GHost Detective File 3-7 เรื่องหลอนจากบังกะโล

เช้าวันต่อมา ต้อมที่ยังอยู่ในชุดตำรวจตื่นขึ้นมาบนโซฟาในบ้านตัวอย่างของเจ้าของโครงการ เมื่อคืน หลังจากที่ร่วมมือกับเจ้าของโครงการ หาชื่อผู้ที่มะมาแก้ปัญหาเร่องนี้ได้ก็เล่นเอาวะดึก ซึ่ง ส่วนใหญ่จากที่ค้นเจอ ถ้าไม่ใช่สำนกงานนักสืบทั่วไป ก็จะเป็นสำนักทรงเจ้าเข้าผีซะมากกว่า แต่จนแล้วจนรอดทั้งคู่ก็ได้เจอกับข่าวๆหนึ่ง เป็นข่าวเล้กเมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับ กลุ่มนักศึกษาและรุ่นพี่ที่เพิ่งจบไป ได้ช่วยอาจารย์ของพวกเขาในการยื่นฟ้องศาลในกรณีพิพาทเกี่ยวกับการซื้อบ้านที่มีผีแล้วชนะคดี ซึ่งก็ยังถือว่าโชคชะตาปราณีที่ในข่าวยังแอบมีการโฆษณาโดยการทิ้งเบอร์ติดต่อของชมรมไว้

แต่เนื่องจากตอนนี้ยังเช้ามาก และคงไม่มีใครที่ไหนจะเข้าชมรมเช้าขนาดนี้ ต้อมก็เลยกะว่าจะรอซักเที่ยงค่อยโทรไป ดังนั้น เข้าจึงไปทำงานทันทีโดยเปลี่ยนแค่เสื้อข้างในที่มีติดไว้ในรถของเขา

ก่อนเข้าทำงานต้อมระดมสเปรย์ดับกลิ่นทั้งตัว เพราะเข้าไม่ได้อาบน้ำเพียงแต่เปลี่ยนเสื้อตัวในเท่านั้น เพราะว่าเขายังไม่กล้าเข้าไปในบ้านที่ยังไม่ยืนยันสถานะผู้อยู่อาศัยอื่น และเพราะเหตุนี้ ต้อมจึงหอบเอาพระพุทธรูปที่บูชาไว้ตั้งแต่เมื่อวานไปทำงานด้วย จนเพื่อนๆตำรวจด้วยกันต้องถามด้วยความสงสัย และเมื่อพากันถามหนักเข้า เขาจึงตอบไปว่า เขาศรัทธาในพระพุทธรูปองค์นี้มาก

...................................

เย็นวันนั้น หลังจากที่ต้อมติดต่อไปที่เบอร์ชมรมได้ตอนเที่ยง ทีแรกนักศึกษาที่รับสายก็ไม่รู้เรื่องอะไร จนกระทั่งประธานชมรมเข้ามา ซึ่งคนที่ต้อมตามหาตัวอยู่ก็คือภู

จากที่คุยโทรศัพทืกัน ภูเป็นประธานชมรมถ่ายภาพส่วนกลางของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ภูขอให้คุยรายละเอียดกันช่วงเย็น ที่ร้าน ปิ้ง ย่าง ส้มตำใกล้มหาวิทยาลัย เพราะเรื่องนี้ คนในชมรมไม่ค่อยรู้กันเท่าไหร่โดยเฉพาะพวกเด็กใหม่ เขาไไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของชมรมเป็นเรื่องผีๆสางๆ เพราะคราวก่อนที่เป็นข่าว ชมรมถ่ายภาพก็เกือบโดน สภาฯตัดงบไปทีนึงแล้ว

เวลาประมาณเกือบ6โมงเย็น ผู้กองต้อมก็มาถึงร้านที่นัดกันไว้พร้อมกับพระพุทธรุปที่เอามาวางบนโต๊ะ เขาคิดว่าคงเป็นการไม่เคารพถ้าจะปล่อยพระพุทธรูปไว้ที่รถเพียงลำพัง ซึ่งเหตุนี้คนในร้านจึงมองเข้าแปลกๆที่ตำรวจแต่งตัวเต็มยศ พร้อมกับพระพุทธรูปมานั่งในร้านส้มตำ แต่กลับสั่งเพียงน้ำอักลมขวดเดียว

