ตามภาพครับ
จากที่ผมอ่านแล้ว ผมเหมือนจะรับรู้ได้ว่า ดีแทคดูเหมือนไม่จริงใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก ซึ่งจริงๆแล้ว ผมไม่ได้เรียกร้องและคาดหวังใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคำขอโทษ การเยียวยา หรืออะไรก็ตามแต่ และการที่เขียนอีเมลมาบอกขอโทษเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่ควรพึงกระทำตามหลักปฏิบัติของคนทั่วไป แต่อ่านๆดูแล้ว ผมกลับรู้สึกว่า อีเมลขอโทษดังกล่าวดูไม่เหมือนองค์กรขนาดใหญ่ๆที่เป็นมาตรฐานเค้าทำกันมากกว่า ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆชาว pantip คิดเห็นเหมือนผมหรือไม่? หรือผมอาจจะคิดเยอะไปเอง?
การที่ผมส่งจดหมายร้องเรียนการให้บริการนั้น ก็เพียงแต่อยากติชม เสนอความเห็น เพราะผมยังหวังและอยากเห็นดีแทคดีขึ้นทุกวัน ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใดจริงๆนะครับ
สำหรับเรื่องที่ร้องเรียนนั้น มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ไม่ได้มีความเสียหายที่จับต้องได้ และตอนนี้ก็เข้าใจถึงสาเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่สูญเสียไปมากกว่า ซึ่งจริงๆแล้วผมก็เข้าใจถึงความผิดพลาด ซึ่งผมก็พร้อมที่จะให้โอกาสและให้อภัยเสมอ ซึ่งทุกๆคนมีโอกาสพลาดพลั้งได้ทั้งเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
และสำหรับ CC-Dtac Pantip : เรื่องร้องเรียนดังกล่าว ผมได้แจ้งไปยังหลังไมค์เรียบร้อย และเข้าใจกันเรียบร้อยดี (ไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องนี้อีก) หากแต่ภาพนี้ เป็นการตอบกลับจากทางอีเมลของ feedback@dtac.co.th เท่านั้น ซึ่งผมอยากแบ่งปันประสบการณ์ดังกล่าวให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้รับรู้กัน
ปล. ที่ทางดีแทค ตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ เพราะหนังสือร้องเรียนของผมเป็นภาษาอังกฤษครับ
นี่คืออีเมลขอโทษจากดีแทค จากการที่ผมได้แนบส่งหนังสือร้องเรียนการให้บริการผ่านช่องทางอีเมล
จากที่ผมอ่านแล้ว ผมเหมือนจะรับรู้ได้ว่า ดีแทคดูเหมือนไม่จริงใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก ซึ่งจริงๆแล้ว ผมไม่ได้เรียกร้องและคาดหวังใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคำขอโทษ การเยียวยา หรืออะไรก็ตามแต่ และการที่เขียนอีเมลมาบอกขอโทษเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่ควรพึงกระทำตามหลักปฏิบัติของคนทั่วไป แต่อ่านๆดูแล้ว ผมกลับรู้สึกว่า อีเมลขอโทษดังกล่าวดูไม่เหมือนองค์กรขนาดใหญ่ๆที่เป็นมาตรฐานเค้าทำกันมากกว่า ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆชาว pantip คิดเห็นเหมือนผมหรือไม่? หรือผมอาจจะคิดเยอะไปเอง?
การที่ผมส่งจดหมายร้องเรียนการให้บริการนั้น ก็เพียงแต่อยากติชม เสนอความเห็น เพราะผมยังหวังและอยากเห็นดีแทคดีขึ้นทุกวัน ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใดจริงๆนะครับ
สำหรับเรื่องที่ร้องเรียนนั้น มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ไม่ได้มีความเสียหายที่จับต้องได้ และตอนนี้ก็เข้าใจถึงสาเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่สูญเสียไปมากกว่า ซึ่งจริงๆแล้วผมก็เข้าใจถึงความผิดพลาด ซึ่งผมก็พร้อมที่จะให้โอกาสและให้อภัยเสมอ ซึ่งทุกๆคนมีโอกาสพลาดพลั้งได้ทั้งเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
และสำหรับ CC-Dtac Pantip : เรื่องร้องเรียนดังกล่าว ผมได้แจ้งไปยังหลังไมค์เรียบร้อย และเข้าใจกันเรียบร้อยดี (ไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องนี้อีก) หากแต่ภาพนี้ เป็นการตอบกลับจากทางอีเมลของ feedback@dtac.co.th เท่านั้น ซึ่งผมอยากแบ่งปันประสบการณ์ดังกล่าวให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้รับรู้กัน
ปล. ที่ทางดีแทค ตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ เพราะหนังสือร้องเรียนของผมเป็นภาษาอังกฤษครับ