หลังจากปล่อยตัวอย่างแรกของ X - Men: Apocalypse มาเมื่อคืนวาน ทางเว็บไซต์ EmpireOnline ก็ได้ลงบทสัมภาษณ์ของ ไบรอัน ซิงเกอร์ ผู้กำกับของเรื่องที่พูดถึงตัวอย่างหนังของตัวเอง ผมจึงได้เรียบเรียงมาให้อ่านกันนะครับ เนื้อหาจะเรียงตามฉากในตัวอย่างหนังแบบฉากต่อฉากนะครับ
ตัวอย่างซับไทย
ตัวอย่างหนังเปิดด้วยเงานิรนามกำลังเดินไปที่ Cerebro พร้อมกับตัดมาที่ฉากภัยพิบัติต่าง ๆ นา ๆ ทั้งการระเบิด ฝนฟ้าคะนอง เมืองที่เรียบหายเป็นหน้ากอง และอักษรอียิปส์โบราณปริศนา หลังจากที่ภาพตัดไปอย่างรวดเร็ว เราก็ได้เห็นใบหน้า จีน เกรย์ ครั้งแรก “คนนั้นคือ จีน แน่นอน” ไบรอัน ซิงเกอร์ผู้กำกับหนังภาคนี้พูดถึงตัวละครที่โซฟี่ เทอร์เนอร์รับบทในเรื่อง “ผมเธอทำให้เธอดูแปลกตาไปนิดนึง แต่ผมไม่อยากบอกว่าทำไมเธอถึงทำในสิ่งที่เธอกำลังจะทำหรอกนะ”
โดยฉากดังกล่าวก็ทำออกมาชัดเจนว่าภาพที่เห็นอยู่ในความฝันของจีน พอเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็เล่าสิ่งที่เธอเห็นให้กับชาร์ล ซาเวียร์ฟัง แต่ชาร์ลกลับบอกว่าทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน ซึ่งแน่นอนว่านั้นไม่ใช่ความฝันธรรมดา ๆ อย่างที่ชาร์ลบอกแน่ ๆ “มันเป็นเรื่องความสามารถของพวกเขาล้วน ๆ” ก่อนที่ซิงเกอร์จะอธิบายถึงพลังของจีน เกรย์ต่ออีกว่า “จีนมีการเชื่อมต่อที่พิเศษกับซาเวียร์ เธอเชื่อมต่อกับโลกทางโทรจิตอย่างพิเศษได้และยังมีพลังมหาศาลที่ยังไม่ได้ใช้กำลังจะแพร่ขยายอยู่”
ตัดมาที่ภาพมุมสูงที่เผยให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบยุโรปซึ่งสถานที่นั้นก็ไม่ใช่ที่ไหนแต่เป็นมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดที่ชาร์ล ซาร์เวียร์เคยเรียน โดยในฉากนี้เราจะได้ยินเพลง “The Hunted” ของ Snow Ghosts เป็นดนตรีประกอบ ซึ่งผู้กำกับอย่างซิงเกอร์ก็พูดถึงเพลงนี้ว่า “ผมรู้แล้วว่าเพลงนี้มันหลอนสุด ๆ ไปเลย”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รูป Oxford อีกมุมหนึ่ง
เพลงเต็ม The Hunted ของ Snow Ghosts
และในที่สุดเราก็ได้ยินเสียงอโพคาลิปส์พูดขึ้นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงอันอ่อนนุ่มที่สื่อถึงการมีส่วนร่วมในหลาย ๆ วัฒนธรรม ซึ่งในฉากเขาและโอโรโร่ มันโรหรือที่รู้จักกันในนาม สตอร์ม กำลังรวบรวมกำลังคนอยู่ ถึงแม้สุดท้ายสตอร์มจะกลายมาเป็นสมาชิกหลักของ X-Men แต่ตอนที่อโพคาลิปส์เจอเธอนั้นสตอร์มกำลังอยู่ในช่วงเสียใจ “เธอกำลังค้นหาพ่อแม่และหมู่บ้านที่หายสาบสูญของเธออยู่”
