เนื่องจากมาทำงานที่ จ. อุทัยธานีได้ 2  ปี
กำลังจะย้ายกลับกรุงเทพ

เลยจัดทริปก่อนกลับซะหน่อยละกัน
จัดไปกับ

---เขาปลาร้า---

ได้ยินชื่อมาหลายครั้ง แต่ก็นึกหน้าตามันไม่ออก
เลยต้องไปให้เห็นกับตาซะหน่อย

กระทู้รีวิวครั้งแรกนะครับ
เนื่องจากตอนวางแผนจะไป ผมหารีวิวไม่ได้เลยย
ไปแล้วก็เลยมาแบ่งปันประสบการณ์ เผื่อมีใครสนใจ
ผิดพลาดยังไงขออภัยนะคร้าบ

ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและพี่สุชาติ(พี่จนท.ที่ให้ข้อมูลและดูแลเรา ) เล่าว่า

เขาปลาร้าก็เป็นภูเขา สูงประมาณเกือบๆ 600 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ข้างบนยอดจะมีถ้ำ บนหน้าผา
ที่มีภาพวาดสีของมนุษย์โบราณ
ซึ้งถูกวาดขึ้น ในยุคกว่า 5,000 ปี ก่อนประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
ใช้เวลาในการเดินขึ้นลงประมาณ 3 ชั่วโมง
เที่ยวละ 1.3 กิโลเมตร
ควรจะไปแต่เช้าๆแดดจะได้ไม่ร้อนมาก
ข้างบนมีสัญญาณมือถือมั่ง ไม่มีมั่ง

ก่อนจะขึ้นไป ก็ต้องไปลงทะเบียนที่เค้าเตอร์ที่หุบป่าตาดก่อน
( เพื่อว่าหากมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น เค้าจะได้ทราบได้)

คือเค้าเต้อร์สีฟ้าๆนะครับ  (เมิงเรียกว่าซุ้มดีกว่ามั้ยย )


หลังจานั้นพี่สุชาติก็พาเรานั่งรถไปส่งที่จุดปล่อยตัว
แล้วก็จะปล่อยเราไปตามลำพัง


ตลอดทางที่ขึ้นไปไม่มีคนเลยซักคน private มั่กๆ
ทางเดินค่อนข้างชัน เล่นเอาหอบอยู่เหมือนกัน
ทางก็แบบธรรมชาติล้วนๆครับ
จะเป็นทางถางให้กว้างมั่งแคบมั่งพอเดินง่ายๆ และไม่หลง

มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ให้สบายใจ เหรออ







ระหว่างทางก็มีเสียงนก เสียงสัตว์ให้ฟังเพลินๆ
เจอะเจอสัตว์ป่าน้อยใหญ่
เล็กสุดก็มด ใหญ่สุดก็กิ้งกือ 555
แต่กิ้งกือนี่ใหญ่จริงง



พอใกล้ๆถึงยอดจะมีจุดชมวิว


มันก็น่าจะฟินอยู่นะ ถ้าไม่มี....

แมลงงง!!
ไปถามคนแถวนั้นมาแล้ว เค้าบอกมันเรียกว่า
แมลงขี้ฉูด ( สงสัยจะมาจากกระฉูด -0- )
คือ แรกๆมันก็มีไม่กี่ตัว ละถ้าเกิดเราเผลอไปทำมันตายเข้า
กลิ่นของมันจะค่อยๆเรียกพวกมาจ้าา

ซึ่งเราก็ไปทำมันตายย ละทีนี้พอใกล้ๆถึงยอดมันก็เยอะๆๆๆๆขึ้นเรื่อย

อุแม่เจ้าาาา !!
มาเป็นร้อยยย ( นี่พิมพ์อยู่ยังขนลุก )
จริงๆมันก็ไม่ได้ทำอันตรายๆอะไรเรานะ
แค่บินเข้าหู ตา คอ จมูก ปาก แค่นั้นเอ๊งง

ทีนี้พอขึ้นไปถึงจุดยอด
ไฮลงท์ไฮไลท์ ก็ไม่มีอารมณ์ดื่มด่ำกะมันละ T^T
กดชัตเตอร์ไม่ถึง 10 ครั้ง
อยู่ไม่ถึง 10 นาที
ลงจ่ะ ลง
ความคิดตอนนั้นนี่เหมือนหนังสยองขวัญ
ที่มันมีแมลงอะไรแปลกๆที่กินคนได้อ่ะ
คิดไปนั่น

ขาลงนี่ก็ทั้งแมลง ยุง
ทั้งแดด
ทั้งทางชัน
ขาสั่น ปวดเข่า
กว่าจะถึงนี่แฟนแทบร้องไห้

แต่ก็บ่นไปอย่างนั้นแหละ 555
จริงๆก็ชอบหมดทุกอย่างนะ
เสียแค่ที่ไม่ได้เตรียมป้องกันแมลงไป
ไม่งั้นคงฟินกว่านี้


อันนี้คือไฮไลท์ของเขานี้เลยนะครัช ภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์
เค้าว่าเป็นคน กับสัตว์เลี้ยง พวก สุนัข วัว ควาย ลิง
แต่ถามว่าตอนนั้นดูออกมั้ย ....




บรรยากาศบนยอดครับ
เป็นถ้ำอยู่ใกล้ๆกับหน้าผา





อันนี้แมลงตอนจนอยากจะร้องไห้


แนะนำครับ สำหรับคนอยู่ไม่ไกล
และชอบท่องเที่ยวแนวนี้
ถ้าเดินทางจากกรุงเทพก็ประมาณ 300 โล
จากอำเภอเมืองอุทัยก็ราวๆ 50 โล

แถวๆนั้นก็มีที่เที่ยวต่อใกล้ๆ เช่น หุบป่าตาด วัดถ้ำทอง น้ำพุร้อนสมอทอง
แล้วก็ไปดูฝูงค้างคาวบินออกจากถ้ำ ที่ รร ลานสักวิทยา ช่วง 6โมง ถึง 1 ทุ่ม
เสร็จแล้วกลับไปเที่ยวไปนอนในเมืองต่อได้เลย
หรือจะไปบ้านไร่ก็ได้เหมือนกันนะครัช

อันนี้เป็นภาพคลองคอกควายที่อยู่หลัง น้ำพุร้อนสมอทอง
บรรยากาศดีครับ
แต่ไปแช่เท้า แล้วรู้สึกว่าน้ำมันไม่ค่อยร้อน ไม่ฟิน



ส่วนอันนี้คือไปรอดูค้างคาวบินออกจากถ้ำ หน้าโรงเรียนลานสักวิทยาครับ



ปล.1 พี่สุชาติ เจ้าหน้าที่ดูแลดีมากๆๆๆๆ เอาไป 12/10 ( อาจจะเพราะมีเราไปเที่ยวกลุ่มเดดียวในวันนั้นด้วยมั้ง)
ปล.2 จริงๆเค้าบอกให้เตรียมยากันแมลงไปด้วย แต่เราลืมก็เลยไม่ได้พกไปด้วย พลาดจริงๆ
ปล.3 เค้าบอกว่าหน้าฝน อิแมลงนี่จะเยอะหน่อย เค้ามักจะเที่ยวกันหน้าหนาว
ปล.4 สัตว์ป่าถ้าโชคดีก็อาจได้เห็น ตั้งแต่กระรอก นกสีแปลกๆ ไปถึงเก้ง
เค้าว่าเคยมีคนเจอรอยเท้าหมีควายด้วยนะ