Love Between The Lines เรื่องรักระหว่างบรรทัด Ep.4



           สำหรับลิงค์ตอนเก่านะคะ  

           ตอนที่ 1 : http://ppantip.com/topic/35153883

           ตอนที่ 2 : http://ppantip.com/topic/35159907

           ตอนที่ 3 : http://ppantip.com/topic/35167630

           ...


           (4)


         “ลุยเลย!” เสียงแรกย้ำ

        “ไม่เอา” เสียงที่สองรีบปัดในทันใดก่อนจะรีบเสริมว่า “บอกเป็นครั้งที่ร้อยแล้วนะหยง”

       “เดี๋ยวๆๆ ตกลงสรุปคือเมื่อเย็นวานแกได้เข้าไปทักคุณทีหรือเปล่า?”

          พลอยชมพูถามเพื่อความแน่ใจ ในขณะที่ทั้งสามสาวกำลังประชุมสายทางโทรศัพท์เพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้เพื่อนรักที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ฟังเป็นฉากๆ

       “ได้ทักบ้าอะไร ยัยหนูลีรีบเผ่นกลับบ้านล่ะสิไม่ว่า!” ตันหยงรีบฟ้อง
  

          นลินีเบ้ปากใส่จานข้าวซึ่งกำลังทานอยู่เพียงลำพังในร้านอาหารตามสั่งอย่างง่ายๆ ที่ตั้งอยู่ในละแวกออฟฟิศ หญิงสาวตักข้าวใส่ปากโดยไม่รู้รสชาติเลยสักนิด เหตุการณ์เมื่อคืนยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ หลังจากที่ได้รับรู้ความบังเอิญที่แทบไม่น่าจะเป็นไปได้นี้แล้ว นลินีก็ถึงกับสติแตกไปในทันใด ขณะที่ตันหยงนั้นกลับมองว่าเป็นโอกาสที่ดีและแทบจะบังคับให้หญิงสาวเดินเข้าไปทักทายครอบครัวของแทนไทที่กำลังสนทนากันอยู่อย่างออกรสให้จงได้


       “เมื่อวานนี้โอกาสทองที่จะได้เปิดตัวแท้ๆ จะทำฟอร์มเข้าไปทักแทนไทก็ยังได้ แต่แม่นี่ดันลากคอฉันหนีกลับบ้านหน้าตาตื่น พูดแล้วเสียอารมณ์!”    

       “เออๆ ฉันป๊อดเอง ก็คนมันตกใจนี่หว่า” นลินียอมรับอย่างหงุดหงิด “อีกอย่างเขานั่งทานข้าวกันเป็นครอบครัว อยู่ดีๆ แกจะให้ฉันเสนอหน้าเข้าไปได้ยังไง”

       “เฮ้อ เสียดายจังเลยที่ไม่ได้ไปกับพวกแก เลยอดเห็นคุณทีของหนูลีเลย!” พลอยชมพูบ่นอย่างไม่จริงจังอะไร “แถมได้เจอแทนไทด้วย ว่าแต่ว่าคุณทิวัตถ์นี่เขาเป็นพี่ชายของนายไทจริงๆ น่ะหรือ โลกกลมดีแท้”

         “ตอนแรกฉันก็คิดว่าเหลือเชื่อ เรียนด้วยกันมาตั้งสี่ปี ฉันก็เคยได้ยินว่ามันมีพี่ชายแต่ไม่เคยเห็นหน้าสักครั้ง ใครจะไปรู้ พอได้เห็นหน้าอีกทีดันกลับกลายมาเป็นกิ๊กของยัยหนูลีเพื่อนรักของพวกเราซะงั้น” ตันหยงรำลึกความหลังก่อนจะนึกขึ้นมาได้

           “เอ๊ แต่แกบอกว่าพวกเราเคยไปถ่ายรูปร่วมกับครอบครัวนายไทตอนงานรับปริญญาด้วยไม่ใช่รึ แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้สึกคุ้นหน้าเขาเลย ถึงปกติจะจำหน้าคนไม่ค่อยเก่งก็เถอะ แต่ลองหน้าตาดีขนาดนี้ไม่น่าจะลืมง่ายๆ”

           “คุณทีไม่ได้ไปที่งานรับปริญญา” นลินีตอบเรียบๆ “เมื่อคืนฉันกลับไปค้นหน้าเพจของนายไทดู ปรากฏว่าในรูปงานรับปริญญาเมื่อสองปีก่อนไม่มีพี่ชายร่วมเฟรมด้วยสักรูป แถมหน้าเพจมันก็ไม่ค่อยลงรูปครอบครัว ไม่แปลกหรอกที่แกกับฉันจะจำไม่ได้”

           “อ้าว แล้วอย่างนั้นพวกแกจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาเป็นพี่น้องกัน อาจจะเป็นคนรู้จักกันเฉยๆ ก็ได้ละมั้ง?” พลอยชมพูที่ตั้งใจฟังมาตลอดส่งเสียงท้วง  

       “คนรู้จักไม่หน้าพิมพ์เดียวกันจนแทบจะโขกออกมาแบบนี้หรอก พลอย แถมลูกชายทั้งสองคนยังหน้าเหมือนแม่อีกต่างหาก ดูยังไงก็รู้ว่าครอบครัวเดียวกัน”

       “งั้นก็ยิ่งดีเลย แกก็ให้แทนไทช่วยเป็นสะพานให้สิ พี่น้องกันไม่ใช่หรือ อีกอย่างตอนสมัยเรียนหนูลีก็สนิทกับนายไทออกจะตายไป!”  


