เส้นคู่ขนาน Snap แค่ได้คิดถึง ในวันที่ซากุระร่วงโรย (5 Centimeters Per Second)
หนัง 2 เรื่องนี้มีส่วนใกล้เคียงกัน ในรูปแบบเส้นคู่ขนานของเหตุการณ์
จุดเริ่มต้น
5 Centimeters ในวันที่ดอกซากุระร่วงโรยวันนึงในอดีต เด็กชายและเด็กหญิงสัญญากันว่า ซากุระร่วงครั้งต่อไป เรามาดูกันอีกนะ
Snap ก่อนที่เราจะย้ายโรงเรียน เราอยากมีรูปในหนังสือรุ่น เธอช่วยมาถ่ายรูปให้เราได้มั้ย
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้รักษาสัญญาซึ่งกันและกันไม่ได้ ทำให้ต้องแยกจากกันไกล ไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยเป็นเวลานาน
พระเอกทั้งสองเรื่อง เหมือนติดอยู่ในพันธนาการความรักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดย ทาคากิ โทโนะ (5 Centimeters) เหมือนจะปิดความรู้สึกทุกอย่างที่เกี่ยวกับความรักอื่น ๆ ที่เข้ามา ส่วน บอย (Snap) เดินต่อไปได้จนกระทั่งในวันที่เจอผึ่ง ผู้หญิงในความทรงจำในอดีต ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
พันธนาการความรัก
5 Centimeters เหตุการณ์พายุตกหนักในวันที่จะต้องไปเจอซาโอริครั้งสุดท้ายของ ทาคากิ โทโนะ ก่อนที่ซาโอริจะจากไปไกลแสนไกล อุปสรรค์ทุกอย่างถาถมเข้ามา พายุที่ยิ่งตกแรงขึ้นทุกครั้งที่เข้าใกล้สถานีที่นัดซาโอริไว้ จนรถไฟไม่สามารถไปต่อได้ ต้องเสียเวลาเป็นครึ่งคืน ทาคากิ ภาวนาขอให้ซาโอริกลับบ้านไป ไม่ต้องรอ แต่สุดท้าย รถไฟไปถึง ทาคากิ เห็นซาโอรินั่งรออยู่ที่สถานีคนเดียวท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
และวันนั้นก็เป็นวันที่จูบแรกระหว่าง ทาคากิ และ ซาโอริ ใต้ต้นซากุระใหญ่ กลางหิมะตกในยามค่ำคืน หลังจากนั้น ทาคากิ เหมือนติดอยู่ในห่วงโซ่พันธนาการความรักจนสะบัดไม่ออกตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
Snap หลังจาก บอยและผึ้ง ได้เจอกันโดยบังเอิญ และได้เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปจากชีวิต 8 ปี ในช่วงเวลา 3 วัน (หนังไม่ได้บอกว่ากี่วัน แต่เดาเอาจากปฏิทินที่มีการวงไว้ในปฏิทิน) เหมือนเป็น 3 วันที่แก้ไขในอดีตที่หายไป บอยเก็บความรู้สึกทุกอย่าง ส่วนผึ้งพยายามจะแง้มความรู้สึกนั้นของบอยที่ยังปิดกั้นตัวเองตลอดเวลา แต่ทั้งคู่ก็ย้อนกลับไปความทรงจำเดิม ๆ ไปสัมผัสสิ่งของเดิม ๆ ที่เคยทำร่วมกัน
ในวันสุดท้ายก่อนจากกันไกลอีกครั้งนึง บอยและผึ้ง ได้จูบกันครั้งแรกหน้าตู้ปลาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทั้งสองพยายามตามหาปลาเจ้าหัวตุ๊กแกอยู่ และนั่นก็เหมือนเป็นพันธนาการความรักที่ผูกความรู้สึกทั้ง 2 เอาไว้นับตั้งแต่นั้น
จุดสิ้นสุดที่เป็นคู่ขนานกันของหนังทั้ง 2 เรื่อง
