เมื่อดวงจิตของฉัน ถูกฝ่ายโรคซึมเศร้ายึดไป โดนกระทำย่ำยีสารพัดยังมิพอใจ
ซ้ำร้ายยังจะพยายามคืบคลานเข้าสู่ร่างกายของฉันอีกด้วย เมื่อเป็นดังนั้น
ฉันจึงต้องประกาศสงครามกับโรคซึมเศร้า
และยุทธวิธีที่ฉันจะช่วงชิงดวงจิตของฉันกลับคืนมา
ฉันได้นำตำราพิชัยสงครามของซุนวูมาเป็นคัมภีร์ในการรบครั้งนี้
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
คนส่วนใหญ่อาจจะเคยได้ยินคำกล่าวนี้ มาแล้ว
ซึ่งคำกล่าวนี้นำมาจากตำราพิชัยสงคราม ( The Art of War)
เป็นปรัชญาการทหาร ที่มีการเผยแพร่ก่อนคริสต์ศักราช 600 ปี
โดย นักยุทธศาสตร์คนสำคัญที่ชื่อซุนวู และต่อมาได้นำมาปรับใช้ในวงการต่างๆอย่างกว้างขวาง
และยังโดดเด่นเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหลายๆประเทศอยู่ในขณะนี้
ในตำราพิชัยสงครามของซุนวูนี้มีอยู่ด้วยกัน 13 บท คือ
บทที่ 1 การประเมินสถานการณ์
บทที่ 2 การวางแผน
บทที่ 3 ยุทธศาสตร์การรบรุก
บทที่ 4 ท่าที
บทที่ 5 กำลังกองทัพ
บทที่ 6 ความอ่อนแอและความเข้มแข็ง
บทที่ 7 การดำเนินกลยุทธ์
บทที่ 8 สิ่งที่ผกผันเก้าประการ
บทที่ 9 การเดินทัพ
บทที่ 10 ภูมิประเทศ
บทที่ 11 พื้นที่ที่ต่างกันเก้าอย่าง.
บทที่ 12 การเข้าโจมตีด้วยไฟ
บทที่ 13 การล่วงรู้ด้วยการใช้สายลับ.
จากคัมภีร์ทั้งสิบสามบทนี้ ฉันได้นำมาปรับใช้สู้ศึกกับโรคซึมเศร้า
การรบจะเป็นเช่นไรโปรดติดตาม
มีคำพูดสองประโยคที่ชุนวูพูดไว้คือ.
“การชนะศึกได้ถึงร้อยครั้งนั้นมิใช่วิธีการอันประเสริฐแท้จริง
แต่ทว่าการชนะโดยไม่มีการรบเลยนั้นจึงถือได้ว่าเป็นวิธีการอันแสนวิเศษยิ่งกว่า”.
กับคำพูดที่ว่า “หากแม้นว่ารู้เขาและรู้เราเมื่อรบกันร้อยครั้งก็ไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้น
ถ้าไม่รู้เขาแต่รู้เพียงแต่ตัวเราแพ้ชนะกันนั้นย่อมก้ำกึ่งกันอยู่
หากไม่รู้ในตัวเขาตัวเราเอาเสียเลยเห็นทีจะต้องปราชัยทุกครั้งที่มีการรบนั้นแล”.
ฉันคิดและตีความหมายสองประโยคของซุนวู แสดงว่า ซุนวูต้องการจะบอกว่า
การรบชนะร้อยครั้งไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด แต่การชนะด้วยการทำให้ข้าศึกยอมแพ้โดยไม่ต้องสู้รบ
ด้วยการใช้สมอง ความคิด การเจรจา ไม่ต้องต่อสู้ให้สูญเสียเลือดเนื้อและทรัพย์สิน
การชนะด้วยวิธีนี้ซุนวูถือว่า เป็นการรบที่ประเสริฐกว่าการสู้รบชนะร้อยครั้ง
ถ้าฉันจะทำสงครามกับโรคซึมเศร้าและต้องการชนะศึก... อย่างนั้น...
