เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 6

ความเดิม
...หากค้นดูกระทู้เก่าของผม ผมไม่นึกเลยว่าจะกลายมาเป็นคนที่มีความเห็นตรงกันข้ามกับวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ครั้งรัฐบาลเก่าที่ให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานออกคำสั่งให้ครูทั่วประเทศเข้าอบรมธรรมะกับวัดพระธรรมกาย ครั้งนั้นผมไม่ไปเข้าการอบรม และด้วยความแค้นใจไปเปลี่ยนบัตรประชาชนใหม่แบบไม่ระบุศาสนาเพื่อว่าหากผมถูก สพฐ. หรือหน่วยงานเหนือขึ้นไปบังคับไปอบรมกับลัทธิธรรมกายอีกจะได้แสดงหลักฐานว่าผมไม่ได้ระบุศาสนาไว้ในกฎหมาย ผมจึงกลายเป็นคนต่อต้านลัทธิธรรมกายนับตั้งแต่วันนั้นมา   และแล้วจนเล่าผมก็หนีไม่พ้น ภายในปีเดียวกัน ผมเจอสาวคบเป็นแฟนกันอย่างจริงจัง หลายคนอาจมีความรู้สึกว่ากระทู้ผมเป็นกระทู้แต่งขึ้นอย่างไม่น่าเป็นจริงไปได้
ในกระทู้...
“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย"  (ตอนที่ 1)

http://ppantip.com/topic/31958312

“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 2”

http://ppantip.com/topic/34486064

“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 3”

http://ppantip.com/topic/34708422

“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 4”

http://ppantip.com/topic/35066582

“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 5”

http://ppantip.com/topic/35231836
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
  (  ในกระทู้ก่อนๆ นั้นมีผู้ติงผมว่า เป็นการไม่ให้เกียรติกับแฟนของผม ผมต้องขอขอบพระคุณที่มีการตักเตือนผมไว้ แต่ผมขอกล่าวถึงเจตนาที่อาจแสดงถึงความรักที่เป็นสิ่งเชื่อมต่อระหว่างคนสองคน คนหนึ่งพุทธดั้งเดิมกับอีกคนหนึ่งอยู่ในลัทธิที่เกิดขึ้นใหม่บนความขัดแย้งมาเป็นเวลานาน  เรื่องราวระหว่างผมและแฟนต้องการสะท้อนความรู้สึกภายใน ไม่อยากให้อยู่บนความเกลียดชัง  ควรเป็นท่าทีที่ต้องการรักษาพระธรรมวินัย แสดงให้เห็นถึงเนื้อหาของพุทธเถรวาทให้ชัดเจนกับอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล)

...สาเหตุที่ช่วงนี้ผมมาเขียนตอนต่อๆ มา ไม่ใช่จะมาฉวยโอกาสตอนที่ทางวัดพระธรรมกายเกิดคดีความ แต่เพราะผลกระทบที่เข้ามาทางแฟนของผมและครอบครัวเครือญาติทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ เช่น สักสองเดือนที่แล้ว ช่วงที่วัดพระธรรมกายเริ่มเกิดเรื่องราว มีพระรูปหนึ่งจะเดินทางที่บ้านแฟนของผมในช่วงหัวค่ำ ซึ่งแฟนของผมอยู่กับแม่ที่บ้าน แฟนผมบอกล่วงหน้าว่าอีกสักพักจะมีพระจากวัดพระธรรมกายมา ให้ผมอยู่แต่ในห้องไม่ให้ออกมา  ผมก็โอเค  (ช่วงที่ผมรู้จักเธอและมาบ้านของเธอได้มีโอกาสพาเธอและแม่ไปตลาดบ่อยๆ เพื่อโอนเงินให้กับพระวัดธรรมกาย หลังจากที่มีโทรศัพท์มาจากพระวัดพระธรรมกายมาแทบทุกครั้ง ก็จะไปโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มในตลาด ห่างจากบ้านสักสิบกว่ากิโลเมตร)