5 Centimeters ในวันช่วงเวลาที่ซาโอริกำลังจะแต่งงาน ทั้ง ทาคากิ และซาโอริ ได้มีโอกาสพบกันอีกครั้งนึง แต่ครั้งนี้เป็นการพบกัน โดยที่ทั้ง 2 คน ไม่เห็นกัน เพียงแต่ทั้งคู่สัมผัสความรู้สึกของกันละกันได้ โดยมีรางรถไฟ กั้นกลางอยู่ ทั้ง 2 หยุดยืนอยู่กันคนละฝั่งของรางรถไฟ จังหวะที่ทั้ง 2 กำลังจะหันไปมองซึ่งกันและกัน รถไฟขบวนยาวได้วิ่งผ่านมาพอดี ซึ่งนั่นก็คือบทพิสูจน์ว่า แต่ละคนจะยืน หรือจะไปต่อ ซึ่ง ทาคากิ ยืนรอจนรถไฟเลยผ่านไป ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ ว่างเปล่า จุดนี้ทำให้ ทาคากิ คิดได้ และเหมือนเป็นการปลดโซ่พันธนาการความรักที่ผูกมัด ทาคากิ มาตั้งแต่เด็ก จากนั้น ทาคากิ เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป โดยที่ไม่คิดจะวิ่งตามซาโอริไป
Snap หลังจากที่จูบกันในครั้งนั้น พันธนาการความรักทุกอย่างเหมือนจะตกมาที่ผึ้ง ทั้งคู่ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเลย มีเพียงภาพถ่าย ที่บอยส่งมาให้ในวันก่อนที่ผึ้งจะแต่งงาน บอยเคยรับปากว่าจะมาถ่ายรูป Pre-Wedding ให้ผึ้ง แต่บอยไม่ได้มาถ่าย งานแต่งผึ้ง เพื่อนสนิททุกคนไปงานผึ้งหมด ยกเว้นบอยคนเดียว ช่วงถ่ายรูปหมุ่ในงานแต่ง ผึ้งปลดปล่อยน้ำตาออกมา น้ำตาของความรู้สึกที่ผึ้งมีให้แก่บอย จนคนในงานต่างงงกันยกใหญ่ (ในหนัง เพื่อนทุกคนไม่มีใครรู้ว่าผึ้งและบอยต่างคนต่างรู้สึกดี ๆ ให้กัน ยกเว้นคู่หมั่นของผึ้ง น่าจะรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ตั้งแต่แรก) นั่นเป็นการผูกมัดพันธนาการความรักผึ้งไปตลอดนับตั้งแต่นั่น ส่วนบอย หลังจากเหตุการณ์จูบกัน บอยก็ยังเก็บกดความรู้สึกเอาไว้ต่อไป พ่อบอยได้เสียลง บอยเลยชวนแฟนกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเป็นเพื่อนกับแม่ แต่ความรู้สึกบอยตอนนั้น ได้ปลดปล่อยทุกอย่างออกไปแล้ว อารมณ์ภาพตอนจบคือ บอยปั่นจักรยานตามหลังแฟนบอย ด้วยอารมณ์ที่ปลดปล่อย ไม่บีบคั้นเหมือนช่วงแรก ๆ ซึ่งต่างกับผึ้ง
หนังทั้ง 2 เรื่อง เหมือนเป็นเส้นขนานกัน นิสัยอารมณ์ของตัวละครหลักคล้ายคลึงกันมาก บอยและทาคากิ เป็นคนไม่แสดงออกทางอารมณ์ เหมือนจมอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลา และเส้นเนื้อเรื่องใกล้เคียงกันมาก แต่เป็นการใกล้เคียงในรูปแบบเส้นขนานกันของหนังทั้ง 2 เรื่อง
ถ้าใครยังไม่เคยดูหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ Snap แค่ได้คิดถึง และ 5 Centimeters Per Second แนะนำให้หามาชมกันนะครับ คือ อารมณ์หนังจบ แต่คนดูไม่จบ มันรู้สึก เหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจตลอดหลังจากที่ดูจบ แต่ 5 Centimeters Per Second จะทำได้ดีกว่าในการเรียกอารมณ์ตรงนี้ แต่ Snap ก็เป็นหนังไทยน้อยเรื่องมากในยุคนี้ ที่ทำได้แบบนี้ครับ
หนังทั้ง 2 เรื่อง อบอวนไปด้วยความทรงจำในอดีต ประทับใจมากครับ ใครที่มีความทรงจำในอดีต น่าจะชอบครับกับหนังทั้ง 2 เรื่องนี้