กลับมาที่ฉากใต้ดินเราจะเห็นคนยืนอยู่กัน 3 คน คนแรกทางซ้ายสวมผ้าคลุมคืออโพคาลิปส์ ถัดมาด้านขวาเราจะเห็นทรงผมโมฮอกของสตอร์ม ส่วนอีกคนที่ยืนไร้เส้นผมอยู่คนนั้นอาจเป็น คาลิบัน (Caliban) มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังในการค้นหาคนอื่น ๆ เหมือนกับ Cerebro ของซาเวียร์ “เขาทั้งหัวล้านและมีแววตาที่หดหู่” ไบรอัน ซิงเกอร์อธิบายลักษณะคาลิบันต่ออีกว่า “เขามีคาแร็คเตอร์ที่ดีนะ เจ๋งสุด ๆ ไปเลยละ”
ถัดมาเป็นฉากที่อโพคาลิปส์พูดถึงชื่อที่คนตั้งให้ที่ล้วนแล้วแต่เป็นชื่อเทพเจ้าทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น รา พระกฤษณะ และ ยะโฮวาห์ ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการก็คืออยากให้ผู้คนยกย่องเขาเช่นเทพเจ้าเหมือนก่อน แต่พอเขาตื่นมาทั้งหมดกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาหวังไว้ “แทบไม่มีใครเคารพหรือบูชาเขา มันเป็นเรื่องอีโก้ของเทพเจ้าโบราณ” ไบรอัน ซิงเกอร์ให้สัมภาษณ์เสริมต่ออีกว่า “ทั้งหมดมันขาดหายไป ไม่สมส่วน ทั้งการจัดระเบียบและการให้ความเคารพบูชา จึงต้องมีการคัดเลือก จำเป็นที่จะต้องกวาดล้างและสร้างใหม่ขึ้นอีกครั้ง”
มาด้านฝั่ง X – Men กันบ้างครั้งนี้เราจะได้เห็น โรส เบิร์น กลับมารับบทเป็น มอยร่า แมคเทคเกิร์ต เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย CIA ที่หายหน้าหายตาไปตั้งแต่ X-Men: First Class ซึ่งครั้งนี้เขาได้บอกข้อมูลเกี่ยวมนุษย์กลายพันธุ์คนแรกให้กับชาร์ลและ อเล็กซ์ ซัมเมอร์ส หรือ ฮาวอค ฟัง “อเล็กซ์เป็นตัวละครที่ดีมาก” ไบรอัน ซิงเกอร์กล่าว “ซาเวียร์ตัดสินใจไปหามอยร่ากับอเล็กซ์ แฮงค์จึงต้องรับผิดชอบโรงเรียนตอนที่เขาไม่อยู่”
อเล็กซ์ ซัมเมอร์นั้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของ สก๊อต ซัมเมอร์ส หรือไซคอร์บ มีพลังในการปล่อยรังสีวงแหวนความร้อนคล้าย ๆ กับพี่ชาย แต่เพียงปล่อยออกมาทางลำตัว
ในเทลเลอร์เองมีฉากหนึ่งที่ใบหน้าของอโพคาลิปส์โดนบัง สำหรับคนดูอย่างเราคงรู้สึกเฉย ๆ กับฉากดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามไบรอัน ซิงเกอร์กลับคิดต่างออกไป “ผมชอบนะที่คุณ (คนดู) ได้เห็นภาพส่วนประกอบเป็นชิ้น ๆ แบบนี้” ก่อนจะอธิบายเพิ่ม “มันบังคับไม่ให้คุณมองแค่หน้า แต่ให้มองไปยังเสื้อผ้า ขนาด ความแปลกตา … มันทำให้คุณอยากจะมองไปมุมรอบ ๆ”