          นลินีแทบกุมขมับเมื่อได้ยินประโยคเสนอไอเดียเด็ดจากพลอยชมพู ที่ไม่ได้ต่างอะไรกับความคิดของเพื่อนรักอีกคนซึ่งทุ่มเถียงกันมาตลอดทางกลับบ้านเมื่อคืนนี้


       “ไม่เอา” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน “เมื่อคืนก็บอกไอ้หยงเป็นร้อยรอบแล้ว”  


          ถึงไม่เห็นหน้าแต่นลินีก็มั่นใจว่าตันหยงต้องกำลังทำหน้าคว่ำหน้าหงายอยู่แน่นอน


       “ทำไมอ้ะ!?”

       “นั่นสิ ขอเหตุผลดีๆ สักข้อได้ไหมยะว่าทำไมแกถึงไม่ยอมไปขอให้นายไทช่วย หรือถ้าแกไม่กล้าเล่าให้มันฟัง เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

       “หยุดตรงนั้นเลย ไอ้คุณหยง!” นลินีห้ามเสียงหลงก่อนจะยอมแพ้ “พวกแกจำตอนปีสี่ที่แทนไทไปตามจีบเด็กคณะอักษรได้รึเปล่า?”

       “ฉันจำได้!” พลอยชมพูร้อง “แต่ได้ข่าวว่ารับประทานแห้วกลับมานี่นา”

       “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้วะ หนูลี?”

       “คือตอนนั้นนายไทเคยมาขอให้ฉันช่วยอยู่ครั้งนึง แต่ฉัน..เอ่อ..ปฏิเสธไป” หญิงสาวเล่าให้ฟังเสียงอ่อย “ดูท่าทางเฮิร์ตกลับมาน่าดู ขืนฉันเสนอหน้าไปขอให้มันช่วยเรื่องคุณทีมีหวังโดนด่าเละแหงๆ”

       “เฮ้ย แต่ดูท่าทางแทนไทไม่น่าจะใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยแบบนั้นนะ ดีไม่ดีป่านนี้มันคงลืมไปหมดแล้วม้าง~”


         ไม่มีทาง! นลินีแอบคิดในใจ ภาพผู้ชายตัวโตแต่ขี้งอนสุดๆ ผุดขึ้นมาในสมองแต่ป่วยการที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนรักทั้งสองฟังในตอนนี้ “อีกอย่างนะขืนแทนไทรู้ว่าฉันไปแอบชอบพี่ชายมันเข้าล่ะก้อ มีหวัง...” หญิงสาวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงสยดสยอง


       “กลัวโดนนายไทล้อว่างั้น เป็นเด็กป.สามรึไงแก” ตันหยง-ดัน

       “เรื่องนั้นไม่เท่าไหร่...แต่แกอย่าลืมสิว่าแทนไทเรียนกับพวกเรามาตั้งกี่ปี ผ่านอะไรบ้าบอด้วยกันมาก็เยอะ” นลินีกลืนน้ำลาย “แถมฉันยังสนิทกับมันอีก เรียกว่าวีรกรรมมีเท่าไหร่ ไส้มีอยู่กี่ขดก็เห็นกันมาหมดแล้ว”

       “อ้าว แล้วไม่ดีรึยังไง?” พลอยชมพูยิ่งสงสัย

       “แล้วถ้านายไทมันเผลอหลุดปากเล่าเรื่องอับอายขายขี้หน้าของฉันให้คุณทีฟังขึ้นมา หรือไม่ก็วิ่งโร่ไปบอกความรู้สึกฉันให้พี่ชายตัวเองรู้แบบโต้งๆ ซึ่งฉันรู้ว่ามันต้องทำแน่ แล้วทีนี้ฉันไปจะมองหน้าเขาติดได้ยังไงล่ะพวกแก๊~”


         ตันหยงและพลอยชมพูเงียบไปอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่ได้ยินเหตุผลของเพื่อนรัก


       “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องบอกเรื่องคุณที” พลอยชมพูเจ้าแม่ไอเดียบรรเจิดยังไม่ยอมแพ้

       “แล้วจะให้บอกมันว่า??”

