สวัสดีปีนัง เมืองชิคๆ ชิวๆ ไปอีก
ก่อนอื่นต้องสวัสดีทุกคนนะคะ และฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่า กระทู้แรกเลยนะนี่ เริ่มกันเลยเนอะ
เราออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์แอเชีย บินตรง ดอนเมือง-ปีนัง ราคาประมาณ 1300 บาท จองตอนช่วงโปรสิคะรออะไร (ด้วยความว่างงานมาก555) ตั๋วไม่ถูกเราไม่เที่ยว พอถึงสนามบินปีนัง เราก็รีบไปซื้อซิมมือถือ ที่ชั้นล่างเลี้ยวขวาก่อนถึงประตูทางออกสนามบิน จะเห็นเคาเตอน์เหลืองๆ นั่นแหละค่า เป็นค่าย Digi เราเลือกโปรที่ถูกที่สุด ราคา 25 ริงกิต (250 บาท) เค้าก็เปลี่ยนซิม ตั้งค่าให้เราเรียบร้อย พร้อมใช้งาน จากนั้นเราก็รีบไปขึ้นรถเข้าเมืองจอดอยู่ด้านหน้าสนามบินเลย ขึ้นรถเมล์สาย 102 คนละ 2.7 ริงกิต หยอดใส่กล่องได้เลย เท่าไหร่เท่านั้นไม่มีการทอน 55555
บรรยากาศภายในรถเมล์ แอร์เย็นสบาย
นั่งรถมาเรื่อยๆ ประมาณ 30 นาที ก็ถึงตึกคอมต้า จะมีท่ารถต่อไปที่ต่างๆ ผู้คนพลุกพล่าน คนส่วนใหญ่ก็จะลงที่นี่ แต่เราขอต่อไปอีกนิดไปลงแถวที่พักที่ถนนจูเลีย (lebuh chulia) เราพักที่ Malabar inn Penang 2คืน อยู่ในย่านจอร์จทาวน์ คืนละ 800 บาท/2คน ที่พักโอเคเลย สะดวกสบาย เดินทางง่าย คุณลุงเจ้าของใจดีด้วย ถึงที่พักก็ทุ่มกว่าๆ แล้ว รีบเก็บข้าวของ แล้วลงไปหาของกินเลยจ้าาาา
ร้านรถเข็นขายของกินบนถนนจูเลีย
ก๋วยเตี๋ยวหัวปลา (ตั้งชื่อเองค่า 5555) น้ำซุบกลมกล่อม อร่อยดี ถ้วยละประมาณ 90 บาท
LOK LOK เลือกกันเลยจ้า สิบไม้ว่าไป
มีแบบกินได้เลยราดน้ำจิ้ม กับบางอันต้องเอาไปลวกในหม้อน้ำร้อนก่อน ยืนกินกันหน้าร้านเลยทีเดียว อร่อยจนกลับไปกินอีกรอบอ่ะคิดดู อิอิ
ตบด้วยแก้วมังกรปั่นน้ำแข็ง ใส่แค่สองอย่างนี้จริงๆ 5555 ใส่ถุง พันเชือกฟาง (ที่นี่ไม่ใช้หนังยางเด่อ)
กินกันจนอิ่ม ก็ขอออกเดินเล่นชิวๆ ตามประสาคนเก็บกดได้ออกเที่ยวกันหน่อย ก็เดินไปเรื่อยๆ แถวที่พักนั่นแหละ เข้าซอยนู้นออกซอยนี้ สำรวจเส้นทางกันหน่อย
ตึกแถวถนน love lane
เดินจนเมื่อย ก็ขอซื้อเบียร์ในเซเว่นกินก่อนนอนกันคนละกระป๋อง มีแบบใส่น้ำมะนาวด้วยนะ กินง่ายดี เหมาะกับสายซอฟแบบเรา ฮ่าาา (ลืมถ่ายรูปมา) เจอกันพรุ่งนี้เช้า
เริ่มเช้าวันใหม่ วันนี้เราต้องลุยเต็มที่ ก่อนออกเดินก็ต้องขอเติมพลังกันก่อน ด้วยติ่มซำยามเช้า อยู่บนถนน kimberry อยู่ข้างๆ kimberry house เลย
ติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา เอามาให้หมด กินกันไปสองคนเกือบอ้วกแหนะ อิ่มนะไม่ใช่ว่าไม่อร่อย5555 พนักงานในร้านเค้าก็แนะนำเรานู้นนี่ อันนี้ก็อร่อย ดูเค้าตั้งใจอธิบายมาก จะไม่เอาก็กระไรอยู่แง่ะ ฮือออ
กินเสร็จก็เริ่มภารกิจตามหารูปฝาผนัง ดีใจที่ได้แผนที่จากที่พักมา ในแผนที่ก็จะมีบอกรูปสตรีทอาร์ตต่างๆ ว่าอยู่จุดไหนบ้าง เราก็เริ่มเดินตามหารูปกันเลย ไปเลยค่าาาาาาาาาาาาาาาา
นี่ก็เป็นรูปที่เราตามหากันมาได้ อย่างทุลักทุเล เดินจนเท้าเป็นแผลรอบเลย แนะนำให้ใส่ผ้าใบหรือรองเท้าวิ่งเลยก็ดีนะคะ แต่นี่อยากสวยใส่แบบชิคๆ เป็นไงล่ะ จะสวยก้ต้องทนเนอะ เหอะๆๆๆ
เริ่มเดินตั้งแต่ถนน ดร. ลิม (Jalan Dr Lim Chwee Leong)
รูปนี้เกือบเดินเลย อยู่ในซอก หลังร้านขายก๋วยเตี๋ยวไรซักอย่าง บนถนน Jalan Magazine
เดินมา บนถนน Jalan Magazine เรื่อยๆ ก็เจอภาพนี้ค่า
รูปอื่นๆ ก็เดินตามแผนที่ไปเรื่อยๆ เริ่มจำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตรงไหน แต่อยู่ในย่านจอร์จทาวน์ทั้งหมดเลย
ระหว่างทางตรงหัวมุมของถนน Lebuh China ไหว้สักการะวัดเจ้าแม่กวนอิม
มื้อเที่ยงก็ต้องแวะกิน ชาก๋วยเตี๋ยวกันหน่อย เดี๋ยวเค้าว่ามาไม่ถึงปีนัง ฮ่าๆ
กินเสร็จก็เดินต่อ ไปทางถนนเรียบชายหาด แถวๆ ท่าเรือ
หอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย (Clock Tower) อยู่ใกล้ๆ กับป้อมปราการ แต่เราไม่ได้เข้าไป
เดินมาใกล้กันก็เจอศาลาว่าการเมือง ( City Hall) ตั้งอยู่ข้างๆ สนามหญ้ากว้าง
รูปนี้อยู่ระหว่างทางไป little india
บางคนขี้เกียจเดินก็มีรถให้เช่าบริการ ตอนนั้นอยากกระโดดขึ้นไปนั่งกะเด็กน้อยด้วยเลย ฮือออ
หลังจากเดินจนหมดแรงและอ่อนล้าเต็มที ก็ตกบ่ายสามแล้ว เลยตั้งใจจะไปวัดเก็กล๊กสี่ (Kek Lok Si) ละต่อด้วยไปปีนังฮิลล์ เลยเดินจะไปขึ้นรถเมล์ที่ตึกคอมต้ากัน ระหว่างทางก็ขอแวะกินตามรีวิวพี่ๆในนี้กันซะหน่อย
มือพ่อค้าเป็นระวิงเลย ลูกค้าเยอะจัด
นี่ไงน่าตาเป็นแบบนี้ เหมือนลอดช่องบ้านเรา ใส่ถั่วแดง น้ำตาลอ้อย หวานมัน ราคา 2.7 ริงกิตค่า
นายแบบลอดช่องค่า 5555555555
จากนั้นก็ไปขึ้นรถเมล์สาย 203 หรือ 204 ก็ได้นะคะ ไปวัดเก็กล๊กสี่ (Kek Lok Si) กัน (อยู่ระหว่างทางไปปีนังฮิลล์ค่า)
ถ่ายมาได้แค่รูปเดียว หลังจากนั้นฝนก็ตกค่า จริงๆ มันตกตั้งเดินขึ้นไปแล้วสิ ถ่ายเสร็จก็เดินลงกลับ จบ
