ว่ากันจริงๆ บางเรื่องคงอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ แต่ตัวเองเจอ ณ ขณะนั้น ก็ชวนขนลุกไม่เบา
เรื่องที่ 1 สมัยประถม เป็นเวลาดึกมากๆแล้ว ตอนนั้นเริ่มง่วงๆ ก็เห็นบรรยากาศในห้องนอน ที่ป๊าม้ากำลังคุยๆกัน ตรงหน้าประตูห้อง จะมีตู้เสื้อผ้าวางติดกับชั้นวางของ ชั้นวางนั้น มีนาฬิกาปลุกรูปบ้านคนที่เสียแล้ววางตั้งอยุ่ ในขณะที่กำลังเคลิ้มๆ อยู่ๆก็เห็นมือ โผล่ออกมาจากด้านข้างตู้เสื้อผ้า ออกมาตบๆตรงหลังคาบ้านของนาฬิกาปลุก แล้วเหมือนมือนั้นกำลังโรยผงๆอะไรไม่รู้บนนาฬิกา ..... ถึงตอนนั้นยังเด็กก็รู้สึกได้ว่า มือใครที่ไหนมันจะโผล่มาจากด้านข้างตู้เสื้อผ้า ที่เป็นไม้ทึบๆได้ .... ณ ตอนนั้นนึกว่าตัวเองตาฝาดด้วย และง่วงมากๆก็เลยหลับไป พอตื่นเช้ามาดู นึกถึงภาพที่เห็นเมื่อคืนขึ้นมาได้ ก็เลยเดินไปดูนาฬิกาปลุกเรือนนั้น ปรากฏว่าบนหลังคาบ้านของนาฬิกา มีเหมือนผงขี้เถ้าเปื้อนเต็มไปหมด ...(ทั้งที่ก่อนหน้านั้น แน่ใจว่ามันไม่มี) ......มันคืออะไร ทุกวันนี้ นึกขึ้นได้ก็ยังสงสัย
เรื่องที่ 2 บ้านเราเป็นอาคารพาณิชย์ ที่ไม่ได้มีความน่ากลัวเลยซักนิด เพราะติดถนน และเป็นย่านของกินคึกคัก เป็นบ้าน 3 ชั้น ห้องน้ำมีชั้นแรกกับชั้นที่2 ห้องน้ำชั้น2อยู่แยกกับห้องนอน เมือก่อน เวลาที่คนในบ้านเข้าไปห้องนอนกันหมดแล้ว ชั้นหนึ่งปิดไฟหมดไม่มีใครอยู่ ชั้น 2 ก็อยู่ในห้องนอนกันหมด เวลาต้องอาบน้ำช่วงดึกๆเป็นอะไรที่ระทึกมาก เพราะบ่อยครั้งๆ อาบๆอยู่ จะได้ยินเสียงคนขึ้นบันไดไปชั้น 3 แบบชัดเจนมากๆ ทั้งๆที่ตอนนั้นชั้น 3 ยังไม่มีใครขึ้นไป เวลาได้ยินเสียงคนขึ้นลงบันไดทีไร แน่นอน ไฮสปีดอาบน้ำสุดๆ รีบวิ่งเข้าห้องนอนพ่อแม่ที่อยู่ชั้น 2 แต่มันก็ยังไม่น่าขนลุกเท่าไหร่ เพราะอาจหูแว่วก็ได้ ถ้าไม่มีเรื่องราวต่อไปนี้
มีคืนนึงป๊าม้าออกไปงานเลี้ยงตอนกลางคืน พี่สาวตอนนั้นไปเรียนที่ กทมแล้ว ตัวเองก็อยู่กับพี่เลี้ยงในบ้าน กับพี่สาวอีกคนที่มีปัญหาทางสุขภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นก็อยู่กันชั้น 1 รอป๊าม้ากลับมา ก็นอนเปิดวิดีโอรันม่าดูไปด้วย ซักหน่อย สายตาเหลือบขึ้นไปมองตรงบันไดที่จะขึ้นไปชั้น 2 เห็นขาผู้ชายแว๊บๆ ใส่กางเกงขาสั้นลายทหาร ....