เส้นคู่ขนาน Snap แค่ได้คิดถึง ในวันที่ซากุระร่วงโรย (5 Centimeters Per Second)
เส้นคู่ขนาน Snap แค่ได้คิดถึง ในวันที่ซากุระร่วงโรย (5 Centimeters Per Second)
หนัง 2 เรื่องนี้มีส่วนใกล้เคียงกัน ในรูปแบบเส้นคู่ขนานของเหตุการณ์
จุดเริ่มต้น
5 Centimeters ในวันที่ดอกซากุระร่วงโรยวันนึงในอดีต เด็กชายและเด็กหญิงสัญญากันว่า ซากุระร่วงครั้งต่อไป เรามาดูกันอีกนะ
Snap ก่อนที่เราจะย้ายโรงเรียน เราอยากมีรูปในหนังสือรุ่น เธอช่วยมาถ่ายรูปให้เราได้มั้ย
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้รักษาสัญญาซึ่งกันและกันไม่ได้ ทำให้ต้องแยกจากกันไกล ไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยเป็นเวลานาน
พระเอกทั้งสองเรื่อง เหมือนติดอยู่ในพันธนาการความรักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดย ทาคากิ โทโนะ (5 Centimeters) เหมือนจะปิดความรู้สึกทุกอย่างที่เกี่ยวกับความรักอื่น ๆ ที่เข้ามา ส่วน บอย (Snap) เดินต่อไปได้จนกระทั่งในวันที่เจอผึ่ง ผู้หญิงในความทรงจำในอดีต ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
พันธนาการความรัก
5 Centimeters เหตุการณ์พายุตกหนักในวันที่จะต้องไปเจอซาโอริครั้งสุดท้ายของ ทาคากิ โทโนะ ก่อนที่ซาโอริจะจากไปไกลแสนไกล อุปสรรค์ทุกอย่างถาถมเข้ามา พายุที่ยิ่งตกแรงขึ้นทุกครั้งที่เข้าใกล้สถานีที่นัดซาโอริไว้ จนรถไฟไม่สามารถไปต่อได้ ต้องเสียเวลาเป็นครึ่งคืน ทาคากิ ภาวนาขอให้ซาโอริกลับบ้านไป ไม่ต้องรอ แต่สุดท้าย รถไฟไปถึง ทาคากิ เห็นซาโอรินั่งรออยู่ที่สถานีคนเดียวท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
และวันนั้นก็เป็นวันที่จูบแรกระหว่าง ทาคากิ และ ซาโอริ ใต้ต้นซากุระใหญ่ กลางหิมะตกในยามค่ำคืน หลังจากนั้น ทาคากิ เหมือนติดอยู่ในห่วงโซ่พันธนาการความรักจนสะบัดไม่ออกตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
Snap หลังจาก บอยและผึ้ง ได้เจอกันโดยบังเอิญ และได้เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปจากชีวิต 8 ปี ในช่วงเวลา 3 วัน (หนังไม่ได้บอกว่ากี่วัน แต่เดาเอาจากปฏิทินที่มีการวงไว้ในปฏิทิน) เหมือนเป็น 3 วันที่แก้ไขในอดีตที่หายไป บอยเก็บความรู้สึกทุกอย่าง ส่วนผึ้งพยายามจะแง้มความรู้สึกนั้นของบอยที่ยังปิดกั้นตัวเองตลอดเวลา แต่ทั้งคู่ก็ย้อนกลับไปความทรงจำเดิม ๆ ไปสัมผัสสิ่งของเดิม ๆ ที่เคยทำร่วมกัน
ในวันสุดท้ายก่อนจากกันไกลอีกครั้งนึง บอยและผึ้ง ได้จูบกันครั้งแรกหน้าตู้ปลาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทั้งสองพยายามตามหาปลาเจ้าหัวตุ๊กแกอยู่ และนั่นก็เหมือนเป็นพันธนาการความรักที่ผูกความรู้สึกทั้ง 2 เอาไว้นับตั้งแต่นั้น
จุดสิ้นสุดที่เป็นคู่ขนานกันของหนังทั้ง 2 เรื่อง
