หลัการทำทาน ทุกชนิด คือ ดูที่เจตนาในการทำทาน ที่มาของปัจจัยของผู้ให้ และ สุดท้าย "คุณสมบัติของผู้รับ"

อภัยทาน ก็คือ การทำทาน อย่างหนึ่ง

ดังนั้น สิ่งที่ควรพิจารณายิ่ง คือ คุณสมบัติของผู้รับ

ยกตัวอย่าง การอภัยโทษ (อภัยทานอย่างหนึ่ง) ปล่อยให้ คนร้ายฆ่าข่มขืน ออกมาจากคุก และ คนร้ายนั้นไม่ได้สำนึก กลับไปทำพฤติกรรมนั้นใหม่

มันสมควรหรือไม่

"คนชั่ว" ทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็น คนชั่ว

"คนโกหก" ทำไมถึงได้ชื่อว่า เป็น คนโกหก

ก็เพราะ คนเหล่านี้ สั่งสม "กรรมชั่ว" "พฤติกรรมชั่ว" ไว้ตลอดเวลา ถึงเวลา คนเหล่านี้ ก็โต้ตอบอัตโนมัติ ตามกรรม (การกระทำ) ที่มันคุ้นชิน

การที่อยู่ๆ คนชั่ว กลับตัว ทำดี ได้ เพียงชั่วข้ามคืน

ผมถามว่า มันก็ไม่ต่างจาก โจร ที่มีนิสัยขี้ขโมย โกงกิน อยู่ๆ มาบอกคุณว่า ผมจะทำมาหากิน อย่าง "สุจริต" ปล่อยผมไปเหอะ

เพียงแต่ โจร มันสร้างภาพไม่เก่ง

ตอนนี้ คุณ กำลัง หลง ในภาพ ที่เค้า สร้างขึ้นรึเปล่า

เค้า สมควร ได้รับ ทาน จาก อภัยทาน ไหม

เค้า เคยสำนึกไหม ตั้งแต่ โดน คดี คราวก่อน

คนกลุ่มนี้ เค้าเข้าใจดี ว่าคนดี "ใจอ่อน" "ใจบุญ"

ถ้าเค้าไม่เข้าใจ คงไม่สามารถ ระดมเงินทำบุญได้มากขนาดนี้

จิต หลง จิต ชอบ ในภาพ ที่เห็นอยู่ ขอให้ ดำรงสติ ทราบว่า หลง

แล้ว ทำหน้าที่ของท่าน ไปตามกระบวนการกฎหมาย ขอฝาก ดีเอสไอ เท่านี้