เอาดีใส่ตัว ยัดชั่วคนอื่น ไม่เคยเลิก ทำจนเป็นนิสัยฝังรากลึก
พูดอะไร เหมือนตัวเองดีนักดีหนา ทั้งที่ความจริงแล้ว เขรอะไปด้วยความสามานย์
จากข่าว
ชวน ยกกรณีวัดพระธรรมกาย ต้องให้ความเป็นธรรม ทำตาม ก.ม. เคร่งครัด
วันที่ 26 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างปาฐกถาในงานครบรอบ 111 ปี ศาสตราจารย์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ประจำปี 2559 ว่า เราเป็นนักการเมือง ถ้าให้ทำผิดหลักการเราทำไม่ได้ ตัวอย่างกรณีเรื่องวัดพระธรรมกายที่เกิดใน
สมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีคนมาร้องว่าเอาที่ดินวัดใส่ในชื่อพระ ทำไม่ได้ ซึ่งเราต้องให้ความเป็นธรรมและดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อหลักฐานชัดว่า ทางวัดมีความผิดอัยการก็สั่งฟ้อง ทางวัดก็มาขอให้ตนช่วย แต่บอกไปว่า ทำไม่ได้เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจน ต่อมา เขาใช้เวลาสืบพยาน 4-5 ปี
ที่สุดอัยการยกฟ้องโดยบอกว่าได้นำที่ดินคืนไปแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าคงเกิดจากความเกรงใจฝ่ายการเมืองในยุคต่อๆ มา เห็นได้ว่าหลักนิติธรรมไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาในทางปฏิบัติที่ตัวบุคคล
http://www.thairath.co.th/content/626320
ไม่แค่นี้นะครับ ในงานนี้ นายชวนยังพูดถึงเรื่องทักษิณปราบปรามยาเสพติด
ก็พูดแบบใส่ร้ายอย่างที่นายชวนเคยพูดมานับสิบครั้งแล้วนั่นแหละครับ
โดยลืมไปว่า นายชวนแพ้เลือกตั้งต่อทักษิณในปี 44
หากทักษิณไร้ผลงาน การเลือกตั้งปี 48 คงไม่ได้ถึง 375 เสียง
ส่วน ปชป. เป็นพรรคต่ำร้อย
(ฉลาดเป็นกรด รู้ตัวว่าเลือกตั้งปี 48 แพ้ทักษิณอีกแน่ ๆ จึงถอยลงจากหัวหน้าพรรค
อ้างว่าเป็นมา 12 ปี ทั้งที่ตอนนั้น ในพรรคยังเรียกร้องให้นายชวนเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป
ก็พรรคแทบแตก นายชวนอุ้มแหลหนีทหาร เสธ.หนั่นดันบัญญัติ สุดท้ายเสธ.หนั่นต้องออกมาตั้งพรรคใหม่)
นายชวน พูดยัดชั่วคนอื่นว่า
...สมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี... ...ทางวัดก็มาขอให้ตนช่วย แต่บอกไปว่า ทำไม่ได้...