“หากแม้นว่ารู้เขาและรู้เราเมื่อรบกันร้อยครั้งก็ไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้น”
ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ฉันจะต้อง รู้เขา รู้เรา ให้ลึกซึ้งเสียก่อน
ฉันรีบศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าจนสรุปได้ว่าโรคซึมเศร้าเกิดขึ้นมาได้ยังไง
ฉันได้คำตอบว่ามันมาจากปัจจัย 2 ปัจจัยนี้ คือ
ปัจจัยทางกาย (Biological cause)
ปัจจัยทางจิตใจ (Psychological cause)
สาเหตุทางกาย (Biological cause):
เกิดจากสารเคมีที่เป็นตัวสื่อประสาทในสมองบางตัวที่สำคัญเช่น ซีโรโทนิน (Serotonin)
และนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ลดต่ำลง
สาเหตุทางจิตใจ (Psychological cause):
อาจมาจาก มีทัศนคติ มุมมอง ที่ไม่เข้าใจความเป็นจริง เช่น การมองโลกในแง่ลบ
หรือ ได้รับความสะเทือนใจอย่างมาก เช่นการสูญเสีย ผิดหวัง ผิดพลาด ล้มเหลว
การแสดงออกที่ไม่ตรงกับตัวตนจริงๆเช่น แสดงออกว่าเป็นคนมั่นใจ กล้าหาญ
แต่กลับลังเล สับสน และขาดความมั่นใจลึกๆ มีความโกรธแค้นแต่กลับมากดดันตัวเอง
ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจสังคมที่วุ่นวาย เร่งรีบ ขัดสน ปรับตัวไม่ได้ จนเกิดปัญหาทางอารมณ์มากขึ้น
ทำให้เกิดความเครียด (Stress)ซึ่งเป็น สภาวะปกติ คนส่วนใหญ่สามารถจะปรับตัวหาวิธีผ่อนคลายความเครียดได้
แต่บางคนอยู่ในอารมณ์นั้นนานเพราะไม่สามารถจะผ่อนคลายได้จนจากสภาวะเครียดธรรมดากลายเป็นภาวะซึมเศร้า (Depression)
หรือโรคซึมเศร้า (Depressive disorder)
ภาวะซึมเศร้า (Depression) ประกอบไปด้วยความรู้สึกที่มากกว่า 1 อย่างเช่นความรู้สึกกลัว โกรธ กังวล
รู้สึกผิด สิ้นหวัง อาการเหล่านี้มีผลกระทบต่อการทำงานของสมองและร่างกาย
โรคซึมเศร้า (Depressive disorder) ได้แก่ มีอารมณ์รู้สึกเศร้ามาก เศร้ามากเกินไปเกือบจะตลอดเวลา
รุนแรง ยาวนาน และเรื้อรัง ไม่อยากทำงาน น้ำหนักลดหรือเพิ่มมาก นอนมากหรือน้อยไป
ไม่มีสมาธิลืมง่าย คิดอะไรไม่ค่อยออก บางคนอาจคิดอยากตายหรือฆ่าตัวตาย
ข้อมูลเหล่านี้มาจาก
โรคซึมเศร้า - วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/โรคซ
โรคซึมเศร้า Major Depressive Disorder - หาหมอ.com
haamor.com/th/โรคซึมเศร้า2
โรคซึมเศร้า อาการโรคซึมเศร้าที่ต้องรีบรักษา
health.kapook.com/view3241.html
ศูนย์วิจัยและสารสนเทศโรคซึมเศร้า
www.thaidepression.com/www
Anandamahidol Foundation, Thailand
kanchanapisek.or.th/kp11/articles/article-3.th.html
โรคซึมเศร้า ...