       “ก็แหม ถึงหนูลีจะไม่อยากให้นายไทช่วย แต่อย่างน้อยแกก็แอบสืบข้อมูลแบบเอ็กคลูซีฟสุดๆ ของคุณทีได้นี่นา พี่ชายตัวเองแท้ๆ ไม่สืบจากน้องชายแล้วจะให้ไปสืบจากใครฮึ!”

       “ฉันสนับสนุนไอเดียยัยพลอย!” ตันหยงบอกทันที “อุตสาห์มีแหล่งข้อมูลชั้นดีแต่ไม่ ยอมใช้มันก็น่าเสียดาย”

       “แล้วพวกแกคิดว่าอยู่ดีๆ ฉันไปถามข้อมูลนายไทเรื่องพี่ชายตัวเองมันจะไม่สงสัยเลยงั้นหรือ หมอนั่นไม่โง่หรอกนะพวกแกก็รู้”

       “ก็รู้ว่ามันไม่โง่” ตันหยงพูด “แต่ก็รู้ตัวว่ามีเพื่อนฉลาด ถามตรงๆ ไม่ได้ก็หลอกถามแบบอ้อมๆ ไปสิยะ ฉันรู้ว่าแกถนัด”  

       “ไม่รู้สิ หยง...” นลินีทำหน้ามุ่ย “ฉันไม่ได้คุยกับแทนไทมาตั้งนาน อยู่ดีๆ จะติดต่อไปแล้วสอบถามสารทุกข์สุขดิบเรื่องครอบครัวเขาแบบนี้ ยังไงก็ดูน่าสงสัยอยู่ดี”

       “งั้นเอาอย่างนี้ วันเสาร์หน้าจะมีงานเลี้ยงรุ่น เอ้อ จะเรียกอย่างนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียวเพราะเพิ่งจบมาได้แค่ไม่กี่ปีเอง เอาเป็นว่าพวกรุ่นเราเขานัดกินข้าวกันที่ร้านอาหารแถวริมแม่น้ำและฉันแอบรู้มาว่างานนี้แทนไทก็ไปด้วย เพราะฉะนั้นแกก็อาศัยจังหวะนี้แอบสืบข้อมูลของคุณทีได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน!”  


         นลินีรวบช้อนที่กำลังทานอยู่ทันทีเมื่อเหลือบมองนาฬิกาติดผนังตรงหน้าที่บอกว่าใกล้หมดเวลาพักเที่ยงเต็มที ขณะที่ฟังพลอยชมพูสาธยายแผนการณ์สุดวิเศษไปด้วยอย่างไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับปากเออออไปกับสองคนนั้นเพื่อให้ทั้งคู่หยุดเซ้าซี้เสียที  ใจจริงเธอก็เคยคิดที่จะคุยเปิดอกกับแทนไทอย่างที่เคยทำมาตลอด เพราะลึกๆ แล้วนลินีรู้ดีว่าหากเขารู้เรื่องนี้ขึ้นมา ผู้ชายใจอ่อนจนอ่อนใจอย่างแทนไท จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเธออย่างแน่นอน เพียงแต่เธอไม่อยากให้ทิวัตถ์ต้องลำบากใจหากเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอขึ้นมาจริงๆ อีกอย่างเธอยังไม่อยากเจ็บปวดเหมือนเพื่อนชายคนสนิทที่ทุ่มลงไปสุดตัวโดยไม่เผื่อใจไว้ให้ตนเองเลย อย่างน้อยก็ขอให้มั่นใจสักนิดเถิดว่าเธออาจมีหวังบ้าง  


        หญิงสาวเก็บโทรศัพท์เครื่องบางใส่กระเป๋าถือ หลังจากที่เพื่อนรักทั้งสองคนต่างพอใจในบทสนทนาจึงยอมแยกย้ายกันไปทำธุระของตนเองในช่วงบ่ายอันน่าเบื่อของวันทำงาน ตัวเธอเองก็มีประชุมงานของแผนกในอีกครึ่งชั่วโมงที่จะถึงนี้ นลินีจึงรีบเช็คบิลและเดินกลับไปที่บริษัทเพื่อเตรียมเข้าประชุมอย่างรวดเร็ว



            (มีต่อ)


            ...

           
            ห่างหายจากการโพสไปพักหนึ่งเพราะกำลังวุ่นวายเรื่องงานและเพื่อทำใจสู้ต่อนะคะ 55 ถึงจะไม่ค่อยมีคนอ่านแต่ก็จะพยายามเอามาลงให้แล้วกันค่ะ ขอบคุณนักอ่านเงาและนักอ่านที่แสดงตัวหรือให้กำลังใจมาตลอดทุกท่านนะคะ ช่วงนี้อาจผันแปรตัวเองไปเป็นนักอ่านบ้างเขียนเองบ้างตามแต่อารมณ์ หากมีข้อแนะนำติชมอะไร เชิญได้เลยนะคะ น้อมรับทุกความคิดเห็น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่