...เขาใช้เวลาสืบพยาน 4-5 ปี ที่สุดอัยการยกฟ้องโดยบอกว่าได้นำที่ดินคืนไปแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าคงเกิดจากความเกรงใจฝ่ายการเมืองในยุคต่อๆ มา เห็นได้ว่าหลักนิติธรรมไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาในทางปฏิบัติที่ตัวบุคคล
พูดแบบไร้ความรับผิดชอบอย่างนี้ ใช้วิธีไม่เอ่ยชื่อเอ่ยนาม พูดลอย ๆ ให้คนอื่นเสียหายอย่างนี้
ไม่สมเป็นคน
วัดก็เสียหาย อัยการก็เสียหาย นักการเมืองในเหตุการณ์นั้นก็เสียหาย เสียหายถ้วหน้า
แต่นายชวนได้ดี ดีดี๊ดีอยู่คนเดียว
ผมอยากถามนายชวนจริง ๆ ตอนเกิดกรณีที่ดินบนยอดเขายายเที่ยงน่ะ
นายชวนไปมุดโอ่งอยู่ที่ไหน
จากวันนั้นถึงวันนี้ ไม่เคยได้ยินนายชวนพูดเรื่องเขายายเที่ยงสักแอะ
พูดเรื่องซื้อเสียงให้ร้ายคนอื่น ความจริงก็พวกตัวนั่นแหละซื้อหนักกว่าเขา
พูดเรื่องโกงให้ร้ายคนอื่น พวกตัวนั่นแหละหนักกว่าเขา
เรื่องบริหารงานก็ไม่ได้เรื่อง ดีแต่พูดกันทั้งพรรคไปวัน ๆ
เชลียร์ท้อปบู้ทตลอด แต่อ้างต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
สรุป คนพรรคนี้ พรรคการเมืองพรรคนี้ หาดีไม่ได้สักเรื่อง
คุณพี่ wtcr ในฐานะคนเมืองตรัง
เอาไปเก็บทีเหอะครับ
บอกแกหน่อยเถอะครับ มีดโกนแกน่ะ มันตกยุค หลงสมัยไปแล้ว
โลกและคนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว รัฐบาลนี้ก็ถึงดาวอังคารแล้ว
นายชวนยังเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาลับมีดโกนขึ้นสนิมแกร่ก ๆ ไปวัน ๆ แล้วลุกขึ้นมาอวดว่ามีดโกนฉันคม ๆ
คนโห่กันทั้งเมือง
สักวัน นอกจากโห่แล้วอาจมีเกือกแถม
เล่นการเมืองแบบสร้างภาพ ไร้ฝีมือ ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน
มาเจอทักษิณเข้าไป เจอการบริหารที่เก่ง ดี มีวิสัยทัศน์
นายชวนก็กลายเป็นแค่เด็กไร้เดียงสาทางการบริหาร
เจ็บฝังใจ แค้นฝังลึก
กัดทุกทีที่มีโอกาส
เสียชื่อคนเมืองตรังหมด
จริงไหมครับ
คุณพี่ wtcr ครับ เมื่อไรจะเอาเทพเจ้าเมืองตรังคนนี้ไปเก็บซะทีครับ บูดจนเหม็นหืนสุดทนแล้วครับ เอาไปเก็บ ๆ ๆ ๆ ทีครับ
พูดอะไร เหมือนตัวเองดีนักดีหนา ทั้งที่ความจริงแล้ว เขรอะไปด้วยความสามานย์
จากข่าว
ชวน ยกกรณีวัดพระธรรมกาย ต้องให้ความเป็นธรรม ทำตาม ก.ม. เคร่งครัด
วันที่ 26 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างปาฐกถาในงานครบรอบ 111 ปี ศาสตราจารย์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ประจำปี 2559 ว่า เราเป็นนักการเมือง ถ้าให้ทำผิดหลักการเราทำไม่ได้ ตัวอย่างกรณีเรื่องวัดพระธรรมกายที่เกิดในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีคนมาร้องว่าเอาที่ดินวัดใส่ในชื่อพระ ทำไม่ได้ ซึ่งเราต้องให้ความเป็นธรรมและดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อหลักฐานชัดว่า ทางวัดมีความผิดอัยการก็สั่งฟ้อง ทางวัดก็มาขอให้ตนช่วย แต่บอกไปว่า ทำไม่ได้เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจน ต่อมา เขาใช้เวลาสืบพยาน 4-5 ปี ที่สุดอัยการยกฟ้องโดยบอกว่าได้นำที่ดินคืนไปแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าคงเกิดจากความเกรงใจฝ่ายการเมืองในยุคต่อๆ มา เห็นได้ว่าหลักนิติธรรมไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาในทางปฏิบัติที่ตัวบุคคล
http://www.thairath.co.th/content/626320
ไม่แค่นี้นะครับ ในงานนี้ นายชวนยังพูดถึงเรื่องทักษิณปราบปรามยาเสพติด
ก็พูดแบบใส่ร้ายอย่างที่นายชวนเคยพูดมานับสิบครั้งแล้วนั่นแหละครับ
โดยลืมไปว่า นายชวนแพ้เลือกตั้งต่อทักษิณในปี 44
หากทักษิณไร้ผลงาน การเลือกตั้งปี 48 คงไม่ได้ถึง 375 เสียง
ส่วน ปชป. เป็นพรรคต่ำร้อย
(ฉลาดเป็นกรด รู้ตัวว่าเลือกตั้งปี 48 แพ้ทักษิณอีกแน่ ๆ จึงถอยลงจากหัวหน้าพรรค
อ้างว่าเป็นมา 12 ปี ทั้งที่ตอนนั้น ในพรรคยังเรียกร้องให้นายชวนเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป
ก็พรรคแทบแตก นายชวนอุ้มแหลหนีทหาร เสธ.หนั่นดันบัญญัติ สุดท้ายเสธ.หนั่นต้องออกมาตั้งพรรคใหม่)
นายชวน พูดยัดชั่วคนอื่นว่า
...สมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี... ...ทางวัดก็มาขอให้ตนช่วย แต่บอกไปว่า ทำไม่ได้...
