[SR] [Eat All Day] รีวิว VOGUE Lounge เรียบหรู และแอบมึน กับเชฟระดับ มิชลิน 3 ดาว

สวัสดีครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมตั้งใจจะเขียน รีวิวอย่างจริงจังๆ หลังจากที่ได้กินๆ โพสต์ๆ อยู่บน facebook และ instagram มานานด้วยรีวิวสั้นจิ๊ด แหม...จะเก็บเงียบเอาไว้คนเดียวก็ไม่ดี เพราะคราวนี้ถึงขั้นได้ถูกเชิญชวนให้ไปชิมรสชาติเมนูอาหารจากการสร้างสรรค์ของเชฟวินเซนต์ เธียร์รี่ เชฟระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาวกันเลยเชียว ที่ VOGUE Lounge ที่ชั้น 6ตึกมหานครคิวบ์ โครงการมหานคร ที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีครับ


การตกแต่งร้านก็สวยเลิศ ดูดีมีสกุล อธิบายให้นึกภาพ ก็ประมาณหนังเรื่อง The Great Gatsby น่ะครับ แถมยังมีส่วนระเบียงด้านนอกที่สวยหรูไม่แพ้ด้านใน ที่พิเศษคือ ที่นั่งด้านนอกมีแอร์ซะด้วย!



ในครั้งนี้ผมได้ถูกแนะนำให้ ชิมอาหารหลากหลาย ในคอนเซปท์ของ pairing menu ครับ หรือก็คือ เมนูจับคู่ ที่จะจับคู่อาหารและเครื่องดื่ม ที่ถูกดีไซน์มาให้กินดื่มคู่กัน ซึ่งเครื่องดื่มที่ว่าเนี่ย ก็ไม่ใช่ เครื่องดื่มแบบสีสันสดใส ดูฮิฮะ น่ารักนะครับ เรียกว่าตั้งแต่ระดับเบาๆ ไปจนถึงมึนตึงกันเลยก็มี โดยลักษณะอาหารจะเป็นอาหารสไตล์ nibble หรือก็คือการหยิบเล็กๆ ไม่ใช่จานโตบึ้ม ข้าวผัดร้านอาหารจีนอะไรแบบนั้น ...ซึ่งอีกอย่างที่ผมอยากจะมาพิสูจน์ซะหน่อย ก็คือว่า ที่เคยเห็นตามรายการทีวี หรือดูในหนังอย่าง Foodies เนี่ย มาถึงจัดเก๋จานนิดเดียวเนี่ย จะอิ่มกันได้เร้ออออออ

เอาล่ะครับหลังจากเกริ่นๆ กันมาพอแล้ว ไปพบกับเมนูแรกกันเลยดีกว่า (สำหรับเครื่องดื่มเผื่อใครสนใจส่วนประกอบผมจะใส่ไว้ในวงเล็บหลังชื่อให้นะครับ)


Salmon Cones ทานคู่กับ Bamboo(Fino Sherry,Vine flower dry vermouth)
เปิดตัวด้วยเมนูแรกด้วยหน้าตาแสนเก๋ เหมือนไอศครีมโคนจิ๋ว ตามชื่อเลย เอ่อ...นี่ไม่ใช่คาปุลิโกะนะครับ ที่เห็นนี่ด้านในจะบรรจุไปด้วยแซลมอนชิ้นลักษณะลูกเต๋า ที่มีรสของแซลมอนสดเข้มข้นมาก เนื้อนุ่มๆ สลับกับ ความกรุบกรอบของแอลมอนด์ ที่แทรกตัวอยู่ในโคนที่มีกลิ่นหอมๆ ของงาดำและงาขาวผสมอยู่ด้วย  โดยรวมจะมีความเค็มที่เป็นความเข้มข้นของเนื้อปลา และ ซอสHorseradish ที่เป็นเยลลี่ ที่เรียกได้ว่า รับกับเครื่องดื่ม bamboo ที่ไม่แรงมาก หวานเล็กๆ ได้ดี


ไม่พูดกันเยอะนะครับ เราไปต่อที่ Asparagus Duo,Poached Quail Egg คู่กับ French73(Armagnac,Fresh Lemon, Sweet Vermouth, Aromatic Bitters, Sparkling wine)