อาการ การดูแล โรคซึมเศร้า
thailabonline.com/mental-depress.htm
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
www.dmh.go.th/depression/reds.asp
อา...เอาหล่ะนะ ฉันรู้จักเธอดีแล้ว ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า กองทัพเธอมี 2 กอง คือ
กองทัพที่หนึ่งสมองที่พร่องเคมีและกองทัพที่สองจิตใจเน่าๆ
ที่มีกำลังสนับสนุนคือความคิดทัศนคติด้านลบ เจ้าโรคซึมเศร้าเอ๋ย.. เสร็จฉันแน่คราวนี้
งั้นเราเริ่มกันเลยนะคะ อ้าว อย่าเงียบสิค่ะ ตะโกนดังดังเลยค่ะ สู้ สู้ 55 เชียร์ฉันหน่อย
และ ทีนี้ฉันกลับมาดูว่ากองทัพฉันมีอะไรบ้าง
แม่ทัพ คือ เอ่อ..คือ... ฉันเอง(แฮะ แฮะ แม่ทัพนี่ตัวดีเลยต้องฝึกหนัก55)
ทหาร ฉันมีกองกำลังหน่วยแนวหน้าซึ่งไม่เข้มแข็งเอาเสียเลยมีแต่ทหารที่ ไม่มีกำลังวังชา อ่อนแอ สิ้นหวังและหวาดกลัว
อนิจจาถ้าดูจากตอนนี้ กองทัพของโรคซึมเศร้าแข็งแกร่งกว่าสามเท่า
ทำยังไงดีหล่ะ ที่จะทำให้ทหารของฉัน เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ
ฉันจำได้ว่าในประวัติของซุนวู ซุนวูเคยทำให้ ท่านอู๋อ๋องแห่งเหอหลี
มั่นใจว่าสามารถที่จะสร้างกองทัพที่เข้มแข็งได้จริงๆตามวิธีการของเค้า
โดยการรับคำท้าจากท่านอ๋องที่ให้ฝึกเหล่านางสนมที่เอาแต่ใจ วันๆมิได้ทำอะไร อยู่อย่างสุขสบาย
ไม่เชื่อฟังคำสั่งของใคร ถือว่าตนเป็นคนโปรดท่านอ๋อง ให้เป็นทหารที่เข้มแข็งพร้อมรบ
และซุนวูได้ทำให้ท่านอ๋องประจักษ์ว่าสามารถ ฝึกให้เหล่าสนมในราชสำนักเป็นกองทหารที่มีระเบียบวินัยได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนั้นซุนวูยังกล่าวเรื่องกองทัพไว้ว่า กองทัพต้องมีระเบียบวินัย และ
ทหารต้อง ฝึก ฝึก และฝึกจนชำนาญเพื่อจะพร้อมรบ
“การรักษาระเบียบวินัยในชีวิตประจำวันของทหาร เมื่อใดที่ออกคำสั่งทหารจะเชื่อฟังปฏิบัติตาม
แต่ถ้าไม่ได้รักษาระเบียบวินัยจากชีวิตประจำวันไว้ ยามใดเมื่อออกคำสั่งทหารจะไม่เชื่อฟังไม่สามารถพร้อมรบ”
และซุนวูกล่าวไว้อีกว่า “การจะทำสงครามต้องมีวางแผนและเตรียมการณ์ดี”
“สงครามต้องจริงจังมีความเป็นความตายเป็นเดิมพันต้องมีแรงกระตุ้นที่จะชนะ”.
ฉันจึงตรึกตรองใคร่คราญอย่างเอาจริงเอาจังเอาเป็นเอาตาย หน้าดำคร่ำเครียดก็ซุนวูกล่าวว่า
สงครามต้องจริงจังมีความเป็นความตายเป็นเดิมพันนี่คะ
ดังนั้นทหารของฉันจึงได้รับการฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่มีวันหยุด ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง ไฟจะดับ
ซ้อม ซ้อม และซ้อม อย่างเอาเป็นเอาตาย
อ้าว ก็สงครามนี่คะ มันต้องเกิดการสูญเสียอย่างมหาศาลถ้าทหารเราไม่พร้อม
ยิ่งกองหน้านี้สำคัญมากๆเลยทีเดียว การร้องเพลง ฉันเลือกการร้องเพลงเป็นทัพหน้า