ก็เลยบอกพี่เลี้ยงว่าเมื่อกี้เห็นใครไม่รู้ขึ้นไปชั้น 2 .....พี่เลี้ยงก็บอกว่า ตาฝาดมั๊ง ไม่เห็นมีใคร .... ตอนนั้นใจเริ่มกลัวมากๆแล้ว ซักพัก ได้ยินเสียงมีคนเดินอยุ่ตรงบันได แล้วเป็นเสียงชายวัยกลางคนคำรามแบบเสียงในบ้านแน่ๆว่า "อะแฮ่มมมมม" เท่านั้นล่ะ โดดไปกอดตัวกลมกับพี่เลี้ยงเลย
ไม่นาน ที่บ้านทำพิธีตั้ง ตี่จูเอี๊ยรึเปล่า จำไม่ค่อยได้เลือนลางมาก และมีคนทรงเจ้ามาทำพิธีไรนี่ล่ะ พอร่างทรงประทับ เค้าก็บอกว่า เค้าชื่อ บุญมี อาศัยอยู่ในบ้านนี้เคยเป็นทหารเก่า แถมบอกอีกว่า ตอนดึกๆชอบออกมาแกล้งลูกๆบ้านนี้ เห็นเวลาอาบน้ำ แล้วรีบวิ่งหน้าตั้งออกมาเพราะได้ยินเสียงบันได เค้าก็ขำมากๆ ยิ่งแกล้งยิ่งสนุก ...........เฮืออกกกกก
เรื่องที่3 ช่วงที่ไปซัมเมอร์ที่ญี่ปุ่น หอพักเป็นห้องนอนกว้างๆ ประมาณเท่าห้องเรียน เพราะเป็นโรงเรียนตามบ้านนอก เลยมีเนื้อที่กว้างขวาง ด้านหน้าโรงเรียน ล้อมด้วยท้องนาและภูเขา หอพักคนอยู่ไม่เยอะ ทั้งตึก อยู่กันไม่เกิน 10 คน เวลานั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว เพื่อนคนอื่นๆ นัดกันไปเดินที่ภูเขาใกล้ๆโรงเรียน แต่ตอนนั้น เป็นคนเดียวที่ขี้เกียจไป เลยนอนรออยุ่ที่ห้องซักพักก็เผลอหลับไป นอนตะแคงเข้าหากำแพงห้อง แล้วอยู่ๆก็รู้สึกขยับตัวไม่ได้ และได้ยินเหมือนมีเสียงงานปาร์ตี้กันเป็นภาษาญี่ปุ่น ข้างๆที่นอน เป็นเสียงชายหญิงคุยกันดังมากกก เสียงผู้ชายเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะนั่นคือหอพักหญืง เสียงแบบสนุกสนานหัวเราะ พยายามลืมตามอง ก็ลืมได้ไม่เต็มตา อยากจะพลิกตัวกลับมาก็ทำไม่ได้ แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่า มีมือมาดันหลังตัวเอง แล้วเป็นเสียงผู้หญิงหัวเราะ แถมพูดอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ณ ตอนนั้นกลัวมั๊ย ก็กลัวนะ แต่ฟังไม่รู้เรื่องด้วย พยายามฝืนตัวเองให้ตื่นเต็มตัวให้ได้
พอ ร่างกายขยับได้ รีบลุกมองไปรอบๆห้อง ก็ยังเห็นห้องนั้นว่างเปล่า เพราะเพื่อนยังไม่กลับมากัน ......
