ศาลยึดทรัพย์ผู้ผลิตเครื่องตรวจจับระเบิดปลอมรุ่น GT200 และอื่นๆ เพื่อจ่ายเงินชดเชยผู้เสียหาย
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายริชาร์ด โฮน ผู้พิพากษาประจำศาลในเมืองโอลด์ เบลีย์ ของอังกฤษ ตัดสินยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 7.9 ล้านปอนด์ (ราว 395 ล้านบาท) จากนายเจมส์ แมคคอร์มิค อดีตนักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ต้องหาในคดีจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของนายแมคคอร์มิคและพรรคพวกซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าว
ผู้พิพากษาโฮนตัดสินลงโทษจำคุก 10 ปีแก่นายแมคคอร์มิคตั้งแต่ปี 2556 โดยระบุว่าการจำหน่ายอุปกรณ์ตรวจจับวัตถุระเบิดปลอมมีส่วนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่คำสั่งยึดทรัพย์ในการพิจารณาคดีครั้งล่าสุดจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมนำเงินสด อสังหาริมทรัพย์ และเรือสำราญที่นายแมคคอร์มิคมีชื่อเป็นเจ้าของมาจำหน่ายและนำเงินไปชดเชยแก่ผู้เสียหายต่อไป
รายงานข่าวระบุว่ารัฐบาลอิรักซึ่งเป็นอดีตลูกค้ารายใหญ่ของนายแมคคอร์มิค จะได้รับค่าชดเชยราว 2.3 ล้านปอนด์ (ราว 115 ล้านบาท) ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลของบาห์เรน เลบานอน ไนเจอร์ และจอร์เจีย จะได้รับเงินชดเชยเช่นกัน แต่ยังไม่มีการระบุตัวเลขที่ชัดเจน โดยที่ผ่านมา นายแมคคอร์มิคมีรายได้มากกว่า 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,500 ล้านบาท) จากการจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม ซึ่งดัดแปลงจากอุปกรณ์ค้นหาลูกกอล์ฟ ต้นทุนประมาณ 14 ปอนด์ต่อเครื่อง (ราว 700 บาท) แต่นายแมคคอร์มิคจำหน่ายเครื่องดังกล่าวให้แก่ทหาร ตำรวจ หน่วยตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในประเทศต่างๆ ทั่วโลกในราคาเครื่องละประมาณ 3,500 ปอนด์ (ราว 1.75 แสนบาท)
ก่อนหน้านี้ในเดือน ต.ค.2557 แคโรไลน์ ฮอว์ลีย์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซี รายงานว่าเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่นายแมคคอร์มิคผลิตและจำหน่าย ได้แก่ รุ่น ADE-651 ซึ่งจำหน่ายในอิรัก ไนเจอร์ และประเทศอื่นๆ แถบตะวันออกกลาง รุ่น GT200 จำหน่ายให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย เม็กซิโก ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกา ส่วนรุ่น Alpha 6 จำหน่ายให้แก่ลูกค้าในไทย อียิปต์ และเม็กซิโก
ที่มา บีบีซี.ไทย
https://m.facebook.com/BBCThai
ศาลยึดทรัพย์ผู้ผลิตเครื่องตรวจจับระเบิดปลอมรุ่น GT200 และอื่นๆ เพื่อจ่ายเงินชดเชยผู้เสียหาย
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายริชาร์ด โฮน ผู้พิพากษาประจำศาลในเมืองโอลด์ เบลีย์ ของอังกฤษ ตัดสินยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 7.9 ล้านปอนด์ (ราว 395 ล้านบาท) จากนายเจมส์ แมคคอร์มิค อดีตนักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ต้องหาในคดีจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของนายแมคคอร์มิคและพรรคพวกซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าว
ผู้พิพากษาโฮนตัดสินลงโทษจำคุก 10 ปีแก่นายแมคคอร์มิคตั้งแต่ปี 2556 โดยระบุว่าการจำหน่ายอุปกรณ์ตรวจจับวัตถุระเบิดปลอมมีส่วนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่คำสั่งยึดทรัพย์ในการพิจารณาคดีครั้งล่าสุดจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมนำเงินสด อสังหาริมทรัพย์ และเรือสำราญที่นายแมคคอร์มิคมีชื่อเป็นเจ้าของมาจำหน่ายและนำเงินไปชดเชยแก่ผู้เสียหายต่อไป
รายงานข่าวระบุว่ารัฐบาลอิรักซึ่งเป็นอดีตลูกค้ารายใหญ่ของนายแมคคอร์มิค จะได้รับค่าชดเชยราว 2.3 ล้านปอนด์ (ราว 115 ล้านบาท) ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลของบาห์เรน เลบานอน ไนเจอร์ และจอร์เจีย จะได้รับเงินชดเชยเช่นกัน แต่ยังไม่มีการระบุตัวเลขที่ชัดเจน โดยที่ผ่านมา นายแมคคอร์มิคมีรายได้มากกว่า 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,500 ล้านบาท) จากการจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม ซึ่งดัดแปลงจากอุปกรณ์ค้นหาลูกกอล์ฟ ต้นทุนประมาณ 14 ปอนด์ต่อเครื่อง (ราว 700 บาท) แต่นายแมคคอร์มิคจำหน่ายเครื่องดังกล่าวให้แก่ทหาร ตำรวจ หน่วยตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในประเทศต่างๆ ทั่วโลกในราคาเครื่องละประมาณ 3,500 ปอนด์ (ราว 1.75 แสนบาท)
ก่อนหน้านี้ในเดือน ต.ค.2557 แคโรไลน์ ฮอว์ลีย์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซี รายงานว่าเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่นายแมคคอร์มิคผลิตและจำหน่าย ได้แก่ รุ่น ADE-651 ซึ่งจำหน่ายในอิรัก ไนเจอร์ และประเทศอื่นๆ แถบตะวันออกกลาง รุ่น GT200 จำหน่ายให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย เม็กซิโก ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกา ส่วนรุ่น Alpha 6 จำหน่ายให้แก่ลูกค้าในไทย อียิปต์ และเม็กซิโก
ที่มา บีบีซี.ไทย
https://m.facebook.com/BBCThai