ที่จะต้องเข้าต่อสู้และปะทะเป็นด่านแรก(ก้าวเท้าซ้ายพร้อมชูกำปั้นขวาโน้มตัวไปข้างหน้า) สู้ สู้ 55
ทหารของฉันต้องฝึกร้องเพลงอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย ต้องร้องได้จนจบเพลงโดยไม่ดูเนื้อเพลง
เน้นร้องได้จบเพลงไม่ดูเนื้อ หาเพลงประเภทต้องใช้กระบังลม และท้อง พวกเพลงโอเปร่า ด้วยยิ่งดี
ฝึกร้องให้เก่ง ต้องเก่งไม่งั้นจะเสียทีแก่ข้าศึก จะร้องเพราะไม่เพราะไม่เป็นไรไม่ใช่สาระ
ขอให้ร้องเก่งเป็นพอ 55 ฉันบอกตัวเองว่าต้องทำได้เช่นเดียวกับที่ซุนวูสามารถฝึกนางสนมที่เอาแต่ใจ
ในราชสำนักให้เป็นกองทหารได้ ฝึกให้หนัก เป็นประจำ สม่ำเสมอ จนแข็งแกร่ง ฝึก ฝึก และ ฝึก ฝึกอย่างหนัก อย่าท้อ
มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับฉันในตอนนั้นที่จะร้องเพลง ก็คนมันกำลังหดหู่อยากตาย
ฉันจึงเริ่มจาก ฮัมเพลงในลำคอก่อน และเริ่มร้องเพลงในวันต่อๆมา
ช่วงเริ่มฮัมเพลงฉันคิดว่าควรมีเพลงไว้ต่อสู้สักสามถึงสี่เพลงก็คงพอ พอฝึกไปฝึกมา
คิดได้ว่าถ้าถึงสิบเพลงได้ยิ่งดี(55 ติดลม)จากกองทัพเล็กๆกลายเป็นกองทัพฉันมีทหารจำนวนมาก
ที่พร้อมออกรบอย่างไม่กลัวตาย ถ้าอย่างนั่นแสดงว่ากองทัพของฉันมีโอกาสชนะ
ชัยชนะอยู่แค่เอื้อมแล้ว (เงยหน้า ยืดอก)55
เพลงที่ฉันมีไว้ใช้สำหรับเป็นกองทัพหน้า
เพลงผู้ชนะ ของ เสกโลโซ
เพลงศรัทธา ของ หิน เหล็ก ไฟ (Acoustica)
เพลงชัยชนะ ของ ป๊อด Moderndog Feat.กับซิกโก้เกียรติศักดิ์
เพลงทะยานสุดปีกฝัน ของ แนน สาธิดา พรหมพิริยะ
เพลงความรัก ของ แนน สาธิดา พรหมพิริยะ
เพลงดาว ของ โจ้ วง พอส
เพลงประวัติศาสตร์ ของ คริสติน่าอากีลาร์
เพลงลาวดวงเดือน ของ. ก๊อต จักรพันธ์อาบครบุรี
เพลงแสงสุดท้าย ของ Bodyslam
เพลงเติมใจให้กัน ของ ก้อง สหรัถ
เธอผู้ไม่แพ้ ของ เบิร์ด ธงไชยแมคอินไตย
เพลงคิดถึง-จันทร์กระจ่างฟ้า ของ ทิพย์วัลย์ ปิ่นภิบาล ที่ฉันเลือกเพลงนี้ก็เพื่อจะให้ ท้อง กระบังลม มีการขยับ
ถ้าคุณสามารถร้องโอเปร่าได้ยิ่งดีค่ะ
เพลง สิบสี่ อีกครั้ง ของ เสก โลโซ ถ้าคุณชอบเพลงนี้ฉันอยากให้คุณนึกภาพ
ตอนคุณอายุสิบสี่ไปด้วยนะคะ นึกถึงรอยยิ้มคุณตอนนั้นว่ามันน่ารักแค่ไหน
เพลงรอยยิ้มนักสู้ ของ เสก โลโซ
เพลงนี้ฉันขอมอบให้แก่คุณและเมื่อคุณฟังหรือร้องเพลงนี้
โปรดรู้ว่ามีฉันคนหนึ่งที่ส่งกำลังใจมาถึงคุณ
และหวังว่าคุณจะส่งมอบเพลงนี้ต่อไปให้แก่คนอื่นๆที่กำลังท้อแท้ด้วยนะคะ
คุณดูกองทัพหน้าของฉันสิ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน แล้วฉันจะไม่ชนะได้ยังไง 555
นี่แค่กองทัพหน้าเท่านั้น ข้าศึกก็อ่วมแล้ว
บอกแล้วกองทัพต้องมีวินัย ครับผม 55
เพลงของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนฉันนะคะ เลือกที่คุณชอบค่ะ