จากชื่อก็พอจะเดาได้นะครับ ว่าส่วนประกอบหลักก็จะต้องเป็น Asparagus สองชนิด  ก็ตามนั้นครับ ซึ่งก็คือ แอสพารากัสขาว และแอสพารากัสเขียว ซึ่งทางร้านได้บอกว่าเป็นของนำเข้ามาจากฝรั่งเศสกันเลย

ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งของแอสพารากัสที่ดีที่สุด เมนูนี้ที่บรรจุอยู่ในเจ้าไข่สีทองอร่ามนี่ไฮไลท์ก็คือ การนำแอสพารากัสขาวไปปั่นและตุ๋นให้เป็นเนื้อคัสตาร์ด รองด้านล่างไว้ด้วยไข่นกกระทา กับพามีซานชีส เรียกได้ว่ากลมกล่อมๆ ละมุนในปากน่าดูเลยครับ ซึ่งในถ้วยที่วางไข่นี้ ข้างในก็มีการใส่เกลือเอาไว้เพื่อให้เก็บความร้อนไว้ได้ เพื่อไม่ให้ของข้างในเย็นชืดไปซะก่อน

อะ ซูมเข้าไปดูเนื้อนุ่มๆ เด้งๆ


ถัดไปเลยนะครับ เป็น Lobster Mousseline คู่กับ Vino De Coco (French white wine, Coconuts, Aged plum eau de vie)
มาในถ้วยเล็กๆ อีกแล้วครับ แต่คราวนี้ไม่มีไข่ละ เมนูนี้ตามชื่อเลยครับ เน้นๆ คือเป็นกุ้งลอบสเตอร์เป็นส่วนประกอบทั้งหลายในนี้

โดยการทำ lobster ที่อิมพอร์ตมาจาก Maine แหล่งลอบสเตอร์ชั้นดี มาทำให้เป็นมูส ข้นๆ (เค้าเรียกว่า fennel espuma-เฟนเนล เอสปูมา)โปะที่ด้านบน และด้านในเป็นเนื้อ lobster แบบลูกเต๋า ที่มีความเด้งแน่นในเนื้อดีมากเลยในเนื้อแบบ...เรียกว่าไงดี คล้ายๆ ห่อหมกน่ะครับ แต่อันนี้ไม่ใช่ห่อหมกปลากรายละ แต่เป็นห่อหมกลอบสเตอร์ กินสลับกับตัวแผ่นแป้ง(คล้ายๆ ข้าวเกรียบ) ทำจาก Buckweed ที่มีรสอมเปรี้ยวนิดๆ ช่วยให้แก้เลี่ยนได้ครับ ดื่มเครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมจากมะพร้าวและ รสหวานอื่นๆ ก็เกลี้ยงถ้วยอย่างเร็วครับ

อาวววววละ ของหนักๆ มาแล้วครับ Australian Beef Skewers   และ และ .... อะโห เครื่องดื่มที่มาคู่กันนี่ แค่หน้าตาสีสันมา ออร่าความแรงก็มาแต่ไกลแล้ว Port Manhattan (Benchmark Bourbon, Fine Tawny Port, Cranberry, Aromatics Bitters) คือได้ยินส่วนผสมก็เตรียมมึนแล้วครับ เอาเป็นว่า เดี๋ยวผมไปจัดการเนื้อก่อนแล้วกันนะครับ แล้วเดี๋ยวจะกลับมาจิบเบาๆ


สำหรับเมนูนี้ เค้าว่าเครื่องดื่มแรงๆ ก็ต้องคู่กับเนื้อแรงๆ จึงจัดเป็นเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ ออสเตรเลียน ที่.....เยี่ยมยอดมากเลยคร้าบบบบบบบบบบบบ หนึบๆ และนุ่มมมมมมมมมม รสเนื้อดีเลิศ ครับ กินสลับกับ Dauphine potato  (ก็คือประมาณมันบดครับ ที่นำไปปั้น แล้วไปทอดเป็นชิ้นวงรีนี่ล่ะครับ)

