TV Recap: Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 9 [ทวงคืนวินเทอร์เฟล]


ในที่สุดมหากาพย์ซีรีส์ขวัญใจมหาชน Game of Thrones ซีซั่น 6 ก็ดำเนินมาถึงจุดแตกหักของสถานการณ์ 2 เหตุการณ์สำคัญ อันได้แก่ ความโกลาหลวุ่นวายใน นครมิรีน ที่ยืดเยื้อยาวนาน ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ พยายามต่อรองเจรจาเต็มที่แต่ก็ยังไม่ราบรื่น บรรดานายทาสกับกลุ่มกบฏบุตรของฮาร์ปี้ ยังคงก่อกวนไม่หยุด ขณะที่อีกเหตุการณ์ แดนเหนืออันหนาวเย็นกำลังจะลุกเป็นไฟ จอน สโนว์ ยกกองทัพมาประจัญบานกับ แรมซีย์ โบลตัน ชี้ชะตาแคว้นเหนือ ติดตามกันต่อใน
TV Recap Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 9 “Battle of the Bastards”


ตอนที่ 9 “Battle of the Bastards”
เปิดฉากที่สถานการณ์สงครามในนครมิรีน เหล่านายทาสนำกองทัพเรือบุกโจมตีอย่างหนัก ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ทาร์แกเรียน ยืนดูสถานการณ์ด้วยความไม่พอใจ ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ พยายามชี้แจงว่า... อันที่จริงเมืองมิรีนกำลังเข้าสู่ยุครุ่งเรือง ตลาดการค้าคึกคัก ไพร่ฟ้าประชาชนสนับสนุนราชินี คาลิซี แดเนริส แต่ไม่ใช่ทุกคน ไม่มีผู้ปกครองคนไหน ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทุกคน แต่การฟื้นฟูครั้งนี้ทำให้เกิดความรุนแรง พวกนายทาสไม่ยอมให้การเปลี่ยนแปลง นครมิรีน ประสบผลสำเร็จ เพราะหากทำสำเร็จ เมืองมิรีนจะปราศจากทาส ทำให้พวกนายทาสหมดช่องทางหากิน


พอพูดจบ ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ที่กำลังขุ่นเคืองใจ ก็พูดขึ้นทันทีว่าจะฆ่าล้างพวกนายทาสและทหาร รวมถึงทำลายเมืองของพวกมันทุกคน ภูติจิ๋วทีเรียน ได้ฟังแล้วก็สยองจิตเบาๆ และพูดกระตุ้นเตือน ถึงแผนการอันเลวร้าย ของอดีตกษัตริย์คลั่ง แอริส ทาร์แกเรียน ซึ่งเป็นพ่อของเธอ ว่า สมัยช่วงเหตุการณ์ปฏิวัติของ โรเบิร์ต บาราเทียน พระราชา แอริส เคยมีพระบัญชาให้วางเพลิงโลกันตร์ไว้ทั่วคิงส์แลนดิ้ง เพื่อเผาฆ่าทุกคนในเมืองไม่ว่าจะเป็นคนที่ภักดี
หรือผู้ทรยศ ไม่ว่าผู้หญิง หรือ เด็ก และนั่นจึงเป็นเหตุผลให้ เจมี แลนนิสเตอร์ ตัดสินใจลอบปลงพระชนม์ แม้ว่า คาลิซี แดเนริส จะแย้งว่าสถานการณ์ตอนนั้นกับตอนนี้มันแตกต่างกัน แต่ ภูติจิ๋ว ก็สวนกลับว่า การฆ่าล้างทุกชีวิตมันไม่ได้ต่างกันเลย ทันใดนั้นหน้าต่างก็ระเบิด
ตู้มมม !!!


