X Men Apocalypse มนุษย์กลายพันธุ์ในวันสิ้นโลก



X Men Apocalypse คือตอนจบของไตรภาคยุคใหม่จากหนังตระกูล X Men โดยเหตุการณ์ส่วนใหญ่ในหนังเกิดขึ้นในช่วงยุคปี 80 เริ่มต้นที่ Firstclass ต่อด้วย Day of Future Past ก่อนจะปิดท้ายที่ Apocalypse ภายใต้การกำกับของ ไบรอัน ซิงเกอร์ ซึ่งในปีนี้จะเป็นวาระครบรอบ 10 ปีของ X Men The Last Stand พอดิบพอดี

ภาคนี้เล่าย้อนไปถึงมนุษย์กลายพันธุ์คนแรกของโลกนาม อะพอคาลิปส์ ที่เคยเป็นพระเจ้าปกครองโลกอยู่ในสมัยบรรพกาลที่อียิปต์ (มีการโยงว่าพีระมิดสร้างขึ้นโดยมนุษย์กลายพันธุ์) เขาโดนมนุษย์กลุ่มหนึ่งทรยศจนต้องหลับไหลอยู่ใต้พื้นโลกนานนับพันปี ก่อนจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง อะพอคาลิปส์ พบว่าโลกปกครองโดยมนุษย์ผู้อ่อนแอ ซึ่งมีความหวาดระแวงมิวเทนท์ตลอดเวลา เขาจึงตัดสินใจรวบรวมกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ 4 คนมาเป็น สี่จตุรัสอาชารุ่นใหม่ ความตาย ความอดอยาก โรคระบาด สงคราม เพื่อรับใช้ในภารกิจวันสิ้นโลก

ขณะเดียวกัน ชาร์ลส์ เซเวียร์ หรือ โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ กำลังไปได้สวยกับการเปิดคฤหาสน์เป็นโรงเรียนสอนผู้มีพรสวรรค์ที่คล้ายกับชุมชนมนุษย์กลายพันธุ์ขนาดย่อม อเล็กซ์ ซัมเมอร์ พา สก็อต ซัมเมอร์ น้องชายเข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ เขาจึงได้พบกับ จีน เกรย์ ที่นี่ ส่วน มิสทีค หรือ เรเวน ก็พา เคิร์ท แว็กเนอร์ ฉายา ไนท์ครอว์เลอร์ มนุษย์กลายพันธุ์ชาวเยอรมันที่มีความสามารถในการเทเลพอร์ทมาฝากศาสตราจารย์กับ แฮงค์ แม็คคอย ด้าน เอริค ที่พยายามปิดบังความลับเรื่อง แม็กนีโต้ หวังใช้ชีวิตอย่างสงบก็มีเหตุให้ต้องกลับมาใช้พลังสังหารมนุษย์อีกครั้ง อะพอคาลิปส์ จึงถือโอกาสนี้เกลี้ยกล่อมเขามาเป็นสมุนคนที่ 4 ร่วมกับ สตอร์ม ไซล็อค และ แองเจิ้ล

X Men Apocalypse เป็นหนังฮีโร่แนวรวมทีมที่สนุกดี ตัวละครเยอะแต่ก็มีการเกลี่ยบทได้อย่างลงตัวไม่แพ้ Captain America Civil War สำหรับไทม์ไลน์ของหนังที่มีส่วนโยงเข้ากับ X Men ภาคต่างๆที่อาจมึนๆ ไม่สมเหตุผลไปบ้าง กระนั้นการล้างไพ่ในภาคก่อนก็เปิดทางให้หนังได้เริ่มสร้างคาแร็กเตอร์ตัวละครขึ้นมาใหม่ ภายใต้การแสดงของนักแสดงรุ่นใหม่ รวมทั้งมีการอธิบายที่มาการหัวล้านของโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ได้อย่างแนบเนียน (เจมส์ แม็คอะวอย ลงทุนโกนหัวจริง) คล้ายๆกับตอนที่เขาถูกกระสุนจนต้องพิการใน Firstclass

สิ่งที่ชอบคือมิวเทนท์ในดวงใจแฟนๆกลับมากันครบครันไม่ว่าจะเป็น มิสทีค บิสต์ ฮาว็อค ไซคอร์ป จีน สตอร์ม ไนท์ครอว์เลอร์ ควิกซิลเวอร์ ไปจนถึง วูลฟ์เวอรีน แม้ว่าที่มาที่ไปของแต่ละคนอาจะไม่ตรงตามฉบับคอมมิกไปบ้าง ยอมรับว่าช่วงแรกจนถึงกลางหนังเดินเรื่องค่อนข้างช้าจนเกือบน่าเบื่อ เพราะต้องใช้เวลาไปกับการแนะนำตัวละครจำนวนมาก ทว่าก็ส่งผลดีต่อฉากการต่อสู้ช่วงท้ายที่เป็นไฮไลต์สำคัญ ความดาร์กของหนังยังมีไม่มาก ที่เยอะไม่แพ้พาร์ทแอ็คชั่นคือพาร์ทคอเมอดี้ มุขตลกต่างๆถูกปล่อยออกมาเป็นระยะเพื่อผ่อนคลายคนดู แนวเดียวกับหนังมาร์เวลฮีโร่ ซึ่งความฮาส่วนใหญ่อยู่ในฉากที่ ควิกซิลเวอร์ จอมขโมยซีนปรากฏตัว

หนังเน้นไปที่เรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครไม่ว่าจะเป็น ชาร์ลส์ กับ เอริค , ชาร์ลส์ กับ มอยร่า , เรเวน กับ เอริค , เรเวน กับ ชาร์ลส์ , ไซคอร์ป กับ จีน , เอริค กับ ควิกซิลเวอร์ , ในส่วนของ เรเวน กับ แฮงค์ จบความสัมพันธ์ในจอไปแล้ว เช่นเดียวกับนอกจอ ฉากที่ นิโคลัส ฮอลท์ พบ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ครั้งแรกในฐานะคนรักเก่าจึงดูสมจริงเอามากๆ มีการพูดเหน็บแนมกันไปมา ต้องชมว่าทั้งคู่มืออาชีพจริงๆ บทมิสทีคของ เจนนิเฟอร์ โดดเด่นมาก เธอทำให้มิสทีคเป็นตัวละครพิเศษที่ X MEN ขาดไม่ได้ไปแล้ว ขณะที่นักแสดงรุ่นใหม่ก็เล่นได้ดีทุกคน โดยเฉพาะ โซพี เทอร์เนอร์ ผู้รับบท จีน เกรย์ มีเสน่ห์พอจะให้ผู้ชมจดจำ ตัวร้าย ออสการ์ ไอแซ็ค เมคอัพจนแทบดูไม่ออกว่าเป้นใคร แต่ถือว่าเป็นการเปิดตัวในหนังแนวฮีโร่ของเขาที่ไม่เลวทีเดียว

X Men Apocalypse นำเรื่องราวในหนังไปผูกกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์โลกได้น่าสนใจ อารมณ์การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ตัวละครใหม่ๆ ทำให้นึกถึง บรรยากาศในภาค Firstclass แถมหนังยังปูทางไปภาคต่อได้อีกในหลายรูปแบบไม่รู้จบ บางทีฉาก ชาร์ลส์ คืนความทรงจำให้ มอยร่า อาจสื่อได้ว่า ไบรอัน ต้องการ เรียกคืนความรู้สึกเก่าๆดีๆของแฟนๆที่มีต่อหนังตระกูลนี้ให้กลับมาอีกครั้ง

คะแนน 8/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://web.facebook.com/cyberbirdmovie

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/225369/?link=4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่