เที่ยวหัวหิน 3 วัน 2 คืน กับแกะ

กระทู้สนทนา
เราขอแชร์ประสบการณ์เที่ยวหัวหิน 3 วัน 2 คืน (1-2-3 กันยายน 2558)ให้ฟังค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในการเขียนกระทู้ของเรา อาจเขียนไม่ค่อยเก่งมาก เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นค่ะ
## เริ่มออกเดินทาง อังคาร 1 ก.ย. 58
8.30-11.30 : เราแวะที่ Swiss Sheep Farm ก่อนเลยค่ะ ค่าเข่าชม 50 บาท+แถมหญ้า 1 กำให้แกะ เห็นพนักงานบอกจะมี วิ่งแกะ 13.00


12.00-12.30 : จาก Swiss Sheep Farm ไปวัดห้วยมงคล (37 กิโลเมตร 30 นาที) ไปไหว้หลวงปู่ทวด องค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อนุสาวรีพระเจ้าตากสิน ลอดท้องช้างที่ทำจากไม้ ทำบุญ ต่างๆ มีโรงทานด้วยค่ะ
ขากลับออกมา มีตลาดน้ำ “ณ หัวหิน” ซึ่งยังปิดปรับปรุงอยู่ค่ะ ติดกันนั้น มีทุ่งดอกทานตะวันเล็กๆ อยู่ด้วยค่ะ ตรงออกมาเรื่อยๆ พอเจอสี่แยกตัดถนนใหญ่ ก็ตรงมาอีกนิดจะถึงตลาดน้ำสามพันนามค่ะ
13.00 วัดห้วยมงคล - ตลาดน้ำสามพันนาม (13.3 km. 15 นาที) ตลาดเงียบมากๆคะ เนื่องจาก เป็นวันธรรมดา เราจอดรถที่หลังตลาดค่ะ จอดฟรี จริงๆ เราสามารถขึ้นรถไฟ (20 บาท) ตั้งแต่ตรงนั้น แต่เราไม่รู้ว่า นี่คือหลังตลาดค่ะ

เราซื่อขนมปังไส้สับปะรด อันเล็ก 10 ชิ้น 20 บาท, อันใหญ่ 10 ชิ้น 25 บาท+ขนมปังเนยสด แผ่นอบกรอบอันนี้แนะนำค่ะ อร่อย 3 ห่อ 100 (อยู่ใน 1 กล่อง+ แถมฟรี 1 ห่อ ค่ะ)+ กินก๊วยเตี๊ยวเนื้อริมน้ำ
-ถ้าปั่นเรือถีบเป็ด (คนละ 50) ถ้านั่งเรือลำเล็กก็คนละ 40 บาท เหมือนต้องรอคนเยอะถึงจะออก แต่เราไม่เอา เพราะคิดว่าแพง ทั้งคู่ 555
-รถไฟ วิ่งในตลาด ราคาคนละ 20 บาท (10 min) รถไฟออกเรื่อยๆ ค่ะไม่ต้องรอคนเต็ม


-การแสดงกลางน้ำวันธรรมดา-นาฏศิลป์ (โซนเกาะเต่า นวดแผนโบราณ อยู่ใกล้เวทีด้านข้างมากๆ  ที่มองเห็นชัดหน่อย) แต่การแสดงจริง ประมาน 15 นาที ค่ะ
รอบการแสดง มี 3 รอบ
11.30-12.00
13.30-14.00
15.30-16.30 เราทันดูรอบนี้ค่ะ (บริเวณศาลานวด แต่วันธรรมดา ไม่มีนวดค่ะ เราเลยต้องนวดให้แฟนเราเอง ซ่ะงั้น 555) อิจฉาจริงๆ ชมการแสดงริมน้ำ ลมเย็นๆ มีคนนวดให้อีกเนี่ย