ซูมดูเนื้อระยะประชิดกันหน่อยครับ ...นี่เขียนรีวิวไปดูเนื้อไปน้ำลายพุ่งอีกรอบแล้ว ส่วนมะเขือที่ดูเหมือนตัวประกอบก็ไม่ใช่ย่อยครับมีรสหวานอร่อยมาก ...อันนี้ผมก็แอบถามทางร้านมานิดนึงครับ เค้าก็บอกว่า มะเขือนี้ก็เป็นของนำเข้าจากฝรั่งเศสอีกเช่นกันครับ เห็นเค้าว่ามะเขือเทศเมืองไทยจะไม่ค่อยมีรสหวาน แต่จะออกเปรี้ยวซะหมด

เมนูที่ผ่านไปนี่ จะเป็นเมนูที่ใครไปที่ร้านสามารถสั่ง Tasting menu แล้วเค้าจะจัดเป็นเซทแบบนี้ขนาดกะทัดรัดกว่านี้ไซส์สำหรับ1คนมาให้กินต่อเนื่องกันยาวๆ ไปครับ

ทีนี้ ไหนๆ ก็มาแล้ว เลยถือโอกาสลองต่อซะหน่อย
Smoked Tuna rolls คู่กับ Southern beauty (Nanbu Bijin Sake, Filandia Vodka, Fresh Mint, Cucumber, Fresh Lime, Dill)
ทางร้านเล่าว่า เมนูนี้ เป็นเมนูยอดนิยมมากครับ ซึ่งผมเข้าใจว่า เพราะเป็นเมนูที่น่าจะดูกินง่าย ด้วยรูปลักษณ์แบบ "มากิ" ของญี่ปุ่น เผินๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่แน่ล่ะครับระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาวแล้ว คงปล่อยธรรมดาไม่ได้แน่ๆ

ก็นั่นล่ะครับ ที่เห็นม้วนๆ อยู่นั่น ไม่ใช่ข้าวญี่ปุ่นห่อไส้ทูน่านะครับ แต่ว่าเป็น ทูน่า(หรือมากุโร่)รมควันม้วนห่อไชเท้าดองเอาไว้เป็นตัวไส้แทนครับและด้านนอกสุดเป็นสาหร่าย ถึงตรงนี้ก็รู้สึกว่าเข้ากันดีเพราะรสปลากับไชเท้าดองก็ช่วยแก้เลี่ยนกันจบไปได้พอดีใน 1 คำ ส่วนด้านบนเป็นเหมือนข้าวตังครับ ที่เพิ่มความกรุบกรอบในการเคี้ยวเข้ามา แต่ความพิถีพิถันที่สุดของเมนูนี้ คงจะต้องอยู่ที่ เม็ดๆ ระยิบระยับด้านบนสุดนี่ล่ะครับ ที่ประกอบไปด้วย Ginger pearl (น้ำขิง)ที่ผ่านกรรมวิธีให้ออกมาอยู่ทรงเป็นรูปหยด แบบนี้ , ไข่กุ้ง , ไข่กุ้งรสวาซาบิ และ คาร์เวียร์(ไข่ปลาแฮริ่ง) โดยรวม 1 ชิ้น 1คำนี้ ก็ได้สัมผัสหลายรสชาติอร่อยสมกับเป็นเมนูยอดนิยมของทางร้านจริงๆครับ ส่วนเครื่องดื่มที่มากินคู่กับมากุโร่ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ครับ ว่าต้องมีส่วนผสมที่เป็นสาเกเป็นหลักเนี่ยล่ะครับ

เอาล่ะ ๆ หมดเวลาของคาวแล้วครับ ถึงเวลาของหวานซักที จะมืดแล้วเนี่ย
Jirava Chocolate Banana tart คู่กับ New Discovery (Amontillado sherry, Thai ice apple wine, Wine flower sweet vermouth, Vanilla)


