สวัสดีค่ะ
เข้าเรื่องเลย คือเรากะแฟนคบกันมา ก้ เกือบ 7 ปีแล้วค่ะ แล้วคุยกันตั้งแต่ปีที่แล้วว่าจะแต่งงาน
แล้วปีนี้ กลางปี เค้าก็มาขอ แล้วแม่แฟนก็ทราบนะคะ ไปดูฤกษ์กะ หมอคนนึงที่เราสนิท เค้าก็บอกว่า ช่วงมกรานี้ละ ปีหน้า แต่ง
เดี๋ยวแกจะบอกวันอีกครั้ง ซึ่งแม่แฟนก็รับรู้นะ ว่าช่วงต้นปีหน้า แกรู้มาตลอด
แล้วพอมาเมื่อต้นเดือน เราไปหาหมอคนนี้เค้าก็บอกว่าเค้าดูวันแล้วนะ ช่วง ก.พ.ปีหน้า
เราก็เลยโอเค ไปบอกเค้าให้ไปบอกแม่ สรุปคือ แม่บอก แม่ไม่พร้อม โดยไม่มีเหตุผลว่า ไม่พร้อมเรื่องอะไร
เค้ามาบ้านเราบอกว่า เค้าตกลง กันแล้วนะ เค้าไม่พร้อม เค้าพร้อมให้แต่ง ประมาณเดือน ก.ค. ปีหน้า
ถ้าแต่งเดือน ก.พ. พ่อแฟนจะไม่มา แต่แม่เค้าว่า แต่โอเคนะคะ แล้วแต่เลย แต่ไม่ต้องกังวล พ่อเค้าเป็นแบบนี้
ถามว่า ใครมันจะไปอยากแต่ง เค้าเหมือนมาบังคับเราว่า ต้องโอเคนะ
แต่เราคิดว่า ทำไมวะ ทำไม มีคำถามในหัวเรามากมาย
ซึ่ง แม่เค้า เป็นแม่ค้า ที่พูดไม่ค่อยคิดอะค่ะ ชอบพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเราหลายครั้ง เราก็ไม่เคยตอบโต้อะไรนะคะ
ซึ่งเรากะแฟนเนี่ย ซื้อบ้านแล้ว (ซึ่งตอนซื้อบ้าน แม่เค้าก็เอาเงินที่แฟนเราเก็บแต่งงานไปดาวน์บ้านซะครึ่งนึง และ ตั้งใจจะไม่ยอมให้เรากู้ร่วม)
แล้วเคยพูดกะคนอื่นว่า บ้านหลังนี้ ลูกเค้าอยู่คนเดียว ในขณะที่ เราก็ซื้อของช่วยเข้าไปในบ้านหลังนี้พอสมควรแล้ว แม่เราซื้อของเข้าไปให้ เฟอร์นิเจอร์ ติดผ้าม่านไรงี้
ซื้อทอง ซื้อแหวน (เรากะแฟนเก็บเงินกันซื้อ) เตรียมแล้วค่ะ งานแต่ง แม่เราบอกจัดการเองทุกอย่าง ฝ่ายเราจัดการค่ะ ทุกอย่างกำลังจะเริ่มเตรียม แต่ว่า ก็ต้องมาหยุดแบบนี้ ส่วนนึงผิดที่แฟนเราค่ะ เป็นคนไม่หนักแน่น ไม่ยอมเคลียร์กะแม่ตัวเอง
พอผ่านเรื่องนี้มา เราก็เครียดมากแม่เราก็ไม่โอเค เราก้ไม่โอเค แม่ก็มากดดันเราค่ะ และ คำถามนึงวันที่เค้ามาที่บ้านเราว่ามาเคลียร์เรื่องนี้เค้าพูดออกมาว่า
"ทำไม กลัวว่า แฟนเราจะหลุดหรือไปมีคนอื่น" อะไรประมาณนี้อะค่ะ แม่แฟนเราพูด
เราขึ้นเลยแต่ก็พูดหน้านิ่งๆว่า เปล่าค่ะ ไม่เคยกลัว
ตอนนี้ เรากะแฟน ก้ปกติ แต่ความรุ้สึกเรากลับแบบ ชา อะ รู้สึกไม่เหมือนเดิม ถามว่ารัก ก็รักนะ แต่ไม่เหมือนเดิม
น้อยลงกว่าเดิม
เราผิดไหม ทีรู้สึกแบบนี้ เราเห็นแก่ตัวไปมั้ย
เราขอเพิ่มเติมเรื่องแฟนเรานะคะ
