Recap: Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 7 การกลับมาของชายผู้ไม่ยอมตาย

กระทู้สนทนา
TV Recap Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 7 “The Broken Man”

ตอนที่ 7 “The Broken Man”
เปิดฉากมาก็เล่นเซอไพรส์กันแบบไม่ทันตั้งตัว สุนัขล่าเนื้อ (The Hound) ซานดอร์ คลิเกน ยังมีชีวิตและใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่กับ นักบวช หรือ เซพตันเรย์ (Brother Ray) พร้อมด้วยชาวบ้านคณะผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง ระหว่างที่ทุกคนกำลังช่วยกันสร้างโบสถ์อย่างแข็งขัน เซพตันเรย์ เล่าว่าตอนเจอ ซานดอร์ คลิเกน นอนอยู่แถวปราสาทเอียรี แคว้นเวลส์ ลมหายใจรวยรินแผ่วเบา นึกว่าตายไปแล้ว จึงตัดสินใจจะเอาไปฝัง แต่ทว่า ซานดอร์ คลิเกน ดันกระแอมไอขึ้นมาซะก่อน เลยพามารักษาตัวจนหายเป็นปกติ

ในคิงส์แลนดิ้ง ราชินีมาเจอรี ที่ได้รับการอภัยโทษคืนสถานะ แต่เธอยังกลับมาอ่านคัมภีร์พระมารดา (The Book of The Mother) ของศาสนาศรัทธาธรรม อยู่เป็นระยะๆ สร้างความปิติยินดีแก่ ไฮ สแปร์โรว์ อย่างยิ่ง แถมทำตัวราวกับเป็นผู้ทรงศีลรักษาพรหมจรรย์ไม่ร่วมหลับนอนเสพสมกับพระราชาทอมเมน ทำให้ ไฮ สแปร์โรว์ ต้องมาแนะว่าการร่วมหลับนอนเป็นหน้าที่ของราชินีที่จะต้องทำเพื่อให้กำเนิดทายาท ทำได้ไม่ผิดบาป พร้อมกับเตือนให้เธอช่วยชี้แนะราชินีกุหลาบหนาม โอเลนน่า ไทเรล ซึ่งเป็นคุณย่าของเธอ ที่มีบาปหนาทั้งกายและใจ

พอฟังเช่นนั้น ราชินีมาเจอรี จึงไม่รอช้ารีบไปออกไปหาคุณย่าโอเลนน่า โดยยังมีแม่ชีอูเนลล่าคอยติดตามเฝ้าดูพฤติกรรม เมื่อได้พบกัน ราชินีมาเจอรี ก็ยังทำตัวเหมือนผู้ทรงศีลเช่นเดิม จนคุณย่าโอเลนน่า รู้สึกรำคาญ ในที่สุด มาเจอรี ก็แอบส่งสารรูปกุหลาบในเศษกระดาษยัดไว้ในมือคุณย่าโอเลนน่า เพื่อบอกเป็นนัยว่าตัวเธอยังเป็นคนเดิม แต่แสร้งตีเนียนอยู่ พร้อมกับบอกให้คุณย่าโอเลนน่ารีบกลับไฮการ์เด้นไปซะ

หลังแยกจากกัน โอเลนน่า ไทเรล ก็มานั่งเขียนจดหมายอยู่ลำพัง สักพักเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ก็เดินบากหน้าเข้ามาหาและพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ โอเลนน่า ไทเรล อยู่ร่วมกันเอาชนะกองทัพศรัทธาธรรม แต่ โอเลนน่า ไทเรล ยืนกราน จะกลับไฮการ์เด้น แถมยังพูดจาถากถางด้วยว่าเหตุการณ์ความโกลาหลยิ้มที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะความโง่เง่าของ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ แม้จะโดนด่าแสกหน้าขนาดนี้แต่ก็ยังไม่โกรธ และยอมรับด้วยว่าเป็นความผิดของตน จากนั้นก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้ โอเลนน่า อยู่ช่วยกันต่อ แต่ไม่ว่ายังไง โอเลนน่า ก็ยืนยันว่าจะกลับไฮการ์เด้น ก่อนที่จะโดน ไฮ สแปร์โรว์ จับเข้าคุก

