เมื่อปัญหาเกิดจากคำว่า "สินสอด" .....

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน อยากขอความคิดเห็น และขอคำแนะนำด้วยค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนคบกันมาได้ 5 ปีแล้ว ซื้อบ้านร่วมกันมาได้ 2 ปี (จดทะเบียนสมรสตั้งแต่ตอนที่กู้เงินซื้อบ้านแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน) บ้านที่ซื้อเราอาศัยอยู่กับแม่ และครอบครัวพี่ชายเรา (ค่าผ่อนบ้านเรากับแฟนออกคนละครึ่ง พี่ชายออกค่าน้ำค่าไฟ) ซึ่งได้ตกลงกันแต่แรกแล้วว่าขอให้ครอบครัวพี่ชายเข้ามาอยู่ก่อน แล้วเมื่อเราแต่งงานกัน พี่ชายจะย้ายออก เพราะว่าเราไม่อยากให้แม่เหงา ส่วนแฟนเราก็ไปๆมาๆ ยังไม่ได้มาอยู่แบบถาวร ตอนที่ซื้อบ้านเรากับแฟนก็ช่วยกันเก็บเงินและหมดเงินไปกับค่าต่อเติมจนเงินเก็บแทบจะไม่เหลือ ดั่งเดิมพื้นฐานครอบครัวเราและแฟนไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แค่พอมีพอกิน อาศัยเป็นคนประหยัดเก็บเงินเก่งจนได้มีบ้านหลังนี้ ซึ่งแม่เราเองก็รู้ถึงจุดนี้

และแล้วเวลานี้ก็มาถึง >> แม่เราถามว่าเมื่อไรแม่แฟนจะมาขอ เมื่อไรจะแต่งงานจะได้ย้ายมาอยู่ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา เราก็บอกไปว่าทางแม่แฟนเราไปดูฤกษ์มาให้แล้ว แต่ว่าปีนี้เป็นปีชงทั้งคู่ไม่มีฤกษ์ดี ต้องรอปีหน้า ทั้งเราและแม่แฟนก็โอเคปีหน้าก็ปีหน้า แม่ก็ถามว่า ทางแม่แฟนได้มีพูดเรื่องสินสอดบ้างไหมว่าเค้าจะให้เท่าไร เราบอกว่าไม่ได้พูด แม่เราก็เปรยๆมาว่า จะเรียกประมาณ 2-3 แสนดีมั้ย หรือเท่าไรดี ให้มันเหมาะสม เพราะว่าลูกพี่ลูกน้องเราก็แต่งกันประมาณนี้ เราเลยพูดเล่นๆว่า โหหห..ถ้าแม่เรียกขนาดนั้น ก็คงไม่ได้แต่งหรอก 555++ (เพราะว่าเรารู้ว่าครอบครัวแฟน หรือว่าแฟนเราไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นหรอก) แม่เลยบอกว่าเดี๋ยวจะไปปรึกษาพวกป้าๆ น้าๆ อีกที...

ส่วนด้านแม่แฟนเรา ก็เปรยๆ มาว่า ถ้าหาฤกษ์ได้จะมาคุยกับแม่เรานะ จะจัดงานแต่งงานให้เพื่อให้เกียรติทางแม่เรานะ แต่ว่าสินสอดอาจจะไม่ได้มากมาย จะให้เป็นพิธีอาจจะไม่ถึงหลักแสน เพราะว่าไหนจะค่าจัดงานแต่งอีก ถ้าจะเรียกสินสอดแพงๆ ก็ไม่มีหรอก ร้องไห้  ส่วนตัวเราไม่ได้มีปํญหาอะไรอยู่แล้ว จะแต่งหรือไม่แต่งก็ได้ เพราะในทางกฎหมายหรือทางปฏิบัติ ครอบครัวเราและครอบครัวแฟนเรา ต่างก็รับรู้ว่าเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว แค่อยากทำให้ถูกต้องตามประเพณี