แอบด้วยความฟรุ้งฟริ้ง แฟน เลยเลือกเสื้อคู่ หัวหิน 2 ตัว ชาย-หญิง มา ตัวละ 120 บาท แล้วมาเอากางเกงชาย-หญิง ลายเดียวกัน คู่ละ 300  สุดท้ายกลายเป็นเสื้อผ้า ที่เหมือนกัน ตามตั้งใจ 555

16.45 ตลาดน้ำสามพันนาม-ตลาดน้ำหัวหิน 0.1 km. (4 mins) พอมาถึง เหมือนกำลังจะสร้างเป็น Gallery หรือ อะไรซักอย่าง ยังไม่เปิดให้เข้าชมค่ะ
จริงๆ แล้ว เราควรต่อด้วย บ้านศิลปิน, หมู่บ้านช้าง ค่ะ แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่ในโปรแกรมเราตั้งแต่แรก จึงผ่านไปก่อนค่ะ
เราต้องรีบกลับไป Check In ที่ Marrakesh Residence ก่อน 18.00 ค่ะ

ซึ่งพอเห็นบัตรผ่านต่างๆ บัตรผ่านจอดรถ, บัตรผ่านประตูกดลิฟ, บัตรผ่านประตูห้อง เยอะเกิ้น จิเป็นลม
รู้สึกตื่นตา ตื่นใจกับห้องค่ะ เป็น สไตล์  Condo มีที่ทำครัว, ห้องนั่งเล่น ,ระเบียง, 1 ห้องนอน, ห้องน้ำ
ไม่ทันได้จัดของเรารีบไปสระว่ายน้ำค่ะ เพราะกลัวจะปิดก่อน ถึงสระก็ 18.30 ค่ะ ฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก ลมเย็นๆ มืดสลัว หลังพระอาทิตย์ตกดิน เงียบสงบ ไม่มีคนพลุกพล่าน





ต่างจาก ในส่วนของโรงแรมเปิดเพลงครึกครื้น เราเลยแวะไปเดินโฉบเฉี่ยว นอนชมบรรยากาศ นิดนึงค่ะ

20.00น. ขึ้นมาอาบน้ำ เพื่อไปหาของกินตลาดโต้รุ่ง ซอย 72 ค่ะ ขับรถเลยซอย 72 ไป นิดนึง เลี้ยวซ้ายที่สี่แยก วนกลับไปข้างหลัง เพื่อหาที่จอดรถค่ะ (จอดฟรี)
- ไอติมเจ้นิ คนเยอะมาก ถ้วยละ 10บาท ( ไอติม 3 ลูก + ผลไม้ตามฤดูกาลค่ะ) เรากิน กะทิ ทั้งสองคน

-ตรงข้ามเจ้นิ กินข้ามต้มปลาหมึกไข่ 65 บาท, เรา ข้าวต้ม ต้มยำทะเล 55 บาท

ตลาดฉัตรศิลา ก็อยู่ข้างๆกันค่ะ


## วันที่ 2 กันยายน 58 :
อาหารเช้าของเราคือโกเซนเป็ดย่าง (แต่เรากับแฟนว่า มันรสชาดงั้นๆ อ่ะ)

หลังจากกินข้าวเช้าแล้วเรามุ่งหน้าสู่ เขาหินเหล็กไฟ จุดชมวิวที่มองเห็นได้ทั้งเมืองหัวหิน


เราไปแค่จุดชมวิวที่ 1,4,5,6 เนื่องจากเดินเท้าลำบาก  เป็นช่วงๆค่ะ จุดชมวิวที่ 6 (ดังภาพ) เป็นหน้าผาหินค่ะ ไม่มีพื้นไม้ดีๆให้เดิน น่ากลัวด้วย ไม่แนะนำให้ไปจุดที่ 6 ค่ะ