ทางด้านเหนือ จอน สโนว์ และทอร์มุนด์ พูดเชิญชวนเหล่าคนเถื่อนให้มาร่วมทัพสู้ศึกยึดคืนปราสาทวินเทอร์เฟล ในตอนแรกเหล่าคนเถื่อนไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าไม่ใช่ศึกของพวกตน ที่ตกลงกันไว้คือร่วมกันทำศึกต่อต้านกองทัพภูติหิมะเท่านั้น แต่ จอน สโนว์ ชี้แจงเหตุผลว่าหากไม่ช่วยรบศึกครั้งนี้ พวกตระกูลทางเหนือ โบลตัน, อัมเบอร์, คาร์สตาร์ค พร้อมจะยกทัพมากำจัดเหล่าเสรีชนคนเถื่อนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีทางเดียวก็คือ ต้องร่วมกันเอาชนะศึกให้ได้ จากนั้น ทอร์มุนด์ ก็พูดย้ำว่า จอน สโนว์ สละชีวิตช่วยคนเถื่อนจนตัวตาย หากพวกเสรีชนคนเถื่อนไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณก็ถือเป็นพวกขี้ขลาด และไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป สุดท้ายเหล่าคนเถื่อนก็เห็นพ้องกันว่าจะร่วมรบศึกครั้งนี้ด้วย

ต่อมา จอน สโนว์, ซานซา สตาร์ค, เซอร์ดาวอส เดินทางไปยังเกาะหมี เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลมอมอนต์ แต่พอไปถึง ไม่ว่า ซานซา กับ จอน สโนว์ จะพยายามพูดยังไง เลดี้ลีอานนา มอมอนต์ เด็กสาววัย 10 ขวบ ที่เป็นผู้ปกครองประจำตระกูลมอมอนต์ ก็ตอบปฏิเสธกลับ จนสุดท้าย เซอร์ดาวอส เห็นท่าไม่ดีจึงช่วยพูดว่าศึกครั้งนี้ไม่ใช่สงครามอื่นไกล แต่เป็นสงครามที่เราต้องช่วยกัน เพราะว่าสงครามที่แท้จริงไม่ใช่สงครามระหว่างตระกูล แต่เป็นสงครามระหว่างคนเป็น กับ คนตาย และตอนนี้ กองทัพคนตายก็กำลังใกล้เข้ามาแล้ว หากว่าตระกูลโบลตันยังครองแดนเหนืออยู่ แดนเหนือจะแตกแยก และแดนเหนือที่แตกแยกจะไม่มีทางรอดจากเงื้อมมือของราชันรัตติกาล (Night's King) และกองทัพภูติหิมะ
สุดท้าย เลดี้ลีอานนา มอมอนต์ ก็ยอมรับปากช่วยสู้ศึกและบอกว่าตระกูลมอมอนต์ให้ความภักดีต่อตระกูลสตาร์คมาหลายพันปี จะไม่สิ้นศรัทธาในตอนนี้ พร้อมกับมอบทหารร่วมรบจำนวน 62 คน และประกาศกร้าวว่า ทหารตระกูลมอมอนต์ทุกคนพละกำลังมากกว่า ทหารบนแผ่นดินใหญ่ถึง 10 เท่า

จากนั้น จอน สโนว์, ซานซา สตาร์ค และ เซอร์ดาวอส มาเจรจากับตระกูลโกลเวอร์ แต่ไม่สำเร็จ โรเบ็ตต์ โกลเวอร์ (Robett Glover) ผู้ปกครองคนปัจจุบันแห่งดีปวูด ม็อตต์ (Deepwood Motte) ให้เหตุผลว่า ตอนที่พวกชาวเกาะเหล็กยกพลเข้าบุกยึดปราสาทแห่งนี้ ตระกูลโบลตันยื่นมือเข้ามาเข้ามาช่วยเหลือและยึดคืนกลับมา เช่นนี้จะให้ตระกูลโกลเวอร์ต่อต้านตระกูลโบลตันได้อย่างไร?

แม้ ซานซา สตาร์ค จะพยายามทวงคำสาบานจากตระกูลโกลเวอร์ แต่ โรเบ็ตต์ โกลเวอร์ ไม่สนใจและตอกกลับไปว่า พี่ชายของตน กัลบาร์ต โกลเวอร์ (Galbart Glover) ไปร่วมรบกับอดีตพระราชาร็อบบ์ สตาร์ค จนสิ้นชีพไปแล้ว แถมกล่าวโทษว่าเป็นเพราะ ร็อบบ์ สตาร์ค ที่ทำให้ทุกคนต้องตาย ตระกูลโกลเวอร์ปฏิญาณจงรักภักดีต่อตระกูลสตาร์คมานานหลายร้อยปี แต่ตอนนี้ตระกูลสตาร์คสิ้นแล้ว

