พยาบาลไม่ได้เหนื่อยแค่คนเดียวนะครับ...(แฟนพยาบาลอย่างผมก็เหนื่อยเช่นกัน)

สวัสดีทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องของผมนะครับ ก่อนอื่นผมขออธิบายก่อนนะครับ เรื่องนี้ได้เกิดเมื่อตอน 6 ปีที่แล้ว ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ
ตอนนั้นผมเป็น นศ คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 เรื่องมีอยู่ว่าผมได้ไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง
เรียนพยาบาลชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง(คนละสถาบันกัน) พี่ นศ.พยาบาลคนนี้เขามีอายุมากกว่าผมไป 2 ปี
ผมเองก็ไม่ได้หล่ออะไร บ้านก็ไม่ได้มีฐานะเท่าไหร่ รู้สึกว่าชอบคนนนี้ ก็อยากจะจีบให้ติด ตอนจีบหวังมาก ว่าเขาจะดูแลผมได้และน่าจะดูแลได้ดีเลยทีเดียว แต่ที่ไหนได้ล่ะครับ ผมมากกว่าที่จะเป็นดูแลเขา เวลาส่วนใหญ่เขาก็เอาไปดูแลคนไข้ เป็นความคิดผิดๆสำหรับคนที่จะเริ่มจีบพยาบาลเลยจะบอกให้
ช่วงสมัยเรียนเขาบอกกับผมมาโดยตลอดว่าเขาไม่ชอบเด็ก และไม่อยากมีแฟนเด็กกว่า แต่ผมก็พยายามจีบ ตื้อและพยายามพิสูจน์ตนเองต่างๆ กว่าจะจีบติดก็ปีกว่าๆเลยล่ะครับ ช่วงจีบผมจะไม่อธิบายนะครับ แค่เข้าใจในวิชาชีพที่เขาเรียนเป็นพอ
ช่วงเวลาตอนที่ผมเป็นนักศึกษา คนรอบข้างของ พี่ นศ.พยาบาลคนนี้ เขาดูถูกผมว่าเป็นคนเกเร ไม่ตั้งใจเรียน (คงจะประเมินภายนอก) และสถาบันที่ผมเรียน โดยที่ผ่านมาผมพยายามตั้งใจเรียน จากที่เรียนไม่เก่งเลย ใช้ความเพียรพยายามจนเรียนจบ
ตอนสมัยเรียนหนังสือ เราทั้งสองคนค่อนข้างที่จะเจอกันที่ห้องสมุด (ห้องสมุดคณะพยาบาล ซึ่งห่างจากมอผมประมาณ 17.5 กม.) ไกลไหมล่ะ
อยากเจอหน้ากันก็ต้องลงทุนครับ ตอนเย็นก็ชอบไปหาของกินที่กาดฝายหิน เคยพาไปออกกำลังกายทั้งตอนเช้าและเย็น ผมใช้เวลาจีบเขาปีกว่าๆ **ยอมเหนื่อย เพราะอยากพิสูจน์ตนเองว่า เราสามารถเป็นผู้นำในครอบครัวได้

ก่อนที่เขาจะจบ แล้วทำงาน รพ เอกชน ทางภาคกลาง ซึ่งเป็นโจทย์ที่พิสูจน์ว่าความห่างไกลจะเป็นอุปสรรค์หรือไม่(ตอนนั้นคบกันเป็นแฟนแล้วล่ะครับ)
ความซื่อสัตย์เท่านั้นที่จะทำให้ความรักเดินต่อไปได้ ผมเรียนอยู่มอประมาณ 1 ปีครับ (ปี3) ก่อนจะออกไปฝึกงานและทำสหกิจ(ปี4) (สหกิจคือตัวจบโดยทางสาขาวิชาร่วมมือกับบริษัทที่รับ นศ ไปฝึกครับ)
ช่วงเวลาที่ผมฝึกงาน/สหกิจทางคอมพิวเตอร์ ผมพยายามหาที่ฝึกงานและพัฒนาตนเองให้ได้มากที่สุด พยายามเลือกบริษัทใหญ่ๆ บริษัทก็จะมีเกณฑ์การคัดเลือกต่าง (จากภาคเหนือลงไปฝึกภาคกลาง) จนได้ที่บริษัทบริการทางด้านซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง แถวเมืองเอก รังสิต ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ให้บริการทางด้านซอฟต์แวร์ และสนับสนุนบริการหลังการขาย
และช่วงก่อนจบผมลองไปสมัครงานหลายๆที่ เพื่อที่ส่งจบเสร็จจะได้มีงานทำโดยทันที แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะอยากเคลียเรื่องส่งจบ แต่สุดท้ายมีบริษัทซอฟต์แวร์ ช่องนนทรี ยานนาวา มาทาบทามให้ไปร่วมงานด้วย (ตอนนั้นดีใจมากครับ อยากเริ่มเก็บเงิน สร้างอนาคตตนเอง) **เหนื่อยเพื่อตนเอง และเหนื่อยเพื่ออนาคตครอบครัว
ผมพยายามเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เพราะอยากสร้างอนาคตด้วยกัน ใจของผมไม่อยากให้แฟนผมขึ้นเวรหนักเลย (แค่บ่ายดึกเดียว ก็สงสารแฟนล่ะครับ)
อยากให้ขึ้นเวรน้อยๆ กลับมาที่ห้องแล้วเจอหน้ากัน (ความฝันลมๆแล้งๆ ความเป็นไปได้แทบไม่มี)
ทุกๆวันนี้ผมพยายามเป็นพ่อบ้านที่ดี เรื่องอาหารก็เช่นกันครับ ผมจะเป็นคนที่จ่ายตลาด ซื้อหมู ผัก ไข่ คิดเมนูอาหารเอง ปรุงเอง ชิมเอง
เมนูอาหารก็ทำได้หลากหลายอย่างครับ ต้ม ผัด แกง ทอด ตุ๋น (ถ้าเป็นอาหารเหนือจะถนัดมากเลยครับ เช่นแกงอ่อมจิ้น ฮังเล ลาบ แฟนผมชอบกิน)
แม่บ้านหลายๆท่านคงจะเป็นอย่างผมนะครับ (คิดไม่ออกจะทำอะไรกินดี ไปจ่ายตลาดมองไปทางไหนก็จำเจ) กลัวแฟนจะเบื่ออาหารฝีมือผมเหมือนกัน
นานที (สัปดาห์ละครั้งได้) เราถึงจะออกไปกินข้าวนอกบ้าน(กรณีที่แฟนออฟเวร) นานทีครั้งจริงๆ

