REVIEW : มาลองแก้ไอแก้เจ็บคอ ด้วยวิธีธรรมชาติอย่างง่ายๆ กันเถอะ


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้แก้วจะมารีวิววิธีแก้ไอแก้เจ็บคอ ด้วยวิธีธรรมชาติอย่างง่ายๆ ค่ะ

ที่แก้วพูดว่าวิธีธรรมชาติ ก็เพราะว่าวิธีการ จะไม่เกี่ยวกับยาที่สังเคราะห์ขึ้นมา หรือที่เป็นสารเคมีค่ะ
พูดให้ชัดกว่านั้นก็คือ ไม่ใช่ยาจำพวกยาละลายเสมหะ (Bromhexine เป็นต้น) หรือยาแก้ไอที่ไปกดการไอ (Dextromethorphan เป็นต้น)
แต่จะเป็นการแก้ไอที่มาจากผลไม้ธรรมชาติค่ะ เช่น ยาแก้ไอมะแว้ง ยาแก้ไอมะขามป้อม  ซึ่งแก้วคิดว่าเพื่อนๆคงจะเห็นได้ทั่วไปมากขึ้นในปัจจุบันนี้

แต่วันนี้ แก้วจะมาขอรีวิวเป็นตัว ยาแก้ไอมะแว้ง  และ น้ำผึ้งมะนาว
ซึ่งเป็นตัวเลือกที่แก้วใช้มานานพักใหญ่แล้วค่ะ  มันหาง่าย ทำง่าย ดื่มง่าย และได้ผลดีด้วยค่ะ
(พอดีหลังๆมานี้ ใช้เสียงพูดบ่อย พรีเซนบ่อย แถมพูดมากเองเป็นการส่วนตัวด้วย ก็เลยเจ็บคอ 5555)

แต่ต้องขอบอกให้ชัดเจนก่อนตั้งแต่เริ่มแรก ว่าวิธีที่แชร์นี้ แนะนำให้ใช้ในเพื่อนๆที่มีอาการเจ็บคอเล็กน้อย หรือเริ่มเจ็บคอ ทำท่าเหมือนจะป่วย ก็เลยอยากหาอะไรมากินดักเอาไว้ ไม่ให้อาการมันเลวไปกว่าเดิม หรือแนะให้ใช้ในคนที่มีเสมหะเล็กน้อยค่ะ
ไม่ไช่ในกรณีเจ็บจะเป็นจะตาย จนกระทั่งว่ากลืนน้ำลายไม่ได้

เพราะถ้ามันเจ็บคอมากขนาดนั้น ร่วมกับมีเสมหะ ไม่ไอ หรือมีตุ่มหนอง อาจจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียได้ค่ะ ต้องใช้เป็นยาปฎิชีวนะแล้ว ยาน้ำมะแว้งเอาไม่อยู่ค่ะ แล้วถ้าเสมหะมันเยอะมากจริงๆ ยาน้ำมะแว้งลำพังอาจเอาไม่อยู่ค่ะ เปลี่ยนไปกินตัวอื่นดีกว่า

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมแก้วเลือกวิธีที่มาจากธรรมชาตินั้น ต้องยกเครดิตให้มารดาแก้วเองค่ะ 555

ม๊าเป็นคนที่เวลาไอ ระคายคอ จะเป็นปัญหาใหญ่มาก เพราะไม่ยอมดื่มน้ำอุ่นมากเท่าไหร่ เนื่องจากขี้เกียจ แล้วก็ดื้อเวลาโดนบังคับให้ดื่มค่ะ 555
นอกจากนั้นแล้ว ม๊าเป็นคนที่ไม่ชอบทานยามาก มาก มาก ถึงมากที่สุด
เชื่อว่าใครหลายคนคงมีแม่ที่ไม่ชอบทานยาเหมือนกัน และคงเข้าใจ ว่าการที่เราจะไปเอาชนะความดื้อของแม่ตัวเองได้นั้น มันยากมาก
แต่ทำไปทำมา ม๊ายอมรับยาที่ไม่ใช่ ยาจ๋าา ขนาดนั้นค่ะ  ถ้ามาจากธรรมชาติ เป็นผลไม้อะไรแบบนี้ ม๊ายอมทานง่ายมากขึ้นร้อยเท่า

ก็เลยเป็นที่มา ในการหาวิธีให้ม๊ายอมกินยาแก้ไอมะแว้ง กับ ดื่มน้ำผึ้งมะนาวค่ะ ^^

สำหรับยาแก้ไอมะแว้ง หากเพื่อนๆไปตามตามร้านยา ก็อาจเห็นได้ว่ามีหลายยี่ห้อ
คำถามคือ จะเลือกอันไหนดี ?