หลังจากที่ฝนตกหนักเราก็ตัดสินใจไม่ไปปีนังฮิลล์แล้ว เลยนั่งรถเมล์กลับตัวเมืองกัน ไปหาของกินกันดีกว่าค่าาาาา เรื่องกินเรื่องใหญ่
เดินผ่านแถว sunway hotel ก็เห็นเป็ดมันน่ากิน ก็ลองท้องซักนิด ออเดิฟ
เดินไปถึงร้านที่เราตั้งใจจะมากินแต่มันปิด และฝนก็ตกด้วย กางร่มไปเปิดกูเกิ้ลไป จะไปกินที่ไหนดี เลยได้ไป ที่ gurney drive street food ก็เห็นในรูปมันมีของกินมากมาย ตั้งอยู่ริมทะเล ก็เลยนั่งรถเมล์ไปกันอีก จนถึง gurney plaza ก็เดินเข้าห้างทะลุไปด้านหลังเลย ก็จะเจอร้านรถเข็นตั้งอยู่เต็ม แต่ของกินก็เหมือนๆ กัน พวกหอย ปลาหมึก กุ้ง ของทอด เล็กซ่า ชาก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ มาถึงก็ต้องกินอ่ะ กินก็กิน
นี้ก็เป็นกุ้ง ปลาหมึก ชุบแป้งทอด สับๆๆ ใส่แตงกวา ราดน้ำจิ้ม ราคาเกือบสี่ร้อยบาทแหนะ ก็อร่อยดีหรือว่าเราหิว หือ
กินเสร็จเราก็เดินจะไปหารถเมล์ขึ้นกลับถนนจูเลียกัน แต่แล้วเดินตามกูเกิ้ลแมป มันก็พาเราหลง หลงจนเดินเข้าที่มืด ผู้ชายข้างๆ ก็บอกว่าเรากลับทางเดิมกันเถอะ อย่ามาทางลัดเลย 55555555 อะไรวะ จะถึงป้ายรถเมล์อยู่แล้ว สรุปก็เดินกลับทางเดิมเห็นรถเมล์วิ่งผ่าน (รถเค้าจะจอดตามป้ายนะคะ โบกไปเค้าก้ไม่จอดให้เรา โถ่ววว) วิ่งตามรถเมล์กันค่ะ ไม่ทัน เดินไปจนไปถึงป้ายรถเมล์ ละสวรรค์ก็ส่งรถเมล์เที่ยวสุดท้ายมาให้เราได้กลับที่พักกันโดยสวัสดิภาพ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็เคว้งคว้างจะไปไหนกันดี เลยไปลงที่ Hin bus depot centre เป็นแหล่งแสดงผลงานศิลปะ ก็มีรูปต่างๆ แสดงเอาไว้ ให้เราได้ชมกัน ใครแนวอาร์ตก็ลองมากันดูนะคะ ด้านหน้าจะมีร้านกาแฟให้นั่งเล่นกันด้วย นั่งยาวกันไปเลย
ใกล้จะบ่ายสามแล้ว เราจองรถตู้กลับหาดใหญ่กัน ไปจองที่ด้านล่างตึกคอมต้ามาเมื่อวานทางไปท่ารถเมล์ คนละประมาณ 350 บาท เค้ามารับที่ที่พักค่า
ลากันแล้วสินะปีนัง ไว้จะกลับมาหาใหม่
ขอฝากกระทู้ไว้ด้วยนะคะ สวัสดีค่า
ปล. สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าที่พัก 2 คืน 800 บาท/คน
- ค่ารถกลับหาดใหญ่ 350 บาท/คน
- ส่วนค่าตั๋วขึ้นกับความสามารถเราค่า 5555
- ค่ากิน ก็แล้วแต่เราเลยนะคะ ราคาของกินแพงกว่าบ้านเรานิดหน่อยค่า
- ค่ารถเมล์ เที่ยวละประมาณไม่เกิน 3 ริงกิตค่า ไปไหนก้ไปกันโลดค่า
My Penang กิน เดิน ถ่ายรูป 2 วัน ที่ปีนัง ปีไหนก็จะไปด้วยกันนะ