กลับมาที่เนื้อหาที่อโพคาลิปส์พูดในฉาก เขาพยายามโน้มน้าวโดยการบอกว่าทุก ๆ คนเป็นลูกหลานของเขา และภาพก็ตัดมาที่มนุษย์กลายพันธุ์รุ่นใหม่อย่างรวดเร็วที่ประกอบไปด้วย Beast, Mystique, Nightcrawler และ Jubilee ซึ่งผู้กำกับวัย 50 ก็พูดถึงมนุษย์กลายพันธุ์รายหลังเอาไว้ว่า “ผมใส่จูบีลี่ไว้ในเรื่องด้วยเหตุผลเฉพาะ มันมีฉากหนึ่งที่ไม่มีเธออยู่ในนั้น บทของเธอไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่เธอเป็นส่วนหนึ่งในการขยายจักรวาลใหม่”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฉากขึ้นจากถ้ำทาง Empire คาดการ์ณว่าไม่น่าใช่มนุษย์กลายพันธุ์ที่ไหน แต่เป็นเจ้าหน้าที่มอยร่าครับ
นอกจากอโพคาลิปส์จะโน้มน้าวด้วยการอ้างว่าคนอื่น ๆ เป็นลูกหลานของตนแล้ว เขายังโจมตีชาร์ล ซาเวียร์ด้วยการบอกว่าเป็นผู้นำตาบอดอีกด้วย “คนนี้คือคนที่เราต้องพูดถึง” ก่อนที่ซิงเกอร์อธิบายเพิ่ม “ในตอนแรกของเรื่องชาร์ลเป็นคนแบบในอุดมคติ แต่เขาก็มาตาสว่างเมื่ออโพคาลิปส์ตื่นขึ้น”
ฉากต่อไปก็เฉลยว่าคนที่อโพคาลิปส์กำลังพูดด้วยอยู่นั่นคือ อิรีค หรือ แม็กนีโต นี่เอง เขากำลังโน้มน้าวแม็กนีโตให้มาเป็นพวก แต่คนที่มีความเป็นผู้นำอย่างแม็กนีโตจะยอมเป็นผู้ตามง่าย ๆ เลยหรอ “อะโพคาลิปส์เจออีริคอยู่ในสถานที่ที่ทรงคุณค่าที่สุดในชีวิต” ซิงเกอร์อธิบายถึงสาเหตุที่แม็กนีโตยอมเข้าไปเป็นพวก “เขา (อีริค) กำลังมองหาพระเจ้าอยู่ จำได้ไหม เขายังเป็นชาวยิวตัวเล็ก ๆ ในค่ายกักกันอยู่เลยตอนที่เสียครอบครัวไปครั้งแรกนั่นอะ และตอนนี้เขาก็อยู่ต่อหน้าชายที่เป็นหรืออ้างตนว่าเป็นพระเจ้า แล้วก็นะการโน้มน้าวใจคนก็เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของอโพคาลิปส์อีกด้วย”
ตัดกลับมาที่ฝั่ง X – Men เจ้าหน้าที่มอยร่ากำลังอธิบายถึงสี่จตุรอาชาซึ่งอโพคาลิปส์ก็เลือก สตอร์ม อาร์คแอนเจิล ไซล็อค และ แม็กนีโต มาเป็นพวก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้ผมลองแปลที่ซิงเกอร์ตอบในทวิตเตอร์แคมเปญ #AskSinger นะครับ
เอาไว้อ่านเล่น ๆ
Q: ฉากไหนที่ถ่ายทำอยากที่สุด ?
A: ฉากที่ Evan Peters เล่นเป็น Quicksilver แล้ววิ่งผ่านสิ่งต่าง ๆ ฉากนี้ใช้เวลาถ่ายเดือนครึ่งกว่าจะได้ ในฉากมีระยะเวลาประมาณ 2 – 3 นาที แต่อีแวนต้องทำงานกว่า 17 วัน มันเป็นฉากหนึ่งที่น่าจะอลังการที่สุดในชีวิตผมเลยนะ
Q: McAvoy โกนหัวจริง ๆ หรือเปล่า ?
A: James McAvoy เขายืนกรานที่จะโกน พวกเราเลยมีวิดีโอที่ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาเฟสไทม์กับ Patrick Stewart แล้วดูแม็กอะวอยโกนหัวด้วยกัน และแพททริกก็พูดขึ้นว่า “เก็บผมบางส่วนมาให้ผมด้วยนะ
Q: ทำงานกับ Jennifer Lawrence เป็นไงบ้าง ?