ต่อมา คาลิซีแดเนริส กับภูติจิ๋วทีเรียน และ มิสซันเดย์ กับ หนอนเทา พร้อมด้วยกองทหารผู้ไร้มลทินกลุ่มหนึ่ง ก็ออกมาเจรจากับ หัวโจกนายทาส 3 คน ในตอนแรกเหล่านายทาสยังคงเย่อหยิ่งปากดี โดยยื่นข้อเสนอมาว่าให้ คาลิซี กับ ภูติจิ๋วทีเรียน ออกจากนครมิรีนไป ส่วนกองทัพผู้ไร้มลทินจะถูกนำมาประมูลขายอีกครั้ง มิสซันเดย์ ก็จะถูกนำไปประมูล ขายเช่นกัน ส่วนมังกรที่ถูกขังอยู่ข้างใต้พีระมิด จะถูกฆ่าตาย


พอฟังจบ ขุ่นแม่มังกรแดเนริส ก็สวนกลับทันทีประมาณว่า... "สงสัยจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ข้ามาเจรจาเงื่อนไข ให้เจ้ายอมแพ้ ไม่ใช่ข้า" แต่กระนั้น นายทาสยังคง แกว่งปากหาเท้า บอกว่า คาลิซีคงยังทำใจไม่ได้กับการปรับตัวยอมรับความจริงแบบใหม่ ยุคของเจ้าจบสิ้นแล้ว ฟังเช่นนี้ คาลิซี จึงตอบว่า "ยุคของข้าเพิ่งเริ่มต่างหาก" จากนั้นก็ส่ง กระแสจิตเรียกมังกรโดรกอนบินมา แล้วเธอก็ขี่มังกรบินออกไปรบ สักพัก มังกรอีก 2 ตัวที่อยู่ใต้พีรามิด ก็บินออกมาร่วมรบด้วย แต่ขุ่นแม่ใช้วิธีเชือดไก่ให้ลิงดู แค่จัดการสั่งมังกร พ่นไฟเผาเรือรบ เพียงไม่กี่ลำ พวกทหารของนายทาสเห็นเข้าก็ยอมแพ้


ส่วนทางด้าน หัวโจกนายทาส 3 คน สุดท้ายกลายเป็นหมาหัวเน่า แม้แต่ทหาร ตัวเองก็ไม่ยอมสู้ หนีกันไปหมด ภูติจิ๋วทีเรียน จึงเล่นเกมส์จิตวิทยา พูดข่มขู่ว่าพวกนายทาส ละเมิดข้อตกลงที่ทำกันไว้ การกระทำครั้งนี้ไม่สามารถให้อภัยได้ มิสซันเดย์ อ้างคำพูดของคาลิซีว่า หัวโจกนายทาส 3 คน จะต้องมีคนนึงตาย พอฟังเช่นนี้พวกนายทาสก็แตกคอกันทันที เกี่ยงกันสุดฤทธิ์ สุดท้ายนายทาสคนที่โดนผลักออกมาให้รับโทษ ตัดสินใจคุกเข่าขอชีวิต หนอนเทาเดินเข้ามาปาดคอคนที่เหลืออีก 2 คน ตายคาที่


จากนั้น ภูติจิ๋วทีเรียน ก็เดินเข้ามาสัมผัสไหล่เบาๆ แล้วโชว์สกิล วาทศิลป์ ข่มขู่นายทาสคนที่รอดชีวิตแบบเชือดนิ่มๆ ว่า "บอกคนของเจ้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ บอกพวกเขาว่า เจ้าอยู่รอดโดยได้รับการอภัย จากคาลิซี และหากว่าพวกเพื่อนๆ ของเจ้าเกิดมีความคิดโง่ๆ เกี่ยวกับการก่อกบฏ เปลี่ยนระบบกลับไปค้าทาสอีกครั้ง จงเตือนพวกเขาว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคาลิซี และ มังกรของนางเดินทางมาถึงนครมิรีน" พอพูดจบ ภูติจิ๋วทีเรียน ก็ตบไหล่นายทาสเบาๆ แล้วเดินจากไป


