใหม่ๆแล้วไปประจำการที่สามจังหวัดชายแดน ซึ่งเขาต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงต่อความเป็นความตายมาหลายครั้ง แต่สิ่งที่ต้อมกลัวไม่ใช่ความตาย แต่เป็นสิ่งที่ตายไปแล้วต่างหาก
.........................
ต้อมขับรถกลับมาบ้านอย่างอ่อนเพลีย เขาเปิดประตูบ้านด้วยรีโมทแล้วเลี้ยวรถเข้าไปในบ้านทันที โดยไม่ได้สังเกตอะไรเพราะมัวแต่คิดเรื่องที่คนงานพูดแต่จู่ๆเมื่อเขาก้าวเข้าบ้านเขาก็นึกอะไรขึ้นมาบางอย่าง
(นี่เราเปิดไฟทิ้งไว้งั้นเหรอ)
ไฟในบ้าน ทั้งที่อยู่ที่ประตูใหญ่และรั้ว โรงรถ และไฟบางดวงในบ้านนั้นเปิดอยู่ ซึ่งต้อมจำไม่ได้ว่าเขาได้เปิดไฟทิ้วไว้รึเปล่าก่อนออกไป หรือบางที่อาจจะคนงานหวังดีซักคนหนึ่งเปิดทิ้งไว้ให้ เพราะผู้ที่ย้ายมาอยู่ใหม่อย่างต้อม ก็ยังจำตำแหน่งต่างๆในบ้านพร้อมกับสวิทซ์ไฟไม่ได้
(คงอาจจะเป็นคนงานซักคนแหละ) ต้อมพยายามคิดในแง่ดี เพราะบางที่มันก็อาจจะเป็นความคิดมากจนจิตปรุงแต่งและหลอนไปเอง
ต้อมจึงตัดสินใจเปิดไฟให้มันสว่างทั้งบ้าน และหากว่าโทรทัศน์ของเค้าได้ติดเคเบิ้ลไว้ล่ะก้ เขาก็คงเปิดโทรทัสน์ไว้เป็นเพื่อนด้วยแน่ๆ
(จริงๆเราน่าจะขอคนรับใช้จากที่บ้านให้มาอยู่เป็นเพื่อนซักคนนะ)
แต่ทันทีที่เข้าหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาหนังแท้ตัวใหญ่ เขาก็สะดุ้งแล้วลุกขึ้นทันที
มันอุ่นเหมือนมีใครบางคนเพิ่งนั่งไป
ต้อมเริ่มใจคอไม่ดี แต่ก็ยังพยายามหาเหตุผลมาอธิบาย มันอาจจะเป็นเพราะไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ ทำให้อากาศในบ้านร้อนจนโซฟาอุ่นก็ได้
แต่ถึงแบบนั้นต้อมก็ขึ้นไปห้องนอนเพื่ออาบน้ำและนอนทันทีก่อนที่จิตใจจะเตลิดไป
บรรยากาสเหมือนจะไม่มีอะไรชวนขนลุกอีก ต้อมเข้าไปห้องนอนใหญ่และอาบน้ำทันที ความเย็นของสายน้ำทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลายลง
(มาอยู่คนเดียวแท้ๆทำไมต้องมาอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ด้วยนะ)
ชั้นบนของบ้านนอกจากห้องนอนใหญ่ของต้อมแล้วยังมีห้องนอนขนาดเล็กลงมาอีกสามห้อง วึ่งต่างก็มีห้องน้ำส่วนตัวทั้งหมด
และเมื่อจิตใจผ่อนคลายลง ก็ไม่วายที่จะคิดฟุ้งซ่านอีกจนได้
(นอกจากเราแล้วห้องอื่นจะมีคนนอนมั้ยนะ)
ที่ต้อมคิดแบบนี้ไม่ใช่คิดถึงเรื่องผีแต่อย่างใด แต่เพราะเขานึกถงครอบครัวของเขา จนทำให้คิดว่าหากทุกคนอยู่พร้อมหน้าที่บ้านหลังนี้ก็คงจะดีไม่น้อย
แต่ทว่า...
เมื่อต้อมปิดน้ำจากฝักบัวหลังจากอาบเสร็จ เขายังได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝังบัวที่ห้องน้ำของอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน
ต้อมรีบวิ่งกระโดขึ้นเตียงโดยทันทีโดยที่ยังไม่ได้เช็ดตัวพระกับซุกตัวคลุมโปงใต้ผ้าห่ม
แต่เมื่อลองเงี้ยหูฟังดีๆมันก็ไม่มีเสียงน้ำอะไรอีกแล้ว
แต่ถึงกระนั้นเข้าก้ไม่กล้าออกมาจากใต้ผ้าห่มพร้อมกับหลับไปทั้งอย่างนั้นด้วยความเพลีย โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า
ด้านนอกผ้าห่มตอนที่เขาหลับอยู่
ผมยาวเปียกสีดำเหมือนสาหร่ายของใครบางคนที่กำลังชะโงกตัวมามองเข้าอยู่จากปลายเตียง โดยที่ปลายของเส้นผมนั้นระไปกับผ้าห่ม
สายตาแดงก่ำของมันจ้องเขม็งจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า ปากที่ฉีกถึงรูหูแสยะยิ้มราวกับชบชันในชะตากรรมของบุคลใต้ผ้าห่มยิ่งนัก
......................................
ชมกันได้ครับ
file 1 เหงา ตั้งแต่ตอนแรก http://ppantip.com/topic/34830541
file 2 พิธีกรรมสยองขวัญ ตั้งแต่ตอนแรก http://ppantip.com/topic/34973254
file 3-1 http://ppantip.com/topic/35224663
file 3-2 http://ppantip.com/topic/35231042
file 3-3 http://ppantip.com/topic/35242777
file 3-4 http://ppantip.com/topic/35250252
ขอโทษที่หายไปนานครับ พอดีกำลังคิดพล็อตอยู่เนื่องจากจริงกะแยกตอนนี้ไปเล่าเดี๋ยว แต่คิดไปคิดมา เลยเอามารวมในตอนนี้ดีกว่า ทำให้ต้องเปลี่ยนพล็อตกะทันหันครับ
ป.ล. ผมเคยแต่งนิยายแนวแฟนตาซีไว้เรื่องหนึ่งแต่ยังไม่จบเพื่อแต่งได้ไม่กี่หน้า คือกะเอามาแต่งต่อแล้วส่งสำนักพิมพ์ คือถ้าใคร พอจะช่วยอ่านและวิจารณ์เพื่อนำไปสู่สู่สำนักพิมพ์ได้ ขอความกรุณาหลังไมค์มาด้วยครับ ขอบคุณครับ
ตอนต่อไป http://ppantip.com/topic/35302698