สวัสดีค่ะ เราอยากมาถามความเห็นคนที่ใช้บริการ App Grab taxi หลังจากที่บริษัทมีกฏใหม่ในการขึ้นค่าธรรมเนียมการเรียกรถจากปกติ ค่าเรียก20บาท แต่จะเพิ่มขึ้นอีก
เราเป็นลูกค้าประจำของ Grab ค่ะ เรียกทุกวัน เพราะบ้านเราอยู่ค่อนข้างลึก ใช้บริการทุกวัน วันนี้เราก็เรียกรถจากบ้านไปพระราม9 และใช้โปรโมชั่น ลดค่าเรียก40บาท ตอนประมาณ4โมงเย็น ก็เรียกปกติ ไม่ได้สังเกตุอะไร เพราะก็ไม่มีอะไรขึ้นมาในแอพ วันนี้รถไม่ติด ค่าโดยสารไม่ได้เยอะมาก และคนขับก็บอกเราว่า วันนี้รถไม่ติด ค่าโดยสารทั้งหมด153บาท เราก็ถามเขาว่าค่ารถ 133 ใช่ไหมคะ เพราะถ้าลด40บาท +ค่าเรียก20จะสรุปได้ว่าลดไปทั้งหมด20บาท แต่คนขับบอกว่าราคาเท่ามิเตอร์ เพราะมีค่าเรียกเพิ่มเมื่อเรียกตอน5-6โมงเย็น (ตอนนั้นเราก็งงๆ เรียกตอน4โมงไม่ใช่เหรอ) เราก็จ่ายเงินไป แบบงงๆ คิดว่าเดี๋ยวค่อยไปถามอีกที หลังจากนั้นเขาก็ส่งบิลมาทาง E-mail แต่ในเมล์ มันขึ้นว่า ค่ารถ130 ลดค่าเรียก20 = 110 บาท เราก็ยิ่งสงสัยว่าทำไมบิลกับราคาจริงที่จ่ายไปมันไม่เท่ากัน เราเลยตัดสินใจโทรไปสอบถามทาง Call center
พนง. : สวัสดีครับ
เรา : ค่ะอยากทราบถามเรื่องนี้หน่อย ... (แล้วเราก็อธิบายให้เขาฟังจากที่เล่ามาข้างต้น)
พนง. : อ๋อ ครับ คือยังงี้นะครับ ตอนนี้ทาง Grab มีนโยบายใหม่ เพิ่มค่าเรียกจากเดิม ตามช่วงเวลา และจราจรช่วงนั้น จะเพิ่มจากเดิมสูงสุดไม่เกิน40บาท ของกรณีคุณลูกค้า เพิ่ม20บาทครับ
ไอเราก็งงๆ เลยถามเค้า
เรา : แล้วการเพิ่มค่าเรียกนี่ เพิ่มจากอะไรเป็นเกณฑ์คะ และเราจะรู้ได้ไงว่าเพิ่มมาเท่าไหร่ ดูตรงไหน เพราะตอนเรียกก็ไม่มี
พนง. : ต้องสังเกตุตรงแถบสีชมพูน่ะครับ (ซึ่งเราไม่เห็นจริง) แล้วเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียมเพิ่ม คิดจากช่วงเวลากับจราจรตอนนั้นครับ
เรา : อ่าว แล้วถ้ารถไม่ติดแล้วทำไมยังมีเพิ่มมาอีกละคะ วันนี้รถไม่ติด แล้วเขาก็มาถึงไวด้วยแบบนี้ ยังจะคิดเพิ่มอีกเหรอคะ?
พนง. : ใช่ครับ ยังไงก็เพิ่มถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ผมก็ไม่ทราบครับ ว่าเขาพิจารณาจากอะไร
=__= ??
เรา : แล้วสมมุติว่าตอนนั้น รถไม่ติด คนขับรับงานตอนอยู่แค่หน้าหมู่บ้านเรา ก็ต้องมีค่าธรรมเนียมอย่างนั้นเหรอคะ?