หลังจากกำราบเหล่านายทาสและกลุ่มกบฏหมดแล้ว คาลิซีแดเนริส กับ ภูติจิ๋วทีเรียน แลนนิสเตอร์ ก็ต้อนรับแขกรายใหม่ นั่นก็คือ ยารา เกรย์จอย กับ ธีออน เกรย์จอย ที่มาขอ สวามิภักดิ์เข้าร่วมกองทัพ และมอบกองเรือรบให้ 100 ลำ พร้อมคนเดินเรือ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ คาลิซีแดเนริส ทาร์แกเรียน จะต้องช่วยทั้งคู่ยึด คืนเกาะเหล็กไหล และแต่งตั้งให้ ยารา เกรย์จอย ขึ้นเป็นผู้ปกครองแห่งหมู่เกาะเหล็กไหล ...ธีออน เล่าให้ฟังว่า ยูรอน เกรย์จอย ซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณลุง กลับมาฆ่า เบลอน เกรย์จอย ซึ่งเป็นพ่อของพวกตน แล้วยึดบัลลังก์เกาะเหล็กไหล พร้อมกับประกาศจะฆ่าพวกตน


ภูติจิ๋วทีเรียน แย้งขึ้นว่า เกาะเหล็กมีกองเรือรบมากกว่านี้ ยารา เกรย์จอย จึงอธิบายว่า ยูรอน เกรย์จอย จะนำกองเรือรบมาให้เช่นกัน แต่จะมาพร้อมกับข้อเสนอบังคับให้ คาลิซี ยอมแต่งงานด้วย ขณะที่พวกตนไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใด ขอเพียงช่วยยึดเกาะเหล็กคืนมาและฆ่าพวกญาติๆ ที่คัดค้านไม่ให้ผู้หญิงขึ้นครองบัลลังก์เท่านั้นพอ คาลิซี รับฟังข้อเสนอ และยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนว่า ธีออน กับ ยารา เกรย์จอย จะต้องสนับสนุนตนเป็นราชินีแห่งเวสเทอรอสและเคารพกฎจารีตอย่างถูกต้อง ต้องไม่ปล้นชิง ข่มขืนผู้อื่น ยารา เกรย์จอย ฟังแล้วรู้สึกขัดใจจึงบอกว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นวิถีของพวกชาวเกาะเหล็ก แต่ แดเนริส ยืนกราน ให้ยกเลิกซะ แล้วทั้งคู่ก็จับมือกัน เป็นสัญญาลูกผู้หญิง #พลังหญิงครองโลก


ขึ้นไปยังแดนเหนือ จอน สโนว์ พร้อมด้วย ซานซา สตาร์ค กับ เซอร์ดาวอส และ ทอร์มุนด์ กับ เลดี้หมีน้อยลีอานนา มอมอนต์ ขี่ม้ามาตามนัดเจรจากับ แรมซีย์ โบลตัน ที่มาพร้อมกับ ลอร์ดคาร์สตาร์ค และ จอน อัมเบอร์ พอมาถึง บักแหลมศรี ก็เปิดฉากพูดจายียวนกวนจิต ซานซา ทันทีว่า "ภรรยาสุดที่รักของข้า พี่คิดฮอตเจ้าหลายๆเด้" และบอก จอน สโนว์ ว่า "ขอบคุณที่พา เลดี้โบลตัน กลับมาอย่างปลอดภัย เอาละ ตอนนี้ลงจากม้าแล้วคุกเข่าต่อหน้าข้าซะ ยอมจำนน ยอมรับข้าในฐานะ ลอร์ดผู้ปกครองที่แท้จริงแห่งวินเทอร์เฟล และผู้ปกครองแห่งแคว้นเหนือ แล้วข้าจะยกโทษให้เจ้าที่ละทิ้งหน้าที่หน่วยพิทักษ์ราตรี และ ยกโทษให้ขุนนางที่ทรยศต่อตระกูลข้า"