ก่อนอื่นต้องสวัสดีทุกคนนะคะ และฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่า กระทู้แรกเลยนะนี่ เริ่มกันเลยเนอะ
เราออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์แอเชีย บินตรง ดอนเมือง-ปีนัง ราคาประมาณ 1300 บาท จองตอนช่วงโปรสิคะรออะไร (ด้วยความว่างงานมาก555) ตั๋วไม่ถูกเราไม่เที่ยว พอถึงสนามบินปีนัง เราก็รีบไปซื้อซิมมือถือ ที่ชั้นล่างเลี้ยวขวาก่อนถึงประตูทางออกสนามบิน จะเห็นเคาเตอน์เหลืองๆ นั่นแหละค่า เป็นค่าย Digi เราเลือกโปรที่ถูกที่สุด ราคา 25 ริงกิต (250 บาท) เค้าก็เปลี่ยนซิม ตั้งค่าให้เราเรียบร้อย พร้อมใช้งาน จากนั้นเราก็รีบไปขึ้นรถเข้าเมืองจอดอยู่ด้านหน้าสนามบินเลย ขึ้นรถเมล์สาย 102 คนละ 2.7 ริงกิต หยอดใส่กล่องได้เลย เท่าไหร่เท่านั้นไม่มีการทอน 55555
นั่งรถมาเรื่อยๆ ประมาณ 30 นาที ก็ถึงตึกคอมต้า จะมีท่ารถต่อไปที่ต่างๆ ผู้คนพลุกพล่าน คนส่วนใหญ่ก็จะลงที่นี่ แต่เราขอต่อไปอีกนิดไปลงแถวที่พักที่ถนนจูเลีย (lebuh chulia) เราพักที่ Malabar inn Penang 2คืน อยู่ในย่านจอร์จทาวน์ คืนละ 800 บาท/2คน ที่พักโอเคเลย สะดวกสบาย เดินทางง่าย คุณลุงเจ้าของใจดีด้วย ถึงที่พักก็ทุ่มกว่าๆ แล้ว รีบเก็บข้าวของ แล้วลงไปหาของกินเลยจ้าาาา
กินกันจนอิ่ม ก็ขอออกเดินเล่นชิวๆ ตามประสาคนเก็บกดได้ออกเที่ยวกันหน่อย ก็เดินไปเรื่อยๆ แถวที่พักนั่นแหละ เข้าซอยนู้นออกซอยนี้ สำรวจเส้นทางกันหน่อย
เดินจนเมื่อย ก็ขอซื้อเบียร์ในเซเว่นกินก่อนนอนกันคนละกระป๋อง มีแบบใส่น้ำมะนาวด้วยนะ กินง่ายดี เหมาะกับสายซอฟแบบเรา ฮ่าาา (ลืมถ่ายรูปมา) เจอกันพรุ่งนี้เช้า
เริ่มเช้าวันใหม่ วันนี้เราต้องลุยเต็มที่ ก่อนออกเดินก็ต้องขอเติมพลังกันก่อน ด้วยติ่มซำยามเช้า อยู่บนถนน kimberry อยู่ข้างๆ kimberry house เลย
กินเสร็จก็เริ่มภารกิจตามหารูปฝาผนัง ดีใจที่ได้แผนที่จากที่พักมา ในแผนที่ก็จะมีบอกรูปสตรีทอาร์ตต่างๆ ว่าอยู่จุดไหนบ้าง เราก็เริ่มเดินตามหารูปกันเลย ไปเลยค่าาาาาาาาาาาาาาาา
นี่ก็เป็นรูปที่เราตามหากันมาได้ อย่างทุลักทุเล เดินจนเท้าเป็นแผลรอบเลย แนะนำให้ใส่ผ้าใบหรือรองเท้าวิ่งเลยก็ดีนะคะ แต่นี่อยากสวยใส่แบบชิคๆ เป็นไงล่ะ จะสวยก้ต้องทนเนอะ เหอะๆๆๆ
รูปอื่นๆ ก็เดินตามแผนที่ไปเรื่อยๆ เริ่มจำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตรงไหน แต่อยู่ในย่านจอร์จทาวน์ทั้งหมดเลย