แต่ปัญหาบังเกิด เมื่อแม่เรากับแม่แฟนมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องเงินสินสอด สิ่งที่เรากำลังกลัวคือ เมื่อถึงวันที่แม่แฟนเรามาคุยกับแม่เรา เรากลัวว่าจะตกลงกันไม่ได้ และจะทะเลาะกัน (เรามโนไปเอง เพราะรู้ว่านิสัยของแม่เรา และแม่แฟนเราเหมือนกันอย่างนึงคือ หัวแข็ง เชื่อความคิดตัวเองไม่ค่อยฟังใคร)ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก และกังวลกับเหตุการณ์ในภายหน้า แฟนเราบอกว่าอย่าคิดมาก ให้อยู่เฉยๆ ให้ผู้ใหญ่มาคุยเองเค้าอาจจะตกลงกันได้  และถ้าเกิดมีปัญหาจริงๆ ค่อยหาทางแก้ไขอีกที
เม่าเหม่อ

เลยอยากขอความเห็น และคำแนะนำ ว่าเราควรทำยังไงดี ควรบอกกับแม่ก่อนมั้ยว่าแม่แฟนพูดว่าไง (แต่กลัว Feedback ที่ไม่ดี) หรือว่า เราควรอยู่เฉยๆ รอให้ผู้ใหญ่มาตกลงกันเอง เผื่อเคลียร์กันได้ ตอนนี้เครียดและกังวลใจมากๆๆๆ อมยิ้ม14
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ไม่ต้องบอกว่าแม่แฟนพูดอะไรเด้ดขาด
มองระยะยาวถ้าเริ่มต้น หมิ่นเหม่กันเด่วไปต่อไม่ได้
หน้าที่คุณต้องพูดกับแม่ คุณกับแฟนจดทะเบียนแล้ว
การเลียงงานแต่งเป็นการให้เกียรติบ้านผู้หญิง
แฟนคุณเป็นคนใจดีมากเลยนะคะ คุณรู้ไหม
เป็นคนไม่คิดมากด้วย ถ้าคิดมาก และ งก
คงไม่ยอมจ่ายค่าบ้านครึ่งนึงทุกเดือน
แต่ให้ แม่ และ ครอบครัวพี่ชายคุณเข้ามาอยู่ฟรีๆ หรอกนะ
เอาตรงนี้ไปบอกแม่ด้วย
ลูกจะแต่งงานสร้างครอบครัวอยากให้แม่มองตรงนี้มีความสุขและส่งเสริมลูกด้วย
ความคิดเห็นที่ 10
เอาจริงๆ.... เขาไม่ควรจะต้องจ่ายเงินหลักแสนเป็นค่าสินสอดด้วยซ้ำไป....

ก็ในเมื่อบ้านที่แม่ของคุณอยู่ในตอนนี้ อย่าลืมว่าครึ่งหนึ่งมันคือเงินของเขา....
แต่เขากลับไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้....

ลองสมมติดูละกัน.... สมมติว่าแม่คุณเช่าบ้านนี้อยู่เดือนละ 1 หมื่น (เท่ากับจ่ายให้แฟนคุณเดือนละ 5 พัน จ่ายให้คุณ 5 พัน)
ซื้อบ้านมา 2 ปีละ... ก็ 24 เดือน... คิดเป็นเงิน 24 x 5000 = 120,000 บาท ละ... นั่นคือส่วนที่เขาควรจะได้ แต่เขาก็ไม่ได้.... ไม่เคยคิดเงิน...

อีกอย่าง.... คุณจดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว.... ถือเป็นสามี-ภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว....
ถ้าเขาอยากจะจัดงานเพื่อเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง แต่แม่ของคุณยังเรื่องเยอะแบบนี้.... อยากได้โน่นนี่นั่น....
งั้นไม่ต้องแต่งก็ได้ครับ.... มันไม่ได้มีผลอะไรกับสถานภาพการสมรสของคุณทั้งสองคนอยู่แล้ว....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่