หลังจากได้รับคำสั่งให้มาช่วยตระกูลเฟรย์บุกยึดปราสาทริเวอร์รันคืน ในที่สุด เจมี แลนนิสเตอร์ ก็ยกทัพมาถึงที่หมายโดยมี บรอนน์ ผู้ช่วยคู่ใจติดตามมาด้วย แต่พอมาที่หน้าปราสาทก็พบว่าพวกตระกูลเฟรย์ จับตัวประกัน ลอร์ดเอ็ดมัวร์ ทัลลี หลานของเจ้าปลาดำบรินเดน ทัลลี มาข่มขู่เพื่อให้ยอมมอบปราสาทคืน แต่แผนนี้ไม่สำเร็จ เจ้าปลาดำบรินเดน ไม่สะท้านสะทก ยืนมองนิ่งเฉยแถมบอกให้ฆ่าทิ้งได้เลย แล้วก็เดินกลับเข้าไป

พวกเฟรย์ได้แต่ยืนงง เจมี จึงเดินเข้ามาบอกว่าตอนนี้ตนได้รับคำสั่งจากพระราชาทอมเมนให้บัญชาการศึกครั้งนี้ จากนั้นก็สั่งให้พาตัว เอ็ดมัวร์ ไปอาบน้ำกินข้าว ตอนแรกวัลเดอร์ เฟรย์ ไม่ยอม จึงโดนสอนเชิงฟาดปากไปหนึ่งดอก จากนั้นก็สั่งการให้ส่งสารไปขอเจรจากับ เจ้าปลาดำบรินเดน

หลังจากส่งสารเจรจาศึกเพียงไม่นาน เจ้าปลาดำบรินเดน ก็ออกมาตามคำเรียกร้อง ทันทีที่เผชิญหน้ากัน เจ้าปลาดำบรินเดน ก็ทวงสัญญา เจมี แลนนิสเตอร์ ที่เคยให้ไว้กับ เคทลิน สตาร์ค ว่าจะตามหาตัว อาร์ยา และ ซานซา กลับมาให้ แต่ เจมี แลนนิสเตอร์ ตอบตรงๆว่า อาร์ยา กับ ซานซา ไม่ได้อยู่กับตน จากนั้น เจมี ก็ขู่กลับบอกให้ เจ้าปลาดำบรินเดน ยอมจำนนซะ เนื่องจากปราสาทแห่งนี้เป็นของตระกูลเฟรย์ ส่วนตอนนี้เจ้าปลาดำถือเป็นผู้บุกรุก

ขณะที่ทาง บรินเดน ก็ไม่แยแสต่อให้ฆ่า เอ็ดมัวร์ หลานของตน ก็ไม่สน เจมี จึงข่มขวัญว่าหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นการบีบบังคับให้ตนต้องบุกถล่มปราสาทริเวอร์รัน คนจะตายเป็นร้อย แต่กระนั้น เจ้าปลาดำบรินเดน ก็ยังไม่สนใจพร้อมกับบอกว่า ตราบใดที่ตนยังอยู่ สงครามจะไม่จบ ที่นี่คือบ้านของข้า ข้าเกิดและจะตายที่นี่ ดังนั้นเชิญ เจมี โจมตีได้เลย หรือจะตัดเสบียงพวกตนก็ได้ เรามีเสบียงสะสมอยู่ได้นานถึง 2 ปี

หลังจากต้องระเห็จหนีออกจากหมู่เกาะเหล็ก ยารา เกรย์จอย กับ ธีออน เกรย์จอย ก็แล่นเรือมาแวะพักที่เมืองโวแลนติส ระหว่างกินดื่มกันไป ยารา เกรย์จอย ดูจะไม่วิตกกังวลใดๆ แต่ ธีออน เกรย์จอย กลับนั่งหงอหวาดกลัวอยู่ตลอดว่า ยูรอน เกรย์จอย จะตามมาทันแล้วฆ่าพวกตน ยารา เกรย์จอย เห็นน้องชายกลายเป็นพวกสิ้นหวังจึงพยายามพูดกระตุ้นให้กลับมามีความมั่นใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป พร้อมกับบอกแผนการว่าจะล่องเรือไปสวามิภักดิ์ต่อขุ่นแม่มังกร คาลิซี แดเนริส ทาร์แกเรียน แล้วค่อยยึดคืนเกาะเหล็กกลับมา

หลังจากตระเวนขอความช่วยเหลือระดมกำลังพลจากตระกูลต่างๆแล้ว จอน สโนว์, ซานซา สตาร์ค และ เซอร์ดาวอส ก็มารวมพลกองทัพในช่องหุบเขาแห่งหนึ่งทางเหนือ เซอร์ดาวอส เล่าว่า บริเวณนี้เป็นชัยภูมิที่ดีเหมาะแก่การตั้งค่าย มีภูเขาล้อมรอบเป็นปราการธรรมชาติ มีลำธารน้ำให้ม้าดื่ม แสตนนิส บาราเทียน เคยนำกองทัพมาพักแรมที่นี่เช่นกัน แต่ จอน สโนว์ ก็รีบเตือนว่าต้องรีบเดินทัพไปวินเทอร์เฟลในขณะที่ยังทำได้ เพราะพายุจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้

