พ่อแม่แฟน ไม่อยากให้จัดงานหมั้น และงานแต่ง ให้ไปจดทะเบียนเลย เค้ารับเป็นสะใภ้ค่ะ

เรากับแฟนพร้อมแล้ว มีบ้านแล้ว จึงอยากจะมีงานแต่งงานเสียที ทีนี้แฟนเลยมาคุยกับที่บ้านเราเรื่องการสู่ขอ สินสอด จากนั้นพ่อแม่แฟนก็แวะมาคุยเรื่องนี้กับเราที่บ้าน2-3อาทิตย์หลังจากนั้น ถามเรื่องจะจัดงานยังไงที่ไหน สินสอดจะเอาเท่าไหร่ แม่เราบอกเลยว่าให้มาแบบสมน้ำสมเนื้อ แต่จะคืนให้หมดเมื่อเสร็จงาน เพราะรู้ว่าแฟนก็มีภาระเรื่องบ้านอยู่

ทีนี้เรากำหนดฤกษ์สะดวกกันไปแล้วว่าจะหมั้นก่อน ส่วนงานเลี้ยงค่อยไปปลายปี แต่เมื่อครอบครัวฝ่ายชายกลับบ้าน ทางฝ่ายชายที่ตอนแรกบอกยังไงก็ได้ เอาตามทางเรากำหนด กลับเปลี่ยนใจเพราะวันที่เราให้ไปมันไม่ดีตามธรรมเนียมจีน ทีนี้เค้าหาวันธรรมดามาให้ ซึ่งเราไม่สะดวกอยู่แล้ว เราไม่โอเคกันเลย ปากเสียงก็เลยเริ่มจะเกิดขึ้น

แฟนเราเลยไปหาวันใหม่ แล้วไปคุยกับครอบครัวเค้า จากนั้นเอาวันมาแจ้งฝั่งเรา ฝั่งเราไม่โอเคเพราะว่าธรรมเนียมไทยไม่นิยมแต่งเดือนคี่ แม่เลยขอเบอร์ครอบครัวฝ่ายชายเพื่อสอบถามว่าใครกำหนดวัน เป็นการเลือกวันตามแบบจีนหรือยังไง เรื่องเลยเกิดจากจุดนี้

แม่แฟนคุยกับแม่เรา บอกว่าไม่ต้องมีงานอะไรก็ได้ เค้ารับเราเป็นสะใภ้ แต่เราต้องไปยกน้ำชา และเวลามีเชงเม้งต้องไปกับครอบครัวเค้า แล้วก็บอกอีกว่าจะทำพิธีขอขมาให้ เพราะว่าอะไรๆมันก็เสียหายไปแล้ว คือแม่เราอึ้งค่ะ ไปไม่เป็นเลย ... แต่ที่อึ้งกว่าคือเราเอาเรื่องนี้ไปบอกแฟนว่าแม่เธอพูดแบบนี้นะ เราเสียใจ ครอบครัวเธอก็มีลูกสาวนะ คิดถึงใจเขาใจเราบ้าง แฟนเราก็เสียงเปลี่ยน บอกว่าจะโทรไปเคลียร์กับที่บ้าน และบอกเราว่าเรื่องนี้แม่เค้าพูดกับเค้าแล้ว ซึ่งเค้าเองก็ไม่เห็นด้วยที่จะบอกแบบนั้น

ขนาดแฟนเราทักแล้วนะ ยังพูดออกมา มันแสดงถึงอะไรในจิตใจ เราโคตรเสียใจบอกตรงๆ

...ไม่ว่าเรากับแฟนจะมีหอะไรกันก่อนแต่งงานหรือเปล่า?  แต่สิ่งนั้น..มันทำให้ค่าของผู้หญิงคนนึงตกต่ำลงขนาดนั้นเชียวหรือ? หรือเป็นเพียงแค่ว่าครอบครัวอีกฝ่ายเห็นแก่ตัวเกินไป ไม่อยากเสียเงิน