แต่ขอแนะนำว่า เพลงประเภท อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน กรีดร้องเสียใจกลางสายฝน
หรือ เอาหัวปักไว้ที่ฝักบัวแล้วให้น้ำไหลลงมา ไม่เอานะคะ เดี๋ยวจะเศร้ากันไปใหญ่ 55
ชนะน็อก โรคซึมเศร้า ตอน เปิดศึกช่วงชิงดวงจิตคืนด้วยตำราพิชัยสงครามของซุนวู 1
ซ้ำร้ายยังจะพยายามคืบคลานเข้าสู่ร่างกายของฉันอีกด้วย เมื่อเป็นดังนั้น
ฉันจึงต้องประกาศสงครามกับโรคซึมเศร้า
และยุทธวิธีที่ฉันจะช่วงชิงดวงจิตของฉันกลับคืนมา
ฉันได้นำตำราพิชัยสงครามของซุนวูมาเป็นคัมภีร์ในการรบครั้งนี้
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
คนส่วนใหญ่อาจจะเคยได้ยินคำกล่าวนี้ มาแล้ว
ซึ่งคำกล่าวนี้นำมาจากตำราพิชัยสงคราม ( The Art of War)
เป็นปรัชญาการทหาร ที่มีการเผยแพร่ก่อนคริสต์ศักราช 600 ปี
โดย นักยุทธศาสตร์คนสำคัญที่ชื่อซุนวู และต่อมาได้นำมาปรับใช้ในวงการต่างๆอย่างกว้างขวาง
และยังโดดเด่นเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหลายๆประเทศอยู่ในขณะนี้
ในตำราพิชัยสงครามของซุนวูนี้มีอยู่ด้วยกัน 13 บท คือ
บทที่ 1 การประเมินสถานการณ์
บทที่ 2 การวางแผน
บทที่ 3 ยุทธศาสตร์การรบรุก
บทที่ 4 ท่าที
บทที่ 5 กำลังกองทัพ
บทที่ 6 ความอ่อนแอและความเข้มแข็ง
บทที่ 7 การดำเนินกลยุทธ์
บทที่ 8 สิ่งที่ผกผันเก้าประการ
บทที่ 9 การเดินทัพ
บทที่ 10 ภูมิประเทศ
บทที่ 11 พื้นที่ที่ต่างกันเก้าอย่าง.
บทที่ 12 การเข้าโจมตีด้วยไฟ
บทที่ 13 การล่วงรู้ด้วยการใช้สายลับ.
จากคัมภีร์ทั้งสิบสามบทนี้ ฉันได้นำมาปรับใช้สู้ศึกกับโรคซึมเศร้า
การรบจะเป็นเช่นไรโปรดติดตาม
มีคำพูดสองประโยคที่ชุนวูพูดไว้คือ.
“การชนะศึกได้ถึงร้อยครั้งนั้นมิใช่วิธีการอันประเสริฐแท้จริง
แต่ทว่าการชนะโดยไม่มีการรบเลยนั้นจึงถือได้ว่าเป็นวิธีการอันแสนวิเศษยิ่งกว่า”.
กับคำพูดที่ว่า “หากแม้นว่ารู้เขาและรู้เราเมื่อรบกันร้อยครั้งก็ไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้น
ถ้าไม่รู้เขาแต่รู้เพียงแต่ตัวเราแพ้ชนะกันนั้นย่อมก้ำกึ่งกันอยู่
หากไม่รู้ในตัวเขาตัวเราเอาเสียเลยเห็นทีจะต้องปราชัยทุกครั้งที่มีการรบนั้นแล”.
ฉันคิดและตีความหมายสองประโยคของซุนวู แสดงว่า ซุนวูต้องการจะบอกว่า
การรบชนะร้อยครั้งไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด แต่การชนะด้วยการทำให้ข้าศึกยอมแพ้โดยไม่ต้องสู้รบ
ด้วยการใช้สมอง ความคิด การเจรจา ไม่ต้องต่อสู้ให้สูญเสียเลือดเนื้อและทรัพย์สิน
การชนะด้วยวิธีนี้ซุนวูถือว่า เป็นการรบที่ประเสริฐกว่าการสู้รบชนะร้อยครั้ง
ถ้าฉันจะทำสงครามกับโรคซึมเศร้าและต้องการชนะศึก... อย่างนั้น...
