สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
โหวว งานนี้อคติมาเต็ม ผมตอบไปจะดราม่าขึ้นมาไหมเนี้ย
ขอตอบจขกท. อย่างที่เคยตอบไปก่อนหน้าครับ "ผมว่าคนที่ควรรับผิดชอบ ควรเป็นทุกคนครับ ช่วยกัน เพราะไม่งั้นมันก็ไม่ต่างกับการเกี่ยงกัน โทษกันไปมา"
จนท.ป่าไม้ นายอำเภอ ผู้ว่า เขาย้ายกันเป็นเรื่องปกติครับ ย้ายบ่อยไม่พอ มีรักษาการข้ามอำเภอก็มี(ในกรณีนายอำเภอ) เอาเข้าจริงจนท.หน้าที่ป่าไม้ย้ายแทบทุกปีถึง 2ปี นายอำเภอไม่ถึง 6 เดือนย้ายก็มีบ่อยๆ ผู้ว่านี่ก็ย้ายแทบทุกปีครับ นายตำรวจใหญ่ๆ ก็ย้ายประจำ จะไปโทษเขาว่าปล่อยปละละเลย ก็คงไม่ได้ ในเมื่อกรอบเวลามันสั้น งานที่ดูแลมันก็ไม่ใช่น้อยครับ บางคนไม่เคยไปได้ทั่วพื้นที่ตัวเองเลยครับ
จนท.ป่าไม้ ต้องย้ายเพราะนโยบายการไม่ให้จนท.ป่าไม้ มีการรู้จักกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
จนท.ตำรวจ ต้องย้ายตามการแต่งตั้งประจำปี
นายอำเภอ ผู้ว่า ก็ต้องย้ายตามการแต่งตั้งประจำปี เป็นตำแหน่งที่ต้องโปรดเกล้าฯ โยกย้าย
ทั้งนี้จังหวัดชายแดน อำเภอไม่สำคัญ ก็แทบเป็นการโยกย้ายเพื่อแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาจากปลัดอำเภอบ้าง เป็นนายอำเภอที่พึ่งประจำตำแหน่งโยกย้ายไปมาบ้าง การจะทำโครงการระยะยาว ดูแลส่งเสริมชาวบ้าน หน่ะเหรอ ยากเพราะไม่รู้จักใครเลย เอาจริงๆไปถึงก็หัวเดียวกระเทียมลีบ สองผัวเมีย มีแต่ตำแหน่งให้คนได้รู้จัก อย่าว่าแต่อำเภอบ้านนอกเลยครับ นายอำเภอบ้านคุณๆทั้งหลายหน่ะ ชื่ออะไร มารับตำแหน่งเมื่อไหร่ คนก่อนชื่ออะไรเข้ารับตำแหน่งเมื่อไหร่ ย้ายเมื่อไหร่ คุณรู้มั่งหรือเปล่า มันไม่เหมือนละครหลังข่าว อยู่จีบกันได้เป็นปีๆ
งานด้านเอกสาร มันก็ไม่ใช่น้อย ในพื้นที่เอง การทำสวนป่า ก็มีเยอะมาก ไม่เชื่อคุณไปนั่งที่เขาครึ่งดู แล้วนับดูว่าแต่ล่ะวันมีรถขนไม้วิ่งวันล่ะกี่เที่ยว การตรวจไม้นี่คำนวนเป็นลูกบาศ์กเมตรนะครับ ตัดกันต้นหนึ่งนี่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะเสร็จ ต้องไปตรวจที่จุดที่ตัดด้วย
งานนายอำเภอ/ผู้ว่า ก็ใช่ว่าจะน้อย แผนฯงาน งบประมาณต่างๆนาๆ ไข้เลือดออก งานกองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ
ถามว่าเขารู้และรับทราบปัญหาไหม เขารู้เขาทราบนะครับ แต่ปัญหามันใหญ่กว่าเขาจะรับมือไหว นายทุนก็นักการเมืองที่หลายๆคนนิยมชมชอบทั้งหลายนี่แหละ คนในพื้นที่เค้ารู้กันหมดแหละ ตระกูลนี้ชอบจะงาบเอาป่าอยู่ตลอด ไม่ว่ารุ่นก่อนที่สักแต่จะสร้างเขื่อน (ถามว่าเขื่อนไหน ก็เขื่อนที่พวกคุณๆทั้งหลายสนับสนุนให้มีการสร้างทั้งสองเขื่อนหน่ะแหละ ที่ๆเขื่อนที่จะสร้างมีป่าไม้สักเยอะๆหน่ะ) รุ่นนี้ก็สนับสนุนการถางป่าปลูกข้าวโพด รับซื้อข้าวโพด ส่งขายบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่ไง
งานนี้อย่าเอาแต่เอามือซ้ายปิดตา มือขวาชี้หาคนผิดเลยครับ คนทำงานเขาก็ทำงานในหน้าที่เขา หากไม่รับรู้ว่าเขาพวกนั้นก็ทำงานอย่างคุณๆเช่นกัน ก็อย่าไปกล่าวอ้างลอยๆอย่างไม่มีหลักฐาน อยากแก้ปัญหาก็ต้องแก้ให้ถูกจุด ปัญหามันคือ กลุ่มทุนนักการเมืองเขาฉลาด อาศัยความไม่มีของชาวบ้าน สนับสนุนชาวบ้านให้ทำเพื่อประโยชน์ของเขา โดนแลกกับเงินเพียงแค่เล็กน้อย สิ่งที่คุณควรทำคือดึงเอามวลชนกลับมาให้ได้ ให้อาชีพให้ความมั่นคงที่ยั่งยืนกับเขา ดังที่ในหลวงทรงทำให้เป็นแบบอย่างในอดีตครับ ไม่ใช่ไปทำร้ายและผลักไสเขา ไปทำกับเขาแบบนายกับบ่าวทาส เป็นผู้ปกครอง ผู้ถูกปกครอง ในการดูแลมันไม่ได้
ขอตอบจขกท. อย่างที่เคยตอบไปก่อนหน้าครับ "ผมว่าคนที่ควรรับผิดชอบ ควรเป็นทุกคนครับ ช่วยกัน เพราะไม่งั้นมันก็ไม่ต่างกับการเกี่ยงกัน โทษกันไปมา"
จนท.ป่าไม้ นายอำเภอ ผู้ว่า เขาย้ายกันเป็นเรื่องปกติครับ ย้ายบ่อยไม่พอ มีรักษาการข้ามอำเภอก็มี(ในกรณีนายอำเภอ) เอาเข้าจริงจนท.หน้าที่ป่าไม้ย้ายแทบทุกปีถึง 2ปี นายอำเภอไม่ถึง 6 เดือนย้ายก็มีบ่อยๆ ผู้ว่านี่ก็ย้ายแทบทุกปีครับ นายตำรวจใหญ่ๆ ก็ย้ายประจำ จะไปโทษเขาว่าปล่อยปละละเลย ก็คงไม่ได้ ในเมื่อกรอบเวลามันสั้น งานที่ดูแลมันก็ไม่ใช่น้อยครับ บางคนไม่เคยไปได้ทั่วพื้นที่ตัวเองเลยครับ
จนท.ป่าไม้ ต้องย้ายเพราะนโยบายการไม่ให้จนท.ป่าไม้ มีการรู้จักกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
จนท.ตำรวจ ต้องย้ายตามการแต่งตั้งประจำปี
นายอำเภอ ผู้ว่า ก็ต้องย้ายตามการแต่งตั้งประจำปี เป็นตำแหน่งที่ต้องโปรดเกล้าฯ โยกย้าย
ทั้งนี้จังหวัดชายแดน อำเภอไม่สำคัญ ก็แทบเป็นการโยกย้ายเพื่อแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาจากปลัดอำเภอบ้าง เป็นนายอำเภอที่พึ่งประจำตำแหน่งโยกย้ายไปมาบ้าง การจะทำโครงการระยะยาว ดูแลส่งเสริมชาวบ้าน หน่ะเหรอ ยากเพราะไม่รู้จักใครเลย เอาจริงๆไปถึงก็หัวเดียวกระเทียมลีบ สองผัวเมีย มีแต่ตำแหน่งให้คนได้รู้จัก อย่าว่าแต่อำเภอบ้านนอกเลยครับ นายอำเภอบ้านคุณๆทั้งหลายหน่ะ ชื่ออะไร มารับตำแหน่งเมื่อไหร่ คนก่อนชื่ออะไรเข้ารับตำแหน่งเมื่อไหร่ ย้ายเมื่อไหร่ คุณรู้มั่งหรือเปล่า มันไม่เหมือนละครหลังข่าว อยู่จีบกันได้เป็นปีๆ