A: เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์เป็นคนที่เจ๋งมาก เป็นคนที่ยอดเยี่ยมและเป็นนักแสดงที่น่าทึ่ง ตัวละครที่เธอเล่น (Mystique) ไม่ได้ต้องการเป็นผู้นำเลยนะ เธออยากทำงานคนเดียวมากกว่า
Q: จตุรอาชาที่คุณชอบที่สุดคือคนไหน ?
A: จตุรอาชาที่ผมชอบแน่นอนว่าต้องเป็น Strom
Q: ตัวละครไหนที่คุณรู้สึกตื่นเต้นที่สุดที่จะให้แฟน ๆ ได้เจอ ? ขึ้นต้นด้วยตัว P หรือเปล่า ?
A: ชัดเจนว่ามันต้องเป็น Psylocke เธอเป็นตัวละครที่แข็งแรง เอาจริงเอาจัง แล้วเราก็สร้างออกได้เหมือนในคอมิคมาก ผมเลยคิดว่าทั้งคุณและผมน่าจะตื่นเต้นที่ได้เจอตัวละครตัวนี้นะ
Q: ตัวละครหน้าใหม่ตัวไหนที่คุณรู้สึกตื่นเต้นที่สุดที่นำมาขึ้นบนจอ ?
A: สิ่งหนึ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในหนังก็คือการแนะนำตัวละดัง ๆ อย่าง Jean Grey, Nightcrawler, Strom, Scott Summers และก็พวกคนหนุ่มสาวที่มีคาแร็คเตอร์แตกต่างออกไปซึ่งมาอยู่ในโลกของ X-Men
https://twitter.com/XMenMovies
มาดู Bryan Singer ผู้กำกับ X-Men: Apocalypse พูดถึง Trailer หนังของตัวเองกัน (กึ่งวิเคราะห์)
หลังจากปล่อยตัวอย่างแรกของ X - Men: Apocalypse มาเมื่อคืนวาน ทางเว็บไซต์ EmpireOnline ก็ได้ลงบทสัมภาษณ์ของ ไบรอัน ซิงเกอร์ ผู้กำกับของเรื่องที่พูดถึงตัวอย่างหนังของตัวเอง ผมจึงได้เรียบเรียงมาให้อ่านกันนะครับ เนื้อหาจะเรียงตามฉากในตัวอย่างหนังแบบฉากต่อฉากนะครับ
ตัวอย่างหนังเปิดด้วยเงานิรนามกำลังเดินไปที่ Cerebro พร้อมกับตัดมาที่ฉากภัยพิบัติต่าง ๆ นา ๆ ทั้งการระเบิด ฝนฟ้าคะนอง เมืองที่เรียบหายเป็นหน้ากอง และอักษรอียิปส์โบราณปริศนา หลังจากที่ภาพตัดไปอย่างรวดเร็ว เราก็ได้เห็นใบหน้า จีน เกรย์ ครั้งแรก “คนนั้นคือ จีน แน่นอน” ไบรอัน ซิงเกอร์ผู้กำกับหนังภาคนี้พูดถึงตัวละครที่โซฟี่ เทอร์เนอร์รับบทในเรื่อง “ผมเธอทำให้เธอดูแปลกตาไปนิดนึง แต่ผมไม่อยากบอกว่าทำไมเธอถึงทำในสิ่งที่เธอกำลังจะทำหรอกนะ”
โดยฉากดังกล่าวก็ทำออกมาชัดเจนว่าภาพที่เห็นอยู่ในความฝันของจีน พอเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็เล่าสิ่งที่เธอเห็นให้กับชาร์ล ซาเวียร์ฟัง แต่ชาร์ลกลับบอกว่าทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน ซึ่งแน่นอนว่านั้นไม่ใช่ความฝันธรรมดา ๆ อย่างที่ชาร์ลบอกแน่ ๆ “มันเป็นเรื่องความสามารถของพวกเขาล้วน ๆ” ก่อนที่ซิงเกอร์จะอธิบายถึงพลังของจีน เกรย์ต่ออีกว่า “จีนมีการเชื่อมต่อที่พิเศษกับซาเวียร์ เธอเชื่อมต่อกับโลกทางโทรจิตอย่างพิเศษได้และยังมีพลังมหาศาลที่ยังไม่ได้ใช้กำลังจะแพร่ขยายอยู่”
