Lose Yourself in Izmir, Turkey (เกือบ Lost แล้วไง)


สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่ะ

คำเตือน : หากต้องการสาระ แผนที่ ตารางการเดินทาง การคำนวณเงิน+เวลาที่แน่นอน และ คาดหวังรีวิวที่เป็นประโยชน์มาก
ต้องขออภัยด้วยนะคะ คงหาไม่ได้จากกระทู้นี้ แต่จะมาเล่าความโก๊ะ และ ข้อควรระวังสำหรับนักเดินทางมือใหม่ที่ไม่ค่อยชอบการวางแผนในการเดินทางเท่าไหร่ไว้ค่ะ เพราะสิ่งสำคัญเลยจริงๆ ต้องวางแผนค่ะ ไม่ถึงกับต้องเป๊ะ แต่ควรหาอ่านไว้บ้างก็ดีค่ะ เพราะไม่งั้น อาจจะเกือบซวยเหมือน จขกท ค่ะ....

แผนการเดินทาง คร่าวๆ ค่ะ   กรุงเทพ (ฺBKK) > กัวลาลัมเปอร์ (KUL) > โดฮา (DOHA) > อิสตันบูล (IST) > อิซมีรซ์ (IZMIR)
กว่าจะถึง ก็อย่างนั่นแหล่ะค่ะ ก้นช้ำกันพอดี 555+

นี่เป็นการเดินทางสู่ทวีปยุโรปครั้งแรก จะว่าจริงๆก็ตั้งอยู่ในพื้นที่เอเชีย
มีเพียงเนื้อที่บางส่วนที่ตั้งอยู่ในยุโรป นั่นคือประเทศตุรกีค่ะ แต่ขอจัดว่าเป็นโซนยุโรปเนอะ

เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองด้วยสายการบิน  AirAsia เวลา 2ทุ่มกว่าค่ะ และ ถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ปะมาณ5ทุ่มกว่า
และ ต้องต่อเครื่องไปตุรกีโดยสารการบิน Qatar Airways เวลาตี2 ห๊าไรนะ!! กระชั้นชิดไปไหมแกร!!
(ไม่รู้ว่าดวงดีอะไร ได้ที่นั่งแถวสุดท้าย ท้ายสุด นั่งกับพี่แขกมาเลย์เซี่ยน และ พี่ผู้ชายคนไทยอีก4คน นึกภาพออกไหมคะ ซ้าย ขวา อย่างละ3ที่นั่ง แต่ดีหน่อยได้ที่นั่งริมทางเดิน ตอนแรกแอบเกร็งแต่ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ พี่แขกแกก็เรียบร้อยดีชวนคุยนิดหน่อยแต่ไม่มากมาย ถือว่าโล่งค่ะ แป๊ปๆ ถึงแล้วค่ะ กัวลาลัมเปอร์)



พอถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองก็ปกติ รวดเร็วทันใจเพราะคนไม่เยอะค่ะ เป็นช่วงเวลากลางคืน
เจ้าหน้าที่นางก็ถามมาว่า จะอยู่กี่วัน  เราก็ตอบไปค่ะว่า แค่มาขึ้นเครื่อง นางถามว่าจะไปไหน เราตอบไปตุรกี
นางก็ปั๊มปั๊กๆ  Done ค่ะ จากนั้นก็ไปรับกระเป๋า

พอเดินออกมาเสร็จ เราก็พยายามหาที่เช็คอินค่ะ ก็เลยเดินหาคำว่า Departure ใช่ป่ะคะ
คือเคาน์เตอร์มันต้องอยู่ตรงนั้นถูกป่ะแกร นางนี่ก็มั่นมาก เจอป้ายละ เดินตามป้าย มั่นมากดุ่มๆ


พอกำลังจะเดินเข้าไป พี่การ์ดแกก็ถามว่าจะไปไหน เราก็บอกว่าฉันหาเคาน์เตอร์Qatarอยู่ นางก็บอกที่นี่ไม่มีQatar
Qatarต้องไปอีกตึก Another Airport  ok? แล้วนางก็พูดว่า กาลาตา1 อะไรซักอย่าง ห๊าไรนะ!! ขออีกรอบได้ป่ะ
พี่การ์ดก็พูดเหมือนเดิม เราก็ไม่รู้ฟังผิดหรือเปล่า คือฟังไม่รู้เรื่อง ไอเราก็บ่นๆอะไรแว๊พูดไม่รู้เรื่อง ไม่โทษตัวเองสักคำทำไมโง่555
ก็เลยลองเดินไปที่ชั้น2