พนง. : ใช่แล้วครับ
กำ คือไม่มีอะไรที่บอกเราได้เลยว่าคิดเงินจากอะไร ใช้อะไรวัด อยู่ใกล้ๆก็ต้องคิดค่าธรรมเนียม บอกก่อนเลยว่าเราใช้งาน Grab ทุกวัน และเพิ่งจะเคยเจอวันนี้แหละ ค่าเรียก20+ค่าธรรมเนียม20 + เริ่มต้นมิเตอร์ 35 โอ้โห
เรา : แบบนี้ผู้โดยสารไม่ตายเลยเหรอคะ เจอค่าธรรมเนียมแบบนี่
พนง. : เป็นนโยบายบริษัทครับ ที่จะกระตุ้นให้คนขับอยากรับงานมากขึ้น เพราะหลังๆมานี้ คนขับไม่ค่อยรับงานผู้โดยสารเลยเรียกรถยากขึ้น
เรา : กระตุ้นคนขับ แต่ให้ผู้โดยสารจ่ายเงินแทนใช่ไหมคะ
พนง. : ถูกต้องแล้วครับ
เรา : ถ้างี้เรียก Grab car ดีกว่าไหมคะ ไม่มีอะไรเพิ่มเล็กน้อยด้วย โปรลด40 ก็ยังถูกกว่าแท๊กซี่อีก
พนง. : ก็คงจะเป็นแบบนั้นครับ
..... เงิบไปเลยค่ะ5555 เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องค่าโดยสารเพิ่มนะคะ แต่เราคิดว่า มันไม่มีอะไรมาวัดเลยว่ายังไง อยู่ๆจะคิดเท่าไหร่ก็คิด แล้วตอนคนขับรับงานแล้ว จะแคนเซิลเพราะเห็นค่าเรียกมันก็ไม่ได้
สรุปที่คุย พนักงานยืนยันว่า ยังไงก็ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมไม่เกิน40บาท เวลาเร่งด่วนเสียแน่ๆ ต่อให้ตอนนั้นรถไม่ติด ส่วนเรื่องบิลที่ส่งมา ราคาไม่ตรงกับความเป็นจริงเขาจะตักเตือนให้ เราอยากมาขอความเห็นคนที่ใช้บริการ ว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ เราอาจจะเรื่องมากไป แต่เราคิดว่าบางทีก็มากไป เราใช้บริการGrab มานานแล้ว ใช้มาเป็นปีๆแล้ว และเพิ่งเจอแบบนี้ หรือเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลแล้ว ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ
[Grab Taxi ]คิดเห็นอย่างไรกับการขึ้นค่าธรรมเนียมการเรียกรถTaxi ไม่รวมกับค่าเรียกเดิม20บาท
เราเป็นลูกค้าประจำของ Grab ค่ะ เรียกทุกวัน เพราะบ้านเราอยู่ค่อนข้างลึก ใช้บริการทุกวัน วันนี้เราก็เรียกรถจากบ้านไปพระราม9 และใช้โปรโมชั่น ลดค่าเรียก40บาท ตอนประมาณ4โมงเย็น ก็เรียกปกติ ไม่ได้สังเกตุอะไร เพราะก็ไม่มีอะไรขึ้นมาในแอพ วันนี้รถไม่ติด ค่าโดยสารไม่ได้เยอะมาก และคนขับก็บอกเราว่า วันนี้รถไม่ติด ค่าโดยสารทั้งหมด153บาท เราก็ถามเขาว่าค่ารถ 133 ใช่ไหมคะ เพราะถ้าลด40บาท +ค่าเรียก20จะสรุปได้ว่าลดไปทั้งหมด20บาท แต่คนขับบอกว่าราคาเท่ามิเตอร์ เพราะมีค่าเรียกเพิ่มเมื่อเรียกตอน5-6โมงเย็น (ตอนนั้นเราก็งงๆ เรียกตอน4โมงไม่ใช่เหรอ) เราก็จ่ายเงินไป แบบงงๆ คิดว่าเดี๋ยวค่อยไปถามอีกที หลังจากนั้นเขาก็ส่งบิลมาทาง E-mail แต่ในเมล์ มันขึ้นว่า ค่ารถ130 ลดค่าเรียก20 = 110 บาท เราก็ยิ่งสงสัยว่าทำไมบิลกับราคาจริงที่จ่ายไปมันไม่เท่ากัน เราเลยตัดสินใจโทรไปสอบถามทาง Call center
พนง. : สวัสดีครับ