หลังจากเดินจนหมดแรงและอ่อนล้าเต็มที ก็ตกบ่ายสามแล้ว เลยตั้งใจจะไปวัดเก็กล๊กสี่ (Kek Lok Si) ละต่อด้วยไปปีนังฮิลล์ เลยเดินจะไปขึ้นรถเมล์ที่ตึกคอมต้ากัน ระหว่างทางก็ขอแวะกินตามรีวิวพี่ๆในนี้กันซะหน่อย
จากนั้นก็ไปขึ้นรถเมล์สาย 203 หรือ 204 ก็ได้นะคะ ไปวัดเก็กล๊กสี่ (Kek Lok Si) กัน (อยู่ระหว่างทางไปปีนังฮิลล์ค่า)
หลังจากที่ฝนตกหนักเราก็ตัดสินใจไม่ไปปีนังฮิลล์แล้ว เลยนั่งรถเมล์กลับตัวเมืองกัน ไปหาของกินกันดีกว่าค่าาาาา เรื่องกินเรื่องใหญ่
เดินไปถึงร้านที่เราตั้งใจจะมากินแต่มันปิด และฝนก็ตกด้วย กางร่มไปเปิดกูเกิ้ลไป จะไปกินที่ไหนดี เลยได้ไป ที่ gurney drive street food ก็เห็นในรูปมันมีของกินมากมาย ตั้งอยู่ริมทะเล ก็เลยนั่งรถเมล์ไปกันอีก จนถึง gurney plaza ก็เดินเข้าห้างทะลุไปด้านหลังเลย ก็จะเจอร้านรถเข็นตั้งอยู่เต็ม แต่ของกินก็เหมือนๆ กัน พวกหอย ปลาหมึก กุ้ง ของทอด เล็กซ่า ชาก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ มาถึงก็ต้องกินอ่ะ กินก็กิน
กินเสร็จเราก็เดินจะไปหารถเมล์ขึ้นกลับถนนจูเลียกัน แต่แล้วเดินตามกูเกิ้ลแมป มันก็พาเราหลง หลงจนเดินเข้าที่มืด ผู้ชายข้างๆ ก็บอกว่าเรากลับทางเดิมกันเถอะ อย่ามาทางลัดเลย 55555555 อะไรวะ จะถึงป้ายรถเมล์อยู่แล้ว สรุปก็เดินกลับทางเดิมเห็นรถเมล์วิ่งผ่าน (รถเค้าจะจอดตามป้ายนะคะ โบกไปเค้าก้ไม่จอดให้เรา โถ่ววว) วิ่งตามรถเมล์กันค่ะ ไม่ทัน เดินไปจนไปถึงป้ายรถเมล์ ละสวรรค์ก็ส่งรถเมล์เที่ยวสุดท้ายมาให้เราได้กลับที่พักกันโดยสวัสดิภาพ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็เคว้งคว้างจะไปไหนกันดี เลยไปลงที่ Hin bus depot centre เป็นแหล่งแสดงผลงานศิลปะ ก็มีรูปต่างๆ แสดงเอาไว้ ให้เราได้ชมกัน ใครแนวอาร์ตก็ลองมากันดูนะคะ ด้านหน้าจะมีร้านกาแฟให้นั่งเล่นกันด้วย นั่งยาวกันไปเลย
ใกล้จะบ่ายสามแล้ว เราจองรถตู้กลับหาดใหญ่กัน ไปจองที่ด้านล่างตึกคอมต้ามาเมื่อวานทางไปท่ารถเมล์ คนละประมาณ 350 บาท เค้ามารับที่ที่พักค่า
ขอฝากกระทู้ไว้ด้วยนะคะ สวัสดีค่า
ปล. สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าที่พัก 2 คืน 800 บาท/คน
- ค่ารถกลับหาดใหญ่ 350 บาท/คน
- ส่วนค่าตั๋วขึ้นกับความสามารถเราค่า 5555
- ค่ากิน ก็แล้วแต่เราเลยนะคะ ราคาของกินแพงกว่าบ้านเรานิดหน่อยค่า
- ค่ารถเมล์ เที่ยวละประมาณไม่เกิน 3 ริงกิตค่า ไปไหนก้ไปกันโลดค่า