แล้วไง !! ไปไงต่อ ก็ไม่เห็นจะมีป้ายพาไปกาลาตาsomething อะไรเลย เจอแต่ป้ายDeparture 555 ไม่พลาดแน่รอบนี้ชัวร์แน่
เดินตามป้ายอีก !! (คือในใจคิดว่ามันต้องอยู่ชั้นเดียวกับชั้นที่เราไปผิด แต่มันอาจจะอยู่คนละโซนมั้ง เหยใกล้จะเจอแล้วมั้ง แล้วทำไมเขาบอกให้ไปชั้น2 ตอนนั้นความคิดหลากแสงมาก) เดินไปเรื่อยๆ ไหงมาโผล่จุดเดิมวะ !!
งานเข้าละ เวลาตอนนี้  00.40 AM เฮ้ยยังไม่เจอเคาน์เตอร์เลย เลยเดินวนๆไม่ได้การละต้องรีบหาเจ้าหน้าที่ Information
ก็เลยถามนางว่า ฉันจะไป Another Airport ยังไง ดีมากที่นางอธิบายให้เข้าใจได้
สรุปนะ เดินไปชั้น2 ขึ้นรถไฟไป Airport 1 (กำลังคิดว่า ถ้าพี่การ์ดบอกแบบนี้นางคงได้เครื่องละ ปั๊ดโธ่)

พอมาถึงชั้น2 แล้วไงต่อวะ ไหนรถไฟ 555+ โอ๊ยยังไม่จบ มาถึงชั้น2ละ เดินไปมาจนจะออกสนามบินละ
คิดในใจ มันอยู่ข้างนอกป่าววะต้องนั่งรถอะไรไหมวะ เดินออกไปข้างนอกก็ไม่เห็นมีคนรอรถเลย
ก็เลยเดินกลับเข้าไปถามจุดบริการTaxi สรุปคุณพี่สุดหล่อบอกว่าให้เดินย้อนเข้าไปข้างในแล้วเลี้ยวซ้าย

ขอบคุณค่ะ รักนางมากเจอพอดี (ขอโทษด้วยค่ะรูปอาจจะดูไม่รู้เรื่อง คือรีบมากจริงๆไม่มีเวลาถ่ายเลย นี่ก็วิ่งไปถ่ายไป)

ตอนเราถึงตรงที่ขึ้นรถไฟ มีชายหนุ่มจีนคนหนึ่งเดินมาถามว่า จะไปขึ้นเครื่องสายการบินนี้ยังไง
ในเอกสารนางก็ไม่มีอะไรที่เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีนล้วนๆ คือตอนนั้นตัวเองก็เอาไม่รอดแต่ก็ไม่รู้จะบอกนางยังไง
นางก็คงหลงเหมือนเรานี่แหล่ะ  แต่ประเด็นคือนางไม่ถามเจ้าหน้าที่เลย แล้วนางก็ยืนอยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟพอดี
ณ.จุดนั้นรีบมาก และ คิดอะไรไม่ออกจริงๆ คือลนและหล่กมาก กำลังคิดว่าถ้าฉันขึ้นรถไฟผิดนะ คงตกเครื่องละ
ก็เลยบอกนางไปว่า I don’t know sorry. แต่พอเราซื้อticket รถไฟเสร็จแล้วถึงได้นึกได้ว่า เห้ยยย นางจะตกเครื่องไหมนะ
จริงๆต้องมากับเราๆอีกแอร์พอร์ต แต่สมองตอนนั้นคือคิดไม่ออกจริงๆค่ะ โมโหตัวเอง โมโหสนามบินด้วย
อะไรจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนั้น รู้สึกผิดเบาๆที่ไม่ได้ช่วยนางเลย

ตอนเราซื้อตั๋วต้องใช้เงินมาเลย์เซียจ่ายนะคะ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้บัตรเครดิตรูดได้ค่ะ 2มาเลย์เซี่ยนริงกิท (ประมาณ18-20บาท)
เจ้าหน้าที่บอกให้นั่งชานชลา2 นะคะ โอ๊ยน่ารักมากมีบอกด้วย นึกว่าจะหลงอีก555 (เวลาตอนนี้ก็01.00 ละ)