แหม่ บักแหลมศรี เล่นใหญ่มากกกก พูดจาข่มคนอื่นซะมิด ทำเอา เลดี้หมีน้อย ลีอานนา มอมอนต์ ถึงขั้นเบะปากมองตาขวาง ๕๕๕๕๕ จากนั้น แรมซีย์ ก็บอกต่อว่า "มาสิ ไอ้ลูกเมียน้อย เจ้าไม่มีกำลังคน เจ้าไม่มีม้า และเจ้าไม่มีวินเทอร์เฟล จะพาคนพวกนี้มาตายเปล่าไปใยกัน มันไม่จำเป็นต้องสู้รบกัน เพียงแค่เจ้าลงจากม้า และคุกเข่าซะ ข้าเป็นคนมีเมตตา"

ฟังหมาเห่าอยู่นาน คราวนี้ พี่จอน สโนวไวท์ ขอเอื้อนเอ่ยวาจาบ้าง ว่า "ใช่ เจ้าพูดถูก ไม่จำเป็นต้องสู้รบกัน คนหลายพันไม่จำเป็นต้องตาย แค่เราสองคนเท่านั้นก็พอ มาตัดสินกันตามวิถีดั้งเดิม เจ้ากับข้า"


พูดจบปุ๊บ แรมซีย์ หัวเราะร่าเกทับว่า "รู้เรื่องราวมาพอสมควร เจ้า คือ นักดาบที่เก่งสุดในแดนเหนือ แม้จะไม่มั่นใจว่าข้าจะเอาชนะเจ้าได้มั้ย แต่ที่แน่ๆกองทัพของข้า จะเอาชนะเจ้าได้แน่นอน ข้ามีกำลังพล 6,000 คน เจ้าละมีเท่าไรนะ ครึ่งนึงใช่มั้ย หรือไม่ถึง"

แต่ จอน สโนว์ ไม่สนใจ ตอกกลับว่า "ใช่ เจ้ามีกำลังพลจำนวนมาก แต่คนของเจ้าจะสู้เพื่อเจ้ามั้ย หากรู้ว่าเจ้าไม่ยอมสู้เพื่อพวกเขา?"


เจอประโยคนี้เข้า แรมซีย์ โบลตัน ถึงกับสะอึกเบาๆ และยอมรับว่า "เจ้าเก่งมาก เจ้าพูดได้ดีมาก" จากนั้นก็เริ่มกระบวนการข่มขู่ว่า "บอกข้าซิ เจ้าจะยอมให้น้องชายของเจ้าตาย เพียงเพราะเจ้าหยิ่งผยองเกินกว่าที่จะยอมแพ้อย่างนั้นหรือ?" ได้ฟังดังนี้ ซานซา รีบถามทันทีว่า จะรู้ได้ไงว่าเจ้าจับตัวน้องเราไป แรมซีย์ จึงหันไปส่งซิกให้ จอน อัมเบอร์ โยนหัว แชกกี้ด็อก ออกมา


เพียงเท่านั้น ซานซา ก็ลั่นวาจาทันทีว่า "พรุ่งนี้เจ้าตายแน่ ลอร์ดโบลตัน หลับฝันดีละ" แล้วเธอก็ขี่ม้าแยกจากไป แรมซีย์ พูดแซะและข่มขวัญว่า "น้องสาวเจ้า เป็นผู้หญิงที่ดี ข้าหวังว่าจะได้นอนร่วมเตียงกับนางอีก และสำหรับพวกเจ้าทุกคน หมาของข้ากำลังรอคอยอย่างหิวโหยที่จะได้พบพวกเจ้า ข้าไม่ได้ให้อาหารพวกมันมา 7 วัน พวกมันกำลังหิวมาก ข้าสงสัยว่าพวกมันจะกินส่วนไหนก่อน เดี๋ยวเราจะได้รู้เร็วๆนี้ ตอนเช้าละกัน ไอ้ลูกนอกคอกเมียน้อย" จากนั้นก็แยกย้ายกัน

(ต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่