ตัดมาที่ภาพมุมสูงที่เผยให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบยุโรปซึ่งสถานที่นั้นก็ไม่ใช่ที่ไหนแต่เป็นมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดที่ชาร์ล ซาร์เวียร์เคยเรียน โดยในฉากนี้เราจะได้ยินเพลง “The Hunted” ของ Snow Ghosts เป็นดนตรีประกอบ ซึ่งผู้กำกับอย่างซิงเกอร์ก็พูดถึงเพลงนี้ว่า “ผมรู้แล้วว่าเพลงนี้มันหลอนสุด ๆ ไปเลย”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และในที่สุดเราก็ได้ยินเสียงอโพคาลิปส์พูดขึ้นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงอันอ่อนนุ่มที่สื่อถึงการมีส่วนร่วมในหลาย ๆ วัฒนธรรม ซึ่งในฉากเขาและโอโรโร่ มันโรหรือที่รู้จักกันในนาม สตอร์ม กำลังรวบรวมกำลังคนอยู่ ถึงแม้สุดท้ายสตอร์มจะกลายมาเป็นสมาชิกหลักของ X-Men แต่ตอนที่อโพคาลิปส์เจอเธอนั้นสตอร์มกำลังอยู่ในช่วงเสียใจ “เธอกำลังค้นหาพ่อแม่และหมู่บ้านที่หายสาบสูญของเธออยู่”
กลับมาที่ฉากใต้ดินเราจะเห็นคนยืนอยู่กัน 3 คน คนแรกทางซ้ายสวมผ้าคลุมคืออโพคาลิปส์ ถัดมาด้านขวาเราจะเห็นทรงผมโมฮอกของสตอร์ม ส่วนอีกคนที่ยืนไร้เส้นผมอยู่คนนั้นอาจเป็น คาลิบัน (Caliban) มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังในการค้นหาคนอื่น ๆ เหมือนกับ Cerebro ของซาเวียร์ “เขาทั้งหัวล้านและมีแววตาที่หดหู่” ไบรอัน ซิงเกอร์อธิบายลักษณะคาลิบันต่ออีกว่า “เขามีคาแร็คเตอร์ที่ดีนะ เจ๋งสุด ๆ ไปเลยละ”
ถัดมาเป็นฉากที่อโพคาลิปส์พูดถึงชื่อที่คนตั้งให้ที่ล้วนแล้วแต่เป็นชื่อเทพเจ้าทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น รา พระกฤษณะ และ ยะโฮวาห์ ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการก็คืออยากให้ผู้คนยกย่องเขาเช่นเทพเจ้าเหมือนก่อน แต่พอเขาตื่นมาทั้งหมดกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาหวังไว้ “แทบไม่มีใครเคารพหรือบูชาเขา มันเป็นเรื่องอีโก้ของเทพเจ้าโบราณ” ไบรอัน ซิงเกอร์ให้สัมภาษณ์เสริมต่ออีกว่า “ทั้งหมดมันขาดหายไป ไม่สมส่วน ทั้งการจัดระเบียบและการให้ความเคารพบูชา จึงต้องมีการคัดเลือก จำเป็นที่จะต้องกวาดล้างและสร้างใหม่ขึ้นอีกครั้ง”
มาด้านฝั่ง X – Men กันบ้างครั้งนี้เราจะได้เห็น โรส เบิร์น กลับมารับบทเป็น มอยร่า แมคเทคเกิร์ต เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย CIA ที่หายหน้าหายตาไปตั้งแต่ X-Men: First Class ซึ่งครั้งนี้เขาได้บอกข้อมูลเกี่ยวมนุษย์กลายพันธุ์คนแรกให้กับชาร์ลและ อเล็กซ์ ซัมเมอร์ส หรือ ฮาวอค ฟัง “อเล็กซ์เป็นตัวละครที่ดีมาก” ไบรอัน ซิงเกอร์กล่าว “ซาเวียร์ตัดสินใจไปหามอยร่ากับอเล็กซ์ แฮงค์จึงต้องรับผิดชอบโรงเรียนตอนที่เขาไม่อยู่”