“หากแม้นว่ารู้เขาและรู้เราเมื่อรบกันร้อยครั้งก็ไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้น”
ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ฉันจะต้อง รู้เขา รู้เรา ให้ลึกซึ้งเสียก่อน
ฉันรีบศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าจนสรุปได้ว่าโรคซึมเศร้าเกิดขึ้นมาได้ยังไง
ฉันได้คำตอบว่ามันมาจากปัจจัย 2 ปัจจัยนี้ คือ
ปัจจัยทางกาย (Biological cause)
ปัจจัยทางจิตใจ (Psychological cause)
สาเหตุทางกาย (Biological cause):
เกิดจากสารเคมีที่เป็นตัวสื่อประสาทในสมองบางตัวที่สำคัญเช่น ซีโรโทนิน (Serotonin)
และนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ลดต่ำลง
สาเหตุทางจิตใจ (Psychological cause):
อาจมาจาก มีทัศนคติ มุมมอง ที่ไม่เข้าใจความเป็นจริง เช่น การมองโลกในแง่ลบ
หรือ ได้รับความสะเทือนใจอย่างมาก เช่นการสูญเสีย ผิดหวัง ผิดพลาด ล้มเหลว
การแสดงออกที่ไม่ตรงกับตัวตนจริงๆเช่น แสดงออกว่าเป็นคนมั่นใจ กล้าหาญ
แต่กลับลังเล สับสน และขาดความมั่นใจลึกๆ มีความโกรธแค้นแต่กลับมากดดันตัวเอง
ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจสังคมที่วุ่นวาย เร่งรีบ ขัดสน ปรับตัวไม่ได้ จนเกิดปัญหาทางอารมณ์มากขึ้น
ทำให้เกิดความเครียด (Stress)ซึ่งเป็น สภาวะปกติ คนส่วนใหญ่สามารถจะปรับตัวหาวิธีผ่อนคลายความเครียดได้
แต่บางคนอยู่ในอารมณ์นั้นนานเพราะไม่สามารถจะผ่อนคลายได้จนจากสภาวะเครียดธรรมดากลายเป็นภาวะซึมเศร้า (Depression)
หรือโรคซึมเศร้า (Depressive disorder)
ภาวะซึมเศร้า (Depression) ประกอบไปด้วยความรู้สึกที่มากกว่า 1 อย่างเช่นความรู้สึกกลัว โกรธ กังวล
รู้สึกผิด สิ้นหวัง อาการเหล่านี้มีผลกระทบต่อการทำงานของสมองและร่างกาย
โรคซึมเศร้า (Depressive disorder) ได้แก่ มีอารมณ์รู้สึกเศร้ามาก เศร้ามากเกินไปเกือบจะตลอดเวลา
รุนแรง ยาวนาน และเรื้อรัง ไม่อยากทำงาน น้ำหนักลดหรือเพิ่มมาก นอนมากหรือน้อยไป
ไม่มีสมาธิลืมง่าย คิดอะไรไม่ค่อยออก บางคนอาจคิดอยากตายหรือฆ่าตัวตาย
ข้อมูลเหล่านี้มาจาก
โรคซึมเศร้า - วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/โรคซ
โรคซึมเศร้า Major Depressive Disorder - หาหมอ.com
haamor.com/th/โรคซึมเศร้า2
โรคซึมเศร้า อาการโรคซึมเศร้าที่ต้องรีบรักษา
health.kapook.com/view3241.html
ศูนย์วิจัยและสารสนเทศโรคซึมเศร้า
www.thaidepression.com/www
Anandamahidol Foundation, Thailand
kanchanapisek.or.th/kp11/articles/article-3.th.html
โรคซึมเศร้า ...