ซักครู่หนึ่ง นักศึกษาหนุ่มที่ท่าทางเหมือนดาราก็เดินเข้ามาหาต้อมพร้อมกับ ผู้หญิงสวยหุ่นนางแบบอีกคนที่ใส่ชุดกาวน์

"ใช่พี่ต้อมที่โทรมารึเปล่าครับ" นักศึกษาคนนั้นเข้ามาทัก ต้อมก็ตอบไปว่าใช่ แล้วเขาและผู้หยิงอีกคนก็นั่งที่โต๊ะเดียวกัน

"อยากทานอะไรก็สั่งเลยนะครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" แม้จะเป็นคำพูดตามมารยาท แต่อีกฝ่ายกลับสั่งมาเต็มโต๊ะเหมือนไม่เกรงใจประมาณว่าจะกินให้อิ่มยันเช้า

ก่อนที่อาหารจะมาก็มีการแนะนำตัวเอง เริ่มจากเด็กหนุ่มชื่อภู เค้าเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ปีสุดท้ายและเป็นประธานชมถ่ายภาพของมหาวิทยาลัย ส่วนผู้หญิงอีกคน เป็นนักศึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านนิติเวช ที่ใช้ทุนไปด้วยเรียนไปด้วยชื่อว่าเจี๊ยบ ซึ่งเจี๊ยบนั้นอายุเท่ากับต้อม

เมื่ออาหารมาถึง ทุกคนก็ทานกันไปคุยกันไป ซึ่งต้อมก็เริ่มระบายความอัดอั้นของตัวเองให้ทั้งคู่ฟัง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าทั้งภูและเจี๊ยบจะรู้สึกเฉยๆกับเรื่องของต้อม

"พี่ต้อมรู้ได้ยังไงครับว่าที่พี่ต้อมเล่ามานั้นไม่ได้รู้สึกไปเอง" คำพูดของภูนั้นทำให้ต้อมรู้สึกโมโหอยู่ลึกๆ ที่คิดว่าคนที่น่าจะเชื่อเค้ากลับบอกว่าเค้าคิดไปเอง

"ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เชื่อคุณนะคะ เพียงแต่ที่คุณเล่านั้น มาจากความรู้สึกของตัวเอง อีกอย่างสภาพร่างกายของคุณในตอนนั้นก็เชื่อได้ว่าคุณอาจจะเบลอจนคิดว่ามันเป็นผี เพราะคุณก็ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์อะไรซักอย่าง" เจี๊ยบอธิบายพร้อมกับจ้วงข้าวเหนียวไปด้วย

เมื่อได้ยินดังนั้นต้อมก็ฉุกคิดและสลดขึ้นมาทันที เพราะเค้าเป็นตำรวจแต่กลับลืมเรื่องหลักฐานไป ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้ต้อมรู้สึกเสียหน้ามาก

"แต่ต่อให้ที่บ้านพี่มีผีจริงๆ พวกผมก็ไม่ใช่หมอผี ที่จะไล่ผีไปได้ แต่พวกผมคือนักสืบ ที่สามารถหาสาเหตุปรากฏการณ์ทางวิญญาณต่างๆ ซึ่งก็อาจจะมีหรือไม่มีทางแก้ไขให้พี่ได้ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าพี่จะโอเครึเปล่า" ภูแสดงสีหน้าจริงจนต้อมรู้ได้ทันทีว่า คนๆนี้คงไม่ใช่พวกหลอกลวงแน่นอน