แฟนเราตอนแรก เค้าก็ โอเคกับเราค่ะ เดือน ก.พ. แล้วคือ พอสักพัก เค้าก็ตามแม่เค้าค่ะ
เค้าว่าทำไม ต่างฝ่ายจะเอาอย่างงั้น อย่างงี้ เค้าปวดหัวค่ะ (นี่คือนิสัยเสียของมันคือชอบหนีปัญหา)
คือเราเป็นคนกลาง ที่พ่อแม่ไม่ได้ถามเลยว่าเรารู้สึกยังไง แต่พ่อเราพูดกะแม่เค้าไปคำนึงว่า พ่อแม่น่ะคนนอกนะ คนแต่งคือลูก
ควรคิดถึงลูกเยอะๆ
เราบอกเลิกแฟนเราแล้วนะคะ คือครั้งนี้เป็นครั้งที่ตัดสินใจจริงจังเลย แฟนเราก็ตกลงด้วยอารมณ์นะคะ
แต่พอสักพักเค้าบอกเราว่า ทนอีกนิดได้มั้ย เดี๋ยวก็แต่ง แล้วอยู่คนละที่กัน เด่วแม่ก็จะไม่มายุ่ง
แต่เรานิ เห้อ จริงเหรออออ
**เพิ่มเติมค่ะ
เราขอบคุณทุกความเห็น ทุกคนมากเลยนะคะ เราอ่านทุกความเห็นค่ะ น้อมรับทุกความเห็นนะคะ เราไม่ได้หวังว่าเราจะเจอแต่ความเห็นเข้าข้างเราหรือยังไง ที่เรามาเล่าเพราะเราอึดอัดใจจริงๆ เหมือนบางความเห็นว่า เราสะสมความไม่พอใจมานาน มันไม่ใช่แค่เรื่องนี้หรอกค่ะ
บางคนอาจเห็นเราเป็นผู้หญิงบ้าบอ เป็นบุญของแฟนเราบ้างล่ะ ค่ะ เราเข้าใจ แต่เราอยากจะอธิบายว่า กับคำถามขอตอบดังนี้
1.ทำไมเลื่อนไป รอไม่ได้เหรอ
ตอบ รอได้ค่ะ เราเริ่มเฉยๆ เราคิดว่ามันจะได้กรองคนคนนี้ไปด้วยว่าเราจะไหวจริงหรือเปล่า
2. เชื่อหมอดูขนาดนั้นเลยเหรอ
ตอบ ไม่ขนาดนั้น แต่ก็เชื่อ คือเราสามารถไปหาฤกษ์ใหม่ได้ค่ะ อันนี้เราไม่ซี แต่เราเสียความรู้สึก กับการกระทำ และคำพูดเค้าที่ว่า เค้าตกลงกันมาแบบนี้นะ ฉันเป็นของชั้นอย่างงี้ อืม แล้วก็คือยังไง ไม่ถามเราเลย อะไรงี้
3. ไม่มีการพูดคุยกันก่อนเลยเหรอว่าตกลงกันยังไง
ตอบ พูดคุยกันแล้วค่ะ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า ต้นปีหน้านะ เพราะตอนมาขอก็คุยกันแล้วว่า สินสอดเท่าไร เรากะแฟนต้องเตรียมซื้ออะไรเองบ้าง งานแต่ง ทางเราจัดการ ไม่มีทางที่เค้าจะไม่รู้ค่ะ แต่เค้าก็พลิกลิ้นเอาแบบนี้
4.การที่พ่อแฟนไม่สะดวกมา ทำไมเราไม่เข้าใจละ ถ้าเป็นพ่อแม่เราไม่ว่างบ้าง
ตอบ พ่อแฟนไม่ใช่ไม่ว่างนะคะ คือ ว่างมาก แต่จะไม่มา ถ้าเราแต่งในช่วงเวลาที่เค้าไม่พอใจอะค่ะ ตามนั้น
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ให้กำลังใจ และที่ให้คำแนะนำนะคะ ไม่เคยคิดเรยว่าจะมีคนตอบมากขนาดนี้ ขอบพระคุณมากจริงๆค่ะ
ที่บ้านแฟนเลื่อนกำหนดการแต่งงานออกไป เราไม่โอเค เราเลิกผิดไหมคะ ??