งานด้านเอกสาร มันก็ไม่ใช่น้อย ในพื้นที่เอง การทำสวนป่า ก็มีเยอะมาก ไม่เชื่อคุณไปนั่งที่เขาครึ่งดู แล้วนับดูว่าแต่ล่ะวันมีรถขนไม้วิ่งวันล่ะกี่เที่ยว การตรวจไม้นี่คำนวนเป็นลูกบาศ์กเมตรนะครับ ตัดกันต้นหนึ่งนี่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะเสร็จ ต้องไปตรวจที่จุดที่ตัดด้วย
งานนายอำเภอ/ผู้ว่า ก็ใช่ว่าจะน้อย แผนฯงาน งบประมาณต่างๆนาๆ ไข้เลือดออก งานกองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ
ถามว่าเขารู้และรับทราบปัญหาไหม เขารู้เขาทราบนะครับ แต่ปัญหามันใหญ่กว่าเขาจะรับมือไหว นายทุนก็นักการเมืองที่หลายๆคนนิยมชมชอบทั้งหลายนี่แหละ คนในพื้นที่เค้ารู้กันหมดแหละ ตระกูลนี้ชอบจะงาบเอาป่าอยู่ตลอด ไม่ว่ารุ่นก่อนที่สักแต่จะสร้างเขื่อน (ถามว่าเขื่อนไหน ก็เขื่อนที่พวกคุณๆทั้งหลายสนับสนุนให้มีการสร้างทั้งสองเขื่อนหน่ะแหละ ที่ๆเขื่อนที่จะสร้างมีป่าไม้สักเยอะๆหน่ะ) รุ่นนี้ก็สนับสนุนการถางป่าปลูกข้าวโพด รับซื้อข้าวโพด ส่งขายบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่ไง
งานนี้อย่าเอาแต่เอามือซ้ายปิดตา มือขวาชี้หาคนผิดเลยครับ คนทำงานเขาก็ทำงานในหน้าที่เขา หากไม่รับรู้ว่าเขาพวกนั้นก็ทำงานอย่างคุณๆเช่นกัน ก็อย่าไปกล่าวอ้างลอยๆอย่างไม่มีหลักฐาน อยากแก้ปัญหาก็ต้องแก้ให้ถูกจุด ปัญหามันคือ กลุ่มทุนนักการเมืองเขาฉลาด อาศัยความไม่มีของชาวบ้าน สนับสนุนชาวบ้านให้ทำเพื่อประโยชน์ของเขา โดนแลกกับเงินเพียงแค่เล็กน้อย สิ่งที่คุณควรทำคือดึงเอามวลชนกลับมาให้ได้ ให้อาชีพให้ความมั่นคงที่ยั่งยืนกับเขา ดังที่ในหลวงทรงทำให้เป็นแบบอย่างในอดีตครับ ไม่ใช่ไปทำร้ายและผลักไสเขา ไปทำกับเขาแบบนายกับบ่าวทาส เป็นผู้ปกครอง ผู้ถูกปกครอง ในการดูแลมันไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
กรณีป่าไม้เมืองน่านถูกบุกรุกทำลาย จนเป็นภูเขาหัวโล้นถึง ห้าแสนไร่ ทำไมไม่พูดถึงเจ้าหน้าที่หน่วยใหนที่ควรถูกลงโทษครับ
และเป็นที่น่าสังเกตุว่า ไม่มีใครพูดถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่แห่งนี้ว่า ควรถูกลงโทษ ฐานปล่อยปะละเลยให้มีการบุกรุก
ทำลายป่าไม้แบบมโหฬารเช่นนี้เลยครับ ป่าไม้จังหวัด , นายอำเภอ , ผู้ว่าราขการจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จะมีใครแสดงสปิริต ออกมารับผิดชอบบ้างครับ.