ตอนรอรถไฟก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ จะร้องไห้ คือกระเป๋าก็ยังไม่ได้เช็คอิน ดีนะเช็คอินมาในเว็บปริ๊นตั๋วโน่นนี่นั่น
รอรถไฟประมาณ 10 นาทีได้ เห้อ มาสักทีดีใจมากพอลงรถไฟเราก็รีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ทันที่

เราก็ยังไม่ได้สแกนกระเป๋าอะไรเลยวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ก่อน ย้ำนะว่าวิ่ง ทางเจ้าหน้าที่ก็คงรู้แหล่ะว่าเรามาสาย  
เวลาที่โชว์ในตั๋วกับเวลาเครื่องออกจะต่างกัน1ช.ม. เท่ากับว่าสายแล้วนะคะ ตอนนี้เวลาประมาณ 01.20 ละค่ะ
คือกระเป๋าก็ยังไม่ได้สแกนก่อนเช็คอิน เจ้าหน้าที่แอร์กราวน์ก็เลยพาเดินลัดคิวไปสแกนกระเป๋า
แล้วก็บอกว่าให้วิ่งไปได้เลยค่ะทางนี้จัดการให้ 555 มีเหน็บนิดนึงว่า You have to run. You are the last one (หือ!!)

วิ่งสิคะรออะไร!! เราก็ต้องรีบไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออกอีกรอบ เจ้าหน้าที่การ์ดก็เหมือนไม่รีบเลย
ก็เลยบอกนางไปว่า เราสายแล้วค่ะ นางก็ดูๆเสร็จก็ Sa-Wad-Dee-Krab ใส่เรา เราก็สวัสดีค่ะ นางยื่นเอกสารคืนให้
เราก็พูด ขอบคุณค่ะ และวิ่งไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง รีบยื่น Passport, Boarding pass
นางเห็นเวลาว่ามันสายกว่าเวลาในตั๋วมากแล้วก็เลยรีบปั๊มออกให้ค่ะ

ไม่จบค่ะ หลุดจากด่านตรวจ ต้องขึ้นรถไฟไปGate อีกแล้วหรอ!! ห๊าไรนะ!! รถไฟอีกแล้วหรอ!! พี่เพลียมากพูดเลย
เวลาตอนนี้ 01.40 แล้ว แต่ก็โล่งใจไปได้เปาะหนึ่งคือกระเป๋าเช็คอินเรียบร้อย เจอการ์ดคนหนึ่งรอรถไฟเหมือนกัน
เราก็ไม่รีรอเข้าไปถามนางว่าฉันต้องนั่งสายนี้ใช่ไหมถ้าจะไปที่นี่ ยื่นตั๋วให้นางดู นางก็บอกคุณสายแล้วนะ!! ใช่ค่ะ!!
พอรถไฟมาก็ขึ้นไปพร้อมนาง นางบอกทางเรียบร้อย ขอบคุณนางไปหลายทีเลย พอเดินออกจากรถไฟ เรานี่ก็วิ่งไปจะร้องไห้ไป
คือจะตี2แล้ว คิดในใจเขาจะรอเราไหมวะเห้อ!! โชคดีหาGateไม่ยาก แต่วิ่งไกลสักหน่อย เป้ก็หนัก อะไรหนักหนาชีวิตฉัน ตัวนี่สั่นไปหมด

ถึงแล้ว เย้ๆ ดีนะมีคนรอต่อคิวสแกนกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง 555 เราคนสุดท้ายพอดี
แต่รอต่อแถวสักพัก มีแฟมิลี่ชาวแอฟฟริกันถามว่า แถวนี้ต่อไปลำนี้หรือเปล่า ตอบใช่ค่ะ (555 ผู้มีประสบการณ์ให้คำแนะนำได้)
(กำลังนึกในใจ นางต้องหลงแบบเราแน่ๆ 555 แล้วคุณแอร์กราวน์นางบอกเราว่า the last one คืออะไร อิอิโล่งอกมีคนช้ากว่าเราอีก
555 โอเคนะเหนื่อยจริงๆ ขอตัวไปบินแป๊ป)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่