เข้าเรื่องเลย คือเรากะแฟนคบกันมา ก้ เกือบ 7 ปีแล้วค่ะ แล้วคุยกันตั้งแต่ปีที่แล้วว่าจะแต่งงาน
แล้วปีนี้ กลางปี เค้าก็มาขอ แล้วแม่แฟนก็ทราบนะคะ ไปดูฤกษ์กะ หมอคนนึงที่เราสนิท เค้าก็บอกว่า ช่วงมกรานี้ละ ปีหน้า แต่ง
เดี๋ยวแกจะบอกวันอีกครั้ง ซึ่งแม่แฟนก็รับรู้นะ ว่าช่วงต้นปีหน้า แกรู้มาตลอด
แล้วพอมาเมื่อต้นเดือน เราไปหาหมอคนนี้เค้าก็บอกว่าเค้าดูวันแล้วนะ ช่วง ก.พ.ปีหน้า
เราก็เลยโอเค ไปบอกเค้าให้ไปบอกแม่ สรุปคือ แม่บอก แม่ไม่พร้อม โดยไม่มีเหตุผลว่า ไม่พร้อมเรื่องอะไร
เค้ามาบ้านเราบอกว่า เค้าตกลง กันแล้วนะ เค้าไม่พร้อม เค้าพร้อมให้แต่ง ประมาณเดือน ก.ค. ปีหน้า
ถ้าแต่งเดือน ก.พ. พ่อแฟนจะไม่มา แต่แม่เค้าว่า แต่โอเคนะคะ แล้วแต่เลย แต่ไม่ต้องกังวล พ่อเค้าเป็นแบบนี้
ถามว่า ใครมันจะไปอยากแต่ง เค้าเหมือนมาบังคับเราว่า ต้องโอเคนะ
แต่เราคิดว่า ทำไมวะ ทำไม มีคำถามในหัวเรามากมาย
ซึ่ง แม่เค้า เป็นแม่ค้า ที่พูดไม่ค่อยคิดอะค่ะ ชอบพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเราหลายครั้ง เราก็ไม่เคยตอบโต้อะไรนะคะ
ซึ่งเรากะแฟนเนี่ย ซื้อบ้านแล้ว (ซึ่งตอนซื้อบ้าน แม่เค้าก็เอาเงินที่แฟนเราเก็บแต่งงานไปดาวน์บ้านซะครึ่งนึง และ ตั้งใจจะไม่ยอมให้เรากู้ร่วม)
แล้วเคยพูดกะคนอื่นว่า บ้านหลังนี้ ลูกเค้าอยู่คนเดียว ในขณะที่ เราก็ซื้อของช่วยเข้าไปในบ้านหลังนี้พอสมควรแล้ว แม่เราซื้อของเข้าไปให้ เฟอร์นิเจอร์ ติดผ้าม่านไรงี้
ซื้อทอง ซื้อแหวน (เรากะแฟนเก็บเงินกันซื้อ) เตรียมแล้วค่ะ งานแต่ง แม่เราบอกจัดการเองทุกอย่าง ฝ่ายเราจัดการค่ะ ทุกอย่างกำลังจะเริ่มเตรียม แต่ว่า ก็ต้องมาหยุดแบบนี้ ส่วนนึงผิดที่แฟนเราค่ะ เป็นคนไม่หนักแน่น ไม่ยอมเคลียร์กะแม่ตัวเอง
พอผ่านเรื่องนี้มา เราก็เครียดมากแม่เราก็ไม่โอเค เราก้ไม่โอเค แม่ก็มากดดันเราค่ะ และ คำถามนึงวันที่เค้ามาที่บ้านเราว่ามาเคลียร์เรื่องนี้เค้าพูดออกมาว่า
"ทำไม กลัวว่า แฟนเราจะหลุดหรือไปมีคนอื่น" อะไรประมาณนี้อะค่ะ แม่แฟนเราพูด
เราขึ้นเลยแต่ก็พูดหน้านิ่งๆว่า เปล่าค่ะ ไม่เคยกลัว
ตอนนี้ เรากะแฟน ก้ปกติ แต่ความรุ้สึกเรากลับแบบ ชา อะ รู้สึกไม่เหมือนเดิม ถามว่ารัก ก็รักนะ แต่ไม่เหมือนเดิม
น้อยลงกว่าเดิม
เราผิดไหม ทีรู้สึกแบบนี้ เราเห็นแก่ตัวไปมั้ย