....สิ่งที่ผมรู้สึกก็คือ ทางวัดพระะรรมกายเหมือนจะมีการแบ่งสายกันเพื่อเชื่อมต่อกันกับญาติโยมหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ เพราะจะมีการโทรมาหาแม่ของแฟนผมบ่อยๆ จนผมจำชื่อพระท่านนี้ได้  ผมได้ยินแต่เสียงอยู่ข้างนอกห้องก็ไม่ได้ตั้งใจฟังสักเท่าไร น่าจะมีผู้ติดตามมาอีกสักสองสามคน ฟังแล้วมีความคุ้นเคยกันมาก ในส่วนรับแขกของบ้านแฟนผมจัดเป็นโซน "บ้านกัลยาณมิตร" มีรูปถ่ายและรูปหล่อหลวงพ่อสดประดับไว้อย่างสวยงาม หลังจากพระและคณะกลับแล้ว ผมก็ออกไปนอกห้อง เห็นเอกสารเผยแพร่ของวัดพระธรรมกายคล้ายๆ หนังสือพิมพ์ย่อส่วน วางอยู่ที่โต๊ะ เนื้อหาชี้แจงข้อโจมตีต่างๆ ผมไม่ได้อ่านเพราะผมติดตามข่าวทวิตเตอร์ และจากเพจ และช่องทีวีต่างๆ  เป็นหัวข้อที่ผมคุ้นเคยแล้ว  ผมนึกถึงที่สื่อมวลชนใช้คำว่า "ยุทธศาสตร์ดาวกระจาย" ขึ้นมาทันที หากเป็นจริงต้องยอมรับครับว่าวัดพระธรรมกายมีระบบเชื่อมต่อกับญาติโยมแบบดีเยี่ยม ทั้งเรื่องการบอกบุญและการส่งข่าวเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญของทางวัด และด้วยตอนนี้อาจเป็นช่วงที่วัดพระธรรมกายถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องที่อาจทำให้ญาติโยมเสื่อมศรัทธาลง จึงเกิดการเยี่ยมเยียนถึงบ้าน (อันนี้ผมคิดมากไปหรือเปล่าไม่รู้ครับ)

...สักตอนเช้าแฟนผมถามผมว่า "เคยได้ยินข่าวลือไหมว่าหลวงพ่อถูกวางยา?" ผมตอบว่า "ไม่เคยได้ยิน" เธอบอกว่าหลายปีมาแล้ว หลังจากที่เธอถาม ผมจึงได้มาหาเรื่องราวเพิ่มเติมจากในอินเทอร์เน็ต ผมไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรอันนี้ผมไม่คอมเม้น

...ผมจำได้ว่าตอนคบกับแฟนใหม่ๆ เคยคุยกับเธอว่า การที่พระรับเงินรับทอง ในพระวินัยปรับอาบัติไว้เป็น "นิสัคคียปาจิตตีย์" หากรับเพื่อตนเอง แต่หากรับเพื่อส่วนรวมก็ยังเป็น "อาบัติทุกกฏ" อยู่ดี (ผมเคยเอาพระบัญญัติเรื่องการรับเงินรับทองจากพระไตรปิฎกให้เธอดู) เธอก็ชักเริ่มรู้สึกอึดอัดใจเวลาแม่ของเธอโอนเงินให้กับพระวัดพระธรรมกาย แต่เพราะไม่อยากขัดใจแม่ของเธอ แต่เห็นแฟนผมชักเริ่มหงุดหงิด อันนี้ผมรับรู้ว่า เธอยอมรับพระบัญญัติเรื่องรับเงินรับทองที่ผมเคยแสดงให้เห็นแล้ว  และยังเคยคุยต่อว่าหากอยากทำบุญด้วยเงินให้ไปให้กับคนวัด หรือกรรมการวัดเลย อย่าให้พระมารับให้ต้องอาบัติ แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปอีก (ผมว่าวัดเกือบทั่วประเทศก็ยังละเมิดพระบัญญัติ การที่ภิกษุรับเงินรับทอง)

