***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
MC นู๋สร้างชาติ รับหน้าที่ค่ะ
วันนี้มีนิทานให้ข้อคิดดีๆ มาฝากค่ะ
ตะแกรงร่อนความคิด
มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาหาอาจารย์ที่สอนตนเอง ด้วยอาการรีบร้อนกระวนกระวาย เพราะคิดว่าเรื่องที่ตัวเองได้รู้มานั้นมีความสำคัญ จึงอยากให้อาจารย์รับรู้ด้วย สักครู่จึงแจ้งข่าวให้อาจารย์ทราบว่า
“ท่านอาจารย์ ผมมีเรื่องที่เป็นความลับจะแจ้งให้อาจารย์ทราบ”
ฝ่ายอาจารย์เห็นลูกศิษย์วิ่งกระหืดกระหอบมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย จึงกล่าวเพื่อให้ลูกศิษย์รู้สึกผ่อนคลายและให้เรียนรู้ที่จะมีสติก่อนที่จะรับฟังข้อมูลดังกล่าวนั้น
“เดี๋ยวก่อน ความลับที่จะบอกนั้น เธอได้ใช้ตะแกรง ๓ อันมาร่อนหรือยัง ?”
“ตะแกรง ๓ อันที่อาจารย์กล่าวนั้นคืออะไรครับ ?” ลูกศิษย์ถามด้วยความสงสัยและใคร่อยากรู้
ฝ่ายอาจารย์จึงให้ลูกศิษย์เข้ามานั่งใกล้ๆ แล้วชี้แจงวิธีการนำเรื่องตะแกรง ๓ อันมาเป็นเกณฑ์วินิจฉัยเรื่องที่รับทราบว่า
“ตะแกรง ๓ อันนั้นคือ ตะแกรงอันที่หนึ่งเรียกว่า “ความจริง” ความลับที่เธอจะบอกนั้นเป็นความจริงหรือยัง?”
“ผมไม่รู้ แต่ได้ยินเขาพูดต่อๆ กันมา” ลูกศิษย์ตอบด้วยความไม่มั่นใจ
“ตะแกรงอันที่สองเรียกว่า“เจตนาดี” หมายถึงความลับที่เธอจะบอกนั้นเต็มไปด้วยเจตนาที่ดีหรือไม่ ?”
“เรื่องที่จะเล่านั้นก็มิได้มีเจตนาที่ดีแต่อย่างใด”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น เพื่อความแน่ใจในการตัดสินใจ เราน่าจะใช้ตะแกรงอันที่ ๓ เข้ามาเป็นเกณฑ์ตัดสินด้วยคือ “เรื่องนั้นมีความสำคัญ” มากใช่ไหม ?”
“ก็ไม่ได้มีความสำคัญแต่อย่างใดนักหรอกครับ” ลูกศิษย์ชี้แจง
เมื่อการถามไถ่เรื่องความลับที่ลูกศิษย์นำมาบอกแก่อาจารย์ โดยมีเรื่องตะแกรง ๓ อันเข้ามาเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ ลูกศิษย์จึงได้ตระหนักรู้ในเรื่องดังกล่าวนั้น ฝ่ายอาจารย์จึงให้ข้อคิดแก่ลูกศิษย์ในเรื่องการรับข่าวสารอันเกื้อกูลต่อการเรียนรู้ชีวิตไว้ว่า
“
ไม่ว่าเราจะรับรู้เรื่องราวอะไรก็ตาม หากว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ความจริง ไม่มีเจตนาอันเป็นไปเพื่อความดีงาม และไม่มีความสำคัญ การรับรู้เรื่องนั้นก็ควรเป็นการรับทราบแต่เพียงอย่างเดียว และไม่ควรที่จะถ่ายทอดสู่ผู้อื่น เพราะรังแต่จะเป็นเรื่องรบกวนจิตใจในการที่จะใช้สติปัญญาพัฒนาสิ่งที่ดีกว่า และที่สำคัญเรื่องราวเหล่านั้นก็ไม่มีคุณค่าพอ ที่จะถือเป็นสาระอันควรนำมาสู่ชีวิตจิตใจของตัวเราอีกต่างหาก”
Cr.