เรา : ค่ะอยากทราบถามเรื่องนี้หน่อย ... (แล้วเราก็อธิบายให้เขาฟังจากที่เล่ามาข้างต้น)
พนง. : อ๋อ ครับ คือยังงี้นะครับ ตอนนี้ทาง Grab มีนโยบายใหม่ เพิ่มค่าเรียกจากเดิม ตามช่วงเวลา และจราจรช่วงนั้น จะเพิ่มจากเดิมสูงสุดไม่เกิน40บาท ของกรณีคุณลูกค้า เพิ่ม20บาทครับ
ไอเราก็งงๆ เลยถามเค้า
เรา : แล้วการเพิ่มค่าเรียกนี่ เพิ่มจากอะไรเป็นเกณฑ์คะ และเราจะรู้ได้ไงว่าเพิ่มมาเท่าไหร่ ดูตรงไหน เพราะตอนเรียกก็ไม่มี
พนง. : ต้องสังเกตุตรงแถบสีชมพูน่ะครับ (ซึ่งเราไม่เห็นจริง) แล้วเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียมเพิ่ม คิดจากช่วงเวลากับจราจรตอนนั้นครับ
เรา : อ่าว แล้วถ้ารถไม่ติดแล้วทำไมยังมีเพิ่มมาอีกละคะ วันนี้รถไม่ติด แล้วเขาก็มาถึงไวด้วยแบบนี้ ยังจะคิดเพิ่มอีกเหรอคะ?
พนง. : ใช่ครับ ยังไงก็เพิ่มถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ผมก็ไม่ทราบครับ ว่าเขาพิจารณาจากอะไร
=__= ??
เรา : แล้วสมมุติว่าตอนนั้น รถไม่ติด คนขับรับงานตอนอยู่แค่หน้าหมู่บ้านเรา ก็ต้องมีค่าธรรมเนียมอย่างนั้นเหรอคะ?
พนง. : ใช่แล้วครับ
กำ คือไม่มีอะไรที่บอกเราได้เลยว่าคิดเงินจากอะไร ใช้อะไรวัด อยู่ใกล้ๆก็ต้องคิดค่าธรรมเนียม บอกก่อนเลยว่าเราใช้งาน Grab ทุกวัน และเพิ่งจะเคยเจอวันนี้แหละ ค่าเรียก20+ค่าธรรมเนียม20 + เริ่มต้นมิเตอร์ 35 โอ้โห
เรา : แบบนี้ผู้โดยสารไม่ตายเลยเหรอคะ เจอค่าธรรมเนียมแบบนี่
พนง. : เป็นนโยบายบริษัทครับ ที่จะกระตุ้นให้คนขับอยากรับงานมากขึ้น เพราะหลังๆมานี้ คนขับไม่ค่อยรับงานผู้โดยสารเลยเรียกรถยากขึ้น
เรา : กระตุ้นคนขับ แต่ให้ผู้โดยสารจ่ายเงินแทนใช่ไหมคะ
พนง. : ถูกต้องแล้วครับ
เรา : ถ้างี้เรียก Grab car ดีกว่าไหมคะ ไม่มีอะไรเพิ่มเล็กน้อยด้วย โปรลด40 ก็ยังถูกกว่าแท๊กซี่อีก
พนง. : ก็คงจะเป็นแบบนั้นครับ
..... เงิบไปเลยค่ะ5555 เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องค่าโดยสารเพิ่มนะคะ แต่เราคิดว่า มันไม่มีอะไรมาวัดเลยว่ายังไง อยู่ๆจะคิดเท่าไหร่ก็คิด แล้วตอนคนขับรับงานแล้ว จะแคนเซิลเพราะเห็นค่าเรียกมันก็ไม่ได้
สรุปที่คุย พนักงานยืนยันว่า ยังไงก็ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมไม่เกิน40บาท เวลาเร่งด่วนเสียแน่ๆ ต่อให้ตอนนั้นรถไม่ติด ส่วนเรื่องบิลที่ส่งมา ราคาไม่ตรงกับความเป็นจริงเขาจะตักเตือนให้ เราอยากมาขอความเห็นคนที่ใช้บริการ ว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ เราอาจจะเรื่องมากไป แต่เราคิดว่าบางทีก็มากไป เราใช้บริการGrab มานานแล้ว ใช้มาเป็นปีๆแล้ว และเพิ่งเจอแบบนี้ หรือเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลแล้ว ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