อาการ การดูแล โรคซึมเศร้า
thailabonline.com/mental-depress.htm
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
www.dmh.go.th/depression/reds.asp
อา...เอาหล่ะนะ ฉันรู้จักเธอดีแล้ว ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า กองทัพเธอมี 2 กอง คือ
กองทัพที่หนึ่งสมองที่พร่องเคมีและกองทัพที่สองจิตใจเน่าๆ
ที่มีกำลังสนับสนุนคือความคิดทัศนคติด้านลบ เจ้าโรคซึมเศร้าเอ๋ย.. เสร็จฉันแน่คราวนี้
งั้นเราเริ่มกันเลยนะคะ อ้าว อย่าเงียบสิค่ะ ตะโกนดังดังเลยค่ะ สู้ สู้ 55 เชียร์ฉันหน่อย
และ ทีนี้ฉันกลับมาดูว่ากองทัพฉันมีอะไรบ้าง
แม่ทัพ คือ เอ่อ..คือ... ฉันเอง(แฮะ แฮะ แม่ทัพนี่ตัวดีเลยต้องฝึกหนัก55)
ทหาร ฉันมีกองกำลังหน่วยแนวหน้าซึ่งไม่เข้มแข็งเอาเสียเลยมีแต่ทหารที่ ไม่มีกำลังวังชา อ่อนแอ สิ้นหวังและหวาดกลัว
อนิจจาถ้าดูจากตอนนี้ กองทัพของโรคซึมเศร้าแข็งแกร่งกว่าสามเท่า
ทำยังไงดีหล่ะ ที่จะทำให้ทหารของฉัน เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ
ฉันจำได้ว่าในประวัติของซุนวู ซุนวูเคยทำให้ ท่านอู๋อ๋องแห่งเหอหลี
มั่นใจว่าสามารถที่จะสร้างกองทัพที่เข้มแข็งได้จริงๆตามวิธีการของเค้า
โดยการรับคำท้าจากท่านอ๋องที่ให้ฝึกเหล่านางสนมที่เอาแต่ใจ วันๆมิได้ทำอะไร อยู่อย่างสุขสบาย
ไม่เชื่อฟังคำสั่งของใคร ถือว่าตนเป็นคนโปรดท่านอ๋อง ให้เป็นทหารที่เข้มแข็งพร้อมรบ
และซุนวูได้ทำให้ท่านอ๋องประจักษ์ว่าสามารถ ฝึกให้เหล่าสนมในราชสำนักเป็นกองทหารที่มีระเบียบวินัยได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนั้นซุนวูยังกล่าวเรื่องกองทัพไว้ว่า กองทัพต้องมีระเบียบวินัย และ
ทหารต้อง ฝึก ฝึก และฝึกจนชำนาญเพื่อจะพร้อมรบ
“การรักษาระเบียบวินัยในชีวิตประจำวันของทหาร เมื่อใดที่ออกคำสั่งทหารจะเชื่อฟังปฏิบัติตาม
แต่ถ้าไม่ได้รักษาระเบียบวินัยจากชีวิตประจำวันไว้ ยามใดเมื่อออกคำสั่งทหารจะไม่เชื่อฟังไม่สามารถพร้อมรบ”
และซุนวูกล่าวไว้อีกว่า “การจะทำสงครามต้องมีวางแผนและเตรียมการณ์ดี”
“สงครามต้องจริงจังมีความเป็นความตายเป็นเดิมพันต้องมีแรงกระตุ้นที่จะชนะ”.
ฉันจึงตรึกตรองใคร่คราญอย่างเอาจริงเอาจังเอาเป็นเอาตาย หน้าดำคร่ำเครียดก็ซุนวูกล่าวว่า
สงครามต้องจริงจังมีความเป็นความตายเป็นเดิมพันนี่คะ
ดังนั้นทหารของฉันจึงได้รับการฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่มีวันหยุด ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง ไฟจะดับ
ซ้อม ซ้อม และซ้อม อย่างเอาเป็นเอาตาย
อ้าว ก็สงครามนี่คะ มันต้องเกิดการสูญเสียอย่างมหาศาลถ้าทหารเราไม่พร้อม
ยิ่งกองหน้านี้สำคัญมากๆเลยทีเดียว การร้องเพลง ฉันเลือกการร้องเพลงเป็นทัพหน้า
ที่จะต้องเข้าต่อสู้และปะทะเป็นด่านแรก(ก้าวเท้าซ้ายพร้อมชูกำปั้นขวาโน้มตัวไปข้างหน้า) สู้ สู้ 55