ส่วนตัว แก้วแนะนำยี่ห้อ ไอยรา ค่ะ
รสที่ชอบทาน จะเป็นสูตรไร้น้ำตาล (สีขาว)  เพราะไม่อยากเอารสหวานมากมาให้ม๊ากิน (แต่จริงๆ สุดท้ายแก้วก็กินไปด้วยอ่ะนะ)



แต่ต่อให้กล่องจะเขียนว่าไร้น้ำตาล  แต่รสชาติก็ไม่ได้น่าเกลียดเลยค่ะ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ทานง่าย ที่คำสัญก็คือ เข้มข้น
มันไม่ใสจ๋องแจ๋งเหมือนบางยี่ห้อค่ะ ต่างกันชัดเจนมากตอนกิน  แล้วผลที่ได้ก็ต่างกันด้วย
จิบไอยราแล้ว คอจะรู้สึกดีขึ้น  แต่จิบบางยี่ห้อ หมดขวดแล้ว ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลยค่ะ  นั่งเจ็บคอต่อไป

ส่วนผสมจะมี ลูกมะแว้งต้น มะขามป้อม สมอเทศ ใบส้มป่อย ใบสวาด รากส้มกุ้งน้อย และตัวยาอื่นๆค่ะ (จากข้างกล่อง)
ซึ่งมีสมุนไะรเหล่านี้ จะมีสรรพคุณช่วยทำให้ชุ่มคอ ละลายเสมหะ จึงช่วยบรรเทาอาการไอจากการระคายคอ หรือเจ็บคอเล็กน้อยได้ด้วยตัวของมันเอง
แล้วก็สามารถจิบได้เรื่อยๆ ไม่เป็นอันตรายค่ะ

แต่ต้องมั่นใจ ว่าไม่ตีกับยาแผนปัจจุบันตัวไหนที่ใช้อยู่นะคะ  เชคนิดนึงนะ หากมีทานยาประจำอยู่ก่อนแล้ว
(เช่น ใช้ยาต้านการแข็งตัวของลิ่มเลือด เป็นต้น)



ส่วนอีกวิธีหนึ่ง  “น้ำผึ้งมะนาว”  เป็นวิธีที่แก้วก็ชอบทำบ่อยๆ เวลาอยากดื่มอะไรให้ชุ่มคอค่ะ
คาดว่าเพื่อนๆหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะมันทำง่าย รสชาติอร่อยมากด้วย^^

จริงๆมันก็มีขายเยอะแยะไปนะคะ แต่สาเหตุที่ชอบทำเองที่บ้าน ก็เพราะว่า ไม่รู้ว่าข้างนอกใช้มะนาวแท้รึเปล่า? ก็ช่วงนี้มะนาวมันแพงนี่นะ
อาจแลดูเป็นคนดัดจริตเรื่องมากนะคะ  แต่ยอมรับ ว่าถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากดื่มมะนาวเทียม
อยากดื่มมะนาวแท้ง่ะ !

ก็เลยทำเองค่ะ  สบายใจ ชิลๆ ~

ส่วนผสม มีง่ายๆตามนี้เลยจ้า
น้ำอุ่น
น้ำผึ้ง
น้ำตาลทรายขาว
เกลือ
เลมอน / มะนาว  เลือกเอาตามที่ชอบเลยค่ะ



แต่ครั้งนี้ แก้วขอเอาเป็นเลมอนน้า เพราะชอบกลิ่นเลมอนเป็นการส่วนตัว ^3^
กลับมาจากมหาลัยมาเหนื่อยๆ ทำงานมาเหนื่อยๆ พอดมกลิ่นเลมอนแล้ว มันสบายใจค่ะ ยืนยิ้มคนเดียวในครัว ฮี่ๆๆ (บ้า)

เริ่มแรก เอาน้ำอุ่นมาประมาณ 200-300 ml ค่ะ
หากอยากได้แบบเข้มข้นหน่อย ก็เอามาประมาณ 200 ml พอจ้า

จากนั้นเติมน้ำผึ้ง 3 ช้อนชา + น้ำตาล 3 ช้อนชา

แล้วก็เติมน้ำเลมอนลงไป ประมาณ 3 ช้อนชา + 1 ช้อนโต๊ะ ค่ะ

ใส่เกลือไปหยิบมือ (นี๊ดดดนึงพอค่ะ)



