การเดินหน้าพันธกิจทางด้าน Start up นั้น นอกเหนือจากการคิดนอกกรอบอย่างก้าวกระโดด  เทคนิคการขายไอเดียให้ผู้ฟังไม่ว่าจะเป็น Angel หรือ VC คล้อยตามแนวคิดที่ต้องการนั้น  การผลักดันงานอย่างเข้มแข็งขันเต็มที่ เพื่อให้งานทั้งหลายเดินหน้าไปตามที่คาดหวังไว้
ทุกฝ่ายต่างทราบดีแล้วว่า การผลักดันให้ Start up รูปแบบต่างๆไปสู่ฝั่งฝันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด ประการสำคัญที่ผู้ประกอบการ  Start up รายใหม่ต้อประสบคือ
จะจัดการอย่างไรกับความเครียดเนื่องจากลงสู่สมรภูมิการแข่งขันท่ามกลางความคาดหวังด้านเติบโต
5  แนวทางที่นำเสนอนี้ แม้จะแก้ปัญหาทั้งหมดที่ว่าของ Start up รุ่นใหม่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ของกิจการที่เน้น “เทคโนโลยีและการก้าวกระโดด”อย่างแท้จริง
1.ระบุถึงตัวตนแห่งปัญหาที่นำพามาสู่ความเครียดในแต่ละกรณี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายขาย ข้อสำคัญคือจะต้องมีจริงใจที่ต้องระบุปัญหาให้ถึงแก่นอย่างแท้จริง  หากจำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหานั้นด้วยการใช้คน ใช้เงินทอง หากสามารถรีบแก้ไขได้ ก็ต้องรีบแก้ไขทันที
2.หากจำเป็นในบางปัญหาที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง มาช่วยแก้ไขให้ข้อยุติในแต่ละกรณี ลุล่วงและ จำเป็นจะต้องใช้บริการจากบุคคลภายนอก หรือการ Outsource งานออกไป แล้วทำให้งานพัฒนาเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีเหตผลใดเลยที่จะไม่ใช้
3.การมีพันธมิตรธุรกิจสำหรับ Start up นั้น ก็ไม่ได้แตกต่างจากธุรกิจด้านอื่นแต่อย่างใด  มุมมองที่มีต่อพันธมิตรนั้น อย่าได้มองเพียงแต่แง่ร้ายมากเกินไปว่า พันธมิตรจะเข้ามาฉกฉวยโอกาส ล้วงความลับทางด้านธุรกิจ  แต่พันธมิตรพร้อมที่จะเป็นผู้ที่ช่วยให้ข้อมูลเพื่อแข่งขันกับคู่ต่อสู้  และยังเป็นเครดิตให้กับตนเองในการเจรจาร่วมกับ VC ได้อีกด้วย
4.ความเครียดประการสำคัญนั่นคือ การร่วมกิจการ  ทั้งในรูปแบบ Merge หรือ Acquisition กับVC หรือผู้ประกอบการรายใหญ่อื่นๆ การคำนึงถึงอนาคต และการปล่อยวางด้วยการมองว่าการร่วมกิจการ นั่นคือการสั่งสมปราสบการณ์ในการทำงาน หรือธุรกิจ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
5.การเจรจาทางด้านธุรกิจ เกือบทุกครั้งที่เราต้องการกำหนดให้เกิดผลดีกับทุกฝ่าย หรือ Win- Win นั่นเอง ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้น อาจจะทำได้ยากพอสมควร  เพราะปัจจัยแปรผันมีมากตามสมควร