เรื่องที่4 นาฬิกาผีสิง มีนาฬิกาปลุกการ์ฟิลอยู่ตัวนึง ยุคนั้นมือถือเริ่มเฟื่องฟูก็ใช้มือถือปลุกแทน ส่วนนาฬิกาเรือนนั้น ณ วันที่เกิดเหตุ มันหยุดเดินไปหลายปีมากๆแล้ว แต่เนื่องจากเป็นรูปการ์ตูนเลยยังเก็บไว้ตั้งโชว์ วางตั้งบนทีวี ...ช่วงนั้นซื้อคอนโดอยู่ใน กทม แล้ว และเป้นช่วงที่พี่สาวกลับบ้านแล้วตัวเองอยู่ห้องคนเดียว .... ยามดึกสงัดประมาณตี2 อยู่ๆไอ้นาฬิกานั่นก็แหกปากร้องปลุกขึ้น ให้นึกถึงแมวการ์ฟิลนอนยิ้มอยู่ เข็มนาฬิกาก็หยุดเดินไปแล้ว เข็มตั้งปลุกก็ไม่ตรง แต่ดันแหกปากร้องปลุกขึ้นมาเองได้ เลยลุกจากที่นอน ไปหยิบนาฬิกาขึ้นมา เสียงมันก็ยังดังๆไปเรื่อย ก็เลยลองเปิดที่ใส่ถ่าน พบว่ายังมีถ่านคาอยุ่ ก็คิดว่า เออ สงสัยพลังงานตกค้าง ในนั้นมีถ่าน 4 ก้อน ก็เลยจะเอาถ่านออก เอาถ่านก้อนที่ 1 ออก ตามปกติ มันต้องหยุดร้องใช่หรือไม่ ...ปล๊าววว มันยังคงร้องอยู่แบบนั้น ออกก้อนที่ 2 ก็ยังร้องอยู่ ไอ้เราก็มองหน้าการ์ฟิลยิ้ม ก็หลอนไปด้วย .... จนเอาออกหมดทั้ง 4 ก้อนมันถึงหยุดร้อง ...
สรุปคืนนั้นไม่ได้นอน เปิดวิทยุ เปิดคอมเล่นทั้งคืน
เรื่องแปลกๆที่เคยเจอ 4 เรื่อง จบรวดเดียว ไม่ค้างคา
เรื่องที่ 1 สมัยประถม เป็นเวลาดึกมากๆแล้ว ตอนนั้นเริ่มง่วงๆ ก็เห็นบรรยากาศในห้องนอน ที่ป๊าม้ากำลังคุยๆกัน ตรงหน้าประตูห้อง จะมีตู้เสื้อผ้าวางติดกับชั้นวางของ ชั้นวางนั้น มีนาฬิกาปลุกรูปบ้านคนที่เสียแล้ววางตั้งอยุ่ ในขณะที่กำลังเคลิ้มๆ อยู่ๆก็เห็นมือ โผล่ออกมาจากด้านข้างตู้เสื้อผ้า ออกมาตบๆตรงหลังคาบ้านของนาฬิกาปลุก แล้วเหมือนมือนั้นกำลังโรยผงๆอะไรไม่รู้บนนาฬิกา ..... ถึงตอนนั้นยังเด็กก็รู้สึกได้ว่า มือใครที่ไหนมันจะโผล่มาจากด้านข้างตู้เสื้อผ้า ที่เป็นไม้ทึบๆได้ .... ณ ตอนนั้นนึกว่าตัวเองตาฝาดด้วย และง่วงมากๆก็เลยหลับไป พอตื่นเช้ามาดู นึกถึงภาพที่เห็นเมื่อคืนขึ้นมาได้ ก็เลยเดินไปดูนาฬิกาปลุกเรือนนั้น ปรากฏว่าบนหลังคาบ้านของนาฬิกา มีเหมือนผงขี้เถ้าเปื้อนเต็มไปหมด ...(ทั้งที่ก่อนหน้านั้น แน่ใจว่ามันไม่มี) ......มันคืออะไร ทุกวันนี้ นึกขึ้นได้ก็ยังสงสัย