ง่ายๆ ก็ได้น้ำผึ้งมะนาวมาดื่มก่อนนอนแล้วค่ะ
หรือใครจะอยากใส่กระติก พกไปที่มหาลัย หรือที่ทำงาน ก็ได้นะ ^^






อีกเหตุผล ที่แก้วอยากเอารีวิวนี้มาแชร์กับเพื่อนๆนั้น ก็คือ อยากให้เพื่อนๆระวังการเลือกใช้ยานิดนึงค่ะ (โหววว ดูมีสาระ)

การที่เราเจ็บคอ  ไม่ได้หมายความว่าต้องไปกินยาปฎิชีวนะ
เพราะยาปฎิชีวนะ ไม่ได้เกิดมาเพื่อรักษาเจ็บคอ  แต่มันเกิดมาเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เราเจ็บคอค่ะ

บางครั้ง เราไม่ได้เจ็บคอถึงขั้นติดเชื้อแบคทีเรีย  แต่เป็นหวัด ที่เกิดมาจากไวรัส
พอเราไปกินยาปฎิชีวนะ  มันก็ไม่ได้มีแบคทีเรียให้ยาไปตบทิ้งค่ะ  เทียบเท่าเสียเงินสูญเปล่าเลย
แถมยาที่ไปกองที่คอ อาจทำให้เชื้อที่มีอยู่ (แต่ไม่ได้แผลงฤทธิ์ที) สามารถพัฒนาตัวเองเป็นขั้นซูปเปอร์ไซย่า ดื้อยาเราได้สุดๆไปเลย  (ต้องจินตนาการแบบนั้นค่ะ  เพราะมันแกร่งขึ้นแบบนั้นเลย)

ทีนี้ยาเดิม ก็อาจใช้ไม่ได้ผลแล้วค่ะ  ดังนั้น ถ้าหากวันไหนมันต้องกินยาจริงๆ เชื้อมันแกร่งเกินหน้าเกินตาไปแล้ว กินไปก็เทียบเท่ารักษาไม่ได้อยู่ดี
จะมาหายาใหม่แทนยาเดิม ก็เป็นปัญหาใหม่ให้แก้อีกค่ะ

มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กนะคะ กับคำว่า เจ็บคอ
แต่แก้วว่าเรื่องเล็ก ก็ไม่ควรทำให้กลายเป็นปัญหารุงรังใหญ่ๆ จริงๆนะ   T^T

ก็เลยอยากให้เข้าใจเรื่องการใช้ยาที่ถูกกับอาการของเราค่ะ
แต่ไม่ใช่ว่ายาแผนปัจจุบันไม่ดีนะคะ  แก้วไม่ใช่คนแอนตี้ยานะ   อันที่จริง ชีวิตผูกพันกับยามากกกกด้วย 5555

แต่เพราะคิดว่าวิธีธรรมชาติ ก็เป็นวิธีที่ดีมากๆเหมือนกัน  ทำไมเราไม่เอามาใช้กันล่ะ ?
มันเป็นการดูแลตัวเอง ไม่ให้ป่วยไปกว่าเดิม  ไม่ได้เป็นการใช้ยาผิดๆไปกว่าเดิม  ความรุงรังในชีวิตเราก็ไม่ได้เยอะไปกว่าเดิมด้วย (เซฟเงินเพิ่มด้วยนา)

ก็เลยอยากจะมาแชร์แนวทางการดูแลตัวเองเวลาเจ็บคอหรือไอ ที่นอกเหนือไปจากการกินยา(อย่างที่ใครหลายๆคนเข้าใจผิด) ค่ะ

จริงๆแล้ว ยังมีวิธีแบบธรรมชาติอีกหลายวิธี ที่สามารถบรรเทาอาการเจ็บคอ ระคายคอ และไอ ของเรา ได้ดีค่ะ ^^

ดิ่มน้ำอุ่นมากๆ หรือดื่มน้ำมากๆ  เลี่ยงทานอาหารที่ทำให้ระคายคอ ก็เป็นวิถีไลฟสไตล์ที่ช่วยดูแลสุขภาพได้มากกว่าที่คิดค่ะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ๆในการดูแลตัวเอง ลองเปลี่ยนมาใช้ดูได้ค่ะ ได้ผลเป็นยังไง มาเล่าให้ฟังกันบ้างน้า ^^

ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาอ่านกัน
ใครลองทำน้ำผึ้งมะนาว รสชาติเป็นไง มาเล่าให้ฟังบ้างน้า

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่