ทหารของฉันต้องฝึกร้องเพลงอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย ต้องร้องได้จนจบเพลงโดยไม่ดูเนื้อเพลง
เน้นร้องได้จบเพลงไม่ดูเนื้อ หาเพลงประเภทต้องใช้กระบังลม และท้อง พวกเพลงโอเปร่า ด้วยยิ่งดี
ฝึกร้องให้เก่ง ต้องเก่งไม่งั้นจะเสียทีแก่ข้าศึก จะร้องเพราะไม่เพราะไม่เป็นไรไม่ใช่สาระ
ขอให้ร้องเก่งเป็นพอ 55 ฉันบอกตัวเองว่าต้องทำได้เช่นเดียวกับที่ซุนวูสามารถฝึกนางสนมที่เอาแต่ใจ
ในราชสำนักให้เป็นกองทหารได้ ฝึกให้หนัก เป็นประจำ สม่ำเสมอ จนแข็งแกร่ง ฝึก ฝึก และ ฝึก ฝึกอย่างหนัก อย่าท้อ
มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับฉันในตอนนั้นที่จะร้องเพลง ก็คนมันกำลังหดหู่อยากตาย
ฉันจึงเริ่มจาก ฮัมเพลงในลำคอก่อน และเริ่มร้องเพลงในวันต่อๆมา
ช่วงเริ่มฮัมเพลงฉันคิดว่าควรมีเพลงไว้ต่อสู้สักสามถึงสี่เพลงก็คงพอ พอฝึกไปฝึกมา
คิดได้ว่าถ้าถึงสิบเพลงได้ยิ่งดี(55 ติดลม)จากกองทัพเล็กๆกลายเป็นกองทัพฉันมีทหารจำนวนมาก
ที่พร้อมออกรบอย่างไม่กลัวตาย ถ้าอย่างนั่นแสดงว่ากองทัพของฉันมีโอกาสชนะ
ชัยชนะอยู่แค่เอื้อมแล้ว (เงยหน้า ยืดอก)55
เพลงที่ฉันมีไว้ใช้สำหรับเป็นกองทัพหน้า
เพลงผู้ชนะ ของ เสกโลโซ
เพลงศรัทธา ของ หิน เหล็ก ไฟ (Acoustica)
เพลงชัยชนะ ของ ป๊อด Moderndog Feat.กับซิกโก้เกียรติศักดิ์
เพลงทะยานสุดปีกฝัน ของ แนน สาธิดา พรหมพิริยะ
เพลงความรัก ของ แนน สาธิดา พรหมพิริยะ
เพลงดาว ของ โจ้ วง พอส
เพลงประวัติศาสตร์ ของ คริสติน่าอากีลาร์
เพลงลาวดวงเดือน ของ. ก๊อต จักรพันธ์อาบครบุรี
เพลงแสงสุดท้าย ของ Bodyslam
เพลงเติมใจให้กัน ของ ก้อง สหรัถ
เธอผู้ไม่แพ้ ของ เบิร์ด ธงไชยแมคอินไตย
เพลงคิดถึง-จันทร์กระจ่างฟ้า ของ ทิพย์วัลย์ ปิ่นภิบาล ที่ฉันเลือกเพลงนี้ก็เพื่อจะให้ ท้อง กระบังลม มีการขยับ
ถ้าคุณสามารถร้องโอเปร่าได้ยิ่งดีค่ะ
เพลง สิบสี่ อีกครั้ง ของ เสก โลโซ ถ้าคุณชอบเพลงนี้ฉันอยากให้คุณนึกภาพ
ตอนคุณอายุสิบสี่ไปด้วยนะคะ นึกถึงรอยยิ้มคุณตอนนั้นว่ามันน่ารักแค่ไหน
เพลงรอยยิ้มนักสู้ ของ เสก โลโซ
เพลงนี้ฉันขอมอบให้แก่คุณและเมื่อคุณฟังหรือร้องเพลงนี้
โปรดรู้ว่ามีฉันคนหนึ่งที่ส่งกำลังใจมาถึงคุณ
และหวังว่าคุณจะส่งมอบเพลงนี้ต่อไปให้แก่คนอื่นๆที่กำลังท้อแท้ด้วยนะคะ
คุณดูกองทัพหน้าของฉันสิ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน แล้วฉันจะไม่ชนะได้ยังไง 555
นี่แค่กองทัพหน้าเท่านั้น ข้าศึกก็อ่วมแล้ว
บอกแล้วกองทัพต้องมีวินัย ครับผม 55
เพลงของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนฉันนะคะ เลือกที่คุณชอบค่ะ
แต่ขอแนะนำว่า เพลงประเภท อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน กรีดร้องเสียใจกลางสายฝน
หรือ เอาหัวปักไว้ที่ฝักบัวแล้วให้น้ำไหลลงมา ไม่เอานะคะ เดี๋ยวจะเศร้ากันไปใหญ่ 55