http://pjumpa.blogspot.com/2010/02/blog-post_3802.html
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
เพื่อมวลชน @ห้องเพลงคนรากหญ้า
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 28/5/2016
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
วันนี้มีนิทานให้ข้อคิดดีๆ มาฝากค่ะ
ตะแกรงร่อนความคิด
มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาหาอาจารย์ที่สอนตนเอง ด้วยอาการรีบร้อนกระวนกระวาย เพราะคิดว่าเรื่องที่ตัวเองได้รู้มานั้นมีความสำคัญ จึงอยากให้อาจารย์รับรู้ด้วย สักครู่จึงแจ้งข่าวให้อาจารย์ทราบว่า
“ท่านอาจารย์ ผมมีเรื่องที่เป็นความลับจะแจ้งให้อาจารย์ทราบ”
ฝ่ายอาจารย์เห็นลูกศิษย์วิ่งกระหืดกระหอบมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย จึงกล่าวเพื่อให้ลูกศิษย์รู้สึกผ่อนคลายและให้เรียนรู้ที่จะมีสติก่อนที่จะรับฟังข้อมูลดังกล่าวนั้น
“เดี๋ยวก่อน ความลับที่จะบอกนั้น เธอได้ใช้ตะแกรง ๓ อันมาร่อนหรือยัง ?”
“ตะแกรง ๓ อันที่อาจารย์กล่าวนั้นคืออะไรครับ ?” ลูกศิษย์ถามด้วยความสงสัยและใคร่อยากรู้
ฝ่ายอาจารย์จึงให้ลูกศิษย์เข้ามานั่งใกล้ๆ แล้วชี้แจงวิธีการนำเรื่องตะแกรง ๓ อันมาเป็นเกณฑ์วินิจฉัยเรื่องที่รับทราบว่า
“ตะแกรง ๓ อันนั้นคือ ตะแกรงอันที่หนึ่งเรียกว่า “ความจริง” ความลับที่เธอจะบอกนั้นเป็นความจริงหรือยัง?”
“ผมไม่รู้ แต่ได้ยินเขาพูดต่อๆ กันมา” ลูกศิษย์ตอบด้วยความไม่มั่นใจ
“ตะแกรงอันที่สองเรียกว่า“เจตนาดี” หมายถึงความลับที่เธอจะบอกนั้นเต็มไปด้วยเจตนาที่ดีหรือไม่ ?”
“เรื่องที่จะเล่านั้นก็มิได้มีเจตนาที่ดีแต่อย่างใด”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น เพื่อความแน่ใจในการตัดสินใจ เราน่าจะใช้ตะแกรงอันที่ ๓ เข้ามาเป็นเกณฑ์ตัดสินด้วยคือ “เรื่องนั้นมีความสำคัญ” มากใช่ไหม ?”
“ก็ไม่ได้มีความสำคัญแต่อย่างใดนักหรอกครับ” ลูกศิษย์ชี้แจง
เมื่อการถามไถ่เรื่องความลับที่ลูกศิษย์นำมาบอกแก่อาจารย์ โดยมีเรื่องตะแกรง ๓ อันเข้ามาเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ ลูกศิษย์จึงได้ตระหนักรู้ในเรื่องดังกล่าวนั้น ฝ่ายอาจารย์จึงให้ข้อคิดแก่ลูกศิษย์ในเรื่องการรับข่าวสารอันเกื้อกูลต่อการเรียนรู้ชีวิตไว้ว่า
“ไม่ว่าเราจะรับรู้เรื่องราวอะไรก็ตาม หากว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ความจริง ไม่มีเจตนาอันเป็นไปเพื่อความดีงาม และไม่มีความสำคัญ การรับรู้เรื่องนั้นก็ควรเป็นการรับทราบแต่เพียงอย่างเดียว และไม่ควรที่จะถ่ายทอดสู่ผู้อื่น เพราะรังแต่จะเป็นเรื่องรบกวนจิตใจในการที่จะใช้สติปัญญาพัฒนาสิ่งที่ดีกว่า และที่สำคัญเรื่องราวเหล่านั้นก็ไม่มีคุณค่าพอ ที่จะถือเป็นสาระอันควรนำมาสู่ชีวิตจิตใจของตัวเราอีกต่างหาก”
Cr. http://pjumpa.blogspot.com/2010/02/blog-post_3802.html
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
เพื่อมวลชน @ห้องเพลงคนรากหญ้า
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น