เรื่องที่ 2 บ้านเราเป็นอาคารพาณิชย์ ที่ไม่ได้มีความน่ากลัวเลยซักนิด เพราะติดถนน และเป็นย่านของกินคึกคัก เป็นบ้าน 3 ชั้น ห้องน้ำมีชั้นแรกกับชั้นที่2 ห้องน้ำชั้น2อยู่แยกกับห้องนอน เมือก่อน เวลาที่คนในบ้านเข้าไปห้องนอนกันหมดแล้ว ชั้นหนึ่งปิดไฟหมดไม่มีใครอยู่ ชั้น 2 ก็อยู่ในห้องนอนกันหมด เวลาต้องอาบน้ำช่วงดึกๆเป็นอะไรที่ระทึกมาก เพราะบ่อยครั้งๆ อาบๆอยู่ จะได้ยินเสียงคนขึ้นบันไดไปชั้น 3 แบบชัดเจนมากๆ ทั้งๆที่ตอนนั้นชั้น 3 ยังไม่มีใครขึ้นไป เวลาได้ยินเสียงคนขึ้นลงบันไดทีไร แน่นอน ไฮสปีดอาบน้ำสุดๆ รีบวิ่งเข้าห้องนอนพ่อแม่ที่อยู่ชั้น 2 แต่มันก็ยังไม่น่าขนลุกเท่าไหร่ เพราะอาจหูแว่วก็ได้ ถ้าไม่มีเรื่องราวต่อไปนี้
มีคืนนึงป๊าม้าออกไปงานเลี้ยงตอนกลางคืน พี่สาวตอนนั้นไปเรียนที่ กทมแล้ว ตัวเองก็อยู่กับพี่เลี้ยงในบ้าน กับพี่สาวอีกคนที่มีปัญหาทางสุขภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นก็อยู่กันชั้น 1 รอป๊าม้ากลับมา ก็นอนเปิดวิดีโอรันม่าดูไปด้วย ซักหน่อย สายตาเหลือบขึ้นไปมองตรงบันไดที่จะขึ้นไปชั้น 2 เห็นขาผู้ชายแว๊บๆ ใส่กางเกงขาสั้นลายทหาร ....ก็เลยบอกพี่เลี้ยงว่าเมื่อกี้เห็นใครไม่รู้ขึ้นไปชั้น 2 .....พี่เลี้ยงก็บอกว่า ตาฝาดมั๊ง ไม่เห็นมีใคร .... ตอนนั้นใจเริ่มกลัวมากๆแล้ว ซักพัก ได้ยินเสียงมีคนเดินอยุ่ตรงบันได แล้วเป็นเสียงชายวัยกลางคนคำรามแบบเสียงในบ้านแน่ๆว่า "อะแฮ่มมมมม" เท่านั้นล่ะ โดดไปกอดตัวกลมกับพี่เลี้ยงเลย
ไม่นาน ที่บ้านทำพิธีตั้ง ตี่จูเอี๊ยรึเปล่า จำไม่ค่อยได้เลือนลางมาก และมีคนทรงเจ้ามาทำพิธีไรนี่ล่ะ พอร่างทรงประทับ เค้าก็บอกว่า เค้าชื่อ บุญมี อาศัยอยู่ในบ้านนี้เคยเป็นทหารเก่า แถมบอกอีกว่า ตอนดึกๆชอบออกมาแกล้งลูกๆบ้านนี้ เห็นเวลาอาบน้ำ แล้วรีบวิ่งหน้าตั้งออกมาเพราะได้ยินเสียงบันได เค้าก็ขำมากๆ ยิ่งแกล้งยิ่งสนุก ...........เฮืออกกกกก