"ผมตกลง เรื่องค่าจ้างนั้นไม่มีปัญหา แต่อยากให้เคลียร์เรื่องนี้ให้จบก่อนทำบุญขึ้นบ้านใหม่จะได้มั้ย" ข้อเสนอของต้อมนั้นภูได้ตบปากรับคำ แต่เนื่องจาก มันค่อนข้างกะทันหัน ภูก็เลยให้ต้อมลองทำตามที่เขาบอกก่อนเพื่อเป็นการกรองว่าที่บ้านของต้อมนั้นมีผีจริงๆ

เจี๊ยบหยิบเครื่องอัดเสียงจากเทปยื่นให้ต้อม โดยภูต้องการให้ต้อมลองบันทึกและบรรยาย บรรยากาศและเหตุการณ์ต่างในบ้าน และให้ต้อมเอายาสีฟันป้ายสวิทช์ไฟ ทุกอันที่ต้อมได้เปิดไฟทิ้งไว้เพื่อดูว่า ต้อมจะเบลอแล้วเผลอปิดเองหรือเปล่า

แม้จะเป็นอะไรที่ง่ายๆ แต่มันอยากแค่อย่างดียวคือต้อมยังกล้าๆกลัวที่จะกลับไปที่บ้านของตัวเอง และเพื่อความสบายใจเข้าได้ขอเบอร์ติดต่อทั้งสองคนไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน

หลักจากที่ทั้งสามคนคุยงานกันเสร็จ พอตอนเช็คบิลก็สร้างความประหลาดใจให้กับต้อมมาก เพราะเขามากินกัน3คนหมดไปพันกว่าบาทโดยที่สั่งอาหารไปทุกอย่างที่ร้านนั้นมี จนต้อมตัดสินใจว่าจากนี้ไป เขาจะไม่เลี้ยงข้าวใครที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกอีกแล้ว

...............................

ช่วงค่ำ ก่อนกลับต้อมหาแวะร้านสะดวกซื้อเพื่ตุนเบียร์มาดื่มย้อมใจก่อนที่จะทำตามคำแนะนำของภู

เมื่อมาถึงบ้านต้อมจัดแจงอัยเชิญพระพุทธรุปที่เขาบูชามาจากวัดตั้งแต่เมื่อวาน มาวางบันชั้นวางของที่ดัดแปลงเป็นหิ้งพระ พร้อมกับสวดมนต์ตามบทสวดมนต์มาตรฐานเพื่อเป็นศิริมงคลและขวัญกำลังใจ

จากนั้นต้อมจึงตระเวณเปิดไฟแล้วเอายาสีฟันป้ายตรงสวิทช์ โดยไม่ลืมที่จะบันทึกเสียงการกระทำของเขาไว้ เมื่อจัดแจงทำตามที่ภูบอกเสร็จ ก็ถึงเวลอาบน้ำนอน

ซึ่งต้อมก็ทำเหมือนเคยเช่นวันแรกกที่มานอน แต่วันนี้ก็ไม่มีอะไรแปลกๆอย่างเช่นเสียงเปิดน้ำที่เขารู้สึกว่าจะได้ยินในวันแรกที่เข้ามา

ต้อมกลับมานอนทีเตียงด้วยความอิดโรยหลังจากอาบน้ำเสร็จ และเขาก้หลับไปอย่างรวดเร็ว

โดยที่เข้าลืมปิดเครื่องบันทึกเสียงไว้

และมันก็บันทึกเสียงทุกอย่างในขระที่ต้อมหลับไป จนสุดเทป

...........................................

ติชมกันได้ครับ

file 1 เหงา ตั้งแต่ตอนแรก http://ppantip.com/topic/34830541

file 2 พิธีกรรมสยองขวัญ ตั้งแต่ตอนแรก http://ppantip.com/topic/34973254

file 3-1 http://ppantip.com/topic/35224663

file 3-2 http://ppantip.com/topic/35231042

file 3-3 http://ppantip.com/topic/35242777

file 3-4 http://ppantip.com/topic/35250252

file 3-5 http://ppantip.com/topic/35293741

file 3-6 http://ppantip.com/topic/35302698

ตอนต่อไป http://ppantip.com/topic/35321184
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่