...ผมเคยคุยกับแฟนผมเรื่องการศึกษา การอ่านพระไตรปิฎก เธอบ่นว่าอ่านแล้วสำนวนเข้าใจยาก  (เธอเคยไปถือศิลแปดที่วัดพระธรรมกายเป็นปีน่ะครับ และยังเป็นอาสาสมัครหาคนระแวกบ้านไปบวชที่วัดพระธรรมกาย และเธอยังเคยคุยอย่างภาคภูมิใจว่าคนที่เธอหาไปบวชบางคนยังไม่สึกก็มี) เธอเคยพูดกับผมว่า "จะแน่ใจอย่างไรว่าพระไตรปิฎกสมบูรณ์" ผมไม่รู้ว่าเธอไปเอาความคิดมาจากไหน จะเกี่ยวโยงไปถึงเนื้อหาที่วัดพระธรรมกายสอนหรือเปล่า เพราะหลายเรื่องไม่มีในพระไตรปิฎก

...สำหรับเรื่องพระไตรปิฎกนี้แม้แต่ผมเอง บางสูตรก็เข้าใจยากมากครับ จนต้องหาถามผู้เข้าใจอธิบายให้ฟัง แต่สำหรับผมแล้วขอศึกษาไปเรื่อยๆ ให้ถ่องแท้อย่างสุดความสามารถ  เหตุผลประการหนึ่งก็คือ ช่องว่างตรงนี้แหละครับ ช่องว่างคนที่ไม่เข้าใจเนื้อแท้ของพุทธเถรวาท ทำให้ชาวพุทธหลงผิดทางไปกับลัทธิต่างๆ มากมาย เป็นช่องว่างที่ทำให้ลัทธิต่างๆ สอดแทรกเข้ามาให้เห็นว่าเป็นเนื้อแท้ ยิ่งผมเห็นแฟนผมเข้าใจไขว้เขวกับพุทธเถรวาทหลายเรื่องจนเป็นนับถือลัทธิ ทำให้ผมยิ่งเกิดแรงอยากอยากเข้าสู่แก่นแท้ของพุทธเถรวาทมากขึ้นไปอีก

...เพราะด้วยความเมตตา ด้วยความรักระหว่างกัน สุดแท้แต่ใจของแต่ละคนจะศรัทธาต่อศาสนา ความเชื่อใดๆ เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพ ต่างศาสนาเขายังอยู่กันได้

...จากการที่ผมเคยแสดงเนื้อหาสำคัญในพระไตรปิฎกให้แฟนผมรู้หลายครั้ง ทำให้ผมนึกข้อคิดอะไรได้อย่างหนึ่งครับว่า...

"คนพุทธที่เขาไปนับถือลัทธิที่เกิดใหม่ ใช่ว่าหากเราไปแสดงเนื้อแท้ของพุทธเถรวาทให้เห็นแล้ว เขาจะกลับมาคิดตรงเห็นตรงปฏิบัติตามเนื้อแท้นะครับ อาจเป็นไปได้ยาก มันไม่ใช่ครับ
อย่าลืมว่า คนพุทธที่เขาไปศรัทธาลัทธิที่เกิดใหม่นั้นๆ โง่หรือฉลาดอาจตัดสินไม่ได้
...แต่อาจเพราะว่าเขาอาจชอบรูปแบบ ชอบคำสอน ชอบแนวทาง ชอบวิธีปฏิบัติของลัทธิที่เกิดใหม่ มากกว่าพุทธเถรวาทแบบแก่นแท้ก็เป็นได้ครับ คือตรงกับสไตล์ชีวิตของเขา อาจชอบสไตล์แบบอาศัยแนวพุทธเป็นเค้าให้ดูคล้ายๆ จนแยกออกยาก แต่เอามาโมดิฟายใหม่ให้ดูพิศดารออกไปอย่างตื่นตาตื่นใจ ไปแสดงเนื้อแท้ของพุทธเถรวาทให้เขาเข้าใจ เขาไม่เอา เขาไม่กลับมาหรอกครับ คิดแบบนี้คิดใหม่เถอะครับ"

(แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ลัทธิที่เกิดใหม่นั้นเขาไม่ยอมแยกเป็นศาสนาใหม่ ลัทธิใหม่ หรือนิกายใหม่ ยังไม่ยอมรับว่าคำสอนของเขาไม่ใช่พุทธเถรวาท หากแยกออกไปเรื่องราวความขัดแย้งเรื่องคำสอนคงจบสิ้นเสียที )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่