5 Centimeters ในวันช่วงเวลาที่ซาโอริกำลังจะแต่งงาน ทั้ง ทาคากิ และซาโอริ ได้มีโอกาสพบกันอีกครั้งนึง แต่ครั้งนี้เป็นการพบกัน โดยที่ทั้ง 2 คน ไม่เห็นกัน เพียงแต่ทั้งคู่สัมผัสความรู้สึกของกันละกันได้ โดยมีรางรถไฟ กั้นกลางอยู่ ทั้ง 2 หยุดยืนอยู่กันคนละฝั่งของรางรถไฟ จังหวะที่ทั้ง 2 กำลังจะหันไปมองซึ่งกันและกัน รถไฟขบวนยาวได้วิ่งผ่านมาพอดี ซึ่งนั่นก็คือบทพิสูจน์ว่า แต่ละคนจะยืน หรือจะไปต่อ ซึ่ง ทาคากิ ยืนรอจนรถไฟเลยผ่านไป ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ ว่างเปล่า จุดนี้ทำให้ ทาคากิ คิดได้ และเหมือนเป็นการปลดโซ่พันธนาการความรักที่ผูกมัด ทาคากิ มาตั้งแต่เด็ก จากนั้น ทาคากิ เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป โดยที่ไม่คิดจะวิ่งตามซาโอริไป
Snap หลังจากที่จูบกันในครั้งนั้น พันธนาการความรักทุกอย่างเหมือนจะตกมาที่ผึ้ง ทั้งคู่ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเลย มีเพียงภาพถ่าย ที่บอยส่งมาให้ในวันก่อนที่ผึ้งจะแต่งงาน บอยเคยรับปากว่าจะมาถ่ายรูป Pre-Wedding ให้ผึ้ง แต่บอยไม่ได้มาถ่าย งานแต่งผึ้ง เพื่อนสนิททุกคนไปงานผึ้งหมด ยกเว้นบอยคนเดียว ช่วงถ่ายรูปหมุ่ในงานแต่ง ผึ้งปลดปล่อยน้ำตาออกมา น้ำตาของความรู้สึกที่ผึ้งมีให้แก่บอย จนคนในงานต่างงงกันยกใหญ่ (ในหนัง เพื่อนทุกคนไม่มีใครรู้ว่าผึ้งและบอยต่างคนต่างรู้สึกดี ๆ ให้กัน ยกเว้นคู่หมั่นของผึ้ง น่าจะรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ตั้งแต่แรก) นั่นเป็นการผูกมัดพันธนาการความรักผึ้งไปตลอดนับตั้งแต่นั่น ส่วนบอย หลังจากเหตุการณ์จูบกัน บอยก็ยังเก็บกดความรู้สึกเอาไว้ต่อไป พ่อบอยได้เสียลง บอยเลยชวนแฟนกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเป็นเพื่อนกับแม่ แต่ความรู้สึกบอยตอนนั้น ได้ปลดปล่อยทุกอย่างออกไปแล้ว อารมณ์ภาพตอนจบคือ บอยปั่นจักรยานตามหลังแฟนบอย ด้วยอารมณ์ที่ปลดปล่อย ไม่บีบคั้นเหมือนช่วงแรก ๆ ซึ่งต่างกับผึ้ง
หนังทั้ง 2 เรื่อง เหมือนเป็นเส้นขนานกัน นิสัยอารมณ์ของตัวละครหลักคล้ายคลึงกันมาก บอยและทาคากิ เป็นคนไม่แสดงออกทางอารมณ์ เหมือนจมอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลา และเส้นเนื้อเรื่องใกล้เคียงกันมาก แต่เป็นการใกล้เคียงในรูปแบบเส้นขนานกันของหนังทั้ง 2 เรื่อง
ถ้าใครยังไม่เคยดูหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ Snap แค่ได้คิดถึง และ 5 Centimeters Per Second แนะนำให้หามาชมกันนะครับ คือ อารมณ์หนังจบ แต่คนดูไม่จบ มันรู้สึก เหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจตลอดหลังจากที่ดูจบ แต่ 5 Centimeters Per Second จะทำได้ดีกว่าในการเรียกอารมณ์ตรงนี้ แต่ Snap ก็เป็นหนังไทยน้อยเรื่องมากในยุคนี้ ที่ทำได้แบบนี้ครับ
หนังทั้ง 2 เรื่อง อบอวนไปด้วยความทรงจำในอดีต ประทับใจมากครับ ใครที่มีความทรงจำในอดีต น่าจะชอบครับกับหนังทั้ง 2 เรื่องนี้