เรื่องที่3 ช่วงที่ไปซัมเมอร์ที่ญี่ปุ่น หอพักเป็นห้องนอนกว้างๆ ประมาณเท่าห้องเรียน เพราะเป็นโรงเรียนตามบ้านนอก เลยมีเนื้อที่กว้างขวาง ด้านหน้าโรงเรียน ล้อมด้วยท้องนาและภูเขา หอพักคนอยู่ไม่เยอะ ทั้งตึก อยู่กันไม่เกิน 10 คน เวลานั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว เพื่อนคนอื่นๆ นัดกันไปเดินที่ภูเขาใกล้ๆโรงเรียน แต่ตอนนั้น เป็นคนเดียวที่ขี้เกียจไป เลยนอนรออยุ่ที่ห้องซักพักก็เผลอหลับไป นอนตะแคงเข้าหากำแพงห้อง แล้วอยู่ๆก็รู้สึกขยับตัวไม่ได้ และได้ยินเหมือนมีเสียงงานปาร์ตี้กันเป็นภาษาญี่ปุ่น ข้างๆที่นอน เป็นเสียงชายหญิงคุยกันดังมากกก เสียงผู้ชายเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะนั่นคือหอพักหญืง เสียงแบบสนุกสนานหัวเราะ พยายามลืมตามอง ก็ลืมได้ไม่เต็มตา อยากจะพลิกตัวกลับมาก็ทำไม่ได้ แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่า มีมือมาดันหลังตัวเอง แล้วเป็นเสียงผู้หญิงหัวเราะ แถมพูดอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ณ ตอนนั้นกลัวมั๊ย ก็กลัวนะ แต่ฟังไม่รู้เรื่องด้วย พยายามฝืนตัวเองให้ตื่นเต็มตัวให้ได้
พอ ร่างกายขยับได้ รีบลุกมองไปรอบๆห้อง ก็ยังเห็นห้องนั้นว่างเปล่า เพราะเพื่อนยังไม่กลับมากัน ......
เรื่องที่4 นาฬิกาผีสิง มีนาฬิกาปลุกการ์ฟิลอยู่ตัวนึง ยุคนั้นมือถือเริ่มเฟื่องฟูก็ใช้มือถือปลุกแทน ส่วนนาฬิกาเรือนนั้น ณ วันที่เกิดเหตุ มันหยุดเดินไปหลายปีมากๆแล้ว แต่เนื่องจากเป็นรูปการ์ตูนเลยยังเก็บไว้ตั้งโชว์ วางตั้งบนทีวี ...ช่วงนั้นซื้อคอนโดอยู่ใน กทม แล้ว และเป้นช่วงที่พี่สาวกลับบ้านแล้วตัวเองอยู่ห้องคนเดียว .... ยามดึกสงัดประมาณตี2 อยู่ๆไอ้นาฬิกานั่นก็แหกปากร้องปลุกขึ้น ให้นึกถึงแมวการ์ฟิลนอนยิ้มอยู่ เข็มนาฬิกาก็หยุดเดินไปแล้ว เข็มตั้งปลุกก็ไม่ตรง แต่ดันแหกปากร้องปลุกขึ้นมาเองได้ เลยลุกจากที่นอน ไปหยิบนาฬิกาขึ้นมา เสียงมันก็ยังดังๆไปเรื่อย ก็เลยลองเปิดที่ใส่ถ่าน พบว่ายังมีถ่านคาอยุ่ ก็คิดว่า เออ สงสัยพลังงานตกค้าง ในนั้นมีถ่าน 4 ก้อน ก็เลยจะเอาถ่านออก เอาถ่านก้อนที่ 1 ออก ตามปกติ มันต้องหยุดร้องใช่หรือไม่ ...ปล๊าววว มันยังคงร้องอยู่แบบนั้น ออกก้อนที่ 2 ก็ยังร้องอยู่ ไอ้เราก็มองหน้าการ์ฟิลยิ้ม ก็หลอนไปด้วย .... จนเอาออกหมดทั้ง 4 ก้อนมันถึงหยุดร้อง ...
สรุปคืนนั้นไม่ได้นอน เปิดวิทยุ เปิดคอมเล่นทั้งคืน