ทุกๆเช้าผมจะตื่นประมาณตี 5 มาหุงข้าว ทำกับข้าวรอ (ถ้าแฟนเวรเช้า ก็จะไปอาบน้ำแต่งตัว) (แต่ถ้าลงดึกมาก็จะมาทันอาหารเช้า)
เมื่อเสร็จธุระ เราก็จะลงมาทานข้าวพร้อมกัน ส่วนผมไปทำงานสายได้ (สายชิวครับ หอยทากเรียกพี่)
เรื่องงานบ้านก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ แฟนผมค่อนข้างเป็นคนที่เจ้าระเบียบพอสมควร เขาเคยบอกกับผมว่า
ถ้าไม่ช่วยทำความสะอาดเลย ก็อย่าทำให้มันสกปรกลง วันนั้นผมจำได้แม่นมาก หลังจากวันนั้นบ้านก็สะอาดมาโดยตลอดครับ
จนทุกวันนี้ผมเป็นคนทำความสะอาดบ้านเพียงคนเดียว เพราะไม่อยากเห็นแฟนมาเหนื่อยงานบ้านอีก เรื่องซักผ้าและรีดผ้าเช่นกัน
ถึงจะเป็นอะไรที่ขี้เกียจทำมาก แต่ก็ต้องทำ (ทำก็ต้องทำสะอาดด้วยนะครับ ซักมือครับ เครื่องน่ะมีครับแต่แฟนบอกว่าไม่สะอาด)
ปล. ไม่ใช่ว่าแฟนผมไม่มีหน้าที่นะครับ วันไหนเขาว่างเขาก็จะทำงานบ้าน ซักผ้า กวาดบ้านถูบ้าน ช่วยกันดูแล

ถ้าวันไหนแฟนเจอคนไข้เคสหนัก หรือแบบว่าคืนนั้นไม่ได้นอนก็จะมาบ่นให้เราฟัง แบบว่าโดนหมอด่าบ้าง ด่าว่า...... ศัพท์ทางการแพทย์
รู้บ้าง ไม่รู้บ้างก็อ๋อไปงั้นแหละครับ ผมก็พยายามปลอบใจ ให้กำลังใจ นวดน่องนวดขานี่บ่อยเลย บอกว่าไม่ได้นอนเลย เดินขาลากทั้งคืน
วันไหนเป็นอินชาร์ตนี่บอกเลย จะบ่นเหนื่อยมากๆ เป็นพิเศษหน่อย (สงสัยเครียดกับคนไข้ ญาติคนไข้ เพื่อนร่วมงาน)
เรื่องชู้สาวนี่สำคัญเลย คงมีหลายๆคู่นะครับที่แฟนไปมีน้อยเพราะว่าพยาบาลเข้าเวร ไม่มีเวลาให้ แฟนผมเล่าให้ฟังบ่อยๆครับ พี่ที่ทำงานจับได้ว่าสามีมีเมียน้อย  เอาตังไปเลี้ยงเมียน้อย ช่วงแรกๆที่คบกันนี่จะเช็คโทรศัพท์ ลาย เฟสบุคผมบ่อยมาก ช่วงหลังไม่เห็นเชค (สงสัยผมไว้ใจได้ล่ะมั้ง ฮ่าๆ) เวลาส่วนใหญ่ที่แฟนผมขึ้นเวร ผมรับงานนอกครับ เช่นเขียนโปรแกรมทั่วไป วิเคราะห์ออกแบบระบบ งานกราฟฟิกทั่วไป ไว้เป็นรายได้เสริม
ผมเคยอธิบายกับแฟนว่าผมทำงานสายนี้มีความเครียดมาก พวกงานวิเคราะห์ระบบนี้ยากเลย วันไหนมีแก้บัคโปรแกรมอีก ถ้าหาบัคไม่เจอนี่ไม่ได้นอนเลยทีเดียวครับ
**แฟนผมชอบอ่านพันทิป เผื่อจะเห็นใจคนที่อยู่ข้างหลังคนนี้บ้าง (ฮ่าๆๆ)

ต้องขอขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ ผมแค่อยากเล่าเรื่องราวของผม
แชร์ให้หลายๆคนได้อ่านกัน (อยากบอกให้พยาบาลรู้ว่าพยาบาลไม่ได้เหนื่อยแค่คนเดียวนะครับ แฟนพยาบาลอย่างผมก็เหนื่อยเช่นกัน)
แต่ถ้าเหนื่อยแล้วมีความสุขผมก็ยอม เป็นกำลังใจให้ พยาบาล และแฟนพยาบาลทุกๆคนนะครับ
(คนไหนก็มีแฟนพยาบาลก็รักษาให้เขาอยู่กับตัวเราไปนานๆ ส่วนพยาบาลคนไหนที่ยังไม่เจอคู่ชีวิตก็ขอให้เจอคู่ชีวิตที่ดี รักและจริงใจตลอดไปนะครับ )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่