เราขอเพิ่มเติมเรื่องแฟนเรานะคะ
แฟนเราตอนแรก เค้าก็ โอเคกับเราค่ะ เดือน ก.พ. แล้วคือ พอสักพัก เค้าก็ตามแม่เค้าค่ะ
เค้าว่าทำไม ต่างฝ่ายจะเอาอย่างงั้น อย่างงี้ เค้าปวดหัวค่ะ (นี่คือนิสัยเสียของมันคือชอบหนีปัญหา)
คือเราเป็นคนกลาง ที่พ่อแม่ไม่ได้ถามเลยว่าเรารู้สึกยังไง แต่พ่อเราพูดกะแม่เค้าไปคำนึงว่า พ่อแม่น่ะคนนอกนะ คนแต่งคือลูก
ควรคิดถึงลูกเยอะๆ
เราบอกเลิกแฟนเราแล้วนะคะ คือครั้งนี้เป็นครั้งที่ตัดสินใจจริงจังเลย แฟนเราก็ตกลงด้วยอารมณ์นะคะ
แต่พอสักพักเค้าบอกเราว่า ทนอีกนิดได้มั้ย เดี๋ยวก็แต่ง แล้วอยู่คนละที่กัน เด่วแม่ก็จะไม่มายุ่ง
แต่เรานิ เห้อ จริงเหรออออ
**เพิ่มเติมค่ะ
เราขอบคุณทุกความเห็น ทุกคนมากเลยนะคะ เราอ่านทุกความเห็นค่ะ น้อมรับทุกความเห็นนะคะ เราไม่ได้หวังว่าเราจะเจอแต่ความเห็นเข้าข้างเราหรือยังไง ที่เรามาเล่าเพราะเราอึดอัดใจจริงๆ เหมือนบางความเห็นว่า เราสะสมความไม่พอใจมานาน มันไม่ใช่แค่เรื่องนี้หรอกค่ะ
บางคนอาจเห็นเราเป็นผู้หญิงบ้าบอ เป็นบุญของแฟนเราบ้างล่ะ ค่ะ เราเข้าใจ แต่เราอยากจะอธิบายว่า กับคำถามขอตอบดังนี้
1.ทำไมเลื่อนไป รอไม่ได้เหรอ
ตอบ รอได้ค่ะ เราเริ่มเฉยๆ เราคิดว่ามันจะได้กรองคนคนนี้ไปด้วยว่าเราจะไหวจริงหรือเปล่า
2. เชื่อหมอดูขนาดนั้นเลยเหรอ
ตอบ ไม่ขนาดนั้น แต่ก็เชื่อ คือเราสามารถไปหาฤกษ์ใหม่ได้ค่ะ อันนี้เราไม่ซี แต่เราเสียความรู้สึก กับการกระทำ และคำพูดเค้าที่ว่า เค้าตกลงกันมาแบบนี้นะ ฉันเป็นของชั้นอย่างงี้ อืม แล้วก็คือยังไง ไม่ถามเราเลย อะไรงี้
3. ไม่มีการพูดคุยกันก่อนเลยเหรอว่าตกลงกันยังไง
ตอบ พูดคุยกันแล้วค่ะ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า ต้นปีหน้านะ เพราะตอนมาขอก็คุยกันแล้วว่า สินสอดเท่าไร เรากะแฟนต้องเตรียมซื้ออะไรเองบ้าง งานแต่ง ทางเราจัดการ ไม่มีทางที่เค้าจะไม่รู้ค่ะ แต่เค้าก็พลิกลิ้นเอาแบบนี้
4.การที่พ่อแฟนไม่สะดวกมา ทำไมเราไม่เข้าใจละ ถ้าเป็นพ่อแม่เราไม่ว่างบ้าง
ตอบ พ่อแฟนไม่ใช่ไม่ว่างนะคะ คือ ว่างมาก แต่จะไม่มา ถ้าเราแต่งในช่วงเวลาที่เค้าไม่พอใจอะค่ะ ตามนั้น
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ให้กำลังใจ และที่ให้คำแนะนำนะคะ ไม่เคยคิดเรยว่าจะมีคนตอบมากขนาดนี้ ขอบพระคุณมากจริงๆค่ะ