ศิษย์หลายคนในนี้ของหลวงพ่อธัมมชโย บอกว่า หลวงพ่อริเริ่มโครงการมากมาย เป็นโครงการที่ดี ได้รับรางวัล

แต่ศิษย์หลายคนก็จะละเลย ไม่พูดถึง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี

หลายคนจะรีบเข้ามาตอบโต้ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อ ท่านไม่ได้บริหาร ท่านไม่รู้ไม่เห็น

ไม่เป็นไร

แต่ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ก็ตั้งอยู่ในวัดพระธรรมกาย และ ผมก็เชื่อเหลือเกินว่า ไม่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายเลยยยยยยยยย

สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีนี่แหละ "หอกข้างแคร่" อันใหญ่ ที่หลวงพ่อธัมมชโย ไม่อาจข้ามพ้น

สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีนี่แหละ เอาเงินฝากของคนทั่วไป บริหารกันดีงาม จนขาดสภาพคล่อง

คนฝากเงินเดือดร้อนกันไปหมด ไม่ต่างจาก สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

หากศิษย์ธรรมกายจะบอกว่า พวกคุณร่วมเงิน จ่ายคืน ไปแล้ว เงินที่ศุภชัย บริจาคให้หลวงพ่อ ให้วัด

คุณพูดครึ่งเดียว

เพราะ สหกรณ์ทั้งสองแห่ง มีการ โอนเงิน ไปให้ใครอีกก็ไม่รู้ (แต่ ดีเอสไอรู้) แล้วเงินเหล่านั้น ก็โอนกลับมาเป็นเงินบริจาค

ที่น่ารัก คือ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี เปิดให้ คนที่เข้าวัดธรรมกาย กู้เงิน เพื่อไปทำบุญทีวัด

เงินจำนวนนี้ ก็คือเงินของคนฝากเงิน เข้าสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี เพียงแต่ มัน "เล่นแร่แปรธาตุ" ให้มันเข้าวัดแบบ ถูกตัวหนังสือกฎหมายเท่านั้น

สุดท้าย สภาพคล่องไปไม่ได้ คนฝากเงิน มีแต่ตัวเลขในสมุด สหกรณ์แห่งนี้ ล้มไป

หนี้สิน ที่สหกรณ์ปล่อยไป มีใครไปตามทวงไหม ...............................................................นึกภาพออกกันรึยัง

คนฝากเงินเหลือแต่ตัวเลข สหกรณ์เจ๊ง (ก็ไม่ได้เงินคืน) คนยืมเงินไปทำบุญ ก็ไม่มี จนท.ไปทวง แต่ "วัดพระธรรมกาย" ได้เงินเต็มๆ

สิ่งที่ น่ารัก มากกว่านี้ ถ้า นักข่าว สนใจ กลุ่มที่ไปก่อสร้าง อาคาร หมู่บ้าน ตึก ให้วัดแห่งนี้ ลองไปค้นหาดู

งบก่อสร้างไม่มีการตรวจสอบ ขนาดภาครัฐตรวจแล้วตรวจอีก ยังกินกันได้ คงไม่ต้องบอกว่า ของไม่มีการตรวจ ใครจะได้มากน้อยแค่ไหน

ขอจบด้วยคำพูดของ คุณดนัยแห่งสปริงส์นิสว์ พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในข่าวว่า

ก็ขอให้มันเป็นไปตามวิบากกรรมแล้วกัน ถ้าวิบากกรรมมันไม่ได้ผล ก็คงต้องเปลี่ยนศาสนา

วันนี้ ขอให้ ดีเอสไอ จัดการกับคนโกง ทั้งหมด

คงใช้ตรรกกะ หลวงพ่อไม่รู้ หลวงพ่อไม่ผิดคงไม่ได้

เพราะ การตั้งสหกรณ์ใหญ่โตขนาดนี้ ถ้าไม่อนุญาติ เจ้าแห่งวัดพระธรรมกาย คงไม่มีตาสีตาสาคนไหน ไปก่อตั้งได้