จากนั้น เซอร์ดาวอส ก็นับสรุปยอดกำลังพลทั้งหมด เสรีชนคนเถื่อน 2,000 คน, ตระกูลฮอร์นวู้ด 200 คน, ตระกูลเมซิน 143 คน, ตระกูลมอมอนต์ 62 คน รวมแล้วยังน้อยอยู่ ซานซา เสนอให้ไปขอกำลังเสริมจากปราสาทเคอร์วิน แต่ จอน สโนว์ บอกว่าไม่มีเวลาแล้ว ต้องสู้เท่าที่มี ขณะนั้นเกิดเหตุคนเถื่อนกับตระกูลชาวเหนือทะเลาะกัน ดาวอส เดินไปห้ามทัพก่อน จอน สโนว์ เห็นท่าไม่ดี จึงต้องเดินเข้าไปช่วยหย่าศึก ส่วน ซานซา หันไปเห็นอีกา จึงแอบเข้าไปเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือเพิ่ม

ข้ามไปที่ทวีปเอสสอส ณ เมืองบราวอส หนูน้อยจอมแก่น อาร์ยา สตาร์ค ติดต่อหาเรือล่องกลับทวีปเวสเทอรอส กำหนดเรือออกเช้าวันรุ่งขึ้น จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปบนสะพานมองดูทิวทัศน์เมืองแห่งนี้ สักพักมียายแก่คนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วก็ฉวยจังหวะเอามีดฟันท้อง จากนั้นก็ล็อกคอแล้วเอามีดจิ้มพุงไปอีก 2 แผล แล้วก็เปิดเผยใบหน้าออกมา ที่แท้เธอคือ เวฟ (Waif) ลูกน้องของ จาเค็น ฮาการ์ แห่งสมาคมนักฆ่าไร้หน้า เมื่อได้เห็นหน้าแล้ว อาร์ยา ก็เอาหัวกระแทกแล้วผลักตัว เวฟ ออกไป ส่วนตัวเธอก็รีบม้วนตัวโดดลงไปในแม่น้ำ พอโผล่ขึ้นมาอีกทีก็ระแวงทุกคนที่อยู่รายล้อม

กลับมาที่ เซพตันเรย์ กำลังเล่าเรื่องราวในอดีตของตนเองให้ทุกคนฟัง ว่าตนเคยเป็นทหารทำหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชามาตลอด สั่งให้เผาบ้านก็ทำ สั่งให้ฆ่าคนก็ทำ จนมีครั้งหนึ่งไปจับเด็กชายลูกชาวบ้านมาเชือดคอ แม่ของเด็กกรีดร้องลั่น เหตุการณ์ครั้งนั้นฝังใจมาตลอดชีวิตจนทำให้รู้สึกละอาย และเป็นจุดเปลี่ยนทำให้ตนตัดสินใจออกบวชเพื่อสร้างสิ่งดีๆให้แก่โลกใบนี้ ระหว่างเล่าเรื่อง สักพักก็มี ชายปริศนา 3 ราย ขี่ม้าเข้ามาขู่กรรโชกขูดรีด ม้า เหล็ก ทอง แม้กระทั่งอาหาร แต่ เซพตันเรย์ ปฏิเสธไป ชายปริศนาจึงขู่ว่าให้ระวังตัวดีๆแล้วก็กลับไป


หลังจากนั้น ซานดอร์ คลิเกน ก็แยกตัวออกมาผ่าฟืน แต่พอ เซพตันนิรนาม เดินตามมา ซานดอร์ ก็เปิดเผยว่าชายปริศนาทั้ง 3 เป็นพวกกลุ่มนอกกฎหมายพี่น้องไร้ธง (Brotherhood without Banner) และมันไม่ปราณีใคร จากนั้น เซพตันเรย์ ก็เดินกลับออกไป พร้อมกับบอกว่าจะเก็บอาหารไว้ให้ ผ่านไปสักพักระหว่างที่ ซานดอร์ คลิเกน กำลังผ่าฟืนในป่า จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้องโหยหวน พอเดินออกไปดู ปรากฏว่าทุกคนโดนฆ่าตายหมด ส่วน เซพตันเรย์ โดนจับฆ่าแขวนคอตายอยู่บนโบสถ์ที่กำลังสร้าง เมื่อเป็นเช่นนี้ ซานดอร์ คลิเกน จึงคว้าขวานแล้วเดินออกไปด้วยความโกรธแค้น
ติดตามชม GOT ซีซั่น 6 ทุกวันจันทร์ 8.00 น.และ 20.00 น. เวลาประเทศไทย ทางช่อง HBO(ทรูวิชั่นส์)
cr.http://script.today/script2/newsDetail?id=24394
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่