อเล็กซ์ ซัมเมอร์นั้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของ สก๊อต ซัมเมอร์ส หรือไซคอร์บ มีพลังในการปล่อยรังสีวงแหวนความร้อนคล้าย ๆ กับพี่ชาย แต่เพียงปล่อยออกมาทางลำตัว
ในเทลเลอร์เองมีฉากหนึ่งที่ใบหน้าของอโพคาลิปส์โดนบัง สำหรับคนดูอย่างเราคงรู้สึกเฉย ๆ กับฉากดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามไบรอัน ซิงเกอร์กลับคิดต่างออกไป “ผมชอบนะที่คุณ (คนดู) ได้เห็นภาพส่วนประกอบเป็นชิ้น ๆ แบบนี้” ก่อนจะอธิบายเพิ่ม “มันบังคับไม่ให้คุณมองแค่หน้า แต่ให้มองไปยังเสื้อผ้า ขนาด ความแปลกตา … มันทำให้คุณอยากจะมองไปมุมรอบ ๆ”
กลับมาที่เนื้อหาที่อโพคาลิปส์พูดในฉาก เขาพยายามโน้มน้าวโดยการบอกว่าทุก ๆ คนเป็นลูกหลานของเขา และภาพก็ตัดมาที่มนุษย์กลายพันธุ์รุ่นใหม่อย่างรวดเร็วที่ประกอบไปด้วย Beast, Mystique, Nightcrawler และ Jubilee ซึ่งผู้กำกับวัย 50 ก็พูดถึงมนุษย์กลายพันธุ์รายหลังเอาไว้ว่า “ผมใส่จูบีลี่ไว้ในเรื่องด้วยเหตุผลเฉพาะ มันมีฉากหนึ่งที่ไม่มีเธออยู่ในนั้น บทของเธอไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่เธอเป็นส่วนหนึ่งในการขยายจักรวาลใหม่”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอกจากอโพคาลิปส์จะโน้มน้าวด้วยการอ้างว่าคนอื่น ๆ เป็นลูกหลานของตนแล้ว เขายังโจมตีชาร์ล ซาเวียร์ด้วยการบอกว่าเป็นผู้นำตาบอดอีกด้วย “คนนี้คือคนที่เราต้องพูดถึง” ก่อนที่ซิงเกอร์อธิบายเพิ่ม “ในตอนแรกของเรื่องชาร์ลเป็นคนแบบในอุดมคติ แต่เขาก็มาตาสว่างเมื่ออโพคาลิปส์ตื่นขึ้น”
ฉากต่อไปก็เฉลยว่าคนที่อโพคาลิปส์กำลังพูดด้วยอยู่นั่นคือ อิรีค หรือ แม็กนีโต นี่เอง เขากำลังโน้มน้าวแม็กนีโตให้มาเป็นพวก แต่คนที่มีความเป็นผู้นำอย่างแม็กนีโตจะยอมเป็นผู้ตามง่าย ๆ เลยหรอ “อะโพคาลิปส์เจออีริคอยู่ในสถานที่ที่ทรงคุณค่าที่สุดในชีวิต” ซิงเกอร์อธิบายถึงสาเหตุที่แม็กนีโตยอมเข้าไปเป็นพวก “เขา (อีริค) กำลังมองหาพระเจ้าอยู่ จำได้ไหม เขายังเป็นชาวยิวตัวเล็ก ๆ ในค่ายกักกันอยู่เลยตอนที่เสียครอบครัวไปครั้งแรกนั่นอะ และตอนนี้เขาก็อยู่ต่อหน้าชายที่เป็นหรืออ้างตนว่าเป็นพระเจ้า แล้วก็นะการโน้มน้าวใจคนก็เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของอโพคาลิปส์อีกด้วย”
ตัดกลับมาที่ฝั่ง X – Men เจ้าหน้าที่มอยร่ากำลังอธิบายถึงสี่จตุรอาชาซึ่งอโพคาลิปส์ก็เลือก สตอร์ม อาร์คแอนเจิล ไซล็อค และ แม็กนีโต มาเป็นพวก
ก่อนอื่นก็ขอโฆษณาทวิตเตอร์ของตัวเองหน่อยนะครับ
https://twitter.com/_BlackOffice
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้