หลังจากขับรถลงจาก เขาหินเหล็กไฟ แล้ว เราตรงสู่ สถานีรถไฟหัวหิน เพื่อเก็บภาพเป็นที่ระลึกค่ะ แล้วย้อนไปบ้านศิลปิน (ชมฟรี) ซึ่งไม่อยู่ในแผนตั้งแต่แรก
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมากแล้วอาหารเที่ยงของเราคือข้าวซอยค่ะ ( ถ้าเราขับรถเข้ากรุงเทพจะอยู่ซ้ายมือ แถวๆวังไกลกังวล ค่ะ อร่อยมาก! ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ ชื่อร้าน “ข้าวซอยหน้าวัง”


ต่อไปคือ เพลินวาน ค่ะ ซึ่งถ้าวันธรรมดาก็เปิดค่ะ แต่ไม่ค่อยมีร้านค้ามากนัก เราเลยเดินชมแค่แป๊บเดียว เพลินวานไม่มีบริการจอดรถ เราจึงต้องอ้อมไปจอดด้านหลัง เสียค่าจอด 20-30 บาทค่ะ

ขับรถต่อไปอีกหน่อยก๊ถึง เวเนเซีย ค่ะ เราอยุ่ประมานตั้งแต่บ่าย 17.00-20.00 ประมานเวลานั้น บรรยากาศดีมาก เราซื้อตั๋วเหมา 299 บาท (รวมล่องเรือกอนโดลา+ชมภาพ 3D) มีราคาเหมาขายที่ประตูทางเข้าของเวเนเซีย ลองสอบถามดูน่ะคะ
มีบางช่วง ฝนตกค่ะ บรรยากาศดีที่สุดเลย


จากนั้นก็ไปถ่ายรูปที่ รฤกหัวหิน ค่ะ ที่ชั้น 2 เราสามารถเดินชมการจัดแสดงวัฒนธรรม ข้าวของเครื่องใช้ รูปปั้น ตุ๊กตา ในสมัยก่อน และถ่ายรูป เราพยายามเดินหาสะพานปลาค่ะ แต่หาไม่เจอ 555 เลยแล้วขับรถ วนหาของกิน ได้เป็น ต้มยำปลา กับ กระเพราเนื้อ

ใกล้ๆ รฤก ค่ะ รสชาติใช้ได้เลย ตอนนี้ไฮไลท์อยู่ที่ “Binta Burger” (เป็นรถเข็นขายอยู่ใน ซอยบิณฑบาต ย่านบาร์แถว ๆ โรงแรมฮิลตัน) ราคา 110-130 บาท อร่อยมาก คุ้ม! ค่ะ

## 3 กันยายน 58
เช้า เราต้องรีบไปใช้สระว่ายน้ำให้คุ้มค่ะ เพราะต้อง check out
อาหารเช้าของเราคือ ก๊วยเตี๊ยวเจ้กันยา (ถ้ามาจากกรุงเทพ จะอยู่ขวามือ ตรงข้ามบ้านปลายหาดขาว) เราไปตอนใกล้เที่ยง คนเยอะมาก ต้องสั่งต้มยำทะเล น่ะคะ ราคา 30 บาท อาหารทะเลสดได้เยอะ คุ้มมากค่ะ

ขับรถต่อไป มุ่งสู่วัดเขาตะเกียบ

มีพระพุทธบาท ให้นมัสการด้วยค่ะ แต่เสียดายตอนเราไป ปิดค่ะ
ต่อไป เราแวะที่อุทยานราชภักดิ์ ซึ่งตอนนั้นกำลังก่อสร้าง ท่ามกลางฟ้ามืดครึ้ม ฝนกำลังจะตก เมื่อเราก้าวขาขึ้นรถ กำลังจะกลับ ฝนก็ตกมาทันที น่ามหัศจรรย์จริงๆค่ะ แวะไปฝั่งตรงข้ามก็คือ สวนสนปฏิพัทธ์

ขับรถไปเรื่อยๆ ฝนเริ่มซาลง เราก็แวะ พระราชวังมฤคทายวัน

ต่อด้วย ที่สุดท้าย อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินทร ที่อยู่ใกล้ๆกันนั่นเอง
จบทริป 3 วัน 2 คืน หัวหิน ของเราแล้วค่ะ ….มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่