เราเสียใจนะ เราแทบอยากจะเลิกกับแฟน แต่เราก็คิดแล้วว่าเรารักแฟนเรามากจริงๆ ยังไงก็คงไม่เลิกกัน

อยากแก้ปัญหาให้วินวินทั้งสองฝ่าย ใครเลยประสบปัญหาแบบเราบ้าง ช่วยแนะนำวิธีคิดให้เราหน่อยสิคะ ขอบคุณค่ะ

# งานแต่ง งานหมั้น เราจ่ายกันเองค่ะ น่าจะมีแค่สินสอดล่ะมั้งที่แฟนยังไม่มีเงินเก็บเท่าที่แม่เราขอไป ตรงจุดนี้เลยอาจไปกระทบกับครอบครัวแฟน เพราะคงจะให้ยืมกัน แต่กลัวแม่เราไม่คืน ซึ่งแม่เราคืนชัวร์ แต่ก็นะ ใจเขาใจเรา
## เรากับแฟน ยืนยันว่ายังไงก็ต้องมีงานค่ะ
### ครอบครัวแฟนไม่อยากให้มีงานเลย เคยพูดเปรยๆมาเมื่อสองสามปีก่อน ว่าย้ายเข้ามาบ้านเลยก็ได้ ไม่ให้เกียรติกันเกินไปนะคะ ปล.เราไม่ได้อยู่กันก่อนแต่งค่ะ อยู่บ้านใครบ้านมัน แต่จะแต่งเพื่อแยกมาอยู่บ้านที่ซื้ออยู่ด้วยกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
แฟนก็มีภาระเรื่องบ้านอยู่

มันสำคัญตรงนี้ พ่อแม่แฟนเขามองตามประสบการณ์ก็คิดว่าจะสร้างภาระหนี้สินเพิ่มในเวลานี้ เขาอาจจะคิดว่ายอมรับคุณแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีงานนี้

เราไม่คิดว่าพ่อแม่แฟนคุณจะเห็นแก่ตัว ... เขามองคนละมุมกับที่คุณมองอยู่เท่านั้น

เขาอาจมีความคิดสมัยใหม่ ไม่ได้ยึดติดในเรื่องแต่งงานแต่งการก็ได้ ขอเพียงคนรักกัน อยู่ด้วยกัน บางครอบครัวเขาเป็นแบบนั้นแต่คุณไม่ชิน

แต่ถ้าคุณยังดึงดันว่าต้องแต่งนะถือเป็นหน้าตาทางสังคมในวัฒนธรรมแบบไทยๆลูกสาวออกเรือนต้องแต่งงานให้โลกรู้ ... คุณก็ต้องหาเงินทองมาจัดแต่งกันเองโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับพ่อแม่แต่ละฝ่ายแล้วล่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
ถามแม่เค้าไปเลยว่าอะไรเสียหาย ถ้าการที่คุณมีอะไรกับแฟนคุณก่อนแต่งคือเสียหาย ก็ช่างบ้านเค้า เป็นเรา เราไม่แต่งแล้ว เพราะไม่ให้เกียรติกัน  
คือถ้ามองว่าเรื่องนี้เสียหาย แล้วถ้าอยู่ด้วยกันไปอีก ถือว่าเสียหายมากขึ้นอีกมั้ย ยังไงก็ต้องมีอะไรกันอยู่แล้ว
ถ้าก่อนแต่งคือเสียหาย หลังแต่งจะมองยังไงว่าไม่เสียหาย ถ้ามองว่าแบบนี้คือเสียหาย

ก่อนเลิกกะแฟน ขอตบปากแม่แฟนด้วยทีนึงนะ อ้อ แล้วถ้าเป็นไปได้ ขอตบปากแฟนด้วยทีนึง ของแบบนี้กินในที่ลับไขที่แจ้ง สมควรไหม

ปล. แม่ใครใครก็รัก ขืนแม่แฟนมาพูดแบบนี้กะแม่เรา มรุ งตายยยยย
ถึงเราจะรักแฟน แต่เราก็รักแม่เรามากกว่า อย่าได้กล้ามาเสนอหน้าพูดจาแบบนี้กะแม่เรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่