ครับ...ตอนแรกผมก็งงครับ ถึงรอบของหวานแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่มมาจับคู่ด้วยเช่นกัน (นี่มึนแล้วนะครับเนี่ย) เอาครับไปที่ทาร์ตเป็นทาร์ตกล้วยครับ เสิร์ฟกับไอศครีมTonka bean (ถั่วทองก้า) ตัวทาร์ต เป็นเนื้อกล้วยและ โปะด้วยชอคโกแลตมิลค์ที่ยังไงดีล่ะ....นุ่มอร่อยกลมกล่อมมากครับ แต่ทีเด็ดของเมนูนี้ ผมยกให้ ไอศครีมวนิลาTonka bean นี่ล่ะครับ ซึ่งสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้รู้จักเจ้าถั่วทองก้า นี้เลยว่าคืออะไรเป็นยังไง  ทางร้านก็บอกว่า เป็นถั่วสีดำๆ หายาก ราคาแพงครับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วผมเลย search google ซะตอนนั้นเลย ถึงขั้นมีคนเขียนว่า "The Tonka Bean: An Ingredient So Good It Has to Be Illegal" (ถั่วทองก้า:วัตถุดิบที่สุดยอดจนควรจะต้องเป็นของผิดกฏหมาย) ฮ่าฮ่า...ขนาดนั้นกันเลย ว่าแล้วก็ต้องชิมครับ ก็นั่นล่ะครับ ไม่รู้ว่าเพราะผมอาจจะไม่กว้างขวางพอรึเปล่า แต่ผมพบว่า ผมอธิบายไม่ถูกว่ารสชาติเป็นยังไง คือมันมีความนมๆ เหมือนไอศครีมที่เราเคยกินกัน แต่มันก็มีความนุ่ม มีกลิ่น และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มากครับ มากพอที่จะบอกว่า ผมไม่เคยกินของที่มีรสชาติแบบนี้เลยล่ะ ซึ่งอร่อยจริงครับ คอนเฟิร์ม!!

Exotic Mille Feuille
ก่อนจะจิ้มเมนูนี้ ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าจะออกเสียงยังไงดี เพราะดูทีวีแชมเปี้ยนมาตั้งแต่เด็ก ไอ้หน้าตาแบบนี้ เค้าเรียกว่า มิลฟิลล์ ...ก็เลยขอเขินถามทางร้านจริงๆ ซะหน่อยว่าต้องอ่านว่ายังไง ก็ได้คำตอบว่า "มิลเฟย" นะครับ  

    โอเค!! แล้วมัน Exotic ยังไงล่ะ ก็เรียกได้ว่าเมนูนี้ เป็นการผสมผสานของคู่หูยอดฮิตที่การันตีมาแล้ว หลายสถาบัน นั่นก็คือ passion fruit (เสาวรส)และมะม่วงครับ โดยจะเสิร์ฟ มิลเฟยคู่กับไอศครีม ที่ทำจากpassion fruit และมะม่วงมาด้วยกัน และส่วนตัวมิลเฟยก็จะพิเศษกว่าปกติที่มักจะเป็นมูสซ้อนสองชั้นที่สลับด้วยเนื้อแป้งกรอบ แต่อันนี้ ชั้นด้านบนจะเป็นมูส passion fruit ส่วนด้านล่างจะเป็นเนื้อมะม่วงสดๆ ที่ตักออกมาเป็นลูกกลมๆ มาวางเรียงแทนมูสไปเลย ก็ หลังจากได้ชิมแล้ว ก็บอกได้ว่า "ของดี......"ลากเสียงสระอีย้าวยาววววว   อร่อยมากครับ ถ้าใครมาร้านนี้ นี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่น่าพลาดครับ


ก็หมดแล้วครับ สารพันเมนู ที่มีโอกาสไอ้ลองลิ้มชิมรสกัน ประทับใจมากครับ ทั้งของคาวและของหวาน ตื่นตา ตื่นใจ ตื่นลิ้น ตื่นพุงน่าดู และก็พอจะตอบตัวเองได้ครับว่า เมนูหยิบคำเล็กๆ ที่เคยคิดว่ามันจะอิ่มเร้อ เอาจริงๆ เลยคือ ...อิ่มครับ!! มาพร้อมกับความมึนตึง ด้วยหลากหลายcocktail ที่เรียงรายมา นี่ทางร้านฝากบอกมาว่านักดื่มครับว่าจะมี คอกเทลโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 3ทุ่มครับ  ใครจะมาร้านนี้ ก็เตรียมพาคนพากลับบ้าน หรือเตรียมเรียก taxi ได้เลยนะครับผม

สำหรับวันนี้ ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้คร้าบบบบบบบ

ผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องอย่างไรขออภัยไว้ด้วยนะครับ




แอดมิน ชูชีพ จากเพจ Eat All Day
www.facebook.com/eatalldaysheep
ชื่อสินค้า:   Vogue Lounge Bangkok
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่