...เขาใช้เวลาสืบพยาน 4-5 ปี ที่สุดอัยการยกฟ้องโดยบอกว่าได้นำที่ดินคืนไปแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าคงเกิดจากความเกรงใจฝ่ายการเมืองในยุคต่อๆ มา เห็นได้ว่าหลักนิติธรรมไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาในทางปฏิบัติที่ตัวบุคคล
พูดแบบไร้ความรับผิดชอบอย่างนี้ ใช้วิธีไม่เอ่ยชื่อเอ่ยนาม พูดลอย ๆ ให้คนอื่นเสียหายอย่างนี้
ไม่สมเป็นคน
วัดก็เสียหาย อัยการก็เสียหาย นักการเมืองในเหตุการณ์นั้นก็เสียหาย เสียหายถ้วหน้า
แต่นายชวนได้ดี ดีดี๊ดีอยู่คนเดียว
ผมอยากถามนายชวนจริง ๆ ตอนเกิดกรณีที่ดินบนยอดเขายายเที่ยงน่ะ
นายชวนไปมุดโอ่งอยู่ที่ไหน
จากวันนั้นถึงวันนี้ ไม่เคยได้ยินนายชวนพูดเรื่องเขายายเที่ยงสักแอะ
พูดเรื่องซื้อเสียงให้ร้ายคนอื่น ความจริงก็พวกตัวนั่นแหละซื้อหนักกว่าเขา
พูดเรื่องโกงให้ร้ายคนอื่น พวกตัวนั่นแหละหนักกว่าเขา
เรื่องบริหารงานก็ไม่ได้เรื่อง ดีแต่พูดกันทั้งพรรคไปวัน ๆ
เชลียร์ท้อปบู้ทตลอด แต่อ้างต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
สรุป คนพรรคนี้ พรรคการเมืองพรรคนี้ หาดีไม่ได้สักเรื่อง
คุณพี่ wtcr ในฐานะคนเมืองตรัง
เอาไปเก็บทีเหอะครับ
บอกแกหน่อยเถอะครับ มีดโกนแกน่ะ มันตกยุค หลงสมัยไปแล้ว
โลกและคนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว รัฐบาลนี้ก็ถึงดาวอังคารแล้ว
นายชวนยังเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาลับมีดโกนขึ้นสนิมแกร่ก ๆ ไปวัน ๆ แล้วลุกขึ้นมาอวดว่ามีดโกนฉันคม ๆ
คนโห่กันทั้งเมือง
สักวัน นอกจากโห่แล้วอาจมีเกือกแถม
เล่นการเมืองแบบสร้างภาพ ไร้ฝีมือ ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน
มาเจอทักษิณเข้าไป เจอการบริหารที่เก่ง ดี มีวิสัยทัศน์
นายชวนก็กลายเป็นแค่เด็กไร้เดียงสาทางการบริหาร
เจ็บฝังใจ แค้นฝังลึก
กัดทุกทีที่มีโอกาส
เสียชื่อคนเมืองตรังหมด
จริงไหมครับ